Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตัวผมเองแทบไม่ได้ใช้ Beta ในการลงทุนเลยครับ
ดังนั้นจึงอยากถาม พี่ๆ ว่าปกติแล้วมีใช้ beta บ้างมั้ยครับ
และจะใช้อย่างไรในเชิงปฎิบัติดีครับ

คล้ายๆกับเป็นค่าความสัมพันธ์ระหว่างราคาของหุ้นเมื่อเทียบกับSET
เป็น 0 คือขึ้นลงเท่ากับ SET
เป็น + คือขึ้นลงมากกว่า SET
เป็น - คือขึ้นลงสวนทาง SET

ถ้าจำไม่ผิดจะประมาณนี้นะครับ

ถามว่าสำคัญกับ VI ไหม อันนี้ไม่รู้นะครับ แต่ผมคิดว่ารู้ไว้บ้างไม่เสียหายนะครับ การยึดติดกับอะไรมากเกินไปมันน่าจะไม่ดีกับตัวเองนะครับ

murder_doll เขียน:คล้ายๆกับเป็นค่าความสัมพันธ์ระหว่างราคาของหุ้นเมื่อเทียบกับSET
เป็น 0 คือขึ้นลงเท่ากับ SET
เป็น + คือขึ้นลงมากกว่า SET
เป็น - คือขึ้นลงสวนทาง SET

ถ้าจำไม่ผิดจะประมาณนี้นะครับ

ถามว่าสำคัญกับ VI ไหม อันนี้ไม่รู้นะครับ แต่ผมคิดว่ารู้ไว้บ้างไม่เสียหายนะครับ การยึดติดกับอะไรมากเกินไปมันน่าจะไม่ดีกับตัวเองนะครับ

ผมเข้าใจมาไม่ตรงกับคุณ murder_doll ครับ ที่ผมเข้าใจคือ
ถ้าเป็น+ คือขึ้นหรือลงทิศทางเดียวกับ SET
ถ้าเป็น - คือขึ้นหรือลงในทิศทางตรงกันข้ามกับ SET
ถ้าเป็น 0 คือไม่สนใจ SET ไม่ว่า SET จะเปลี่ยนแปลงยังไง ราคาหุ้นก็เท่าเดิม

โดยถ้าพิจารณาย่อยลงไป เช่นเฉพาะในกรณีที่เป็น + (ขึ้นลงทิศทางเดียวกับ SET)
ถ้าเท่ากับ 1 คือขึ้นลงแรงเท่ากับ SET
มากกว่า 1 คือขึ้นลงแรงมากกว่า SET
น้อยกว่า 1 คือขึ้นลงน้อยกว่า SET
(ถ้าพิจาณาด้านลบ ก็คล้ายๆกันแต่เป็นในทิศตรงกันข้าม)

ลองดูในลิ้งค์นี้ก็ได้นะครับ http://www.thaispeculator.com/technical ... -beta.html

Skyforever เขียน:

murder_doll เขียน: ถ้าจำไม่ผิดจะประมาณนี้นะครับ

ถ้าเท่ากับ 1 คือขึ้นลงแรงเท่ากับ SET
มากกว่า 1 คือขึ้นลงแรงมากกว่า SET
น้อยกว่า 1 คือขึ้นลงน้อยกว่า SET

ลองดูในลิ้งค์นี้ก็ได้นะครับ http://www.thaispeculator.com/technical ... -beta.html

แปลว่าผมจำผิดซะละครับ เขิลเลยขอบคุณคุณ Skyforever มากครับ

เบต้า มันเอาข้อมูลจากอดีตมาคิด
แต่เป้าหมายของการลงทุน คือการสะสมกระแสเงินสดในอนาคตให้มากที่สุด
หากคิดแบบนี้ละก็
ผมไม่เห็นความสำคัญของเบต้าเลยครับ

คือ(เท่าที่ศึกษามา) ด้วย Concept ของ Beta แล้วมันคือมันจะมีสมมติฐานว่า
นักลงทุนจะมีการกระจายความเสี่ยง จนกระทั่งเหลือเฉพาะ Systematic Risk

และผมคิดว่า VI ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกระจายความเสี่ยงมากนัก เท่าที่พยายามสังเกต
อาจจะมีหุ้นประมาณ 3-10 ตัว แล้วแต่คน

