Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เพิ่งเปิดบัญชีกับ finansia syrus ไม่นานค่ะ ซื้อหุ้นเฉลี่ยหลายราคา เมื่อวานขายหุ้นไปบางส่วน วันนี้มาเปิดพอร์ตดูปรากฏว่า ราคาต้นทุนเรามันลดลง งง เลยโทรไปหามาร์เค้าบอกว่าคำนวณแบบ first in first out ถ้าอยากรู้ต้นทุนแบบเฉลี่ย ต้องจำและจดเอาไว้เอง แต่ที่เคยดูพอร์ตของคนอื่น เค้าไม่คิดแบบนี้นี่คะรู้สึกจะคิดเป็นราคาเฉลี่ยให้เราเลย ตอนนี้เลยงงว่าตกลงต้นทุนเราเท่าไหร่กันแน่ มีโบรกไหนคิดกันยังไงบ้าง แล้วพี่ๆจำต้นทุนกันยังไงคะ

ในอนาคต หากมีการเก็บภาษี capital gain อย่างที่ กลต พยายามเสนอ (เดาเอาว่าหลังจากหุ้นลบ คงเลิกพูดไป) การ track asset แต่ละรายการ ถึงแม้ว่าจะเป็นหุ้นเหมือนกัน บริษัทเีดียวกัน สำคัญมากครับ

สมมติว่าเราซื้อที่แปลงติดๆกันมา 5 แปลง แต่ราคาไม่เท่ากัน ขายไปได้กำไรสองแปลง ก็ต้องเอาราคาขายลบราคาซื้อเป็นกำไรมาเสียภาษี ไม่ใช่เอาราคาเฉลี่ยของ 5 แปลงมาลบจากราคาขายใช่ไหมครับ

simplelife เขียน:ในอนาคต หากมีการเก็บภาษี capital gain อย่างที่ กลต พยายามเสนอ (เดาเอาว่าหลังจากหุ้นลบ คงเลิกพูดไป) การ track asset แต่ละรายการ ถึงแม้ว่าจะเป็นหุ้นเหมือนกัน บริษัทเีดียวกัน สำคัญมากครับ

สมมติว่าเราซื้อที่แปลงติดๆกันมา 5 แปลง แต่ราคาไม่เท่ากัน ขายไปได้กำไรสองแปลง ก็ต้องเอาราคาขายลบราคาซื้อเป็นกำไรมาเสียภาษี ไม่ใช่เอาราคาเฉลี่ยของ 5 แปลงมาลบจากราคาขายใช่ไหมครับ

แล้วถ้าที่ดินห้าแปลงที่ว่า มันก็โชว์อยู่ว่าเป็นโฉนดเดียวกัน แบ่งขาย มันก็ต้องเป็นราคาเฉลี่ยสิ

ถ้าเป็นผม เสียค่าคอมให้โบรค แล้วยังมาต้องจดแบ่งแยกว่าแต่ละครั้งซื้อมาเท่าไหร่อยู่อีก จะเสียค่าคอมเพื่ออะไร

พี่ๆ ใช้โบรกไหนบ้าง แล้วโบรกไหนคำนวณยังไงบ้างคะ

มันเป็นกฎของเขาไม่ใช่หรือครับ คิดอย่างนี้ก็ดีแล้ว

todsapon เขียน:มันเป็นกฎของเขาไม่ใช่หรือครับ คิดอย่างนี้ก็ดีแล้ว

ได้เห็นต้นทุนกำไรที่แท้จริง

จริงๆแล้วมันมีค่าเท่ากันนะคะ ไม่ว่าจะ fifo หรือ average
การซื้อขายหุ้นปกติมันเป็น แบบ FIFO อยู่แล้วค่ะ เพราะมันต้องโชว์ต้นทุนจริงที่คุณซื้อมา และขายไป
แต่การโชว์ average จะช่วยตรงที่ทำให้เราคำนวนต้นทุนราคาของเราง่ายขึ้นเท่านั้นเองไม่งั้น ซื้อมา 2 บาทกับ 1 บาท สมมติจำนวนหุ้นเท่ากัน โชว์ 2 บาทมันก็เกินความเป็นจริง เค้าเลยโชว์ 1.5 แต่เวลาขายเค้าขาย 2 บาทออกก่อน

