Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ช่วงนี้คนที่ผมรู้จัก รอบๆข้าง เข้าตลาดกันระนาวๆ ทั้งคนที่ไม่เคยเล่น และคนที่เคยเล่นมา
ก่อน แสดงว่าช่วงนี้ตลอดคงโด่งคงดังมาก ทำให้พวกเขาเหล่านั้น เริ่มหันเข้าสู่ตลาด และเริ่ม
ลงทุนในตลาดหุ้น มันเป็นสัญญาให้เราเฝ้าระวังหรือป่าวครับ หรือว่าเพื่อน พี่ๆ ได้ปรับ PORT
ลงการลงทุนลงไปแล้วบ้าง ขอความคิดเห็นกันหน่อยครับ
หรือหากเพื่อน คิดว่ามั่นใจใน บ. ที่เราลงทุนก็อย่าไปสนใจกับเหตุการเช่นนี้ครับ เพราะว่า
บ.เราดีเสียอย่าง ทำกำไรเติบโตตลอด และอยู่ใน Tran ของการเติบโต ก็ไม่จำเป็นต้องปรับ
หากแบบนี้จะเข้า Consept มั่นใจเกินเหตุอีกหรือป่าว เอ่ย ??? ^_^

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเริ่มเล่นหุ้นไม่ใช่หรอครับ

ผมก็มาจากที่สิ่งที่ จขกท. พูดเนี่ยแหละ

เพิ่งเริ่มจริงๆล่ะ ลงเล็ก ลงน้อย ค่อยๆไปครับ

เมื่อวานเดินเข้าร้านหนังสือ ซีเอ็ด

มีหนังสือที่เกี่ยวกับหุ้น ว่างขายเยอะมาก(แบบไม่เคยเห็นมาก่อน)!!!!!!!!!!!!!

ถ้ามองโลกแง่ร้าย...ก็คงเหมือนที่หลายๆคนตั้งข้อสังเกตไว้

แต่ถ้ามองโลกแง่ดี...ก็อาจมองว่า ตลาดเรากำลังจะเริ่มพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น ทั้งในส่วนของบริษัทจดทะเบียนและนักลงทุน

อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ

ผมเองก้อเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ครับ (เกือบปีได้แระ) และรู้สึกได้เลยว่ามีคนสนใจลงทุนเยอะมาก ทั้งคนรอบข้างเอง หรือเวลาไปตามร้านกาแฟหรือแม้แต่โรงพยาบาลก้อจะเห็นคนคุยกันเรื่องหุ้น ไปร้านหนังสือก้อนะเห็นคนซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน บางคนยังเด็กอยู่ไม่น่าจะเกินชั้นมัธยมได้มากวาดหนังสือทุกเล่มหปอ่านยังมีเลย หรือจะเป็นพวกหากินกับหุ้นทางอ้อมเช่น พวกเวปไซต์หรือพวกจัดคอร์สอบรมต่างๆ แต่มีhidden agenda เช่น จะพูดถึงหุ้นที่ตัวเองถือซะเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น ส่วนตัวผมเองคงจะไม่ถึงกับใส่ใจมากนักครับ แต่คงดูอย่างระมัดระวังมากกว่า

ช่วงนี้ผมไม่มีเงินลงทุนในตลาดอยู่ดี เลยไม่ได้ระวังอะไรเลยครับ
ตัวที่มีอยู่ก็คิดว่าราคาต่ำ หรือ เหมาะสมกับพื้นฐาน เลยถือยาวครับ

ต้องระมัดระวังตลอดครับ ไม่ว่าสภาพตลาดเป็นอย่างไรก็ไม่ควรประมาท ต้องมีแผนการรองรับไว้ และ กระแสเงินสดต้องพร้อม
------------------------------------------------------------------------------------------
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งและการลงทุน วิธีการสอนลูกให้มั่งคั่ง
เชิญได้ที่... http://wealththailand.blogspot.com/

อย่ามัวแต่กลัว Mass เพราะเราเองก็เป็น Mass
อย่ากลัวเมื่อ Mass เริ่มสนใจหุ้น เพราะเราเองก็สนใจหุ้น

ให้กลัวเมื่อ Mass ทุ่มซื้อหุ้นอย่างหนักโดยไม่มองความเสี่ยง เพราะเราเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น

ตลาดทุนบ้านเรามี%ประชากรไม่มากที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
และที่เล็กน้อยกว่านั้นคือคนที่มองตลาดทุนเป็นแหล่งลงทุน ไม่ใช่บ่อนพนัน
ดังนั้น จึงมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก + การประชาสัมพันธ์ของตลท. + ตลาดขาขึ้น + X = Y

โอ น่ากดไลค์จังครับ
ขอบคุณที่เตือนครับ

กำลังจะครบ 4 ปี สำหรับการเริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของผมครับ

ตอนนั้นผมสนใจจะลงทุนในหุ้น และเริ่มต้นช่วง กค. 50

ขาดทุนหนักๆปลายปี50 และตลอดปี 51 จนเกือบยอมแพ้ ยอมออกจากตลาดไปด้วยความสิ้นหวัง

ต่างกันตรงนั้นครับว่า 4 ปีก่อนเกิด แฮมเบอร์เกอร์ crisis


ผมมองว่าตลาดยังไปต่อได้ครับ ขึ้นกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนครับ ถ้าสามารถเติบโตได้เรื่อยๆ
ดัชนีก็ยังไปต่อได้ ช้าเร็วยังไงไม่ทราบคับ

ตราบใดที่ฝั่งอเมริกาและยุโรปยังไม่สดใส เงินยังไม่ไหลคืนคับ

แต่เมื่อใดบาทแข็งมากๆต้องระวังคับ และฝั่งตะวันตก ยุโรป ฟื้นตัวได้อย่างจริงๆจังๆ

ฝรั่งทิ้งหุ้นแน่ครับ กำไรทั้งการลงทุน แถมยังแลกเป็นเงินฝรั่งได้มากขึ้นเพราะบาทที่แข็งอีกครับ

ล่าสุดตอนไปประชุมวิชาการ ในโต๊ะอาหารมีคนพูดถึงเเต่การลงทุนในหุ้น...รอดูทฤษฎีของLynch ว่าจะเป็นจริงไหม

ผมว่าแค่นี้มันยังไม่น่าจะใช่ bullish สุดๆนะ PE ตลาดแค่ 14-15 เท่า มันยังไม่เท่าไหร่ ยังมีที่สำหรับคนโลภได้อีกมาก เราก็แค่อยู่เฉยๆแล้วรอครับ

torpongpak เขียน:ล่าสุดตอนไปประชุมวิชาการ ในโต๊ะอาหารมีคนพูดถึงเเต่การลงทุนในหุ้น...รอดูทฤษฎีของLynch ว่าจะเป็นจริงไหม

คุณ torpongpaks หมายถึงการประชุมวิชาการอะไรหรือครับ พอจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังได้ไหมครับ ถ้าบังเอิญsample มันไม่ random และขนาดไม่ใหญ่พอก็อาจต้องการข้อมูลเพิ่มอีก

ผมได้ยินคนพูดแบบนี้ตั้งแต่ set 600 จุด
หนังสือหุ้นในร้านก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้นเรื่อยๆตามดัชนี
นี่ถ้า set ไป 1,500 จุด หนังสือคงเยอะกว่านี้ได้อีกเป็นแน่แท้!

คำพูดเหล่านี้ก็เอาไว้เตือนสติได้ครับ
แต่ไม่ใช่ถึงกับขายหุ้นหนีด้วยสาเหตุ หนังสือเยอะ,คนพูดถึงเยอะ
เพราะหนังสือก็อาจเยอะขึ้นได้อีก คนพูดก็อาจมากขึ้นได้อีก!

navapon เขียน:

torpongpak เขียน:ล่าสุดตอนไปประชุมวิชาการ ในโต๊ะอาหารมีคนพูดถึงเเต่การลงทุนในหุ้น...รอดูทฤษฎีของLynch ว่าจะเป็นจริงไหม

คุณ torpongpaks หมายถึงการประชุมวิชาการอะไรหรือครับ พอจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังได้ไหมครับ ถ้าบังเอิญsample มันไม่ random และขนาดไม่ใหญ่พอก็อาจต้องการข้อมูลเพิ่มอีก

อาจจะมีConfunding factorเยอะเพราะคนที่คุยเรื่องนี้เป็นหมอทั้งหมดไม่มีอาชีพอื่นครับ...
ผมไปประชุม Asian Conference for Emergency medicine 2011ที่ Centara grand ในโต๊ะอาหารเเละช่วงเบรคWorkshop พี่ๆน้องๆหมอหลายคนที่ไม่เคยพูดถึงการลงทุนก็พูดเรื่องหุ้นได้เป็นฉากๆ จนทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องนี้ต้องหันมาสอบถามว่าจะเริ่มลงทุนอย่างไร มีพี่คนหนึ่งต้องอธิบายตั้งเเต่Basicของ ตราสารหนี้ พันธบัตร ตลาดหุ้น เปิดPortยังไง

หนักกว่านั้นระหว่างประชุมSpeakerบางคนพูดภาษาอังกฤษฟังยาก น้องนั่งข้างๆผมยังชวนคุยเรื่องหุ้น ถามว่าถือตัวไหนอยู่ อะไรประมาณนั้น

ส่วนคนที่บ้าน น้าผมมาจากกทม.อายุราว60+ปี ลูกแกทำงานอยู่Pttep ได้หุ้น Pttepมาตั้งเเต่ราคา80บาท อยู่ๆแกก็ถามผมเรื่องตลาดหุ้น ว่าควรขายPttepหรือไม่? เราก็งงไปเลยน้ามีPttepด้วยเหรอ

ขำๆนะครับอย่าคิดมาก

ซุนเซ็ก เขียน:ผมได้ยินคนพูดแบบนี้ตั้งแต่ set 600 จุด
หนังสือหุ้นในร้านก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้นเรื่อยๆตามดัชนี
นี่ถ้า set ไป 1,500 จุด หนังสือคงเยอะกว่านี้ได้อีกเป็นแน่แท้!

