Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คือผมอายุ 22 พึ่งเรียนจบ

และพึ่งศึกษาหุ้นมาได้ 2-3 เดือน


เป็นมือใหม่ทางการลงทุนในตลาดหุ้นน่ะครับ


แม่ผมให้เงินมาเล่นหุ้น 200,000 บาท


แรกๆเล่น Day trade ก็กำไรบ้างขาดทุนบ้าง

แต่พอมาเจอหลังๆนี่


เข้า Jas ไป 3.06 Cut ไป 2.92 ขาดทุนไปเกือบหมื่น

UIC เข้าออก ไปขาดทุนไปอีกหมื่นกว่า

ทำใจ Cut ไป มาซื้อ PAF 2.14

ด้วยความรู้น้อย เหมือนพระเจ้าตอบแทนความโง่เขลา

มันก็ลงมาเรื่อยๆ ยืนอยู่ ช่วง 2.04


แล้วก็เจอพระเจ้าสั่งสอนหนักเข้าไปอีก

เมื่อสองสาม วันที่ผ่านมา

ต่างชาติเทขาย หนัก





ผมทำอะไรไม่ถูกแล้วครับ

ถ้า Cut ตอนนี้ จะเหลือเงินทั้งหมด

157,000 บาท ขาดทุนไป 25 % ในเวลา 1 เดือน !!!!



ตอนนี้ แม่ผมยังไม่รู้เรื่องขาดทุนมากขนาดนี้

รู้แค่ขาดทุนนิดๆหน่อยๆ 4-5 พัน

ผมเองก็ไม่กล้าบอก
(คือที่บ้านทำกิจการน้ำมัน และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเงินอะไร )

แต่ในใจก็ไม่อยากโกหก แม่ พี่ๆว่า

ถ้าผม Cut ไปตอนนี้

แล้วรอเวลาทำกำไร ในช่วงหุ้นกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง


พี่ๆคิดยังไงดีครับ

ขอความกรุณาช่วยแนะนำผมด้วยเถอะครับ

จะด่าจะว่ายังไงผมก็ยอมหมด อยากรู้ความเห็นของพี่ๆทั้งหลายครับ

สำหรับเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนราคาแพงมากสำหรับผม

ถึงจำนวนเงินจะไม่มากเท่าไร ไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อน

แต่ มันทำให้ผมเข็ด กับการลงทุนด้วยความไม่รู้ และ

ประมาท จนทำให้ตัวเอง กลายเป็นเหมือน นักพนัน ควบ

คุมสติตัวเองไม่ได้ และ ต่อไปนี้

สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ผมขาดทุนในวันนี้


มันจะหายไปจากพฤติกรรม การเล่นหุ้นของผมแน่นอน

เข็ดมากกกกกกกกก

เริ่มจาก
1. อย่าหลอกตัวเอง ที่ผ่านมา ซื้อหุ้นเพราะว่าอะไร ซื้อเพราะคิดว่ามันจะขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงธุรกิจ ไม่ได้คำนึงถึงผลกำไรของบริษัท ถ้าทำแบบนี้ต้องยอมรับครับว่า ที่ผ่านมาเป็นการ"เก็งกำไร" ไม่ใช่"ลงทุน"
If you're an investor, you're looking on what the asset is going to do, if you're a speculator, you're commonly focusing on what the price of the object is going to do, and that's not our game.

-- 1997 Berkshire Hathaway Annual Meeting

2. อย่าหลอกคนอื่น บอกแม่เถอะครับ ว่าหุ้นตก ขาดทุน บอกคนอื่นถ้าเขาถาม ว่าขาดทุน เพราะว่าไม่เข้าใจการลงทุน การปิดบัง หลบๆซ่อนๆแล้วรังแต่จะเป็นทุกข์ หลอกใครก็ไม่แย่เท่ากับหลอกคนที่เขารักเราครับ

