Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ค่าสถิติสำคัญและผลการดำเนินงาน (SET)
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2554
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 8,512,876.08
อัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขาย (YTD) (%) 55.73
P/E (เท่า)* 13.36
P/BV (เท่า) 1.96
อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) 3.75
%การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ในรอบ 3 เดือนล่าสุด -0.43%
ในรอบ 6 เดือนล่าสุด +0.48%
YTD (Year to Date) +0.05%

------------------------------------

เพิ่งสรุปเสร็จตะกี้นี้เอง พอร์ทโต 5 เปอร์เจากนั้นมีนาคม2554. YTD 20 เปอร์เซ็น

กระทิงดุมาก ต้องรอให้หมดแรงก่อน

สวัสดีครับพี่ miracle ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอพี่เลยครับ หวังว่าคงสบายดีนะครับ

ผมไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเท่าไร
เนื่องจากพักหลังๆ การบ้านเพียบเลยล่ะครับ
แต่ก็สนุกครับ ว่าอายุเริ่มมาก งานก็มาไปด้วย
และไปเรียนด้วย ทำทั้งสองสามอย่างในเวลาเดียวกันได้ขนาดไหน
ถ้าทำดีๆ อาจจะดีกว่าปัจจุบันนี้ก็ได้ครับ

ิัิby the way
ผมยังไม่บอกของผมเลย
ตอนนี้ยังกำไรอยู่ล่ะครับ แต่มีอาการเกิดธาตุไฟเข้าแทรก
ต้องรอเวลาในการจัดการธาตุไฟเข้าแทรกก่อนล่ะครับ
ถ้านิ่งกว่านี้ ผลออกมาดีกว่านี้แน่นอน ตอนนี้ไม่ค่อยเข้าเป้าเท่าไร
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตัวอ้างอิงแล้ว ก็ถือว่า OK ครับ
คือ ชนะ แต่ชนะไม่มากมายเท่าไรเท่านั้นเอง

อาการโอเคครับ ผิดหวังกับมุมมองและการคำนวนความเสี่ยงของตัวเอง สมองผมมันยังไม่ทันจิตผม YTD gain ประมาณ 48-55% ครับตลาดแกว่งเหลือเกินช่วงหลัง ภาวะ correction นี้ % หายไปเยอะอยู่ ถ้ามอง ณ วันนี้ก็ชนะตลาดครับคิดเทียบ SET INDEX ถ้าเทียบ return ของ roadmap อื่นๆที่วางไว้ยอมรับว่าแพ้ตัวเองย่อยยับเละเทะ สิ่งที่ผมทำให้ return ต่ำสุดเลยครับเทียบกับแผนอื่นๆ แต่ในแง่ความเสี่ยงเป็นแผนที่ผมสบายใจสุด ต้องปรับมุมมองต่อความเสี่ยงใหม่ครับ framework นี้ยังไม่ optimal T_T

ผมสไตล์เน้นหุ้นปันผลสูง (มากๆ) ที่ราคาไม่หวือหวา
คิดแบบ XIRR
ถ้าคิดรวมปันผลด้วย ก็บวกราวๆ 10% กว่านิดๆ
แต่ถ้าไม่รวมปันผล ก็บวกพอๆกับตลาดที่บวกราวๆ 1% กว่าๆ

ดีกว่าตลาดนิดหน่อย ... แต่ยังไม่ถึงเป้าตัวเองครับ

ชนะตลาด อย่างน่าพอใจครับ

สวัสดีครับพี่มิ เอาครึ่งปีก่อนเลยหรือ

ของผมดีกว่าตลาด มาก ได้มากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้วหละ
แต่เำพื่อความไม่ประมาท เพลย์เซฟเพื่อให้พอร์ตไม่ลดลงกว่านี้
โดยการกระจายการถือครองหลายตัวขึ้น
และยังให้กองหน้า ใช้กลยุทธ์ เสาะ สืบ ขุด ล่า

หาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา อย่าหยุดนิ่งพอร์ตเราเล็กอยู่
9 หลักเมื่อไหร่ค่อย สบายๆ ผ่อนคลายทีหลัง.......สู้ๆครับ

เป็นกำลังใจให้เบี้ยน้อยหอยน้อยด้วยกันทุกท่านครับ

dome@perth เขียน:สวัสดีครับพี่มิ เอาครึ่งปีก่อนเลยหรือ

ของผมดีกว่าตลาด มาก ได้มากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้วหละ
แต่เำพื่อความไม่ประมาท เพลย์เซฟเพื่อให้พอร์ตไม่ลดลงกว่านี้
โดยการกระจายการถือครองหลายตัวขึ้น
และยังให้กองหน้า ใช้กลยุทธ์ เสาะ สืบ ขุด ล่า

หาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา อย่าหยุดนิ่งพอร์ตเราเล็กอยู่
9 หลักเมื่อไหร่ค่อย สบายๆ ผ่อนคลายทีหลัง.......สู้ๆครับ

เป็นกำลังใจให้เบี้ยน้อยหอยน้อยด้วยกันทุกท่านครับ

ขอบคุณที่พี่โดมเป็นกำลังใจให้กับเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมด้วยครับ...



โดยส่วนตัวผมว่ากลยุทธหาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา เป็นกลยุทธที่อันตรายในสภาวะตลาด เศรษฐกิจ และระดับความถูกแพงของหุ้นโดยรวม ณ ขณะนี้ครับ... สำหรับผม... กลยุทธที่ผมใช้ในช่วงนี้จะเป็นการรักษาเงินต้นอย่างระมัดระวัง ไม่เปิดตัวเองไปสู่ความเสี่ยงที่มากจนเกินไป... และไม่กระจายพอร์ตมากจนเกินไปครับ

ผมมีความเชื่อว่า... ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดของ VI คือ ความเสี่ยงจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในกิจการครับ... ดังนั้นการถือหุ้นมากตัวจนเกินไป บางทีเราลงทุนโดยมีความเข้าใจในกิจการนั้นๆ น้อยมากๆ โดยเข้าไปเล่นแค่ Story หนึ่งๆ ในกรอบระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงมาก หากเรื่องที่เราคิดไม่เป็นไปตามที่คาด และไม่มีพื้นฐานในระยะยาวรองรับ... ทำให้ผมตกรถ พลาดไม่ได้ลงทุนหุ้นไปหลายๆ ตัว... ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าเราเลือกกลยุทธแบบนี้ในการลงทุน

วันก่อนมีพี่คนนึงบอกว่าผมลงทุนอยู่ในหุ้นแค่ไม่กี่ตัว หุ้นตัวอื่นๆ ผมไม่สนใจหรอก... ซึ่งก็ทำให้ผมได้กลับมาพิจารณาตัวเองว่ามันเกิดจากอัตตา อคติส่วนตัว หรือความเห็นผิดบางอย่างที่ควรแก้ไขหรือไม่... พอมาพิจารณา... ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่... อันที่จริง ผมก็อ่าน ก็ศึกษากิจการอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ... แต่ส่วนใหญ่ผมจะจบการศึกษาอยู่ที่ Business Model กับ Competitive Strategy แล้วก็ตัดกิจการนั้นๆ ออกไปจาก List เพราะ เป็นกิจการที่ยากเกินความสามารถของผมที่จะเข้าใจได้เป็นส่วนใหญ่... ตัวที่ผ่านเข้ามาใน List ก็จะลงลึกไปถึงระดับ Operation และระดับ Financial ... ถ้าระดับปฎิบัติการโอเค สภาพตลาดและเศรษฐกิจรองรับ และไม่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป ค่อยจะลงลึกไปถึงระดับการประเมินมูลค่ากิจการและการศึกษางบการเงินอย่างละเอียด

โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า... ตลาดยิ่งแพงเรายิ่งหาหุ้นได้ยาก... ตลาดยิ่งแพงยิ่งหมายถึงความเสี่ยง โอกาสที่จะเกิดความเสียหายที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ... ดังนั้นผมเชื่อว่าในสภาวะตลาดแบบนี้ เราควรที่จะยกระดับ ยกมาตรฐาน การคัดกรอง เพิ่มความเข้มงวดในการคัดเลือกกิจการเข้ามาใน List ให้มากขึ้น... ผลลัพธ์ก็คือ ผมหาหุ้นใหม่ๆ ดีๆ เข้ามาในพอร์ตได้น้อยลงๆ...

