SETHD
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 230
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SETHD
โพสต์ที่ 2
credit: คุณ Rodmay แห่ง pantip.com
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 57979.html
http://portal.settrade.com/blog/naruemo ... 07/26/1042
ดัชนี SETHD … คู่แท้คนรัก “หุ้นปันผล”
หากนักลงทุนท่านใดได้ติดตามข่าวสารตลาดทุนในช่วงนี้คงพอทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2554 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เริ่มทำการเผยแพร่ดัชนีใหม่ที่มีชื่อว่า ดัชนี SET High Dividend 30 Index หรือชื่อสั้นๆว่า SETHD ซึ่งเป็นดัชนีที่อ้างอิงราคาของกลุ่มหุ้น 30 ตัวในดัชนี SET100 ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง (Dividend Yield) ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตลาดทุนไทยได้มีการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านดัชนีให้เพิ่มมากขึ้น และสร้างตัวเลือกในการลงทุนใหม่ๆที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างหลากหลาย
ในการตัดสินใจลงทุนซื้อขายหุ้นสักตัวหนึ่ง นักลงทุนจำนวนไม่น้อยมักให้ความสำคัญกับอัตราเงินปันผลและประวัติการจ่ายเงินปันผล ด้วยความเชื่อที่ว่าเงินปันผลเป็นตัวสะท้อนผลประกอบการและความมั่นคงของบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ โดยทั่วไปบริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า กลุ่ม Cash cow ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงและได้ลงหลักปักฐานอย่างดีแล้ว ธุรกิจในกลุ่มนี้มักจะให้ผลกำไรสูง บริษัทจึงไม่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมากในการสร้างและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด กำไรที่ได้จากผลประกอบการจึงถูกแปลงเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับหุ้นปันผล คือ ราคาของหุ้นจะไม่ปรับตัวลดลงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงขาลง ดังนั้นนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารเชิงลึก แต่ต้องการได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่แน่นอน จึงมักเลือกลงทุนในหุ้นปันผลดีเหล่านี้
ดัชนี SETHD จึงเปรียบเทียบได้กับผู้ช่วยในการคัดเลือกและนำเอาหุ้น 30 ตัวในกลุ่ม Cash cow มารวมเข้าด้วยกัน โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกและวิธีการคำนวณดัชนีดังนี้
เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้น
1. เป็นหุ้นในดัชนี SET100 ที่ได้รับการคัดเลือกในรอบการทบทวนรายชื่อเดียวกัน (ปีละ 2 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. และ ธ.ค.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่องที่สูงมากเพียงพอ
2. เลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง หมายความว่า มีการจ่ายปันผล (Cash dividend) ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีในฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียน และ มีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend payout ratio) ไม่เกิน 85% ในแต่ละปีย้อนหลัง 3 ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีการลงทุนต่อไปในอนาคต
3. หุ้นที่คัดเลือกจะต้องไม่เข้าข่าย (1) ถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ (2) อาจเพิกถอนตัวเองในระยะเวลาอันใกล้ (3) อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักการซื้อขาย (SP) เป็นระยะเวลานาน (4) มีแนวโน้มที่จะถูกพักการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน (เช่น 3 เดือน เนื่องจากไม่สามารถนำส่งงบการเงินได้)
วิธีการคำนวณดัชนี SETHD
1. เรียงลำดับหุ้นตาม Dividend yield
