Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมลงทุนมาตั้งแต่ 2009 ครับ Port ก็เริ่มตั้งแต่ 100K มาตอนนี้ก็กว่า 500K แล้ว แต่ก็ไม่เคยคำนวนผลตอบแทนจริงๆเลยครับ เพราะเติมเงินส่วนตัวเข้าไปก็เยอะเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้ไม่เคยเล่น VI เลยครับ ส่วนใหญ่ใช้หลักการว่า กำไรเกิน 20% ขาย ขาดทุนเกิน 10% Cut loss แต่ก็โชคดีช่วงที่ผ่านมาเป็นขาขึ้นเลยไม่ค่อยเจอขาลง

แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพิ่มมีโอกาสได้รู้จักการเล่นแบบ VI ก็เลยลองดู เก็บหุ้นที่เราคิดว่าพื้นฐานดี ราคายังไม่แพงเกินไปไว้ ซึ่งผลรวมๆก็ออกมาดีครับ ตอนนี้หลายตัวที่กำไรขึ้นเยอะๆก็ไม่ขายแล้ว ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน

ปัญหาคือตอนนี้ดูแล้วโอกาสที่หุ้นจะลงยาวๆ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นในปีนี้เหมือนกันครับ อยากให้ชาว VI แนะนำด้วยครับว่าถ้าตลาดลงเยอะๆนี่ เราควรจะล้างพอร์ทกันเลยหรือไม่ครับ หรือมีแนวคิดกันอย่างไรครับ

ตลาดลงสุดๆ? จะล้างทำไม ลงสุดแล้วก็ต้องซื้อซิครับ

แนวทางการลงทุนแบบ VI นั้นมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าเราไม่สามารถคาดการณ์ราคา หรือดัชนีได้แม่นยำจริง โอกาสถูกผิดพอๆกัน ดังนั้นนักลงทุนแบบ VI จึงมักจะเลือกที่จะอยู่เฉยๆเวลาหุ้นลงหรือเกิดวิกฤติ หรือหลายๆคนถ้ามีเงินสดอยู่ก็จะซื้อเพิ่มเข้าไปเมื่อเห็นว่ากิจการยังดี แต่มีส่วนลดในราคาค่อนข้างมาก

Stay calm stay invest ครับ

ล้างก่อนลง ดิ่งแล้วซื้อ ถือจนขึ้น

อีก 7 วันทำการผลประกอบการของบ.ที่ผมเฝ้ารอมา 3 เดือนกำลังจะออกแล้ว ขอดู "คำเฉลย" ของสิ่งที่ผมวิเคราะห์ไว้ก่อนครับ ขอยืนหยัดกัดฟันสู้ครับ

มันอยู่ที่คุณมองที่ตัวบริษัท หรือราคาหุ้น

ผมว่าเจ้าของกระทู้มีคำตอบอยู่ในคำถามอยู่แล้วนะครับ

ถ้าราคาหุ้นดิ่ง แน่นอนครับ เราก็ต้องขาย แล้วซื้อกลับในราคาที่ถูกลง

เราจะรู้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงในสถานการณ์แบบนี้ เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับปัญหา ผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนและถูกต้องซะก่อน

ถ้าเรายังเข้าใจสถานการณ์ดีพอ การตัดสินใจก็เสี่ยงที่จะผิดพลาดได้มาก

อยู่ที่ความมั่นใจในกิจการที่ถือมั้งครับ ถ้ากิจการดี แข็งแกร่ง ถึงแม้ราคาจะลงจากปัจจัยภายนอกต่างๆ สุดท้ายราคาก็จะกลับมา นี่เป็นคำพูดที่ดร.อาจารย์ นิเวศน์พูดเสมอๆจนผมจำขึ้นใจ และนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทั้งด้านการลงทุนและธุรกิจ เช่น ผมเปิดร้านอาหารตามสั่ง และในบริเวณนั้นมีร้านแบบเดียวกันอยู่20ร้าน แล้วถ้าเกิดปัจจัยที่ทำให้ที่ทำให้ร้านอาหารตามสั่งต้องปิดไป แต่ผมยังคงอดทนทำร้านต่อ และเมื่อปัจจัยลบนั้นๆหายไป อยู่ที่มีอยู่20เหลือแค่10ร้าน แต่คนกินเท่าเดิม คิดว่าผมจะขายดีขึ้นมั้ย ?
ปล. ปัญหาก็คือเราคิดเกี่ยวกับcompetitive advantage ของกิจการที่เราถือนั้นถูกหรือผิด?