นอกจากนี้... ผมมองว่า... ยิ่งตลาดแพง... เราควรจะควบคุมจิตใจให้อย่าคึกคักจนเกินไป ขยันหาหุ้นให้น้อยลง ระมัดระวังต่อสัญญาณเตือนภัยต่างๆ ให้มากขึ้น... ในขณะที่เกิดวิกฤต หรือตลาดหุ้นตกต่ำ กลับเป็นช่วงที่เราพยายามปลุกปลอบตัวเองให้คึกคักอย่างถึงที่สุด ควรขยันหาหุ้นให้มากๆ ... ซึ่งหากทำกลับกัน... หายนะในการลงทุนอาจมาเยือนได้หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาด... และส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คาดตามกฎไตรลักษณ์

การพยายามหาอัตราผลตอบแทนสูงสุด ภายใต้สภาวะตลาดแบบนี้ หมายถึง การยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น การต้องเลือกที่จะหลับตาข้างนึง ไปจนถึงการหลับตาข้างครึ่ง เลือกกิจการที่คุณภาพของรายได้และกำไรในอดีตไม่ค่อยมีเสถียรภาพ แต่มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้และกำไรที่สูงในอนาคต โดยเมินเฉยกับคุณภาพและความโปร่งใสของผู้บริหาร รวมไปถึงหวังการเติบโตของกิจการที่มาจาก Non-Organic Growth ซึ่งพวก Non-Organic Growth เหล่านี้หากศึกษาในอดีต ผมว่าส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่ได้สร้างรายได้และกำไรให้กับกิจการอย่างที่ผู้บริหารคุยโตโอ้อวดเอาไว้ได้เลยสักโครงการ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะทำให้ภาพของกำไรในระยะสั้นตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย... และบางกิจการโครงการเหล่านี้กลับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหากับธุรกิจหลักด้วยซ้ำ

สุดท้ายนี้ ขอให้พี่โดมพอร์ตถึง 9 หลักไวๆ นะครับพี่...

ดีกว่าตลาด แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายในใจครับ
ค่อยๆดูไป ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาปล่อยพลัง

ขอบคุณพี่โดมที่เป็นกำลังใจชาวเบี้ยน้อยครับ

ขอบคุณมากมาย..สำหรับข้อคิดของ
พี่ picatos ครับ..

สบายทั้งใจ และสบายทั้งเงินที่ลงทุนไว้ครับ
มีเวลาว่างไปทำสิ่งที่เรารัก และมีเวลาไปศึกษาสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ได้รู้จักคนมากขึ้น เรียนรู้จากประสบการณ์ของเค้า
(ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับหุ้น แต่นำมาพัฒนาแนวคิดได้นะครับ)

มีความสุขกับการลงทุนครับ

ผมว่า เราไม่ได้ลงทุนเพื่อแข่งกับใคร
บทเรียนที่เราได้จากการลงทุน และเราได้ทำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์หรือเปล่านั้นน่าสนใจกว่ามาก เพราะสามารถนำมาใช้ได้ตลอดชีวิตครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

ของผมติดลบครับ 0.47%

ชนะตลาดทั้งเงินปันผลและมูลค่าพอร์ต แต่ยังไม่ถึงขั้นมีนัยยะสำคัญ

ชนะตลาดพอสมควร แต่ยังไม่ชนะใจตัวเอง

ผมว่าเดี๋ยวนี้ตัวผมเองมีความโลภขึ้นอยากได้มากขึ้น
ทั้งที่ผลตอบแทนก็ดีกว่าตลาด..และก็มากกว่าทั้งปี
ที่คิดไว้แต่ตอนต้นแล้ว...ทำไมจิตใจผมพัฒนาลง..
เหตุผลหลักอย่างหนึ่งที่ผมคิดได้เพียงเพราะอยากมี
อยากเป็นให้เหมือนคนอื่น..ยิ่งพูดก็ยิ่งอาย ...