3. ส่วน PAF ตัวบริษัทเอง ขาดทุนมาหลายปี แม้แต่ราคายังแพงกว่า BV คือ P/BV > 1 สำหรับบริษัทขาดทุน ก็คงจะแพงไปนิด ต้องดูรายละเอียดอีกที ยอดขาย PAF สูงมากมาตลอด คือเป็น 6-7 พันล้าน ถ้าคิด PSR น่าจะ < 0.2 อีก ถ้าบริษัทกลับมาขายทำกำไรได้อย่างที่บริษัทอื่นๆเขาทำได้ เช่น npm ซัก 8% P/E ได้เท่ากับ 2.5 เองครับ ราคาหุ้นตรงนี้ถือว่าถูกมากๆ ถ้าคุณคิดว่า PAF จะ turnaround กลับมาทำกำไรได้ ก็น่าที่จะถือลงทุนได้ แต่มันขาดทุนมาหลายปีมาก ต้องไปหาดูครับว่าทำไมมันขาดทุน แล้วจากตรงนี้ไปปัญหาที่ทำให้มันขาดทุน บริษัทได้จัดการแล้วหรือยัง

ส่วนราคา PAF จะเคลื่อนที่ไปทางไหนจากตรงนี้ ไม่มีใครตอบได้หรอกครับ

ขอให้โชคดีครับ

ขอโทษด้วยครับ ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่า ควร cut ไหมนะครับ เพราะไม่ได้ศึกษาลึกซึ้งดีพอ แต่อยากจะแนะนำในมุมมองของผมว่า PAF เหมือนจะเป็นหุ้นที่ turnaround ถ้าคิดว่ากิจการจะสามารถทำกำไรไปได้ดีในอนาคต ก็ไม่ต้องคัตนะครับ แต่ถ้าคิดว่าไม่ทำกำไรได้ดีในอนาคต ก็ควรจะขายทิ้งซะ

โดยปกติแล้ว สำหรับผม ถ้าจะซื้อหุ้น ตัวไหน จะพยายามดูว่า ซื้อเพราะเหตุอะไร เวลาจะขาย ก็ขายด้วยเหตุผลนั้นนะครับ

ปล. ถ้ามีเวลาว่าง ก็ซื้อหนังสือในร้านหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม ก่อนลงทุนนะครับ
การมีความรู้ช่วยได้เยอะจิงๆๆนะครับ ขอบคุณครับ

ได้มาง่ายก็เลยเล่นง่ายแบบนี้แหล่ะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับผม

ใจเย็นๆ เคยเป็นเหมือนกัน

ตอนนี้บอกได้เลยว่าน้องกำลังเคว้ง

เพราะลงทุนโดยไม่รู้ ไม่มีหลักการที่จะยึด

แนะนำให้อ่านประสบการณ์ของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก่อน

พิจารณาว่าเขาเลือกหุ้นอย่างไร แนะนำ ของ ดร นิเวศน์

อ่านเรื่อง ตีแตกให้จบ แล้วมาถามอีกทีนะ

ถ้าเป็นผม คงเลือกจังหวะขายออกมากอ่ะครับ
แม้ว่า อนาคตมันอาจจะกำไรก็ได้

อย่างแรก คือ ต้องยอมรับว่าเราผิดพลาด คงต้องยอมขาดทุนอ่ะครับ เป็นบทเรียนไป
อย่างที่สอง ต้องหา วิถีการลงทุน ที่คุณเองสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้ด้วยตัวเองนะครับ


ด้วยเงินที่เหลือ หาเงิน 5 หมื่น คืนพอร์ต ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ

ผมคิดว่าขึ้นกับสไตล์การลงทุนของน้องนะครับ แต่ละสไตล์ใช้ความรู้ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นถ้าเป็น vi ก็คงจะบอกในทำนองที่ว่าถ้ายังมั่นใจว่ากิจการยังดีอยู่ก็ถือต่อไปไม่เห็นจะเป็นไร ซึ่งแน่นอนว่าจะมั่นใจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ของแต่ละคน แต่จากที่อ่านผมเดาว่า vi ไม่ใช่สไตล์ของน้องตอนนี้ ถ้าเรามั่นใจในความรู้ตรงนั้นแล้วคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากตอนที่เราตัดสินใจถือก็น่าจะถือต่อได้ครับ แต่ถ้ายังไม่มั่นใจในความรู้ของตัวเอง ลอง cut loss ทั้งหมดแล้วถอยออกมาทบทวนสิ่งที่ผ่านมาดูก่อนดีมั้ยครับ การเล่นหุ้นแบบไม่มีความรู้ในระยะยาวแล้วยังไงก็ไม่น่าจะดี เป็นกำลังใจให้นะครับ

