Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมฟัง เรื่อง บรรษัทภิบาล........ถูกใจมากครับ ทีท่านรัฐมนตรีสมคิด บอก ว่า อยากเห็นบริษัทฯในตลาด มี ธรรมาภิบาลที่ดี ไม่ใช่เห็นแต่ การเติบโตการบริหารงานที่ดีขึ้นอย่างเดียว อยากเห็น ความดี....เน้น นะครับ ความดีของผู้บริหาร ด้วย.......ความดี ก็ คือ ความโปร่งใส ความยุติธรรม การช่วยเหลือสังคม.......ให้มีในจิตใจของผู้บริหารทั้งหลาย....ความเก่งความสามารถอย่างเดียว ไม่เพียงพอ แต่ต้องการให้มีความดี ด้วยครับ........ท่านรํฐมนตรีพูดว่า ถ้าบริษัทฯ ใด ไม่มี ธรรมาภิบาล ก็ ขอเชิญ ออกจากตลาดได้เลย (ผมชอบประโยคนี้มาก แสดงว่า ท่านมีวิสัยทัศน์ที่ยาว ต้องการเห็นความถูกต้อง และ ความดีที่ยั่งยืน ต่อไป ไม่ใช่เห็นว่า ตลาดจะโตได้ต้องพึ่ง หลาย ๆ บริษัทฯ เข้ามาอยู่ ต้อง ง้อ บริษัทฯ ให้อยู่ ...... แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้าเป็นบริษัทที่ดี ก็ อยู่ในตลาดได้อย่างสง่าผ่าเผยและมีเกียรติ).....เขามีการประกาศ กลุ่มสุดยอด บริษัทฯที่ มีความโปร่งใส ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ในกลุ่ม Agro & Food ได้แก่ CM DAIDO MFG SFP SSC และ TIPCO

กลุ่ม Financials ได้แก่ BAY BC BT DTDB DVS FNS KBANK KK KTB NBANK NFS NKI NVL SCB SCNB SICCO SPL SSEC TIC TISCO TNITY US และ ZMICO

กลุ่ม Industrials ได้แก่ NEP NPC SMC TCP UV VNT

กลุ่ม Property & Contruction ได้แก่ ASTL CPN LPN QH SAMCO SCC SIRI SSI STECON TICON

กลุ่มทรัพยากร ได้แก่ BAFS BANPU BCP EGCOMP LANNA PDI PTT PTTEP RATCH

กลุ่ม บริการ ได้แก่ CVD DOI ICC ITV MAJOR NMG OCC RCL RGR SE-ED SHANG TBSP UBC

กลุ่ม Technology ได้แก่ ADVANC CCET HANA IEC KCE SAMART SATTEL SHIN SINGER SVOA TRUE TT&T

กลุ่มอื่นๆ ได้แก่ EASTW GENCO

แต่ถ้ามาดูโดยภาพรวมใหญ่ ด้วย ผลการประเมินภาพ จะเห็นได้ว่า บริษัทฯในตลาดสอบได้คะแนน เฉลี่ย เพียง 60% เท่านั้นเอง..... เป็นเรื่องน่าวิตกมากจริงๆ ........ คะแนนสูงสุดได้ 78 คะแนน ต่ำสุดได้ 40 คะแนน......

ดังนั้น ถ้าจะลงทุนแล้วให้คิด พิจารณาด้วยนะครับ ว่าบริษัทฯ ที่เราลงทุนด้วยมี ธรรมาภิบาลดีขนาดไหน ไม่ใช่ดูแต่ผลประกอบการอย่างเดียว

ทำไมไม่มี TCB , TR , PPPC , WG

ผิดหวังกับมาตรฐานตลาดมากครับ หลายบริษัทที่ผมว่าผู้บริหารไม่ค่อย
จะมีธรรมาภิบาลกลับได้ติดโผ

ถึงกับอึ้งครับ รายชื่อนี้ โดยเฉพาะบริษัทไต้หวันแห่งหนึ่งที่ผู้ถือหุ้นใหญ่มีหุ้นกู้แปลงสภาพเก็บไว้อยู่รอแปลงแล้วขายทิ้ง

บริษัทชื่อญี่ปุ่นแห่งหนึ่งมีปัญหากับการบันทึกรายรับล่วงหน้า ทำให้รายได้และกำไรพุ่งกระฉูด

บริษัทชื่อย่อสามตัวแห่งหนึ่งเล่นข่าวซื้อหุ้นคืนในราคาสูง

และอีกหลายแห่ง..

