Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ส่วนตัวไม่เคยเล่น แต่อยากรู้อยากเห็น จึงอ่านๆกฏข้อบังคับ เกี่ยวกับ บัญชีมาร์จินมาบ้าง
อ่านไปอ่านมารู้สึกกลัวมาร์จินมากขึ้น

ผมจึงอยากถามคนที่เล่นซักหน่อยว่า
- อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเล่นแบบมาร์จินคับ?
- รายได้คุ้มกับดอกที่จ่ายมั้ยครับ?
- เคยโดน force sell กันมั้ย มีใครพอจะแชร์ประสบการณ์นี้ได้บ้าง?
- สรุปแล้ว รวยกันเร็วขึ้นมั้ยครับ?

ตามมาดูด้วยคนครับ ผมก้ตามลายเซ็นต์เลย เงินสดอย่างเดียว

ประสบการณ์ตรงครับ รอบที่ผ่านมาที่หุ้นดิ่ง 3-4 วันติด ขอตอบเป็นข้อๆเลยครับ

aonzzung เขียน:
ผมจึงอยากถามคนที่เล่นซักหน่อยว่า
- อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเล่นแบบมาร์จินคับ?
- รายได้คุ้มกับดอกที่จ่ายมั้ยครับ?
- เคยโดน force sell กันมั้ย มีใครพอจะแชร์ประสบการณ์นี้ได้บ้าง?
- สรุปแล้ว รวยกันเร็วขึ้นมั้ยครับ?

- เล่นเพราะโลภ และได้ใจที่ปีที่แล้วได้เยอะครับ
- ไม่คุ้มครับ จ่ายดอกฟรี
- ไม่เคยครับ แต่กลัวโดน เลยตัดขาดทุนแบบโง่ๆ ทั้งๆที่ลงมาหลายวันแล้ว แต่กลัวโดน force จัด
- สรุปแล้ว จนลงในอัตราเร่งครับ

ไม่ได้ว่าไม่ดี หรือไม่มีคนทำสำเร็จนะครับ แต่สำหรับมือใหม่ แมงเม่าอย่างผม เจ๊งสนิทครับ

ขอถามเรื่อง force sell หน่อยครับ
พอดีเป็นมือใหม่ มันคืออะไรหรอครับ

force sell - บังคับขายหุ้น
ยืมเงินคนอื่น(โบรก)มาเล่น หากกำไรเขาก็ไม่ว่าไร
แต่หากขาดทุนลงไปเรื่อยๆ เพราะหุ้นตก เขาคงไม่ยอม กลัวเงินเขาสูญ แล้วเราไม่มีปัญญาใช้คืนหนี้มั้งครับ เลยบังคับขายหุ้น ตัดขาดทุนไม่ให้บานปลายต่อไป

เห็นเซียนฮงเล่นนี่ครับ
ที่อายุ 25 ปี มีพอร์ตหลายสิบ (หรืออาจจะเป็นร้อยล้าน)
vi รุ่นใหม่

่ช่วงที่เขามั่นใจมากๆ เห็นบอกอัดมาร์จิน 80%

คุณyoyo ก็เคยเล่นมาร์จิน เหมือนผมเคยอ่าน

เห็นหลายคนครับ ผมว่ามันก็เป็นเครื่องมือตัวนึง ถ้าใช้ถูกเวลา มันก็เร่งสปีดให้เราได้เหมือนกันนะ

จริงๆถ้ามอง margin เป็นการกู้มาลงทุนธุรกิจ ก็น่าจะสมเหตุสมผลนะครับ
ซึ่งตอนนี้ margin ดอกเบี้ย ประมาณ 5% ถ้าไปกู้ลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวนอกตลาดตอนนี้ ก็ ดอกเบี้ยประมาณ 7-9% แล้วนะครับ แถมต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันรวมทั้งเสียค่าธรรมเนียม ค่าจดจำนอง ค่าอะไรอื่นๆอีกเยอะแยะครับ

เท่าที่มองดูข้อดีและ้ข้อเสียนะครับ

ข้อดี
1)ดอกเบี้ยถูก
2)ขายหุ้นเพื่อคืนเงินส่วนที่กู้มาร์จินมาง่าย (ถ้าเป็นลงทุนธุรกิจส่วนตัว จะตัดขายธุรกิจบางส่วนที่กู้มา เพื่อไปใช้หนี้คงทำไม่ได้หรือยากมาก)
3)margin กู้ง่ายและเร็ว (ถ้าเป็นกู้เพื่อลงทุนธุรกิจส่วนตัวนอกตลาด จะกู้ที ต้องเสียเงินจ้างคนเขียน business plan , รออนุมัติอีกเป็นเดือน , บางทีเสียแป๊ะเจี๊ยะ , เสียค่าประเมินหลักทรัพย์ที่ค้ำประกัน , เสียค่าธรรมเนียมการขอกู้ , เสียค่าจดจำนอง , ลุ้นเสียวมากว่าจะกู้ไม่ผ่าน ซึ่งอาจจะทำให้ทำธุรกิจต่อไม่ได้)