ลงสุดก็มาจิ้นสิ จะมาล้างอะไรกัน ล้างมันต้องล้างตอนขึ้นสุดๆ

ไม่เคยทำ
แต่อ่านแล้วเห็นภาพเลย
ทำไมถึงขาดทุนกัน

ผมเลือกแต่การลงทุนในประเทศแฮะ ที่คิดว่าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่นค้าปลีก กับ ค้าปลีก และอื่นๆ ไม่มีหุ้นส่งออกเลยยกเว้นส่งออกของกินอยู่หนึ่งตัว แต่เตรียมตัวไว้ตั้งนานแล้วว่าเรื่องร้ายยังไม่สะเด็ดน้ำ เลยป้องกันตัวเองด้วยวิธีนี้

ลงไม่จริงครับ อยากให้ลงมากกว่านี้ ลงแค่นี้ทำอาไรไม่ได้เลย ได้แต่นั่งมองเฉยๆ

พอร์ตแดงผมก็ปิดจอคอมดูทีวีรับปัลผลอ่านหนังสือสอบครับผม
คิคิคิคิคิ

ไม่ล้างครับ หุ้นพื้นฐานดี ต้องซื้อสวนครับ

ใจนึงอยากจะขายไปก่อนรอไปซื้อถูกกว่าเดิม อีกใจนึงก็กลัวขายไปเดี๋ยวจะเสียโอกาสถ้าหุ้นขึ้น.... จะตัดสินใจอย่างไรดี เอาหลักอะไรมาคิดดีครับ

หุ้นที่ถือไว้ ยังไม่ค่อยลงเลยครับ ถ้าจะซื้อเพิ่ม ขอส่วนลดมากกว่าอีกหน่อยครับ ส่วนเรื่องขายนี่ ถึงตอนนี้ยังไม่เคยคิดเลยครับ

ซื้อตอน set 1130 สุดดอยเลยครับ ซื้อธุรกิจที่ดีมาก แต่ดูท่าว่าจะไม่มี MOS ก็สองจิตสองใจ จะขายดีรึเปล่า หรือว่าจะถือรอปันผลดี

ผมก้เคยคิดเหมือนจขกท.ครับ แต่สุดท้ายพอมองไปที่พื้นฐานของบริษัท และแนวโน้มในอนาคต เลยทำให้ไม่คิดที่จะขายออกไปครับ กลับคิดที่จะซื้อเพิ่มมากกว่า อันนี้ก้อยู่ที่ความมั่นใจในหุ้นที่เราถือครับว่ามีดีพอที่ราคาจะกลับขึ้นมาในอนาคตด้วยหรือป่าว

ถ้าเลือกลงทุนในบริษัทที่ดีได้แล้วคับเกิดถึงเวลาที่มิสเตอร์มาร์เก็ตจิตตกกังวลว่าโลกกำลังจะแตกอีกครั้งวีไอที่ถือหุ้นต่อก็ลองท่องว่า"และแล้วมันก็ผ่านไป"ในใจไว้แบบที่ท่านอ.สอนช่วยได้เยอะเลย

แต่ผมได้ฟังท่านอ.พูดในรายการวิทยุว่า เทพรูบินีทำนายว่าจะเกิดอีก2ปีข้างหน้านะโดยอาจจะเริ่มจากอิตาลี่ที่กำลังถือดาบแล้วชักออกมาคับ

ล้างอะไรครับ มีแต่ซื้อเข้าครับผม ยิ่งลงยิ่งซื้อ กระสุนเหลือๆ ครับผม
จงลงๆๆ

จากล้างพอร์ตเปลี่ยนเป็นปรับพอร์ตดีกว่าครับ

ดูและวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเป็นขาลง ว่าเป็นเพราะอะไร จะแก้ไขอย่างไร ระยะเวลานานเท่าไหร่ และกระทบต่อหุ้นที่ถือมากน้อยแค่ไหน

สุดท้ายเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยๆ หรือได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นั้นๆ

ซึ่งเป็นอะไรที่ยากม๊าก มากๆ....

