Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สมัยของคุณราเกซ กับผู้บริหารของ bbl

ล้มบนฟูกยังไงครับ
เพราะผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องยักยอกทรัพย์
จนเป็นคดีความ

ส่วนผู้บริหาร bbl ก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรด้วยนะครับ

ปล.
ถ้าผมเข้าใจผิดก็ขออภัยครับ

จากประสบการณ์ ไม่รู้ว่าอย่างนี้เรียกว่าล้มบนฟูกได้หรือไม่

นาย A กู้ยืมเงินจาก เจ้าหนี้ 100 ล้านบาท โดยมีทรัพสิน และตัวเองเป็นผู้ค้ำประกัน
ผ่านมา 5 ปี นาย เอ รู้ว่าธุรกิจอาจจะไปต่อไม่ไหว จึงยักยอกเงิน ไปหมุนธุึรกิจอื่นของตัวเอง แต่อาจจะถือหุ้น โดยเป็นชื่อของ ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียน หรือ บุคคลอื่น

พอถึงเวลา ใช้หนี้ ให้เจ้าหนี้ ก็เบี้ยว ให้ศาลฟ้องร้องเป็นบุคคลล้มละลายไป โดยไม่สามารถไปประกอบอาชีพ หรือทำธุรกรรมอื่นๆได้ ใน 3 ปี และเสียเครดิต ติด แบลคลิซ


แต่ในความเป็นจริง นาย เอ ก็ยังสุขสบาย มีเงินใช้ยังทำธุรกิจด้านอื่นของตัวเองต่อไปโดยผ่านบุคคลอื่น แถม ฟูกยังนอนสบายๆ เหมือนเดิม ล้มแล้วไม่เจ็บ

ฉะนั้นเวลาปล่อยกู้ แบงค์จึงต้องมองความเสี่ยงและทรัพย์สินของธุรกิจ อยู่เสมอ ปัญหา ของนายราเกช นั้นเกิดจาก การทุจริตภายในองค์เองด้วยเงินที่ได้ไป ก็ไม่ได้กลับคืนมา คนข้างหลังก็ใช้ชีวิตยังสุขสบายดีอยู่มั้งครับ

ฉ้อโกง เป็นคดีอาญา
ล้มละลาย เป็นคดีแพ่ง

ครับพี่ ผมอธิบาย รวบๆ สั้นๆคับของคำว่า ล้มบนฟูกคับ อาจจะไม่ใช้คำไม่ถูกต้อง
แล้วพี่คิดว่าล้มบนฟูกนี่ เป็นยังไงคับ ชี้แนะด้วย

ขอบคุณครับ

ถ้าระดับชาติเลยก็ประมาณว่า

สถาบันการเงิน A ที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดี ได้ไปกู้เงินจากต่างประเทศแล้วมาปล่อยให้กับพวกพ้องในประเทศกู้อีกต่อหนึ่งเพื่อนำไปพัฒนาโครงการต่างๆหรือเก็งกำไรในทรัพย์สินหลากหลายประเภท

ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทุกคนแฮปปี้ อิ่มกำไรกันถ้วนหน้า

ถ้ามีอะไรสุดวิสัยจนถึงขั้นโครงการล่ม ฝ่ายการเมืองก็เข้ามาช่วยโอบอุ้มด้วยข้ออ้างว่าจะปล่อยให้สถาบันการเงินล่มไม่ได้

ออกหัวกูชนะ ออกก้อยประชาชนแพ้

ตัวอย่างที่ใหม่กว่าน่าจะดูพวกสถาบันการเงินในอเมริกาที่รอดจากวิกฤติ Subprime ช่วงปี 2008 ด้วยเงินอัดฉีดจากภาษีประชาชน แถมไม่สำนึก ยังเอาเงินเหล่านั้นมาจ่ายโบนัสก้อนโตให้ผู้บริหารอีก อันนั้นเรียกล้มบนฟูกยักษ์ครับ