ลุงขวดครับ ผมสงสัยนิยามคำว่าธรรมาภิบาลของท่านสมคิดแล้วสิครับ ถ้าท่านแปลว่าทำดีทำเลวก็เปิดเผยทั้งหมด รายย่อยได้รับรู้ถึงการกระทำของผู้บริหารโดยชัดแจ้ง ..หุ้นที่ว่ามาก็นับว่าเปิดเผยข้อมูลใช้ได้ทีเดียว

แต่หากจะแปลว่าผู้บริหารต้องทำดี ผมคงไม่เห็นด้วยอยู่มากครับ

แม้แต่ตลาดยังไม่มีธรรมาภิบาลเลย จะเอาอะไรล่ะครับ

หุ้นที่ผมซื้อไม่มีธรรมาภิบาลเลยซักกะตัว ^_^'

ดูชื่อที่ประกาศน่ามี ROYNET รวมไปด้วยซะเลย 55555

ผมไม่ค่อยเชื่อ ครับ

โหดโหดด้วยกันทั้งนั้นทุกตัวเลยครับ รอบขึ้นรอบลง ต้องอ่านให้ขาด อ่านไม่ขาด กระเป๋าของเราก็ขาดครับ

นั่นสิ เท่าที่รู้มา มีตัวหนึ่งในกลุ่มสื่อสาร เค้าว่าผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ รับทรัพย์มากมาย แต่บริษัทประกาศขาดทุนตลอด

คำพูดของนักการเมืองมี hidden agenda เสมอ

ดูรายชื่อบริษัทข้างต้นแล้วหนาวจริงๆ ลุงขวดแน่ใจนะครับว่าไม่ได้เอาผิดโพยมา

หลายบริษัทไม่น่าเชื่อว่ากล้าประกาศออกมา อยากรู้ว่าใครตัดสินครับ

ดีนะ ที่รัฐบาลทำอะไรหลวมๆออกมาแบบนี้

ผมว่าอนาคต เมื่อกลุ่ม TVI เติบใหญ่ขึ้นมา เราก็ลงขันกัน แล้วจ้างนักวิเคราะห์อิสระ ไปทำการวิเคราะห์อะไรขึ้นมา คานอำนาจ การวิเคราะห์ของรัฐบาลไปเลย อิอิ

ถ้าทุนของพวกเรารวมกันได้ XXXX ล้านบาท ผมว่าก็คุ้มค่ากับการทำอะไรบางอย่าง อย่างน้อย หุ้นที่พวกเราเลือก จะได้มี ปากมีเสียงกะเขาบ้าง

อิอิ

ได้ข่าว ว่ามีสมาชิกในกลุ่มของเรา 2 - 3 ท่านได้ไปลงบทความที่นิตยสารการเงิน ฉบับดังแห่งหนึ่งด้วย

ลุงขวดครับ เรื่องทุกเรื่องมีทางแก้ครับ

ผมเชื่อแบบนั้น

อิอิ

แต่ไม่รู้เมื่อไร

เอามาไม่ผิด หรอกครับ คุณ Financial Engineer ผมลอก ลงมาเลย.... แต่วิธีประเมิน ของเขา ผมว่า ยัง ดู แปลก ๆ อยู่.........การให้คะแนน และ น้ำหนักแต่ละ หัวข้อ ยังไม่ละเอียด พอ..........สงสัย งานนี้ ต้องเปิด โอกาส ให้ ฝรั่งมาศึกษาและให้คะแนน เปรียบเทียบกัน อาจจะไม่ได้ 60% กลัวจะ ตกเป็นส่วนใหญ่ ซิครับ