ภายหลังจากได้หุ้นที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จะนำหุ้นทั้งหมดมาเรียงลำดับตาม Dividend yield จากมากไปหาน้อย โดยหุ้นในอันดับที่ 1-30 จะถูกนำไปใช้คำนวณดัชนี SETHD ส่วนหุ้นในอันดับที่ 31-35 จะอยู่ในบัญชีรายชื่อหุ้นสำรอง
2. นำหุ้นเข้าสูตรการคำนวณดัชนี
นอกเหนือจากการใช้ Market Cap. สูตรการคำนวณดัชนี SETHD ยังได้นำ Dividend yield เฉลี่ย 3 เดือนย้อนหลัง เข้ามาร่วมคำนวณด้วย เพื่อเป็นการถ่วงน้ำหนักให้กับหุ้นที่จ่ายปันผลดี ซึ่งหมายถึงว่า หุ้นใดจ่ายปันผลดีก็ย่อมมีผลต่อดัชนีมาก ตามสูตรด้านล่าง
ถ้านักลงทุนท่านใดที่ได้อ่านเนื้อหามาถึงตรงนี้ หากว่าสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนในดัชนีหุ้นปันผล ขอให้อดทนกันอีกสักนิด เนื่องจากในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้ จะมีการร่วมมือกันของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดตัวกองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนี SETHD และเพื่อสร้างทางเลือกการลงทุนใหม่ๆให้กับนักลงทุนที่รักหุ้นปันผล
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 57979.html
http://portal.settrade.com/blog/naruemo ... 07/26/1042
ดัชนี SETHD … คู่แท้คนรัก “หุ้นปันผล”
หากนักลงทุนท่านใดได้ติดตามข่าวสารตลาดทุนในช่วงนี้คงพอทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2554 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เริ่มทำการเผยแพร่ดัชนีใหม่ที่มีชื่อว่า ดัชนี SET High Dividend 30 Index หรือชื่อสั้นๆว่า SETHD ซึ่งเป็นดัชนีที่อ้างอิงราคาของกลุ่มหุ้น 30 ตัวในดัชนี SET100 ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง (Dividend Yield) ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตลาดทุนไทยได้มีการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านดัชนีให้เพิ่มมากขึ้น และสร้างตัวเลือกในการลงทุนใหม่ๆที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างหลากหลาย
ในการตัดสินใจลงทุนซื้อขายหุ้นสักตัวหนึ่ง นักลงทุนจำนวนไม่น้อยมักให้ความสำคัญกับอัตราเงินปันผลและประวัติการจ่ายเงินปันผล ด้วยความเชื่อที่ว่าเงินปันผลเป็นตัวสะท้อนผลประกอบการและความมั่นคงของบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ โดยทั่วไปบริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า กลุ่ม Cash cow ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงและได้ลงหลักปักฐานอย่างดีแล้ว ธุรกิจในกลุ่มนี้มักจะให้ผลกำไรสูง บริษัทจึงไม่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมากในการสร้างและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด กำไรที่ได้จากผลประกอบการจึงถูกแปลงเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับหุ้นปันผล คือ ราคาของหุ้นจะไม่ปรับตัวลดลงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงขาลง ดังนั้นนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารเชิงลึก แต่ต้องการได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่แน่นอน จึงมักเลือกลงทุนในหุ้นปันผลดีเหล่านี้
ดัชนี SETHD จึงเปรียบเทียบได้กับผู้ช่วยในการคัดเลือกและนำเอาหุ้น 30 ตัวในกลุ่ม Cash cow มารวมเข้าด้วยกัน โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกและวิธีการคำนวณดัชนีดังนี้
เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้น
1. เป็นหุ้นในดัชนี SET100 ที่ได้รับการคัดเลือกในรอบการทบทวนรายชื่อเดียวกัน (ปีละ 2 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. และ ธ.ค.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่องที่สูงมากเพียงพอ
2. เลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง หมายความว่า มีการจ่ายปันผล (Cash dividend) ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีในฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียน และ มีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend payout ratio) ไม่เกิน 85% ในแต่ละปีย้อนหลัง 3 ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีการลงทุนต่อไปในอนาคต
3. หุ้นที่คัดเลือกจะต้องไม่เข้าข่าย (1) ถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ (2) อาจเพิกถอนตัวเองในระยะเวลาอันใกล้ (3) อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักการซื้อขาย (SP) เป็นระยะเวลานาน (4) มีแนวโน้มที่จะถูกพักการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน (เช่น 3 เดือน เนื่องจากไม่สามารถนำส่งงบการเงินได้)
วิธีการคำนวณดัชนี SETHD
1. เรียงลำดับหุ้นตาม Dividend yield
ภายหลังจากได้หุ้นที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จะนำหุ้นทั้งหมดมาเรียงลำดับตาม Dividend yield จากมากไปหาน้อย โดยหุ้นในอันดับที่ 1-30 จะถูกนำไปใช้คำนวณดัชนี SETHD ส่วนหุ้นในอันดับที่ 31-35 จะอยู่ในบัญชีรายชื่อหุ้นสำรอง
2. นำหุ้นเข้าสูตรการคำนวณดัชนี
นอกเหนือจากการใช้ Market Cap. สูตรการคำนวณดัชนี SETHD ยังได้นำ Dividend yield เฉลี่ย 3 เดือนย้อนหลัง เข้ามาร่วมคำนวณด้วย เพื่อเป็นการถ่วงน้ำหนักให้กับหุ้นที่จ่ายปันผลดี ซึ่งหมายถึงว่า หุ้นใดจ่ายปันผลดีก็ย่อมมีผลต่อดัชนีมาก ตามสูตรด้านล่าง
ถ้านักลงทุนท่านใดที่ได้อ่านเนื้อหามาถึงตรงนี้ หากว่าสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนในดัชนีหุ้นปันผล ขอให้อดทนกันอีกสักนิด เนื่องจากในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้ จะมีการร่วมมือกันของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดตัวกองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนี SETHD และเพื่อสร้างทางเลือกการลงทุนใหม่ๆให้กับนักลงทุนที่รักหุ้นปันผล
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: SETHD
โพสต์ที่ 3
2. เลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง หมายความว่า มีการจ่ายปันผล (Cash dividend) ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีในฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียน และ มีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend payout ratio) ไม่เกิน 85% ในแต่ละปีย้อนหลัง 3 ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีการลงทุนต่อไปในอนาคต
เฉพาะ SET100 ก็พอเข้าใจ แต่ Payout Ratio 85% Max นี่ไม่เข้าใจ
บาง บมจ. เขามี Cash Flow จาก Operation ที่เหลือเฟือ ทั้งอาจจะ
เกิดจาก Net Working Capital และ/หรือ Depreciation ก็ได้ แล้วไม่
จำเป็นต้องเก็บเงินสดที่ได้จากกำไรเท่าไรนัก อาจจ่ายเกิด 85% ก็ได้นี่ครับ
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: SETHD
โพสต์ที่ 4
เมื่อคืนไปดู Dividend Yield ของ SET กับ SETHD
ต่างกันเพียงเล็กน้อย คือ 3.65 vs 3.75 เองครับ
แล้วจะมี SETHD ไปทำไมครับ เมื่อหาความแตกต่างไม่เจอ
(ข้อมูลจาก set.or.th นะครับ)
คืออย่างที่กล่าวไว้ ว่าเงื่อนไขไม่ค่อยเหมาะสม
เช่น เฉพาะ SET100 และ Div Pay Out < 85%
ยังมีหุ้นขนาดกลาง คือ เล็กว่า SET100 ที่ปันผล
ดีอีกหลายตัวที่ไม่อยู่ใน SETHD
ต่างกันเพียงเล็กน้อย คือ 3.65 vs 3.75 เองครับ
แล้วจะมี SETHD ไปทำไมครับ เมื่อหาความแตกต่างไม่เจอ
(ข้อมูลจาก set.or.th นะครับ)
คืออย่างที่กล่าวไว้ ว่าเงื่อนไขไม่ค่อยเหมาะสม
เช่น เฉพาะ SET100 และ Div Pay Out < 85%
ยังมีหุ้นขนาดกลาง คือ เล็กว่า SET100 ที่ปันผล
ดีอีกหลายตัวที่ไม่อยู่ใน SETHD
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.