Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเป็นแฟนแมนยู อยากซื้อหุ้นแมนยูครับ อยากได้ๆๆๆๆๆ สาวกผีออกเสียงหน่อย

ซิ้อผ่าน broker ไปที่สิงคโปร์ก็ได้นี่ครับ
รอให้เขาขาย ipo ก่อน
ตอนนี้มีแต่ข่าวครับ แต่คงอีกไม่กี่เดือน ภายในปีนี้ค่อนข้างแน่

เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ซิ้อผ่าน broker ไปที่สิงคโปร์ก็ได้นี่ครับ
รอให้เขาขาย ipo ก่อน
ตอนนี้มีแต่ข่าวครับ แต่คงอีกไม่กี่เดือน ภายในปีนี้ค่อนข้างแน่

นึกว่าโดนดุเสียแล้วเรา ฐานทำให้เว็บเขาเลอะเทอะ....

ผมยังอยากได้เลยครับ

100 หุ้นก็ยังดี

อยากซื้อครับ
ไม่สนราคา
ซื้อเพราะใจรัก

--- จัดไป 100 หุ้น พอ ---

aonzzung เขียน:อยากซื้อครับ
ไม่สนราคา
ซื้อเพราะใจรัก

--- จัดไป 100 หุ้น พอ ---

+1 ครับ

อยากได้เหมือนกันครับ

อย่าเลยครับ

แค่นัดแรก
น้องไก่ก็โดนผีเจาะไป 3-0

เซ็งจะแย่

ส.สลึง เขียน:อย่าเลยครับ

แค่นัดแรก
น้องไก่ก็โดนผีเจาะไป 3-0

เซ็งจะแย่

งงครับ..ทีมเราชนะแล้วเซ็ง วันนี้ก็กดปืนใหญ่ไป 8-2 พอพักอารมณ์หุ้นตกได้บ้างนิดหน่อยครับ

เหอๆ ท่าทางจะลงขันคนละ 100

เกรงว่าหุ้นตัวนี้มันจะเข้าข่าย พนันเก็งกำไรเหมือนอารมณ์เดียวกับการเล่นพนันฟุตบอลหรือเปล่าครับ พื้นฐานรูปแบบธุรกิจมันมั่นคงแค่ไหน ถ้านักเตะ เตะแล้วแพ้บ่อยๆหุ้นจะตกไหม การซื้อตัวนักฟุตบอลใหม่ๆราคาแพงๆ มันจะทำให้ต้องลงทุนสูงๆอยู่เสมอ แล้วมันคุ้มกับผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเราไหม จะเหลืออะไรให้เราบ้าง ผมว่ามันคาดการณ์อนาคตยากมาก นักเตะก็แก่ลงทุกปี เปลี่ยนรุ่นใหม่มามันจะเก่งอย่างเดิมได้ตลอดหรือไม่ ถ้าเฟอร์กูสันไม่อยู่มันจะเป็นอย่างไร เหมือนนับหนึ่งใหม่ทุกครั้งเวลาผลัดรุ่น

ผมไม่มีความรู้เลยว่าหุ้นมันดีหรือเปล่าถ้าวิจารณืผิดก็ขออภัย แค่ลองมองในแง่ร้ายดู

เชียร์แมนยูกะเค้าเหมือนกัน แต่สงสัยว่าธุรกิจฟุตบอลมันเป็นธุรกิจสีขาว สีเทา หรือว่าสีดำกันแน่ เห็นทีมเดียวกันบางนัดเล่นดีจนใจหาย แต่บางนัดก็เล่นแย่จนกู่ไม่กลับ

navapon เขียน:เกรงว่าหุ้นตัวนี้มันจะเข้าข่าย พนันเก็งกำไรเหมือนอารมณ์เดียวกับการเล่นพนันฟุตบอลหรือเปล่าครับ พื้นฐานรูปแบบธุรกิจมันมั่นคงแค่ไหน ถ้านักเตะ เตะแล้วแพ้บ่อยๆหุ้นจะตกไหม การซื้อตัวนักฟุตบอลใหม่ๆราคาแพงๆ มันจะทำให้ต้องลงทุนสูงๆอยู่เสมอ แล้วมันคุ้มกับผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเราไหม จะเหลืออะไรให้เราบ้าง ผมว่ามันคาดการณ์อนาคตยากมาก นักเตะก็แก่ลงทุกปี เปลี่ยนรุ่นใหม่มามันจะเก่งอย่างเดิมได้ตลอดหรือไม่ ถ้าเฟอร์กูสันไม่อยู่มันจะเป็นอย่างไร เหมือนนับหนึ่งใหม่ทุกครั้งเวลาผลัดรุ่น