ก็มีข่าวแล้วนี่ครับ ว่าฝรั่งเข้ามาตรวจแล้ว มีดีไม่กี่บริษัทเอง แล้วก็ทำให้รัฐ กับ ตลาดฯ ออกมาโวยวายกันใหญ่

วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมฟัง เรื่อง บรรษัทภิบาล........ถูกใจมากครับ ทีท่านรัฐมนตรีสมคิด บอก ว่า อยากเห็นบริษัทฯในตลาด มี ธรรมาภิบาลที่ดี ไม่ใช่เห็นแต่ การเติบโตการบริหารงานที่ดีขึ้นอย่างเดียว อยากเห็น ความดี....เน้น นะครับ ความดีของผู้บริหาร ด้วย.......ความดี ก็ คือ ความโปร่งใส ความยุติธรรม การช่วยเหลือสังคม.......ให้มีในจิตใจของผู้บริหารทั้งหลาย....ความเก่งความสามารถอย่างเดียว ไม่เพียงพอ แต่ต้องการให้มีความดี ด้วยครับ........ท่านรํฐมนตรีพูดว่า ถ้าบริษัทฯ ใด ไม่มี ธรรมาภิบาล ก็ ขอเชิญ ออกจากตลาดได้เลย (ผมชอบประโยคนี้มาก แสดงว่า ท่านมีวิสัยทัศน์ที่ยาว ต้องการเห็นความถูกต้อง และ ความดีที่ยั่งยืน ต่อไป ไม่ใช่เห็นว่า ตลาดจะโตได้ต้องพึ่ง หลาย ๆ บริษัทฯ เข้ามาอยู่ ต้อง ง้อ บริษัทฯ ให้อยู่ ...... แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้าเป็นบริษัทที่ดี ก็ อยู่ในตลาดได้อย่างสง่าผ่าเผยและมีเกียรติ)....

สวัดีครับลุงขวดอ่านข้อความข้างต้นแล้วมีความสุขดีครับ เหมือนชีวิตนี้ยังมีหวัง

แต่ดูรายชื่อหลายๆบริษัทที่เค้าประกาศว่ามีบรรษัทภิบาลแล้วใจแป้วเลยครับ

แหม...ดูซิประกาศมาได้

มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงของการซื้อหุ้นคืน 10% ของ CVD ที่ราคา 50 บาท ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 30 บ้างครับ ใครไปขายให้เขาได้บ้างครับ ดูราคาหุ้นตอนนี้แล้วไม่รู้ว่าบริษัทเล่นกลอะไร

น่าจะจัด Vote ธรรมาภิบาลโดยสมาชิก Web TVI ด้วยนะครับ จะได้ไว้เปรียบเทียบ

หลักการที่ท่านดร. สมคิดนำมาพูดเป็นหลักการที่ดีครับ แต่ผมสงกะสัยว่า เค้าทำตามที่พูดหรือเปล่า หรือนี่คือการเมืองอันนึงเพื่อสร้างกระแสในการปลุกหุ้นให้ฟู่ฟ่าอย่างที่รัฐบาลอยากให้เป็น

บริษัทอย่าง TRUE ITV SSI SATTEL มันมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจขึ้นมา ว่านี่เหรอ คือบริษัทที่มีธรรมาภิบาล

ไม่รู้ดิ ขัดใจยังไงไม่รู้

ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเห็นด้วยกับหลายๆ ท่านในห้องนี้เมื่อเห็นรายชื่อของหลายบริษัทที่ลุงขวดนำมาเผยแพร่ในชาว TVI ได้รับทราบ

ผมอยากจะประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับหน่วยงานหนึ่ง คือ
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือ
Thai Institute of Directors Association (IOD) : www.thai-oid.com

วัตถุประสงค์ของสมาคม

พัฒนาและส่งเสริมรูปแบบการกำกับดูแลบริษัทให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