คัตครับ หุ้นที่กำไรมีตั้งเยอะ ไปซื้อทำไมหุ้นที่ขาดทุน
jas ก็ยังไม่มีกำไร และก็ไม่เคยมี ธุรกิจก็เปลี่ยนไว ซัดไปpb3 ไม่อนุรักษ์อย่างแรง ถ้าเป็นสายเกรแฮมเก่า
ถือเป็นของสแเลง คัตครับ

uic เข้าใหม่ ทำไรก็ไม่รู้(ขอโทษด้วยผมไม่รู้) ประวัติการดำเนินงานไม่มี pe ตั้ง 46
ชื่อไม่เคยได้ยิน อันตรายมาก คัตครับ

paf ไม่เคยมีกำไร รองเท้าแพนมันเจ๊งมานานแล้ว นักเรียนจนๆเขาก็ใส่นันยาง รวยหน่อยก็ยี่ห้ออื่น
บาจาหรืออะไรก็ว่าไป ร้านแพนก็ไม่เคยเห็น หนี้ท่วมทุน กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็เป็นลบ
โรงงานก็ต้องทยอยขายทิ้ง แถมยังราคาสูงกว่าbookอีก ถ้าไม่เซียนจริง หุ้นแบบนี้ห้ามเล่น
แล้วเซียนหลายๆคนก็ยังไม่ยอมเล่น คัตครับ

เอาตังที่เหลือแสนห้า ขอไปซื้อหนังสือมาอ่าน
intelligent investorสามร้อยบาท ถ้าอ่านไม่จบ ไม่ควรกลับมาซื้อหุ้นอีกครับ
หากทนอ่านจนจบและทำความเข้าใจได้ จากแสนห้าเป็นสองแสน ใช้เวลาไม่เกินสามปีครับ
แต่ถ้าต้องการนำเงินสดมาแจกจ่ายลงตลาดก็ขอน้อมรับ

อันนี้เผื่อคนเข้าใหม่หน่อยครับ

วิธีเล่นหุ้นมีเพียงสองวิธีเท่านั้น
คือ รวยอย่างช้าๆหรือจนอย่างรวดเร็ว

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการลงทุนครับ

ถ้ายังไม่รู้เกี่ยวกับหุ้นดีพอ (ไม่รู้ว่าตัวเองซื้อเพราะอะไร , หนักๆหน่อยก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร)
แนะนำให้ขายทิ้งไปก่อนครับ

แล้วกำเงินสดที่เหลืออยู่ให้แน่นๆไว้ก่อน
อย่าเพิ่งซื้อหุ้นตัวไหน
อย่าเพิ่งลงทุนอะไร

ใ้ห้ลงทุนในความรู้ก่อนอย่างแรกเลยครับ
อาวุธหลักๆของนัำกลงทุนก็
- อ่านงบให้ออก วิเคราะห์ตัวเลขได้ ( อันนี้ทำให้เราทราบถึงอดีตที่ผ่านมาของกิจการที่เราจะลงทุน )
- หัดวิเคราะห์ อนาคตของบริษัทที่จะลงทุน
- การหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ( เลือกวิธีง่ายๆก็ได้ครับ PE , div approach ก็สามารถวัดมูลค่าหุ้นค่อนตลาดแล้ว)

ความรู้ที่ว่าอาจจะมาจากการอ่านหนังสือ หรือเข้าคอร์สอบรม ไม่ก็อ่านกระทู้เก่าในเวบก็ได้ครับ