ข้อเสีย
1)มีโอกาสโดน force sell ถ้าตลาดลงแรงๆ
2)เพิ่มความเสี่ยงให้กับ port เพราะ บางทีหุ้นดีๆ ราคาถูก ราคาก็ไหลลงได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล
3)เวลาตลาดขาลง หุ้นจะสภาพคล่องไม่มี ไม่มีคนbidรับ ซึ่งถ้าคนอื่นโดน force sell ราคาจะลงแรง จนมาทำให้เราโดน force sell ตามไปด้วย


เพื่อนๆพี่ๆในห้องนี้ก็ใช้กันเยอะนะครับเช่น คุณyoyo คุณhong คุณleader คุณchinn แต่ตอนนี้คงลดมาร์จินลงมากันเยอะแล้วมั้งครับ

ส่วนตัวตอนนี้ก็คงแค่ดูๆไว้ ยังไม่คิดจะเล่นน่ะครับ แต่ก็เผื่อมีโอกาสอาจจะได้ใช้ครับ เลยศึกษาไว้ก่อน


อันนี้เป็น blogของคุณyoyo ที่เขียนเกี่ยวกับประสบการณ์และถามตอบเกี่ยวกับ การใช้มาร์จิ้นครับ
http://thai-value-investor.blogspot.com ... argin.html
http://thai-value-investor.blogspot.com ... -post.html

ปล.ตรงไหนเขียนผิดหรือเหตุผลมั่ว บอกได้นะครับ เพราะจริงๆผมก็เขียนไปมั่วๆน่ะครับ
ปล2. อยากให้พี่ๆที่มีประสบการณ์ใช้มาร์จิน ช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยนะครับ

navapon เขียน:force sell - บังคับขายหุ้น
ยืมเงินคนอื่น(โบรก)มาเล่น หากกำไรเขาก็ไม่ว่าไร
แต่หากขาดทุนลงไปเรื่อยๆ เพราะหุ้นตก เขาคงไม่ยอม กลัวเงินเขาสูญ แล้วเราไม่มีปัญญาใช้คืนหนี้มั้งครับ เลยบังคับขายหุ้น ตัดขาดทุนไม่ให้บานปลายต่อไป

ขอบคุณครับ
ขอถามเพิ่มนิดนึงครับ

แล้วกรณี หรือเงื่อนไขยังไง ถึงจะโดน force sell ครับ

ผมถามเพิ่มนิดนึงครับ
สมมติถ้าเราเปิดบัญชีมาร์จิน โดยวางเงินเราไว้ 1 แสน

ถ้าเราซื้อขายไม่เกิน 1 แสนของเรา ก็คือเรายังไม่ได้กู้เงินเค้ามาเล่น ยังงี้ถูกปะครับ?
หรือ
การเปิดบัญชีมาร์จินนี่ คือการเริ่มกู้เงินทันที จะใช้ไม่ใช้ก็ถือว่ากู้มาแล้ว?

แล้วถ้าเปิดบัญชีไว้ก่อน ไม่ซื้อขาย ได้ปะคับ?

aonzzung เขียน:ผมถามเพิ่มนิดนึงครับ
สมมติถ้าเราเปิดบัญชีมาร์จิน โดยวางเงินเราไว้ 1 แสน

ถ้าเราซื้อขายไม่เกิน 1 แสนของเรา ก็คือเรายังไม่ได้กู้เงินเค้ามาเล่น ยังงี้ถูกปะครับ?
หรือ
การเปิดบัญชีมาร์จินนี่ คือการเริ่มกู้เงินทันที จะใช้ไม่ใช้ก็ถือว่ากู้มาแล้ว?

แล้วถ้าเปิดบัญชีไว้ก่อน ไม่ซื้อขาย ได้ปะคับ?