เสริมสร้างมาตรฐานและพัฒนาคุณภาพ และจรรยาบรรณของกรรมการในการกำกับดูแลกิจการ

จัดฝึกอบรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ ทักษะ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติงานของกรรมการบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานของกรรมการ

เป็นศูนย์กลางเพื่อพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิก และ/หรือสถาบันกรรมการในประเทศอื่นๆ เพื่อนำไปพัฒนาระบบการบริหารงานของกรรมการให้มีประสิทธิภาพ

มุ่งเสริมสร้างและสนับสนุนด้านข้อมูลวิชาการที่อำนวยประโยชน์ต่อการบริหาร การปฏิบัติหน้าที่กรรมการในการบริหารธุรกิจ

ส่งเสริมความสามัคคีธรรม และผดุงเกียรติของการเป็นกรรมการบริษัท

ร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจโดยส่วนรวมเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

ไม่มีเจตนาหาผลกำไรมาแบ่งปันกันแต่ประการใด
วัตถุประสงค์ข้อข้างต้นไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างใด


ภารกิจหลัก

พัฒนา และให้การสนับสนุนกรรมการบริษัท เพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี

วิสัยทัศน์

สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการกำกับดูแลกิจการขึ้นสู่มาตรฐานสากลเป็นผลให้เกิดการเพิ่มลงทุนในบริษัทไทย

ปัจจุบันมีกรรมการมากกว่า 1,000 ท่านซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรรมการ และกรรมการอิสระ ของบริษัทจดทะเบียนไทย เข้าอบรม
ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง คุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยจะมีคุณภาพมากขึ้นจากท่านกรรมการที่สำเร็จหลักสูตรจากทาง IOD ครับ

ผมเข้าใจครับ มีการส่งกรรมการบริหาร ไป อบรม ให้ certificate และ diploma บ้างก็ว่า จบหลักสูตรอันนี้มาแล้ว แทนที่จะ ดู และ ให้ความเป็นธรรม..... กับ หา ทาง หาจุดอ่อน ว่า ตนเองจะเอาเปรียบนักลงทุนได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่อง ESOP ไปเรียนรู้ และเห็นว่า ทั้งตลาด และ กลต ก็เห็นด้วยว่า สมควรให้มีขึ้น ก็หาข้ออ้างตามที่ได้เรียนมาก จุดประสงค์ 3 ข้อ ที่ เป็นข้อแนะนำ copy กันมาเอง.....แล้วมาคิด หาทางออก พวกนี้........เพราะ กรรมการต่าง ๆ ที่ไปเรียนรู้มา ส่วนใหญ่ 90% เป็น เจ้าของกิจการ หรือ แต่งตั้งโดยเจ้าของ นั่นแหละจุด อ่อนที่ผมพบเห็นมา เลยเกิดความล้า ในการลงทุนเหมือนกัน ต้องคิดแล้วคิดอีก รอวันเวลา ที่บริษัทฯ ส่วนใหญ่ของเราจะได้กระจายหุ้นออกไป ให้ มีอัตราส่วน ของรายย่อยมากขึ้น และ แบ่งเป็นหลาย ๆ กลุ่ม.......ทุกบริษัทฯ ก็ ว่า มีกรรมการอิสระ มาคอย ช่วยดูแล แต่ก็ เห็น ๆ เป็น แค่ กรรมการประดับ เพื่อ ดู ให้ ดี ขึ้น เท่านั้นเอง.......เฮ้อ ต้องช่วยกันคิดหน่อย นะครับ จะทำอย่างไร ให้ บริษัท ต่าง ๆ มี ธรรมาภิบาลดีขึ้น เพื่อความยั่งยืน ยาวนาน ของตลาดต่อไป

