Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเริ่มมาสงสัยครับ ว่าถ้าเราถือหุ้นของกิจการที่สามารถทำกำไรและอาจเติบโตได้ปีละ5-10%
แต่มีนโยบายปันผลน้อยมากๆ อาจจะ < 2%
แบบนี้จะยังเข้าข่าย น่าลงทุนหรือไม่
เพราะ(เข้าใจเอาเอง)ว่า
ทุกธุรกิจทุกกิจการ ย่อมมีช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ หากได้กำไรแล้วไม่ปันผลกลับออกมาให้ ผถห. ก็คล้ายกับว่ากำไรนั้นเป็นแค่นามธรรม
แม้จะเอาเงินกลับไปสร้างกำไรได้อีก กำไรในปีถัดๆไปก็ยังคงเป็นนามธรรม (ผลตอบแทนยังแพ้ ดบ.เงินฝาก)
แต่เมื่อใดที่ธุรกิจประสบปัญหา ราคาก็ลง ปันผลก็คงไม่มี
เท่ากับว่าต้องหวังตลาดสะท้อนราคากิจการนั้นๆอย่างเดียว (ซึ่งต้องหวังพึ่งตลาดอาจให้หรือไม่ให้ราคาหรือให้น้อยก็เป็นได้)
ผมเป็นมือใหม่ยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดเลยคิดแบบนี้ พี่ๆมีความเห็นอย่างไรครับ

สำหรับผม ผมจะดูว่า %ของเงินปันผลที่ได้นั้นเราพอใจหรือป่าว?
ถ้าเกิดต้องอยู่กับหุ้นตัวนี้นานๆแล้วยังให้ผลตอบแทนที่ดีหรือไม่?
หรือเงินกำไรที่บริษัทเก็บเอาไว้ ก็ดูว่าบริษัทสามารถนำไปลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนเพิ่ม
แก่บริษัทหรือไม่? (ซึ่งจะสะท้อนมาในราคาหุ้น)
ถ้าไม่ผมก็จะหาหุ้นตัวต่อไป ดีกว่ามานั่งโวยวาย เพราะผู้บริหารอาจไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเท่าที่ควรครับ

ถ้าไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอแปลว่าธุรกิจไม่มั่นคงนะครับ
หรือไม่ก็บริหารขี้เกียจบริหารบริษัทให้ดี

สมมติว่าไม่จ่ายหรือจ่ายออกมาน้อย
ถ้าเกิดขายของไม่ค่อยได้ ก็ไม่เดือดร้อน แค่เอาเงินเก็บที่ทำกำไรได้มาใช้บริหารงานต่อ
ราวกับไม่มีปัญหาใดๆ

SourCreamz เขียน:ผมเริ่มมาสงสัยครับ ว่าถ้าเราถือหุ้นของกิจการที่สามารถทำกำไรและอาจเติบโตได้ปีละ5-10%
แต่มีนโยบายปันผลน้อยมากๆ อาจจะ < 2%
แบบนี้จะยังเข้าข่าย น่าลงทุนหรือไม่
เพราะ(เข้าใจเอาเอง)ว่า
ทุกธุรกิจทุกกิจการ ย่อมมีช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ หากได้กำไรแล้วไม่ปันผลกลับออกมาให้ ผถห. ก็คล้ายกับว่ากำไรนั้นเป็นแค่นามธรรม
แม้จะเอาเงินกลับไปสร้างกำไรได้อีก กำไรในปีถัดๆไปก็ยังคงเป็นนามธรรม (ผลตอบแทนยังแพ้ ดบ.เงินฝาก)
แต่เมื่อใดที่ธุรกิจประสบปัญหา ราคาก็ลง ปันผลก็คงไม่มี
เท่ากับว่าต้องหวังตลาดสะท้อนราคากิจการนั้นๆอย่างเดียว (ซึ่งต้องหวังพึ่งตลาดอาจให้หรือไม่ให้ราคาหรือให้น้อยก็เป็นได้)
ผมเป็นมือใหม่ยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดเลยคิดแบบนี้ พี่ๆมีความเห็นอย่างไรครับ

คิดแบบคุณก็ไม่ผิดครับ ความจริงหลายๆบริษัทในตลาดหุ้นก็เป็นแบบนั้น แต่ความคิดนี้ใช้ไม่ได้กับบริษัททั้งหมดในตลาดครับ หลักสำคัญสำหรับvi คือ "ลงทุนในบริษัทที่ดีในราคาที่เหมาะสม"