ผมไม่มีความรู้เลยว่าหุ้นมันดีหรือเปล่าถ้าวิจารณืผิดก็ขออภัย แค่ลองมองในแง่ร้ายดู

สำหรับผม ตัวนี้ไม่เกี่ยวกับการลงทุนเลยครับ

ใจรักอย่างเดียว

luangrit เขียน:

navapon เขียน:เกรงว่าหุ้นตัวนี้มันจะเข้าข่าย พนันเก็งกำไรเหมือนอารมณ์เดียวกับการเล่นพนันฟุตบอลหรือเปล่าครับ พื้นฐานรูปแบบธุรกิจมันมั่นคงแค่ไหน ถ้านักเตะ เตะแล้วแพ้บ่อยๆหุ้นจะตกไหม การซื้อตัวนักฟุตบอลใหม่ๆราคาแพงๆ มันจะทำให้ต้องลงทุนสูงๆอยู่เสมอ แล้วมันคุ้มกับผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเราไหม จะเหลืออะไรให้เราบ้าง ผมว่ามันคาดการณ์อนาคตยากมาก นักเตะก็แก่ลงทุกปี เปลี่ยนรุ่นใหม่มามันจะเก่งอย่างเดิมได้ตลอดหรือไม่ ถ้าเฟอร์กูสันไม่อยู่มันจะเป็นอย่างไร เหมือนนับหนึ่งใหม่ทุกครั้งเวลาผลัดรุ่น

ผมไม่มีความรู้เลยว่าหุ้นมันดีหรือเปล่าถ้าวิจารณืผิดก็ขออภัย แค่ลองมองในแง่ร้ายดู

สำหรับผม ตัวนี้ไม่เกี่ยวกับการลงทุนเลยครับ

ใจรักอย่างเดียว

+1ครับ ของแค่100หุ้นก็สุขใจเพียงพอแล้วครับ

+1 อีกคนครับ ...ก็ใจมันรัก

อย่าลืมว่าอารมณ์ รัก โลภ เกลียด หลง รวมถึงความเชื่อ
ทำให้เราลงทุนไม่ตรงกับเหตุผล ความจริงที่เกิดขึ้นนะครับ

ลูกอิสาน เขียน:อย่าลืมว่าอารมณ์ รัก โลภ เกลียด หลง รวมถึงความเชื่อ
ทำให้เราลงทุนไม่ตรงกับเหตุผล ความจริงที่เกิดขึ้นนะครับ

เยี่ยมเลยพี่โจ ผมเองก็โดนอารมณ์พวกนี้เข้าสิง ประจำๆ

13.30 น. แมนยูฯ กำไรพุ่งปี๊ดทำสถิติกว่า 5,000 ล้านบาท
money channel
Posted on Wednesday, August 31, 2011
"การ์เดียน" สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมประกาศผลกำไรซึ่งสูงทำสถิติใหม่มากกว่า 100 ล้านปอนด์ ประมาณ 5 พันล้านบาท และจะนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อระดมเงินทุนกับสาธารณะชน

แมนฯยู หรือ ทีมปีศาจแดง คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษสมัย 19 เมื่อปีที่แล้ว กวาดรายได้ถึง 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) มากกว่าปีก่อนหน้า 286.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,320 ล้านบาท) ตัวเลขนี้ยังไม่รวมสปอนเซอร์ใหม่อย่าง "ดีเอชแอล" (DHL) ที่เพิ่งจ่าย 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) ต่อปีเพื่อติดเสื้อซ้อมเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

แมนฯยู พลิกกลับมามีกำไรล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้ขาดทุนถึง 83.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,165 ล้านบาท) ส่วนหนึ่งมาจากการออกพันธบัตรที่เป็นหุ้นกู้จำนวน 526 ล้านปอนด์ (ประมาณ 26,300 ล้านบาท) เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ นอกจากนี้วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายนนี้คาดว่า แมนฯยู จะเจียดหุ้นจำนวน 25% เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ซึ่งถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เพื่อประกาศขายให้กับบุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรก

โดยหวังทำเงินราว 600 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) เพื่อนำมาปลดหนี้ที่มีอยู่ 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25,000 ล้านบาท) ได้แบบสบายๆ กระนั้นก็ตาม มัลคอล์ม เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวสหรัฐฯ ยังคงถือหุ้นใหญ่มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาดในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่เพียงผู้เดียวด้วยหุ้นในมืออีก 75%

แมนฯยู กลายเป็นสโมสรกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก 1.7 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 85,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจอีกเท่าตัว หลังจาก เกลเซอร์ ระดมเงินทุนทั้งกู้หนี้ยืมสินมาซื้อกิจการเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2005 ด้วยเงิน 800 ล้านปอนด์ (ประมาณ 40,000 ล้านบาท)

Posted on Wednesday, August 31, 2011 (Archive on Thursday, September 15, 2011)
Posted by rekha Contributed by rekha