หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 4:47 pm
โดย Puckr!
อยากทราบว่า แต่ละปีที่ต้องเสียภาษี ได้เอาเงินไปซื้อ LTF , ซื้อประกัน บ้างไหม

หรือคิดว่าสามารถทำผลตอบแทนต่อปี ได้ดีกว่า LTF ครับแล้วไม่ต้องไปซื้อ

ช่วยแชร์หน่อยครับ :shock:

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 4:54 pm
โดย Puckr!
โดยปกติ ได้ปันผลประมาณ 4-6% ครับ แต่ capital gain ไม่มั่นใจว่าจะเกิน10% :shock:

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 7:33 pm
โดย ส.สลึง
ผมไม่ได้ทำประกันชีวิตอะไรเลยครับ
เพราะตัวคนเดียวครับ
ก็เลยไม่รู้จะทำไปทำไม
เอาเงินไปซื้อหุ้นมันกว่า

ส่วน ltf ผมซื้อเฉพาะส่วนที่เคลมได้ 20 % ครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:16 pm
โดย Belffet
ส.สลึง เขียน:ผมไม่ได้ทำประกันชีวิตอะไรเลยครับ
เพราะตัวคนเดียวครับ
ก็เลยไม่รู้จะทำไปทำไม
เอาเงินไปซื้อหุ้นมันกว่า
แล้วซื้อประกันอุบัติเหตุ กับประกันสุขภาพบ้างไหมครับ?

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:22 pm
โดย sarawut_p
Belffet เขียน:
ส.สลึง เขียน:ผมไม่ได้ทำประกันชีวิตอะไรเลยครับ
เพราะตัวคนเดียวครับ
ก็เลยไม่รู้จะทำไปทำไม
เอาเงินไปซื้อหุ้นมันกว่า
แล้วซื้อประกันอุบัติเหตุ กับประกันสุขภาพบ้างไหมครับ?
อยู่ที่เลือกที่จะแบกความเสี่ยง หรือผลักความเสี่ยงให้คนอื่นครับ
ประกันเมืองไทย (ประกันชีวิต) ค่อนข้างแพงครับ เพราะตัวแทนเอาไปกินหมด แถมมีทำยอดไปเที่ยวต่างประเทศอีก

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:37 pm
โดย gongphop
ก็แบ่งเงินไว้เป็นส่วนๆครับ ทำประกันชีวิต ซืัอ LTF ไว้หักภาษี
จัดเงินลงทุนให้หุ้น และจัดเงินไว้ใช้จ่ายไม่ให้ชีวิตลำบากมากครับ
วางแผนการเงินมากน้อยตาม lifestyle แต่ละคนครับ :D

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:40 pm
โดย gongphop
เงินเดือน แบ่งไว้ใช้ ใช้น้อยก็เหลือลงทุนมาก ลงทุนมากอย่างถูกวิธีย่อมน่าจะได้ผลตอบแทนมาก
ถ้าอยากรวยเร็วก็ต้องประหยัด ช่วงปันผลหุ้นออกก็สภาพคล่องก็ดีขึ้นหน่อย
หวังว่าต่อไปสภาพคล่องจะดีทั้งปี555

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 11:56 pm
โดย ส.สลึง
Belffet เขียน:
ส.สลึง เขียน:ผมไม่ได้ทำประกันชีวิตอะไรเลยครับ
เพราะตัวคนเดียวครับ
ก็เลยไม่รู้จะทำไปทำไม
เอาเงินไปซื้อหุ้นมันกว่า
แล้วซื้อประกันอุบัติเหตุ กับประกันสุขภาพบ้างไหมครับ?
ไม่มีเลยครับพี่

ส่วนตัวคิดว่าการทำประกัน
คือการชื้อความคุ้มครองครับ
แต่ผมไม่ได้มีภาระอะไร
โสดสนิท และคนที่อยู่ข้างหลัง
มีแค่พ่อกับแม่เท่านั้น