จะเริ่มถือว่ากู้เมื่อซื้อเกิน 1 แสนครับ ถ้ายังซื้อไม่ถึง 1 แสนแล้ววางเงินไว้ใน margin จะได้ดอกเบี้ยด้วยครับ ตอนนี้ประมาณ 1.6% ดอก margin ประมาณ 5.x% (แล้วแต่ broker)

เปิดไว้ก่อนไม่ซื้อไม่ขายก็ไม่เป็นไรครับ

รบกวนสอบถามครับ สนใจศึกษาไว้ เผื่อเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในวิกฤตครับ

สามารถกู้สูงสุดได้กี่ % ครับ

เงินที่กู้เพิ่ม จะต้องอัดเข้าตัวหุ้นที่ถืออยู่ หรือว่าเป็น Cash ให้เลือกสรรขนมหวานกินเองครับ

ราคาหุ้น ลดจากราคาต้นทุนกี่ % ถึงจะโดน Force Sell ครับ

หากใช้มาร์จิ้น อัดเข้าหุ้นตัวหนึ่งแล้วตลาดหมีมา หุ้นมันนิ่งไปอีก 5 ปี จะเป็นอะไรไหมครับ

ก่อนจะโดน Force Sell จะถูก Call ซึ่งเป็นการเรียกเงินประกันเพิ่มใช่ไหมครับ

เวลาโดน Call เราสามารถวางเงินเพิ่มหรือนำเงินตัวเองถัวเข้าไปเพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลงได้ไหมครับ

การใช้มาร์จิ้นแต่ละโบรกแตกต่างกันอย่างไรครับ

รบกวนด้วยครับ ..ถามซะขี้เกียจตอบเลย

ผมไม่เคยใช้มาจิ้น ดอกเบี้ยปีละ5%เองเหรอครับ
งั้นถ้าผมได้ปันผล6% เท่ากับว่าผมกู้มากินฟรีเลยสิ

ถ้าผมใช้เงินตัวเอง100 มาจิ้น30 ยังงี้ไม่กำไรเละเทะเหรอครับ? เพราะยังไงก็ไม่โดนคอล

Warantact เขียน:ผมไม่เคยใช้มาจิ้น ดอกเบี้ยปีละ5%เองเหรอครับ
งั้นถ้าผมได้ปันผล6% เท่ากับว่าผมกู้มากินฟรีเลยสิ

ถ้าผมใช้เงินตัวเอง100 มาจิ้น30 ยังงี้ไม่กำไรเละเทะเหรอครับ? เพราะยังไงก็ไม่โดนคอล

ดอกเบี้ย margin ขึ้นกับดอกเบี้ยนโยบายในช่วงนั้นด้วยครับ อย่างช่วงนี้ดอกเบี้ยนโยบายมันยังต่ำอยู่ มันก็เลยแค่ 5.x% ครับ ซึ่งแล้วแต่ broker ด้วยครับ บางเจ้าก็ 6.x% 7.x% ก็มีครับ
ถ้าเอามากินปันผล 6% อาจจะไม่คุ้มนะครับ มีโอกาสเสีย capital gain มากกว่านั้นแถมเสียดอกเบี้ยฟรี

ถ้า margin 30% โอกาสโดน call/force sell ก็จะน้อยครับ แต่ถ้าเกิดตลาดหมีขึ้นมา แล้วลงทุกวันวันละนิด หรือถ้าเกิดมันลงมาเยอะๆหลายวันแล้ว บางวันดันมีคน panic sell หุ้นที่เราถือ เราก็อาจโดน call/force ได้ครับ ถ้าไม่มีเงินไปเติม

ใช้มาร์จินเหมือนกันครับ ช่วงปี 52 -53 ก็เหมือนกับดาบ 2 คมครับ ควรต้องรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

ช่วงนี้คนสนใจ Margin เยอะ หมายความว่ามั่นใจกัน แบบนี้ตลาดจะเป็นแบบไหน?

ไม่เล่นครับ ความรู้ของผมตอนนี้ยังไม่พอที่จะรองรับความโลภขนาดนั้นได้

sarawut_p เขียน:ไม่เล่นครับ ความรู้ของผมตอนนี้ยังไม่พอที่จะรองรับความโลภขนาดนั้นได้

ชอบครับ โดนเต็มเต็ม

ถามโง่ๆได้ไหมครับ ถ้าหุ้นตกแล้ว เราเติมเงินไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้โดนforce sell แล้วอดทนจนราคาหุ้นมันฟื้น ถ้าราคาหุ้นมันกลับมาเท่าทุน เราจะยังขาดทุนอยู่หรือเปล่า
(ไม่รู้มีค่านู่นค่านี่ อะไรอีกหรือเปล่า หรือ ดอกเบี้ยmargin มันก็เดินของมันไปเรื่อยๆด้วย อะไรทำนองนี้ หรือ ขึ้นกับว่าหุ้นมันตกไปลึกกว่าต้นทุนเรามากแค่ไหนนานแค่ไหน ด้วยหรือเปล่าครับ)