pdGrff เขียน:จริงๆแล้วมันมีค่าเท่ากันนะคะ ไม่ว่าจะ fifo หรือ average
การซื้อขายหุ้นปกติมันเป็น แบบ FIFO อยู่แล้วค่ะ เพราะมันต้องโชว์ต้นทุนจริงที่คุณซื้อมา และขายไป
แต่การโชว์ average จะช่วยตรงที่ทำให้เราคำนวนต้นทุนราคาของเราง่ายขึ้นเท่านั้นเองไม่งั้น ซื้อมา 2 บาทกับ 1 บาท สมมติจำนวนหุ้นเท่ากัน โชว์ 2 บาทมันก็เกินความเป็นจริง เค้าเลยโชว์ 1.5 แต่เวลาขายเค้าขาย 2 บาทออกก่อน

ในกรณีที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ไม่หมดเช่นซื้อ 1000 หุ้นแล้วต่อมาขายไป 500 หุ้นแล้วซื้อกลับ 500 หุ้นเท่าเดิมแบบนี้มันจะไม่เท่ากันแล้วรึเปล่าครับ

ใช้ระบบ LILO น่าจะwork นะครับเพราะว่าส่วนใหญ่ผมจะจำราคาล่าสุดได้ แต่ราคาเมื่อปีที่แล้วมันลืมสนิทไปแล้วครับ

มีโบร๊คไหนมั๊ยครับ จะได้ย้าย

otakung เขียน: ในกรณีที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ไม่หมดเช่นซื้อ 1000 หุ้นแล้วต่อมาขายไป 500 หุ้นแล้วซื้อกลับ 500 หุ้นเท่าเดิมแบบนี้มันจะไม่เท่ากันแล้วรึเปล่าครับ

ใช่ แต่ใน"การลงทุน" ราคาที่คุณซื้อมา ไม่ควรจะมีผลอะไรกับการตัดสินใจซื้อหุ้นหรือขายหุ้น สมมติว่าถ้าหุ้นบริษัทที่คุณซื้อมาื โดนฟ้องทำท่าร่อแร่ เอาง่ายๆ ตอนนี้คุณมีกำไร 10 หรือคุณขาดทุนหุ้นละ 10 มันทำให้การตัดสินใจซื้อหรือขายมันต่างกันหรือครับ

ถ้าอยากจะทำบัญชีละเอียดขนาดนั้นจริงๆ คงจะต้องจดเองใน excel หรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่ผลสุดท้ายมันเหมือนกันจริงๆ

ขอบคุณทุกคนค่ะ เพราะเคยชินกับพอร์ตเพื่อนที่เป็นเกียรตินาคิน เค้าโชว์ค่า average ให้ ไม่เคยรู้ว่าโบรกอื่นโชว์แบบ fifo

ยังงี้ สมมติ ซื้อหุ้น 2 บาท 100 หุ้น ต่อมา ซื้อเพิ่ม 1 บาท 100 หุ้น
พอร์ตจะโชว์ ราคา 1.5 บาท 200 หุ้น

ราคาขึ้นไป เป็น 1.9 บาท เลยขาย 100 หุ้น (เค้าเอาทุน 2 บาทเราไปขายก่อน กลายเป็นขาดทุนเหรอคะ)
พอร์ตโชว์เหลือหุ้น ราคา. 1 บาท 100 หุ้น

ยังงี้ถ้าราคาหุ้นตกเหลือ 1.4 ก็ต้องระวังไว้ว่า พอร์ตเราไม่ได้เขียวอย่างที่ตาเห็น เพราะเรามีต้นทุน 1.5 เหรอคะ

simplelife เขียน:

otakung เขียน: ในกรณีที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ไม่หมดเช่นซื้อ 1000 หุ้นแล้วต่อมาขายไป 500 หุ้นแล้วซื้อกลับ 500 หุ้นเท่าเดิมแบบนี้มันจะไม่เท่ากันแล้วรึเปล่าครับ

ใช่ แต่ใน"การลงทุน" ราคาที่คุณซื้อมา ไม่ควรจะมีผลอะไรกับการตัดสินใจซื้อหุ้นหรือขายหุ้น สมมติว่าถ้าหุ้นบริษัทที่คุณซื้อมาื โดนฟ้องทำท่าร่อแร่ เอาง่ายๆ ตอนนี้คุณมีกำไร 10 หรือคุณขาดทุนหุ้นละ 10 มันทำให้การตัดสินใจซื้อหรือขายมันต่างกันหรือครับ