ซึ่งถ้าผมมีอันเป็นไปก่อน
พอร์ตที่ผมบริหารอยู่
ก็น่าจะเพียงพอให้ท่านตั้งหลักได้
จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตครับ

ส่วนความเสี่ยงด้านอื่นๆ
ผมเฉยๆ นะ
เพราะคิดว่าชีวิตก็เจอความลำบากมาพอสมควร
ถ้าจะให้เจอความลำบากยังไง
คิดว่า.. น่าจะผ่านไปได้ครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 24, 2011 12:09 am
โดย zephyr
ประกันไม่ได้ทำครับ เพราะยังไม่รู้สึกว่าต้องทำ คือยังโสดครับ และบริษัทที่ทำงานก็มีเงินส่วนนี้ให้อยู่บ้างเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล

RMF ไม่ได้ซื้อ เพราะผมไม่ชอบอะไรที่ไม่ flexible ถึงแม้ว่าเราก็รู้ว่าเงินที่เราลงในหุ้นเราก็ไม่เอาออกมาใช้เหมือนกันก็เถอะ
ส่วน LTF ซื้อครับ ใช้สิทธิเกือบเต็มทุกปี

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 12:21 am
โดย Belffet
เรื่องของประกันชีวิต มีเรื่องของประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ความเสี่ยงเรื่องนี้หลักๆที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดกันคือเรื่องเสียชีวิต

ทำให้บางคนอาจคิดว่า ถ้าโสด ไม่มีภาระใดๆ ไม่น่าจะต้องทำประกันชีวิต (รวมถึงประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุที่สอดแทรกอยู่ข้างใน)

แต่ถ้าคิดให้ละเอียดลงไปอีกสักนิด ถ้าเป็นในเรื่องของประกันชีวิตแล้วนั้น ความตายไม่น่ากลัวเท่าไหร่

ที่น่ากลัวคือ "ไม่ยอมตาย"

เช่น โรคร้ายที่ต้องรักษาเป็นเวลานานๆ และเสียค่าใช้จ่ายสูงๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรืออุบัติเหตุที่ทำให้ร่างกายพิกลพิการไม่สามารถทำงานใดๆได้อีก (ทุพพลภาพถาวร)

ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องทำประกันฯหรอกนะครับ แต่ผมอยากให้ลองคิดให้ลึกให้ละเอียดกับความเสี่ยงในเรื่องชีวิต, สุขภาพ และอุบัติเหตุในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่อาจเกิดมีขึ้นได้ จากนั้นตัดสินใจดูอีกสักครั้งว่าประกันฯไม่มีความจำเป็นกับเราจริงๆ หรือว่าเรากำลังประมาทกับชีวิตอยู่กันแน่?

ปล. ผมได้คิดเรื่องนี้เมื่อเพื่อนผมคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดเมื่อตอนอายุ 25 ปีโดยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาไม่มีประกันสุขภาพเลย และต้องใช้เงินค่ารักษาทั้งหมดราว 8 หลัก โชคดีเหลือเกินที่เขาเป็นคนมีฐานะ สิ่งที่ฉุกใจผมก็คือ แม้นมีโอกาสเพียงเศษเสี้ยวที่ผมจะเป็นแบบเขา แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับผมจริงๆขึ้นมา เงิน 8 หลักแทบจะเป็นความมั่งคั่งทั้งหมดที่ครอบครัวผมมี และพ่อแม่ของผมย่อมไม่ยอมให้ผมตายง่ายๆแน่นอน ผมจึงหันมามองประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุในแง่มุมใหม่ โดยตั้งอยู่บนความคิดว่า "อย่าประมาท" ครับ

หวังว่าความคิดเห็นนี้จะพอเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 8:36 am
โดย ดำ
ก็ถ้าเลือกแล้วว่าจะทำประกัน ก็เลือกอันที่เคลมตรงไปตรงมาหน่อยแล้วกันครับ