ผมว่าถ้าเรามีความเข้าใจบริษัทที่เราลงทุน..และพอที่ประเมินปัจจัย
จะมากระทบทั้งภายในและภายนอกที่มีผลกับบริษัทที่เราลงทุนได้
และถึงประเมินแล้วถึงจะมีบางปัจจัยที่กระทบบ้างแต่ไม่ได้เสียหาย
มากจนเกินไปจนกระทบให้กิจการที่ลงทุนมีปัจจัยเชิงพื้นฐานเปลี่ยน
แปลงไปจนเกิดความเสียหาย..ผมคงปล่อยผ่าน..ถึงแม้ราคาหุ้นจะลดลง
ทุกวันโดยภาพตลาดที่เกิดจากความวิตกกังวลต่างๆที่เข้ามากดดัน..ถ้ายัง
เป็นปัจจัยที่ได้พอกล่าวมา..ส่วนตัวผมคงไม่เคยคิดล้างพอร์ต..

รอผลประกอบการ Q2 อย่างมีความหวังมาหลายเดือนแล้ว
ถ้าต้องล้าง port คงเสียดายพิลึก

ซุนเซ็ก เขียน:ตลาดลงสุดๆ? จะล้างทำไม ลงสุดแล้วก็ต้องซื้อซิครับ

อ้าว ตอนนี้ สุด แล้วเหรอครับ
แน่ใจนะครับ...ว่า....ไม่มีอะไรค้างในลำกล้องนะครับ
ดูกันยังไงเหรอครับ ว่าสุด หรือไม่สุดครับ
: )

ทำอะไรก็ได้ ไม่มีตำรวจจับ ครับ ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่า...เป็นผลดีต่อตัวท่านที่สุด + ทำแล้วท่านมีความสุข(หากต้องการความสุขมากขึ้น) ......ทำเลยครับ

หากพิจารณาแล้วสรุปว่า จะถือต่อ จะรับเพิ่ม จะปรับพอร์ต จะล้างพอร์ต หรือรอก่อน หรืออื่นๆ ก็ลุย....เลย ครับ

การฝืน..จากสิ่งที่พิจารณาว่าดีแล้ว....อาจจะทำให้เป็นทุกข์ทางใจ ....เพราะปัจจัยแวดล้อม + เป้าหมาย + ความพร้อมทางความรู้ + และจิตใจ ของแต่ละคนต่างกัน

แล้ว...ก็ได้รู้ว่า..ท่านได้เลือกเองแล้ว ..... ขอให้ความสุข..ร่ำรวยๆแล้วกัน

พอร์ตไม่ล้าง แต่ไปหาที่สบายๆล้างปอดครับ
สูดอากาศดีๆ ทำใจสบายๆ หายใจลึกๆ อยู่กับตัวเอง
จะเกิดสติ และมีสมาธิ ความคิดดีๆจะเกิด
มีสติ ก็มีสตางค์

ผมล้างPortเเน่นอน!!! เเถมยังต้องกู้เพิ่ม
...ถ้าต้องขอเเฟนเเต่งงาน เห็นเเว่วๆว่าถ้าจะเเต่งจริงอย่างตำ่สินสอดต้อง8หลัก

ถ้าลงจนถึงระดับที่ผมสามารถหาหุ้นพื้นฐานดีที่มีปันผลราว 20% pe<8 growth >20%

ผมจะซื้อเพิ่มแบบเต็มที่ครับ

ส่วนตัวผมล้างแล้วครับ ล้างเผื่อจะเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสครับ

อดทนมาตั้งแต่วันศุกร์

ลุ้นไม่ขึ้น สถานการณ์ไม่ดี
ขาดทุนกำไร 50%

ขายถือเงินสดคับ