แพ้ครับ
ไม่รวมปันผล -3.7% YTD , -4.6%Vs SET
เซ็งอยู่ครับ ตัวที่แย่พื้นฐานก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่ Mr.market ไม่คิดอย่างเรา

+10% ไม่รวมปันผล ครับ

ถ้าเทียบกับตลาดยังงี้ หากปีที่ตลาดมีผลตอบแทน -20% แล้วพอร์ตเราแค่ -10% ไม่รู้ว่าจะควรดีใจไหมนะครับที่เอาชนะตลาดได้เนี่ย ก็เพราะว่าต้องการเอาชนะ จึงได้พ่ายแพ้
เอาแค่ว่าไม่ขาดทุนก็พอแล้วล่ะครับ

ชนะตลาดนิดหน่อยครับ และมากกว่าที่ผมหวังไว้ทั้งปีแล้วด้วย แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ
ไม่รู้ปลายปีจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าดูที่หุ้นกำไรก็น่าจะสามารถโตไปได้อีกหลายปี

วัดไม่เป็น ไม่ได้จำตอน ปลายปีเท่าไหร่ ปีนี้ ขายกำไรไปหลายตัว ไม่รู้ได้กี่ % แต่สวนใหญ่ กำไรครับกำไรตัวละนิดละหน่อย.. มีขาดทุนอยู่ตัวเดียวคือ PHATRA เฮ้อ ไม่รู้ซื้อเพราอะไร เลยไม่ได้ขาย..อิอิ

ผลงานน่าประทับใจ <--- ชมตัวเอง

ผมขาดทุน 40 เปอร์เซ็นต์ นี่ยังถือว่าเป็น VI ได้ไหมครับ ต้องทำไงดีครับ

ชนะตลาดครับ

ทางตัน เขียน:ผมขาดทุน 40 เปอร์เซ็นต์ นี่ยังถือว่าเป็น VI ได้ไหมครับ ต้องทำไงดีครับ

VI คือ หลักการหรือวิธีปฏิบัติเท่านั้นครับ
ไม่ใช่คำจำกัดความของคำว่าผู้ไม่แพ้

หลายๆคนเรียกตัวเองว่าVI ในยามที่ติดหุ้นหรือขาดทุน
เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนผู้แพ้ที่มีหลักการ

ทางตัน เขียน:ผมขาดทุน 40 เปอร์เซ็นต์ นี่ยังถือว่าเป็น VI ได้ไหมครับ ต้องทำไงดีครับ

ลองทบทวนดูครับ ว่าขาดทุนในหุ้นตั้วนั้นๆ เพราะอะไร ซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร เราเข้าใจในกิจการที่ซื้อหรือเปล่า
พี่ๆ ใน thaivi เก่งๆ แล้วมีเมตตาเยอะแยะหลายคนครับ ขอโพสขอคำชี้แนะดูครับ

แต่คุณทางตัน ต้องศึกษาทบทวนก่อนนะครับ แล้วมีประเด็นไหนไม่เข้าใจก็สอบถาม
ไม่ใช่ว่า มาถึง "พี่ๆ ครับ ผมขอหุ้นที่ราคาขึ้น 30% ภายใน 1 เดือน" ถามแบบนี้จะไม่ได้คำตอบที่เป็นประโยชน์จากพี่ๆ ที่เก่งๆ ใน thaivi เลยครับ

+อยู่ 1.6% ครับ...... (ไม่รวมปันผลนะครับ)

Port เพราะเงินเติมเพิ่ม. 1 เท่า