ไม่ใช่ว่าพอถึงคราวจริงๆ เจ็บตัวก็แย่พออยู่แล้ว ยังต้องมาเจ็บใจ ปวดหัวตอนเคลมอีกต่อนึง

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 9:53 am
โดย นพพร
ซื้อ LTF ครับ ขั้นต่ำครับ ไม่ได้หวังอะไร นอกจากลองซื้อไว้
มีประกันชีวิตครับ เป็นการวางแผนการเงินรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ได้ทำไว้เพื่อตัวเองครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 12:44 pm
โดย sarawut_p
Belffet เขียน:เรื่องของประกันชีวิต มีเรื่องของประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ความเสี่ยงเรื่องนี้หลักๆที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดกันคือเรื่องเสียชีวิต

ทำให้บางคนอาจคิดว่า ถ้าโสด ไม่มีภาระใดๆ ไม่น่าจะต้องทำประกันชีวิต (รวมถึงประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุที่สอดแทรกอยู่ข้างใน)

แต่ถ้าคิดให้ละเอียดลงไปอีกสักนิด ถ้าเป็นในเรื่องของประกันชีวิตแล้วนั้น ความตายไม่น่ากลัวเท่าไหร่

ที่น่ากลัวคือ "ไม่ยอมตาย"

เช่น โรคร้ายที่ต้องรักษาเป็นเวลานานๆ และเสียค่าใช้จ่ายสูงๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรืออุบัติเหตุที่ทำให้ร่างกายพิกลพิการไม่สามารถทำงานใดๆได้อีก (ทุพพลภาพถาวร)

ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องทำประกันฯหรอกนะครับ แต่ผมอยากให้ลองคิดให้ลึกให้ละเอียดกับความเสี่ยงในเรื่องชีวิต, สุขภาพ และอุบัติเหตุในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่อาจเกิดมีขึ้นได้ จากนั้นตัดสินใจดูอีกสักครั้งว่าประกันฯไม่มีความจำเป็นกับเราจริงๆ หรือว่าเรากำลังประมาทกับชีวิตอยู่กันแน่?

ปล. ผมได้คิดเรื่องนี้เมื่อเพื่อนผมคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดเมื่อตอนอายุ 25 ปีโดยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาไม่มีประกันสุขภาพเลย และต้องใช้เงินค่ารักษาทั้งหมดราว 8 หลัก โชคดีเหลือเกินที่เขาเป็นคนมีฐานะ สิ่งที่ฉุกใจผมก็คือ แม้นมีโอกาสเพียงเศษเสี้ยวที่ผมจะเป็นแบบเขา แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับผมจริงๆขึ้นมา เงิน 8 หลักแทบจะเป็นความมั่งคั่งทั้งหมดที่ครอบครัวผมมี และพ่อแม่ของผมย่อมไม่ยอมให้ผมตายง่ายๆแน่นอน ผมจึงหันมามองประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุในแง่มุมใหม่ โดยตั้งอยู่บนความคิดว่า "อย่าประมาท" ครับ

หวังว่าความคิดเห็นนี้จะพอเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
ตรงนี้นี่แหละ สำคัญครับ ว่าจะเลือกรับความเสี่ยงเอง หรือ โยนให้คนอื่นรับความเสี่ยง
ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ต้องแยกกันครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าการประกัน เป็นการป้องกันความเสี่ยง ไม่ให้จนแบบเฉียบพลันด้วยอาการป่วย หรือ อุบัติเหตุครับ
และถ้าต้องทำ ผมคิดว่าควรซื้อทิ้งเป็นรายปี มากกว่าออมเงิน จะได้เสียเงินน้อยกว่า
ประกันมักจะพยายามบอกเราว่าเป็นการออมเงินแล้วได้สิทธิ์ในการรักษาสุขภาพติดมาด้วย อันนั้นแพงมากครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 4:21 pm
โดย simplelife
ประกัน มันอยู่บนพื้นฐานคณิตศาสตร์ สถิติที่ไม่ยากนัก แค่ว่า "เบี้ยประกัน" สูงกว่า (ความน่าจะเป็นของคุณป่วย,ตาย) x (วงเงินคุ้มครอง) และสูงกว่ามากด้วย ลองสังเกตุประกันใหม่ๆ 4-5 โรคร้ายแรง ดูเหมือนจะจ่ายเบี้ยนิดเดียว แต่วงเงินคุ้มครองค่อนข้างสูง เพราะอะไร ? เพราะว่าความน่าจะเป็นมันต่ำมากไงครับ