หนังสือที่ต้องอ่านให้จบ
1. ตีแตก - ดร.นิเวศน์
2. 85ไอเดียการลงทุนในตลาดหุ้นไทย - ของพี่สุมาอี้
3. ตลาดหุ้นไทย survival kit - ของพี่สุมาอี้

เล่มอื่นลองหาดูในห้อง ร้อยคนร้อยเล่ม นะครับ มีคน comment ไว้เยอะแยะ

พอเราเข้าใจภาพกว้างๆ ก็ค่อยเลือกซื้อหุ้น ก็ยังไม่สายครับ
ถึงเวลานั้นเอาคืนให้คุ้มนะ

ที่เสียก็ถือเป็นค่าเทอมเน้อ

สู้ๆนะครับ

ใจเย็นๆๆครับ กลับมาตั้งหลักใหม่ เป็นกำลังใจครับ

อ่านตรงนี้เลยครับ ประสบการณ์เยี่ยมๆ ทั้งนั้น เผื่อจะได้สบายใจขึ้น

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=48086

แนะนำอะไรไม่ได้มากกว่ารีบบอกแม่ครับ
ปรึกษาท่านว่าควรทำอย่างไร.....
เราเสียเงินผมว่าท่านน่าจะเข้าใจ แต่การไม่บอกหรือหลอกท่าน ไม่ว่าอย่างไรก็เข้าใจไม่ได้ครับ


เสียเงินเสียได้ แต่เสียชื่อเสียงแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้นะครับ

ผมแนะนำให้ เลิกเล่นหุ้น ครับ
เลิกเลยนะครับ คือ ปิดจอ เลิกซื้อขาย อย่างน้อยๆก็ 3-4 เดือน
แล้วเอาเวลา 3-4 เดือนนี้ไปหาความรู้ใส่ตัวซะ ตัดขาดจากตลาดก่อน
ถ้าคุณไม่ออกจากตลาด ความรู้มันก็ไม่เข้าสมองครับ เพราะคุณจะมัวแต่พะวงกับราคาหุ้น

อ่านหนังสือ,อ่านบทความให้มากๆ ในเวลา 3-4 เดือนนี้
จะเป็นอะไรก็เอา อยากเป็นวีไอก็อ่านวีไอ อยากเป็นเทรดเดอร์ก็อ่านเทรดดิ้ง
แต่ต้องอ่านให้เข้าใจแตกฉานในหลักการ จากนั้นค่อยกลับเข้ามาลงทุนใหม่

หยุดก่อนที่จะบานปลายกว่านี้
ไปหาความรู้ แล้วค่อยกลับมาใหม่อย่างคนมีความรู้

แนะนำว่า ค่าวิชาครับ

อย่างน้อยหาบริษัทที่มีผลการดำเนินงาน และอัตราส่วนต่างๆ ย้อนหลังที่ดีติดต่อกันหลายๆปี แม้มันจะไม่ได้บอกว่าอนาคตบริษัทจะเป็นอย่างไร แต่มันจะบอกได้ว่าอุตสาหกรรมที่บริษัทอยุ่นั้นมีลักษณะอย่างไร แข่งขันสูงไหม เป็นวัฎจักรหรือไม่ เป็นต้น

จากนั้นก็ลองมาประเมินราคาง่ายๆเบื้องต้นสักหน่อย เพื่อหาว่าควรซื้อเท่าไร แล้วก็พยายามซื้อที่ราคาต่ำกว่าที่เราประเมินได้ และถ้าหลังจากนั้นมันรูดร่วงกรูด จากข่าวไม่ดีหรืออะไรก็ตาม กลับมาดูว่าสมมุติฐานที่เราประเมินราคาเปลี่ยนไปไหม ถ้าเปลี่ยนคงต้องประเมินราคาไหมไม่ก็ตัดขาดทุน ถ้าเหมือนเดิมก็ถือไปได้

อย่างน้อยก็มั่นใจที่จะถือหุ้นในระยะยาว ถ้าราคาตลาดมันร่วงขนาดหนักเพราะตัวบริษัทเราวิเคราะห์มาดีเเล้วครับ