ดังนั้นการเอา Beta มาใช้วัดความเสี่ยงผมจึงคิดว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่

แต่ผมก็อยากรู้ความเห็นของคนอื่นๆครับ ว่าคิดอย่างไรบ้าง
และจะเอาไปใช้จริงๆอย่างไรบ้าง

ผมใช้โดยไม่ต้องมาคำนวณกันละเอียดๆ

แต่หุ้นที่เราซื้อ ต้องประมาณได้ว่าค่า เบต้า อยู่ประมาณใหน และ มันจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อพื้นฐาน สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ต้องหมั่นติดตาม ค่าที่เราอ่านได้จะมาจากอดีตอย่างเดียว

ปรัชญาของมันคือว่ามันจะบอกลักษณะของผู้ลงทุนในหุ้นนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร
การเข้าใจว่าเพื่อนๆที่ภือหุ้นร่วมกับเรามีนิสัยอย่างไร ทำให้เราสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น หรือ สิ่งที่จำเป็นต้องทำได้ดีขึ้น

จริงๆผมพิจรณาค่า เอลฟ้าด้วยครับ แต่ก็เป็นปรัชญาพื้นฐานอีกเช่นกัน ไม่ได้ต้องมาคำนวณสมการคณิตศาสตร์กันวุ่นวาย
ผมจะถือหุ้น High Alpha และ Low Beta เสมอครับ มันมีความสุขดี เหมาะกับตัวเอง ขืนขึ้น Ceiling ลง Floor ผมหัวใจวายตายแน่

อย่างอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ทำการปรับพอร์ทหุ้นที่มีอยู่ โดยลดสัดส่วนหุ้นที่ลงน้อยหรือไม่ลงเลย ไปเพิ่มสัดส่วนตัวที่ลงเยอะกว่า แต่ก็ไม่ได้ดูหรอกนะครับว่าแต่ละตัวมีค่าเบต้าที่เท่าไร

ยังงี้ถือว่าผมใช้ beta ในการลงทุนหรือป่าวครับ

ไม่มีความสำคัญใดๆทั้งนั้นครับ

คอนเซปของค่าเบต้า ต้องท้าวความไปยาว ถึงทฤษฏีตลาดมีประสิทธิภาพ
ซึ่งถูกประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าทฤษฏีนั้นผิด และตายแล้ว

แต่เพื่อความเข้าใจจะยกมากล่าว คือ ราคาหุ้น สะท้อนข้อมูลทุกค่าลงไปหมดแล้ว
ไม่มีใครชนะตลาดได้ต่อเนื่องด้วยฝีมือ(เห็นชัดว่าไม่จริง) ราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอยู่แล้ว
ดังนั้นความเสี่ยงของหุ้นแต่ละตัวจึงอยู่ที่การขึ้นๆลงๆของมัน

เทียบกับค่าเฉลี่ย
อย่างที่ท่านskyforever ว่าไว้ ทุกเป๊ะทุกประการ
ที่เขาบอกว่าเบต้าเป็นตัววัดความเสี่ยงเพราะ มองในมุมมองลูกจ้าง ที่ต้องการความมั่นคง
ทุกอย่างต้องคาดได้เป๊ะ พวกนี้จึงรับความผันผวนไม่ได้

แต่หากท่านคิดอย่างเจ้าของ ราคาหุ้นมันจะขึ้นๆลงๆ ถ้าท่านไม่คิดจะขาย ชีวิตท่านก็ไม่ได้รวยขึ้นหรือจนลง
เพราะผลตอบแทนจริงๆก็คือกำไรเงินสดในแต่ละเดือนของท่าน แล้วviปกติก็ถือหุ้นที่คิดว่าต่ำกว่ามูลค่าแล้วก็ถือกันยาวๆอยู่แล้ว เบต้าจึงเป็นตัววัดความเสี่ยงที่ไร้สาระที่สุดครับ

ถ้าสำหรับนักเก็งกำไรมันจะดีขึ้นมาหน่อย เพราะจะเห็นว่าในอดีตมันขึ้นลงแรงแค่ไหน
ตัวไหนแกว่งแรงๆก็มาเก็งกัน แค่นั้น จบข่าว

ขอบคุณทุกคนมากครับ