ประกันสำหรับผมแล้วมันควรจะเป็นเรื่องชั่วคราว สำหรับคนที่กินเงินเดือน และมีทรัพย์ิสินยังไม่พอที่จะดูแลครอบครัวได้ในกรณีที่ตัวเองตาย อย่างครอบครัวที่ผู้ชายทำงานคนเดียว ได้เงินเดือน 70,000 บาท ตีไปซะว่าจะใช้ 30,000 บาท/เดือน ก็ควรที่จะซื้อประกันที่สามารถจ่ายได้ 30,000/เดือน เป็นเวลาซัก 10 ปี คือจนกว่าลูกจะโต หรือวงเงินประมาณ 3,000,000 บาท อะไรประมาณนั้น แต่ถ้ามีธุรกิจที่สามารถดำเนินต่อไปได้โดยตัวเองไม่อยู่ หรือภรรยามีรายได้ 20,000 บาท วงเงินก็อาจจะลดลงไปได้ เป็นต้น

สำหรับหลายๆท่านที่มี ธุรกิจ หรือ"หุ้น"ส่วนในธุรกิจ เงินปันผลที่ได้ก็ถือว่าเป็นรายได้แล้วเหมือนกัน ถ้าเงินปันผลมันเพียงพอต่อการยังชีพแล้ว ประกันก็คงไม่จำเป็นครับ หลายๆครั้งผมไม่เข้าใจเหมือนกัน เวลาเห็นคนที่มีทรัพย์สินเยอะๆ แบบ 8-9 หลัก แล้วมาซื้อประกันชีวิต โดยเฉพาะพวกซื้อประกันชีวิตให้ลูกเล็กๆ ถามตรงๆว่าถ้าลูกตายไปจริงๆ เงินตรงนั้นมันเอามาจ่ายแล้วจะหายเสียใจหรือครับ ? หรือมองว่าลูกเป็น investment ที่โตขึ้นแล้วจะมาจ่ายผลตอบแทนให้เรา ? สงสัยมาก
sarawut_p เขียน:ประกันมักจะพยายามบอกเราว่าเป็นการออมเงินแล้วได้สิทธิ์ในการรักษาสุขภาพติดมาด้วย อันนั้นแพงมากครับ
เห็นด้วยครับ แพงมาก ถ้าจะเอาเงินไปจ่ายค่าประกัน สู้เอาเงินไปตรวจสุขภาพทุกๆปีน่าจะดีกว่า

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 7:00 pm
โดย ส.สลึง
เงินทองของนอกกายครับ
ร่างกายก็เหมือนกัน
ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ครับ
เป็นสังขารเน่าๆ ทั้งเหี่ยวทั้งเหม็น
แฮ...

