Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อ่านเจอว่า มีบลจ แห่งหนึ่ง
เปิดกองทุนหุ้นที่มีเงื่อนไขว่า
เวลาครบ 7เดือน หรือ ผลตอบแทนของกองทุนได้ 7% อะไรถึงก่อนปิดกองทุน

ในแง่นี้แสดงว่า ผู้จัดการกองทุนเห็นอะไรบ้างอย่างแน่นอน
เป็นการวัดอะไรหรือเปล่าหนอ

ผมตอบตามตรงว่า บลจ คงเห็นโอกาสทำกำไรจากลูกค้า แค่นั้นเองจริงๆครับ เขาขาย product แบบนี้ยังไงๆเขาก็ได้ค่าดูแลจัดการกองทุนแน่ๆขึ้นอยู่กับจำนวนที่ขายได้ เผลอๆได้ค่าคอมที่ไปซื้อหุ้นด้วย เพราะถ้ามองในแง่ time frame ที่จำเพาะเจาะจงขนาดนี้ ถ้าบังเอิญ 7 เดือนแล้วบังเอิญหุ้นมันตกหนักๆ พอดี "นักลงทุน" ก็เจ๊งกันหมดสิครับ จะให้วิเคราะห์ตลาดเทพแค่ไหน ก็กะจังหวะ timing ของตลาดไม่ถูกหรอกครับ

Peter Lynch เคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนเล่มหนึ่งว่า เหยื่อตกปลามีหลายเกรด แต่รุ่นดีๆสวยๆจะราคาแพงกว่ามาก ที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่ามันจะล่อปลาได้ดีกว่า ที่แพงกว่าก็เพราะว่ามันล่อคนที่มาซื้อได้ดีกว่าครับ

simplelife เขียน: Peter Lynch เคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนเล่มหนึ่งว่า เหยื่อตกปลามีหลายเกรด แต่รุ่นดีๆสวยๆจะราคาแพงกว่ามาก ที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่ามันจะล่อปลาได้ดีกว่า ที่แพงกว่าก็เพราะว่ามันล่อคนที่มาซื้อได้ดีกว่าครับ

ชอบครับ

Jarut เขียน:

simplelife เขียน: Peter Lynch เคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนเล่มหนึ่งว่า เหยื่อตกปลามีหลายเกรด แต่รุ่นดีๆสวยๆจะราคาแพงกว่ามาก ที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่ามันจะล่อปลาได้ดีกว่า ที่แพงกว่าก็เพราะว่ามันล่อคนที่มาซื้อได้ดีกว่าครับ

ชอบครับ

ชอบๆ

ในความเห็นส่วนตัวมากๆนะครับ ก่อนที่ผมจะเข้าตลาดหุ้นผมก็หาวิธีให้เงินทำงานอยู่และวิธีหนึ่งที่ผมเลือกก็คือ Triger นี่หล่ะครับ แต่ยอมรับว่าไม่ชอบเพราะผมลง 3 ตัวมี 2 ตัวที่กำไร อีก 1 ตัวขาดทุน ผมจึงสรุปว่า ตัว Trigger นั้นจะดีก็ต่อเมื่อเป็นช่วงตลาดขาขึ้นครับ ที่สำคัญมันมีเวลามากำหนด หากไม่มีเวลามากำหนดมันยังจะดีกว่า ดังนั้นหากจะลงลองศึกษาดูให้ดีครับ แต่หากมี triger ที่ไม่กำหนดเวลาผมว่าน่าสนใจ แต่คงยังไม่มี บลจ. ไหนกล้าทำนะเท่าที่ทราบ

simplelife เขียน: Peter Lynch เคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนเล่มหนึ่งว่า เหยื่อตกปลามีหลายเกรด แต่รุ่นดีๆสวยๆจะราคาแพงกว่ามาก ที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่ามันจะล่อปลาได้ดีกว่า ที่แพงกว่าก็เพราะว่ามันล่อคนที่มาซื้อได้ดีกว่าครับ

โดนๆ

ค่าจัดการกองทุนประมาณ 2% (ตามหนังสือชี้ชวน) ขายกองทุนได้ซัก 500 ล้าน ก็ได้ fee ไป 10 ล้าน กำไรง่ายดีจัง

มันเหมือนกับว่า ทำได้ง่ายขนาดนั้นหรือเปล่าล่ะ
เพราะว่า 7% ใน 7 เดือน แสดงว่า สามารถทำกำไรได้ระดับ 12% ต่อปี โดยประมาณ
ซึ่งชนะผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์คือประมาณ 10% ต่อปี

มันเป็น ทริกเกอร์ที่บอกว่า ในตลาดที่ผันผวนก็มีผู้ท้าทาย
อีกอย่างถ้าหาก ทำได้ก่อน 7 เดือน ก็ถือว่า โอเคเลย

สิ่งที่บอกอีกอย่างคือ กองทุนมีข้อจำกัดในการลงทุนอย่างมาก คือ ลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องเท่านั้น
สิ่งนี้แหละที่ต้องระวังเพราะ ทำให้เกิดการทุบและลากแบบรวดเร็ว ทำให้ตลาดบิดเบี้ยวจากเดิม