คำพูดเหล่านี้ก็เอาไว้เตือนสติได้ครับ
แต่ไม่ใช่ถึงกับขายหุ้นหนีด้วยสาเหตุ หนังสือเยอะ,คนพูดถึงเยอะ
เพราะหนังสือก็อาจเยอะขึ้นได้อีก คนพูดก็อาจมากขึ้นได้อีก!

เห็นด้วยครับ

sarawut_p เขียน:ช่วงนี้ผมไม่มีเงินลงทุนในตลาดอยู่ดี เลยไม่ได้ระวังอะไรเลยครับ
ตัวที่มีอยู่ก็คิดว่าราคาต่ำ หรือ เหมาะสมกับพื้นฐาน เลยถือยาวครับ

เห็นด้วยครับ

เมื่อวาน พนักงานขับรถของโรงพยาบาล ถามเรื่องเกี่ยวกับเล่นหุ้นว่าเป็นอะไร เป็นยังไง

ผมเนี่ยเสียวสะดุ้งเลย

เเต่กลับมาคิดอีกที ตลาดที่มีคนกลัว หรือระวังเเสดงว่ายังไปได้
เเต่ถ้าทุกคนมั่นใจ ตอนนั้นก็น่ากลัว

ผมก็เริ่มกลัวครับ คนรอบข้างผมเริ่มมาสนใจหรือคุยกันเรื่องหุ้นกันมากๆเหมือนกันครับ
มันเป็นสัญญาณที่เริ่มก่อตัวหรือไม่.....

แต่....ถ้าเรามีต้นทุนที่ต่ำมากพอ ก็ไม่ต้องกลัวครับ

ต่ำกว่าบุ๊คมาก.... แนวโน้มเติบโตดี.... แข็งแกร่งในธุรกิจ... ผู้บริหารดี

หุ้นอยู่รอบตัวเรา...เฟสบุ๊คก็ไม่เว้น ^^"

ผมเคยอยู่อเมริกาตอน dot com bubble เทียบกับสภาพตอนนี้ผมยังว่าเฉยๆครับ ยังไม่มีโฆษณาโบรกเกอร์หุ้นตอนละครหลังข่าว อีกอย่างผมว่าตลาดเมืองไทยขึ้นอยู่กับ fund flow มากกว่าครับ รายย่อยจะมีมากมีน้อยไม่มีผลเท่าไหร่

croyoty เขียน:เมื่อวาน พนักงานขับรถของโรงพยาบาล ถามเรื่องเกี่ยวกับเล่นหุ้นว่าเป็นอะไร เป็นยังไง

ผมเนี่ยเสียวสะดุ้งเลย

ถ้าพี่ไปคุยกับพวกเขา แล้วพวกเขาทำตัวเป็นเซียนหุ้นแนะนำหุ้นให้พี่ จะเสียวกว่านี้อีกคับ

ผมคุ้นๆว่าประมาณ 1 ปีที่แร้ว SET ประมาณช่วง 500-700 จุด เคยมีกะทู้ประมาณนี้มาโพสประมาณนี้ จนตอนนี้ไป1100 กว่าจุด ดังนั้นมันไม่แน่ไม่นอนเท่าไรนะครับ โฟกัสไปที่กิจการดีกว่าที่ตลาดนะครับ
ความเห็นส่วนตัว

navapon เขียน:ผมว่าแค่นี้มันยังไม่น่าจะใช่ bullish สุดๆนะ PE ตลาดแค่ 14-15 เท่า มันยังไม่เท่าไหร่ ยังมีที่สำหรับคนโลภได้อีกมาก เราก็แค่อยู่เฉยๆแล้วรอครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

กระทู้นี้ ผมเข้าใจผู้ตั้งกระทู้นี้นะครับ มันเป็นการเตือนให้เรา"ไม่ประมาท" ไม่ใช่บอกให้เรา"ล้างPort"

ประโยคคลาสสิค
"การลงทุนมีความเสี่ยง เงินเป็นของเรา เราต้องตัดสินใจเอง"

ช่วงนี้คงกลับกันนะครับ

ขอบคุณ จขกท มากครับ

แต่ผมขอเพิ่มความเห็นส่วนตัวเข้าไปได้ไหมครับ

ว่ามันอาจเป็นเพราะแต่ก่อนเราไม่ได้ลงทุนในหุ้น เราเลยไม่สนใจ ซึ่งสมัยก่อนผมก้อเคยเป็น

แต่ปัจจุบันเราลงทุนในหุ้น เวลาเราได้ยินได้ฟังอะไรเกี่ยวกับหุ้น จากคนรอบข้าง

มันก็ทำให้เราคิดว่าคนเริ่มหันมาตลาดหุ้นกันหมด

ผมว่า เราควรจะโฟกัสไปที่หุ้นที่เราถือว่าพื้นฐาน และการดำเนินการ เป็นยังไงเป็นสำคัญจะดีน่ะครับ

ขอบคุณครับ

ช่วงที่ควรระวังคือช่วงที่ฝูงชนซื้อหุ้นแบบบ้าคลั่งโดยปราศจากเหตุผลมากกว่าครับ