ถ้าอยากจะทำบัญชีละเอียดขนาดนั้นจริงๆ คงจะต้องจดเองใน excel หรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่ผลสุดท้ายมันเหมือนกันจริงๆ

ถ้าในแง่ของการตัดสินใจซื้อขายผมไม่เถียงครับ แต่อันนี้รู้สึกว่าจะพูดถึงแค่การคิดราคาทุนของโบรครึเปล่าครับ ไม่เห็นมีตรงไหนเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อขายตรงไหน

nitiporn เขียน:ยังงี้ถ้าราคาหุ้นตกเหลือ 1.4 ก็ต้องระวังไว้ว่า พอร์ตเราไม่ได้เขียวอย่างที่ตาเห็น เพราะเรามีต้นทุน 1.5 เหรอคะ

ใช่ครับ ถึงบอกว่าถ้าอยากรู้ละเอียดขนาดนั้น คงจะต้องจดใน excel เอาไว้เองครับ ที่ผมเห็น 3-4 ที่ก็เหมือนๆกันทั้งนั้น เกียรตินาคินไม่เคยใช้ แต่ก็น่าจะโชว์แบบ FIFO เหมือนกันมั้งครับ

แต่เอาใหม่ สมมติว่าที่ 1.40 คุณเห็นว่ามันลงแหงๆเลย ขายทิ้งก่อน วันรุ่งขึ้นไปรับคืนมาที่ 1.20 100 หุ้น ถามว่าตอนนี้คุณมีต้นทุนเท่าไรครับ จะให้ reset ว่ามีต้นทุน 1.20 เพราะของเก่าขายไปหมดแล้ว หรือให้จำของเก่าไว้ว่ารอบที่แล้วขาดทุนกับตัวนี้อยู่ 10 บาท ต้นทุนต้องเป็น 1.30 สิ ?

otakung เขียน: ถ้าในแง่ของการตัดสินใจซื้อขายผมไม่เถียงครับ แต่อันนี้รู้สึกว่าจะพูดถึงแค่การคิดราคาทุนของโบรครึเปล่าครับ ไม่เห็นมีตรงไหนเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อขายตรงไหน

ขอโทษครับ ผมพยายามบอกว่าอย่าไปสนใจมันมากครับ ตัวเลขตรงนี้มันไม่ค่อยมีสาระสำคัญเท่าไรสำหรับการซื้อขายครับ ถ้าอยากรู้จริงๆว่าบัญชีมันถูกต้อง กำไรเท่าไรคงจะต้องเอามาจดแยกต่างหากครับ เพราะระบบมันเป็นแบบนั้นครับ

simplelife เขียน:ขอโทษครับ ผมพยายามบอกว่าอย่าไปสนใจมันมากครับ ตัวเลขตรงนี้มันไม่ค่อยมีสาระสำคัญเท่าไรสำหรับการซื้อขายครับ ถ้าอยากรู้จริงๆว่าบัญชีมันถูกต้อง กำไรเท่าไรคงจะต้องเอามาจดแยกต่างหากครับ เพราะระบบมันเป็นแบบนั้นครับ

ขอบคุณครับ จริง ๆ ผมคิดว่าทุกท่านที่ลงทุนในแนวทางของ vi เนี่ยก็น่าจะมีบัญชีของตัวเองอยู่แล้วรึเปล่าครับ (จะคำนวณทุนด้วยวิธีไหนก็อีกเรื่อง) ถ้าทำตามหลักการ vi อย่างเคร่งครัดแล้วเราไม่รู้ตัวว่าที่ผ่านมาขาดทุนเนี่ยมันก็ไม่น่าจะดี ถ้าเราอ่านงบการเงินของตั้งหลายบริษัทแต่ไม่มีงบการเงินของตัวเองมันก็ดูแปลก ๆ รึเปล่า

ขอบคุณทุกคนที่มาให้ความกระจ่างค่าาาา ^_^

ปล.คำถามอาจจะง่ายเกินไป แต่ขอบคุณที่ยังใส่ใจมือใหม่นะคะ