Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สมมุติว่า VI คนนึง ซื้ิอหุ้นมาต่ำกว่าราคาที่แท้จริง แต่แล้วอยู่ ๆ ตลาดก็เกิดการ crash โดยไม่ทราบสาเหตุ
รายใหญ่ขายทิ้งหนีตายทุกราคา VI จะมีแนวคิดอย่างไรบ้างครับ

๑. ตลาดลด แลก แจก แถม แบบนี้ ซื้อสวนไปเลย ถ้าราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงแล้ว เดี๋ยวมันก็เด้งกลับเอง เราใช้เงินเย็น เงินนอนอยู่แล้ว เกิดขายทิ้งไปราคาถูก ๆ แล้วตลาดมันเด้งกลับขึ้นมาราคาสูงแล้วไม่ทันซื้อ

๒. ถ้าราคาตกไป ๕๐% กว่าจะเอาทุนกลับมาให้ได้เท่าเดิมต้อง ทำผลตอบแทนให้ได้ ๑๐๐ % ขายดูลาดเลาไปก่อน รอให้สถานการณ์สงบลงค่อยกลับไปซื้อราคาต่ำ ๆ ยังไม่สาย

ทั้งสองแนวคิดอาจจะต้องดูสถานการณ์รอบข้างประกอบ และความเหมาะสมของนักลงทุนของแต่ละคนด้วยอย่างแน่นอน แต่ผมอยากได้แนวคิดของเพื่อน ๆ ในที่นี้ครับ

ส่วนตัวไม่เคยคัตครับ

เวลาเจอตลาดลงหนักๆ
จะทำตัวเป็นตาชั่งซาเล็งครับ
แล้วก็ปรับพอร์ต

สำหรับหลักการก็เดิมๆ
ไม่มีเทคนิคอะไรพิเศษครับ

ปล.
1. ผมไม่ใช่ชาวสวน ผมสนใจแต่มูลค่า
2. อย่าไปยึดติดกับราคาทุน เมื่อซื้อหุ้นแล้ว
เราก็เป็นเจ้าของบริษัทในสัดส่วนเท่านั้น

ส.สลึง เขียน:ส่วนตัวไม่เคยคัตครับ

จะทำตัวเป็นตาชั่งซาเล็งครับ
แล้วก็ปรับพอร์ต

ตรงนี้หมายความว่ายังไงครับ

ผมเพิ่งคัตไปแต่ไม่ลอส เนื่องจากพบสัญญาณส่อทุจริต
อ่า แต่กำไรนะ

ตัวแรก คัท เพราะ อ่านงบการเงินไม่ละเอียด ซื้อมาแล้วเพิ่งมาดู กระแสเงินสดไม่ดี หนี้มาก เลยคัททิ้ง

ตัวสอง ดูงบการเงินดีแล้ว งบสวย แต่อ่านอนาคตธุรกิจไม่ออก ดันเลือกหุ้นส่งออก พอบาทแข็ง กำไรก็ตก รอดูอยู่ 1 ไตรมาส (ถึง มีค 54) เลยขายทิ้งไป

ตัวสาม เจอสึนามิญี่ปุ่น ผมกลัวผลกระทบและอ่านไม่ขาด เลย ขายหมูไป

ตัวสี่ ขาดทุนอยู่ 15% แต่ระยะเวลาหวังผลอีกนานมาก อีก 10 ปี ผมก็ตัดสินใจถือต่อไป (ไม่รู้ว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้วหรือเปล่า)

ตัวที่เหลือๆไม่เคยคิดเรื่องคัทเลยครับ เห็นมันตกทีไร มีแต่อยากได้เพิ่มทุกที มีต้องต้องห้ามใจอย่าโลภ เพราะราคามันขึ้นกว่าเดิม MOS ไม่พอ

sarawut_p เขียน:

ส.สลึง เขียน:ส่วนตัวไม่เคยคัตครับ

จะทำตัวเป็นตาชั่งซาเล็งครับ
แล้วก็ปรับพอร์ต

ตรงนี้หมายความว่ายังไงครับ

ซาเล็งรับซื้อของเก่า
ของเก่าที่มีแต่คนอยากขาย
ขวดเก่า กระดาษเก่า เรารับซื้อ
รู้อยู่แล้วว่าขวดเก่า กระดาษเก่ามีค่าเท่าไหร่
ทำไมจะปฏิเสธรับซื้อล่ะ
เพียงแต่ต้องเลือกหน่อย
ว่าควรซื้ออะไร และไม่ซื้ออะไร

แต่ที่แย่ๆ ซาเล็งคนนี้ไม่มีเงิน
ต้องขายของเก่าที่บ้านออกไปก่อน
ก็ต้องชั่งใจดู ว่าอะไรควรขาย อะไรควรซื้อ
ถึงจะซื้อของเก่าใหม่เข้ามาในพอร์ตได้ครับ

cut loss ตอนวิเคราะห์ผิด พื้นฐานบริษัทเปลี่ยน
ส่วนหากตลาดลดราคาลงมากๆก็เตรียมซื้อเพิ่มครับ

คัทบางตัว เพราะซื้อไปไม่คิดครับ มือไวใจด่วนครับ

ตัดหุ้นวัชพืชออกที่หน้ามืดไปซื้อตอนหาหุ้นยากๆ เหลือเเต่หุ้นที่เรามีPassionอยากเป็นเจ้าของ ร่วมกับประเมินมูลค่าว่าราคาเหมาะสม(ผมมือคันถ้าอยากเป็นเจ้าของกิจการนั้นเเละคำนวณว่าราคาหุ้นfairpriceก็จะรับไม้เเรกน้อยๆและทยอยซื้อไม้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆครับในราคาถูกกว่า)

ถ้าเหตุการณ์เหมือนเรื่องสมมติในคำถาม คำตอบคือต้องหาสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นตกให้ได้ค่ะ
ว่าเหตุที่ทำให้หุ้นราคาหล่นฮวบ กระทบกับการดำเนินงานของบริษัทที่เราเป็นเจ้าของหรือไม่

ถ้าทำให้บริษัทมีผลงานแย่ลงไม่มีทางฟื้นได้เลย ก็ตัดใจขายขาดทุนไปค่ะ
แต่ถ้าบริษัทมีโอกาสฟื้นตัวก็ถือต่อไป หากมีเงินเหลือก็จะซื้อเพิ่มค่ะ

VI ซื้อเพราะต้องการความเป็นเจ้าของธุรกิจ

หากธุรกิจนั้นมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีหรือดีไม่เท่ากับที่มูลค่าในอนาคตที่ประเมินไว้ก็จะขายออกทันที

จุดประสงค์เพื่อเอาเงินไปลงทุนในความเป็นเจ้าของธุรกิจอื่นที่ดีกว่าโดยต้องคำนึงถึงเรื่อง MOS เป็นหลักก่อนตัดสินใจ

ส่วนขายแล้วจะกำไรหรือขาดทุนกี่ % แล้วต้องเอาคืนให้ได้อีกกี่ % จึงเท่าทุนนั้นไม่เป็นสาระหรอกครับ

นี่คือสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างนักลงทุนกับนักเก็งกำไร

VI หาหุ้นซื้อเพื่อถือ แต่นักเก็งกำไรหาหุ้นซื้อเพื่อขาย