ตามที่คุณพูดมา "ไม่มีใครไปบังคับให้คุณลงทุนในบริษัทที่จ่ายปันผลน้อยๆและเอากำไรสะสมไปลงทุนให้ไม่เกิดประ
โยชน์กับบริษัทและผู้ถือหุ้นครับ"

บริษัที่มี business model และผู้บริหารที่ดีจะเก็บกำไร(หลังจากหักเงินสำรองที่ใช้ทำธุรกิจ) ไว้ในกรณีเดียวเท่านั้นครับ คือผู้บริหารเห็นโอกาสที่จะนำเงินนั้นไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่ดีพอกับผู้ถือหุ้น ถ้าคุณเห็นว่าผู้บริหารไม่ทำแบบนี้ก็ขายหุ้นสิครับ

ส่วนเรื่องเวลาที่บริษัทประสบปัญหาราคาก็จะตก อันนี้จริงทุกบริษัทครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทจะแก้ปัญหานั้นได้ดีแค่ไหน ถ้าคุณได้เลือกบริษัทที่ดีและแข็งแกร่งแล้ว ปัญหานั้นจะถูกคลี่คลายไปภายในเวลาอันสั้นครับ(ถ้าเป็นปัญหาเศรษฐกิจล่ม บริษัทอื่นที่ไม่แข็งแกร่งเท่าบริษัทเรา หรือไม่ได้เป็นกลุ่มผู้นำตลาดจะตายก่อน แล้วพอปัญหาคลี่คลายบริษัทเราจะมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าเดิมครับ เพราะคู่แข่งบางส่วนหายไป)

ส่วนเรื่องธุรกิจตกต่ำอย่างยาวนาน เช่น กลายเป็นธุรกิจตะวันตกดิน คุณที่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีข้อมูลมากพอ ส่วนใหญ่จะเห็นก่อนคนอื่นครับและสามารถขายหุ้นออกมาได้ทัน

ชื้อหุ้นหวังปันผล
ต้องดูหลายอย่างครับ
เช่น
กระแสเงินสด
การใช้จ่ายหรือการลงทุน
ผู้บริหาร
ผู้ถือหุ้นใหญ่

เงินปันผลจะจ่ายมากหรือน้อย นอกจากผลกำไรแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก เช่น กระแสเงินสดอิสระจากการดำเนินงาน ภาระหนี้สิน การขยายกำลังการผลิต หรือแม้แต่ ....

บางบริษัทมีกำไร แต่ต้องมีภาระในการลงทุนลูกหนี้การค้า และสินค้าคงคลังจำนวนมาก ทำให้มีเงินสดเหลือมาจ่ายปันผลไม่มากนัก

บางบริษัทมีภาระหนี้สินจำนวนมากที่ต้องชำระในแต่ละปี

บางบริษัทมีภาระในการลงทุนเครื่องจักรรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องจักรที่ล้าสมัยอย่างรวดเร็ว

การลงทุนเพิ่ม ก็ต้องระมัดระวังว่า การลงทุนใหม่นั้นจะก่อให้เกิดผลตอบแทนที่เหมาะสมหรือเปล่า หลายบริษัทที่ต้องประสบปัญหาในการขยายการลงทุน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในต่างประเทศ การลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น

เสนอแนะ ใช้แนวทาง one dollar premise ของ Warren Buffett ดูครับ หลักการคือ เงินทุก ๆ บาททุกสตางค์ที่บริษัทเก็บไว้ (ไม่จ่ายปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้น) สามารถสร้างให้เติบโตได้อย่างน้อย หนึ่งบาท

เช่น บริษัทเก็บกำไรไว้ 1000 ล้านบาท ในระยะเวลาห้าปี แล้วมูลค่าการตลาด เพิ่มเป็น 5000 ล้านบาท แสดงว่าเงินที่บริษัทเก็บไป 1 บาท สร้างมูลค่า 5 บาท เป็นต้น

ไม่รู้ผมจำวิธีคิดผิดอะป่าว แต่อันนี้เป็นหนึ่งใน check list การเลือกหุ้นของ Buffett ครับ

ผู้บริหาร งก ไม่สนใจผู้ถือหุ้น

ขอบคุณพี่ๆทุกความเห็นครับ

จะบอกว่าไม่สนใจผู้ถือหุ้นเลยก็ไม่ถูกเลยน่ะ อย่าง Berkshire Hathaway Inc ไม่เคยปันผลเลยน่ะ แต่ไม่เคยมีใครว่าปู่เลยน่ะ ว่าไม่สนใจผู้ถือหุ้น