ผมว่าเวลาประชุมผูุ้ถือหุ้นก็เรียกร้องให้กรรมการทุกคนไปเข้าค่ายธรรมะปีละครั้ง จะช่วยได้ไหมครับ หรือไม่ก็ออกกฏมาเลยว่าก่อนที่กรรมการรับตำแหน่งให้เข้าค่ายอบรมธรรมะก่อน 1 สัปดาห์ก่อนรับตำแหน่ง(นับถือศาสนาไหนก็เข้าค่ายของศาสนานั้น) เผื่อจะเกรงกลัวความผิดความบาปกันบ้าง

พอดีไปเดินร้านหนังสือมา ก็สังเกตุว่า หนังสือที่ ขาย Sex Appeal มีมากขึ้น ทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะ นำภาพชายมาแสดงมากขึ้น ก็น่าจะตอบสนองตลาดผู้หญิง และชายชอบชาย

มันมีมากมากจนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด ก็เลยอยากถามว่า

คิดยังไง ถ้าเราขอให้ Se-ed กระทำดังนี้

ไม่ขายหนังสือที่ล่อแหลมให้คนอายุต่ำกว่า 18 ปี
จัดวางหนังสือที่ล่อแหลมให้มิดชิด ปกติก็จะโชว์เฉพาะหัวหนังสือ เท่านั้น
จัดวางหนังสือที่ล่อแหลมให้พ้นมือเด็ก

หนังสือที่ล่อแหลม น่า จะหมายรวม หนังสือพิมพ์หัวสี ที่ลงรูปล่อแหลมด้วย


เพราะจากการอ่าน Post Thread นี้เรื่อง ธรรมาภิบาล ก็มีหัวข้อหนึ่ง ก็คือ การรับผิดชอบต่อสังคม

การเห็นเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นสม่ำเสมอ และทุกคนยอมรับ นานวันไป มันก็จะกลายเป็น วัฒนธรรม

ในฐานะส่วนหนึ่งของสังคม ทุกคนน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง

เด๊ยวนี้สังคมไทย รับเรื่องอย่างนี้ ได้มากขึ้นมั่งครับ
ช่องว่างทางการตลาดมีอยู่
ใครๆก็ผลิตออกมา

ตามหลักจิตวิทยา ผลิตภัณท์ส่วนใหญ่
ออกตามเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ
หนังสือก็มีส่วนในนั้นเหมือนกันครับ

ลุงขวดครับ พอดีผมไปมีโอกาสเฉียดไปเฉียดมากับหลักสูตรดังกล่าว
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทั้งกรรมการและกรรมการอิสระได้เข้าใจมากขึ้น
ถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองในฐานะกรรมการของบริษัทครับ

ผมเห็นด้วยกับลุงขวดครับที่ว่า กรรมการ รวมทั้งกรรมการอิสระนั้น
อาจจะได้รับการทาบทามจากเจ้าของบริษัทเป็นเข้าเป็นกรรมการ
แต่หลังจากเข้าอบรมหลักสูตรที่ว่า กรรมการมีความเข้าใจมากขึ้นในแง่ของความรับผิดชอบ
ผมเชื่อว่ากรรมการแต่ละท่านคงให้ความสำคัญมากขึ้นมากกว่าในอดีต
ซึ่งหลายท่านก็อาจจะละเลยบทบาทของตัวเอง ซึ่งอาจจะเหมือนเป็นตรายางประทับของบริษัท

คิดว่าต้องใช้ระยะเวลาอยู่บ้าง อย่างน้อยก็เป็นนิมิตรหมายอันดีในการพัฒนาตลาดทุนในประเทศไทย

ข้อคิดวันนี้ก็คือ หากบริษัทใดที่มีกรรมการขอลาออก คงต้องสนใจในการสอดส่องบริษัทนั้นให้มากขึ้น
แม้ว่าไม่บอกสาเหตุของการลาออก แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า
กรรมการท่านนั้น อาจจะไม่เห็นด้วยในแนวทางปฎิบัติของบริษัทดังกล่าวครับ

เป็นข้อมูล ข้อคิดที่อยากแชร์ให้ฟัง ไม่มีวัตถุประสงค์อื่นครับ