ทุกคนล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ และตาย
เป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ใช่มีตายอย่างเดียว
แต่มันมีเจ็บด้วย

ในเมื่อเกิดมาแล้ว
ทุกคนล้วนต้องตาย
ทำไมต้องกลัวเจ็บด้วย

อยู่กับจิตของเรานี่แหละ
และแม้เมื่อวันนั้นมาถึง
จิตของเราเองยังอาจจะรักษาไว้ไม่ได้เลย

ปล.
ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย
ก็แค่คนแก่ๆ คนนึงบ่นให้ฟังครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 7:39 pm
โดย frontosa
LTF ซื้อครับ เท่ากับเราได้ส่วนลด ตามฐานภาษี คิดว่าน่าจะคุ้มเท่าที่ซื้อมาก็ได้กำไรอยู่นะครับ

ส่วนตัวชอบ Aberdeen เป็นพิเศษ ผลตอบแทนตอนผมซื้อต่างกับ SCB มากพอสมควร

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 9:39 pm
โดย tawich
ส่วนตัวซื้อ RMF และ LTF ครับ
ซื้อ RMF เพราะตัดสินใจพลาดครับตอนนี้ซื้อแค่ขั้นต่ำรักษาสิทธิ์ เพราะไม่แน่ใจว่าจะถือได้ระยะยาวขนาดนั้นหรอเปล่า
ซื้อ LTF เพราะระยะเวลาถูกใจครับ 5ปี

ซื้อ RMF และ LTF ผมคิดว่าเหมือนได้เงินปันผลครับ ยิ่งเสียภาษี%สูง ยิ่งได้ปันผลสูง และปันผลคงที่ทุกปีครับ ผมแบ่งเงินมาลงทุนก้อนหนึ่ง (เงินออมหลัก) และแบ่งซื้อLTF (ก้อนเล็ก ผมเงินเดือนน้อยครับ ซื้อยังก็เสียภาษีอยู่ดี เพราะเงินออมไม่มาก)
แต่ไม่ชอบกอง LTF ,RMF อยู่อย่างครับเราตัดสินใจเลือกซื้อขายเองไม่ได้ต้องหวังพึ่งผู้จัดการกองทุนครับ รู้สึกอึดอันอยากบริหารเองมากกว่า (ถ้าจะย่อยยับเพราะคนสักคน ขอให้คนๆนั้นคือตนเอง จะได้โทษใครไม่ได้)

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 25, 2011 9:44 pm
โดย sarawut_p
tawich เขียน:ส่วนตัวซื้อ RMF และ LTF ครับ
ซื้อ RMF เพราะตัดสินใจพลาดครับตอนนี้ซื้อแค่ขั้นต่ำรักษาสิทธิ์ เพราะไม่แน่ใจว่าจะถือได้ระยะยาวขนาดนั้นหรอเปล่า
ซื้อ LTF เพราะระยะเวลาถูกใจครับ 5ปี

ซื้อ RMF และ LTF ผมคิดว่าเหมือนได้เงินปันผลครับ ยิ่งเสียภาษี%สูง ยิ่งได้ปันผลสูง และปันผลคงที่ทุกปีครับ ผมแบ่งเงินมาลงทุนก้อนหนึ่ง (เงินออมหลัก) และแบ่งซื้อLTF (ก้อนเล็ก ผมเงินเดือนน้อยครับ ซื้อยังก็เสียภาษีอยู่ดี เพราะเงินออมไม่มาก)
แต่ไม่ชอบกอง LTF ,RMF อยู่อย่างครับเราตัดสินใจเลือกซื้อขายเองไม่ได้ต้องหวังพึ่งผู้จัดการกองทุนครับ รู้สึกอึดอันอยากบริหารเองมากกว่า (ถ้าจะย่อยยับเพราะคนสักคน ขอให้คนๆนั้นคือตนเอง จะได้โทษใครไม่ได้)
ซื้อ RMF Set Index 50 ของธนาคารทหารไทยผมว่าเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ มีค่าใช้จ่ายต่ำ และผลตอบแทนในระยะยาวดีกว่า ผู้จัดการกองทุนหลาย ๆ กองครับ อาจจะไม่สูงเท่าผู้จัดการกองทุนที่เก่งที่สุด แต่ในระยะยาวผมว่าโอเคเลยครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 26, 2011 12:31 pm
โดย Factor_9
ผมมีประกันชีวิตครับ..ใช้วิธีแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆครับ (ที่ทำเพราะแม่ช่วยเพื่อนอ่ะครับ...ถ้าให้ตอนนี้แม้ผมจะลงทุนยังไม่เก่ง...ก็คิดว่ายังไม่ทำอ่ะครับ)