ผมเล่นครับ
1. เนื่องจากเงินสดอยู่ในหุ้น 100% และพอดีเจอตัวที่ผมคิดว่ามี mos สำหรับตัวผม ผมก็เลยจำใจต้องสอยด้วยจิ้นครับ
2. หักดอก ก็ยังกำไรอยู่ครับ
3. ไม่เคยโดนครับ และหวังว่าคงจะไม่โดนครับ
4. ช่วยให้พอรทดูดีขึ้นมาบ้างครับ
เล่นจิ้นต้องค่อนข้างจิตใจมั่นคงมากๆนะครับ ปกติผมเล่นเงินปกติเงินเย็นเลยชิว แต่พอมารจิ้นทำให้ลำบากใจมากเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวระยะสั้น ถ้าเล่นด้วยเงินเย็นปกติยังไม่นิ่ง ผมไม่แนะนำให้เล่นจิ้นครับ

Margin จะเหมาะกับช่วงภาวะที่แย่ที่สุดนะครับ

อย่างไรก็ดีเราควรจะวิเคราะห์เป็นรายตัวไป เอาที่แข็งแกร่งจริงๆ
ไม่งั้นอาจโดน Forced sell ได้

Margin เหมาะกับคนที่Money Managementดีและรู้Win loss Ratioอย่างดีเยี่ยม
ถ้าได้ได้เท่าไหร่ ถ้าเสียหรือโดนForceจะเสียเท่าไหร่
เพราะหุ้นดีก็อาจโดนForce sellได้เพราะตลาดก็คือตลาด--ไร้เหตุผล
ไม่เช่นนั้นSubprimeคงไม่เห็นหุ้นกำไรบริษัทยังดี แต่ราคาไหลลงมากเกลื่อนตลาด

รบกวนถามครับว่าหากผมมีวงเงินเบิกเกินบัญชีกับธนาคารอยู่แล้วเปรียบเทียบกับmargin
ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ

kanchit_ta เขียน:รบกวนถามครับว่าหากผมมีวงเงินเบิกเกินบัญชีกับธนาคารอยู่แล้วเปรียบเทียบกับmargin
ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ

โอดีหรือครับ ทางที่ดีตลาดขาลง อย่าเอาหนี้เลยครับ เลี่ยงได้ก้ควรเลี่ยงครับ

อ่อ ถามเพิ่มนิดครับ
แล้วบัญชีมาร์จินนี่ เราจะใช้หนี้คืนยังไงครับ
การขายหุ้นก็คือการใช้หนี้โดยอัตโนมัติเลยหรือเปล่า?

aonzzung เขียน:อ่อ ถามเพิ่มนิดครับ
แล้วบัญชีมาร์จินนี่ เราจะใช้หนี้คืนยังไงครับ
การขายหุ้นก็คือการใช้หนี้โดยอัตโนมัติเลยหรือเปล่า?

ใช่ครับ ขายหุ้นแล้วมันก็จะไปหักจากเงินกู้ทันทีครับ

ผมว่าการใช้มาร์จินมันทำให้เราตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผลได้ง่ายขึ้นนะครับ

ทราบว่าแต่ละโบรคมีวิธีคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกัน อย่างในเว็บไซต์ของบัวหลวงระบุว่า
(http://www.bualuang.co.th/th/sb_privileges.php)

ดอกเบี้ยกู้
เงินกู้ยืมจากบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง อัตรา
TV มากกว่า OD MML
TV น้อยกว่า OD MML+2%
TV น้อยกว่า OD 2 เดือนติดต่อกัน MML+4%
TV น้อยกว่า OD for 3 เดือนติดต่อกัน MML+6%
TV น้อยกว่า OD 4 เดือนติดต่อกัน MML+8%
โดย
TV = ปริมาณซื้อขายหนึ่งเดือนสุดท้าย
OD = หนี้ค้างชำระ ณ สิ้นเดือนนั้น
MML = อัตราดอกเบี้ยมาร์จิ้นขั้นต่ำ

ผมว่ามันโหดพอสมควร ผมหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของโบรคอื่นไม่ค่อยเจอ
ผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เพื่อนๆ มีข้อมูลเพิ่มเติมไหมครับ

แล้วเงินปันผลจะเข้าบัญชีเราหรือบัญชีbrokeครับ

เงินปันผลเข้าบัญชีเราครับ

เท่าที่ผมลองอ่านจากหลายๆที่นะครับ จังหวะที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้margin คือ ตอนที่ตลาดฟื้นจากวิกฤตครับ และ how to make money in stocks บอกว่า ช่วง2ปีแรกของตลาดกระทิง