Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

รบกวนถามผู้รู้ด้วยครับส่วนตัวผมว่า
market cap <1,000 ล้านเรียกว่าบริษัทขนาดเล็ก
market cap = 1,000 - 2,000 ล้านถือว่าขนาดกลาง
market cap >2,000 ล้านถือว่าขนาดใหญ่
ที่ถามคำถามนี้เนื่องจากอ.นิเวศน์เคยเขียนหนังสือว่าถ้าบริษัทฯเล็กเกินไปจะไม่สามารถผ่านพ้นมรสุมได้

หุ้นที่ฝรั่งสนใจ จะเป็นขนาดใหญ่ โดยมี market cap แถว $500 ล้าน หรือแถวประมาณ สองหมื่นล้านบาท.......ซึ่งผมเคยทดลองตรวจสอบดูเห็นมีไม่ถึง 50 บริษัท

ผมชอบหุ้นแถว ระดับ market cap ประมาณ 1-3 พันล้านบาท เลยไม่รู้ว่า ชอบ กลาง หรือ เล็ก........ส่วนใหญ่ ผมชอบหนี หุ้น ขนาดใหญ่ เพราะสู้กับฝรั่ง และ สถาบัน ไม่ไหวครับ

(market cap = ราคาหุ้น x จำนวนหุ้นจดทะเบียน)

WG บริษัทที่หลายๆคนในที่นี้เชื่อว่าดีนักหนาไงครับ ไปเอาเองละกัน ขนาดบริษัทเล็กกว่าบริษัทในตลาด MAI บางบริษัทอีกครับ

แล้วก็เข้าเกณฑ์ที่คุณว่า

"อ.นิเวศน์เคยเขียนหนังสือว่าถ้าบริษัทฯเล็กเกินไปจะไม่สามารถผ่านพ้นมรสุมได้"

ไม่ใช่แค่ผ่านมรสุมนะครับ เวลามีมรสุมมา คุณหาทางจะขายออก ก็ไม่รู้จะมีคนมาซื้อหรือเปล่า

เพื่อนฝรั่งผมคนหนึ่ง บอก ว่า ......ต้นไม้ ต้นใหญ่ ๆ เกิดจาก ต้นไม้ ต้นเล็ก ๆ ครับ

สิ่งสำคัญไม่ใช่กิจการใหญ่ ๆ จะดี กิจการเล็ก ๆ ก็ อาจดี ได้ ถ้าผู้บริหารและนโยบาย ที่ดี

การประชุมใหญ่คราวที่แล้ว ทางฝ่ายบริหาร ก็ บอก ถ้ามีโครงการใดที่ให้ผลตอบแทนดี ก็จะ ทำ และเงินที่สะสมอยู่ ก็ คงนำไปหาผลตอบแทนกลับเข้าสู่บริษัท.... แต่ตอนนี้ยังมอง และ คิดอยู่ ยังไม่มีโครงการใด ๆ

ผมไม่ดู market cap. ผมดูบริษัทที่มี หนี้น้อย ผลประกอบการดีสม่ำเสมอมากกว่า market cap. เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ

ถ้าพูดถึงเวลามี มรสุม มา ผมว่า บริษัทที่มีหนี้มาก เหมือน ต้นไม้ใหญ่ มันจะเจอพิษของมรสุม มากกว่า บริษัทที่มีหนี้น้อย เหมือน ต้นอ้อที่ลู่ลม

สำคัญสุดคือผู้ปลูก เลือกต้นไม้ได้ถูกกับรสนิยม
อดใจรอจนเติบใหญ่ ออกดอกออกผล
ไม่ใช่ฟันทิ้งเสียก่อน

ข้างบนผมเองครับ ลืมล๊อคอิน

ต้นอ้อลู่ลม

ครรชิต ไพศาล เขียน:ผมไม่ดู market cap. ผมดูบริษัทที่มี หนี้น้อย ผลประกอบการดีสม่ำเสมอมากกว่า market cap. เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ

ถ้าพูดถึงเวลามี มรสุม มา ผมว่า บริษัทที่มีหนี้มาก เหมือน ต้นไม้ใหญ่ มันจะเจอพิษของมรสุม มากกว่า บริษัทที่มีหนี้น้อย เหมือน ต้นอ้อที่ลู่ลม

เป็นคำเปรียบเทียบที่คลาสสิคจริงๆ

ถ้าดูขนาดบริษัทที่จะฝ่ามรสุมด้วย Mkt Cap อย่างเดียวคงไม่แฟร์
ผมว่าต้องเทียบกันหลายอย่าง ทั้งส่วนแบ่งตลาด สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น ยอดขาย กำไร กระแสเงินสด

เรื่องบริษัทเล็กใหญ่นี่เป็นที่ถกเถียงกันมาเยอะนะครับ บ้างก็ว่าบริษัทยิ่งใหญ่ยิ่งดี แต่พอดูหลายบริษัทใหญ่ในเมืองไทย เห็นเพิ่มทุนกันเพียบ

บริษัทเล็กฝ่ามรสุมโดยการลดต้นทุนทำไม่ยาก แต่บริษัทใหญ่ทีมีดอกเบี้ยหนี้แยะ จะฝ่ามรสุมลดต้นทุนอย่างเดียวคงต้องเขี่ยพนักงานออกเกือบหมด ก็เลยอาศัยเครดิตของการเป็นบริษัทใหญ่ในการเพิ่มทุนฝ่ามรสุมแทน
ถ้ามีบริษัทใหญ่ที่หนี้น้อยน่าจะดีนะครับ ในตลาดบ้านเรามีไหมครับ

บริษัทที่มี Market Cap. ใหญ่ แต่มีหนี้น้อยนะครับ

SCCC BEC CP7-11 HANA UBC MAKRO PPPC ICC TRU GRAMMY SSC TR METCO MEDIAS Q-CON

ตรวจสอบความถกต้องจากงบการเงินอีกครั้งครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นของทุกท่านครับ ช่วงนี้มรสุมเข้าตลาดผมเลยอยากหาหุ้นที่ฝ่ามรสุมแบบสบายๆหน่อย

เห็นบางบริษัทที่คุยๆ ว่า บรรษัทภิบาล
ตอนมีปัญหา ก็หนักไปทาง ภิบาลบรรษัท กัน

เอ HANA นี่ผมเคยได้ยินมาว่า ผู้บริหารชอบสร้างข่าวทำราคาหุ้นนี่จริงเท็จ เป็นยังไงครับ พี่ๆที่ทราบข้อเท็จจริงช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ (ไม่รู้ว่าแหล่งข่าวเอามาจากไหน)