ผมมองว่าถ้าเราอายุยังไม่เยอะแล้วร่างกายแข็งแรง ก็ยังไม่น่าจะประกันสุขภาพนะครับ
ถ้าจะประกันจริงประกันอุบัติเหตุน่าจะคุ้มค่ากว่าครับ

:D

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 27, 2011 10:18 pm
โดย yian_mu
ซื้อ หุ้น สำหรับการได้รับอิสระภาพทางการเงินค่ะ
ซื้อ LTF สำหรับหักลดหย่อนภาษีค่ะ แล้วเอาเงินคือภาษีไปลงทุนกับหุ้นต่อ พยายามเพิ่ม wealth ค่ะ :D
ซื้อประกันสุขภาพ เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะซื้อเลย จนเจอ case คนที่รู้จักเข้าโรงพยาบาลค่าใช้จ่ายเยอะมากกก
ก็เลยตัดสินใจซื้อคิดว่าซื้อความเสี่ยง เพราะที่บริษัทไม่มีสวัสดิการให้ค่ะเลยไม่อยากเป็นภาระกับทาง
บ้าน

คร่าวๆก็ตามนี้ค่ะ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 31, 2011 10:04 am
โดย hunter_kidz
ผมเงินเดือนแค่หมื่นกว่าเองครับคชจ.แต่ละเดือนก็เยอะเหลือเก็บเดือนละไม่กี่พันเองครับกว่าจะได้ซื้อหุ้นแต่ละตัวคงนาน

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 31, 2011 11:08 pm
โดย pagzin
[quote="simplelife"]โดยเฉพาะพวกซื้อประกันชีวิตให้ลูกเล็กๆ ถามตรงๆว่าถ้าลูกตายไปจริงๆ เงินตรงนั้นมันเอามาจ่ายแล้วจะหายเสียใจหรือครับ ? หรือมองว่าลูกเป็น investment ที่โตขึ้นแล้วจะมาจ่ายผลตอบแทนให้เรา ? สงสัยมาก

คือตรงนี้ผมคิดว่า ที่ทำให้ลูกไม่ได้คิดว่าลูกตาย!! แล้วได้เงิน เกิดเวลาที่ลูกเจ็บป่วยก็อยากให้ลูกได้นอนโรงพยาบาลที่ดี ซึ่งนั้นก็ทำให้ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งสูง เข้าโรงพยาบาล 1ครั้ง(20000-30000) เท่ากับ จ่ายประกัน1ปี ตอนที่ไม่ได้ทำประกันโดนไป2ครั้ง/ปี มันทำให้กระทบการเงินมากครับ ส่วนเรื่องการที่บอกเป็นเงินออมนั้นก็เป็นผลพลอยได้ และผมคิดว่าถ้าผมตายอย่างน้อยก็จะมีเงินดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ภรรยาเป็นแม่บ้านผมคิดว่าผมต้องเตรียมบางอย่างไว้ครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 01, 2011 1:24 am
โดย simplelife
pagzin เขียน:เกิดเวลาที่ลูกเจ็บป่วยก็อยากให้ลูกได้นอนโรงพยาบาลที่ดี ซึ่งนั้นก็ทำให้ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งสูง เข้าโรงพยาบาล 1ครั้ง(20000-30000) เท่ากับ จ่ายประกัน1ปี ตอนที่ไม่ได้ทำประกันโดนไป2ครั้ง/ปี
ประกันชีวิตพ่วงด้วยประกันสุขภาพครับ คือ policy หลักเป็นประกันชีวิต และซื้อประกันสุขภาพเสริมครับ ถ้าคิดว่าใช้ประกันสุขภาพแล้วคุ้มค่า ก็คงจะไม่มีข้อโต้แย้งอะไร แต่ประเด็นคือผมเห็น หลายๆครอบครัวกลับซื้อ policy ประกันชีวิต(ประกันหลัก) เข้าไปวงเงินสูงๆ อย่าง 500k หรือ 1m แบบ whole-life policy ครับ ซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายตรงนี้แบบไม่จำเป็น
pagzin เขียน: ส่วนเรื่องการที่บอกเป็นเงินออมนั้นก็เป็นผลพลอยได้ และผมคิดว่าถ้าผมตายอย่างน้อยก็จะมีเงินดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ภรรยาเป็นแม่บ้านผมคิดว่าผมต้องเตรียมบางอย่างไว้ครับ
ส่วนเรื่องคุ้มครองครอบครัว ผมเห็นด้วยมากๆว่าถ้าครอบครัวยังไม่มี passive income ที่เพียงพอกับการใช้จ่าย ก็ควรที่จะมีประกับเพื่อที่จะให้ cover ตรงส่วนนี้ด้วย