คำแนะนำจากมือใหม่อย่างผมน่ะครับ
ดูกิจการว่าไปต่อได้มั้ย หาเงินยังไงไหวรึป่าว งบการเงินเป็นยังไง ดูย้อนหลังขาดทุนเยอะมั้ย หลายปีรึป่าว ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ที่ดีขึ้นก็cutเลยครับ

ปล.อย่าเชื่อผมมากแค่คำแนะนำแนวทาง แล้วที่สำคัญที่สุด หาหนังสือมาอ่านซัก2เล่มเป็นแนวทาง เช่น ตีแตก ยุทธศาสตร์หุ้นห่านทองคำครับ
สองเล่มนี่ลงทุนแค่ไม่เกิน600บาทเองครับ แล้วหาเกี่ยวกับงบการเงินมาอ่านอีกหน่อยครับ

เล่นหุ้นเหมือนเพื่อนผมเลยครับ ผมถามเพื่อนผมว่า ทำไมถึงบอกว่ามันจะขึ้น ทั้งๆที่ ต่างชาติขายทุกวันแบบนี้ มันบอกผมว่า ก็กราฟมันบอกแบบนี้ ผมก็เถียงมันไปว่า ถ้าต่างชาติยังขายไม่หยุดแบบนี้โอกาสที่จะ ขึ้นมีน้อยมาก บอกให้มันรอหลังเลือกตั้งดีกว่า มันตอบกลับมาว่า โห นานจัง = = 1เดือนนี่สำหรับมันนานแล้วหรือ

มันเถียงผมอีกคำนึงจนผมไม่รู้จะกับมันยังไงต่อ มันบอกว่า "ทีมึงยังเชื่อหนังสือเลย ทำไมกูจะเชื่อกราฟไม่ได้" (มันรู้ว่าผมอ่านหนังสือเยอะมาก)

ผมเลยบอกมันแค่ว่า มึงเชื่อกูเถอะ อย่าเล่น

*** มันขาดทุนไป 25% จากทอง 50% จาก SET 50 และมีคำนึงในใจที่เอาไม่ออกก็คือ กูเตือนมึงแล้ววววววววว และคำสุดท้ายที่พูดกันก็คือ กูคงจะห่างจากมันไปซักพัก

อ่านหนังสือเยอะๆนะครับผมว่า หนังสือ มันก็สร้างประสบการณ์ให้เราได้ไม่ต่างจาก คนที่เล่นหุ้นมา 10 ปีหรอกครับ

ผมลืมบอกไปว่า ไม่ใช่ว่าทางเทคนิคไม่ดีนะครับ หรือ เล่นแล้วจะเสีย ผมคิดว่ามันเสี่ยงครับ เพราะส่วนตัวผมไม่ชอบการพนัน เพราะผมไม่เคยซื้อหวยถูกซักตัว 5555

ปล. ไอ้เพื่อนผมตอนที่มันบอกว่า มันกำไรๆๆๆ ผมทุกวัน ก็ทำเอาผมตาลุกวาว เช่นกันนะ สนใจแต่ไม่เอาหรอก อิอิ

ขาดทุนไปแล้วก็ช่างมันครับ ถือเป็นประสบการณ์
ถ้าเล่นเก็งกำไร ต้องรู้จัก stop loss อาจจะ 5%

ถ้าจะเล่นแบบ vi ก็น่าจะหุ้นที่ดี และมี Margin of safty เยอะๆ
แต่อาจจะหาหุ้นแบบนี้ได้ไม่ง่ายนักในช่วงนี้
และที่สำคัญ ก็ต้องหาความรู้ใส่ตัวให้มากๆ
เล่นน้อยๆ ก่อน หาประสบการณ์ พอเริ่มเก่ง มีฝีมือ ก็ค่อยอัดเต็มพอร์ทก็ยังไม่สายนะครับ
ตลาดรอให้เราแก้มือเสมอครับ

เอาใจนะครับ