แต่กลับกลายเป็นว่า ครอบครัวที่กำัลังเริ่มตั้งตัวยังมี asset ไม่พอ ก็ไม่มีประกัน cover แต่คนที่มีฐานะดีกว่ามากๆและมี asset ที่สร้างรายได้ให้ได้ อย่างธุรกิจส่วนตัว หอพักให้เช่า หรือแม้แต่หุ้นปันผลในปริมาณที่มากพออยู่แล้ว กลับเป็นกลุ่มที่มาซื้อประกัน ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็นเลย เพียงเพราะแค่ตัวเองฐานภาษีสูงกว่า อยากเอามาหักภาษีเงินได้

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 01, 2011 10:46 am
โดย gongphop
hunter_kidz เขียน:ผมเงินเดือนแค่หมื่นกว่าเองครับคชจ.แต่ละเดือนก็เยอะเหลือเก็บเดือนละไม่กี่พันเองครับกว่าจะได้ซื้อหุ้นแต่ละตัวคงนาน
แค่คิดได้เร็ว และทำ ก็ถือว่าไม่นานแล้วครับ .....กว่าผมจะรู้ว่าควรเริ่มลงทุนก็ 10 ปี หลังจบ ....10 ปี จากนี้ไปคุณอาจดีกว่าผมมากครับ....มันไม่แน่หรอกครับ :D

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 02, 2011 9:18 pm
โดย นพพร
hunter_kidz เขียน:ผมเงินเดือนแค่หมื่นกว่าเองครับคชจ.แต่ละเดือนก็เยอะเหลือเก็บเดือนละไม่กี่พันเองครับกว่าจะได้ซื้อหุ้นแต่ละตัวคงนาน
ให้กำลังใจครับผม ต้นทุนอย่างอื่นคนอื่นอาจจะมากกว่าเราก็ได้ครับ แบบว่ามีคนเงินเก็บหลายแสน อายุจะ 60 แล้วโอกาสลงทุนหรือใช้เงินเหลืออีกไม่กี่ปี แต่ต้นทุนตรงนี้คุณอาจจะดีกว่าเขาแบบว่าอายุยังน้อยแบบนี้น่ะครับ จะกี่ร้อยกี่พันก็ออมไว้ครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 02, 2011 10:35 pm
โดย Botong
ของผมไม่ได้ซื้อประกันครับ แต่ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท ที่รองรับแฟนและลูกด้วย ก็ใช้ได้นะ แค่ไม่มีเงินก้อนตอนปลายเท่านั้นครับ

Re: ถามคนVI ที่มีรายรับเป็นเงินเดือนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 02, 2011 10:41 pm
โดย lucklyboy
ผมซื้อทั้งประกัน RMF เพราะปีนี้โดน 30 % ใครมีวิธีอื่นที่สามารถลดได้อีกบ้าง