Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คือ ตอนนี้พวกพี่4คน น้องผม1คน แฟนอีก1คน รวมผมคือ 7 คน

ผมต้องเปิดพอร์ต 7 บัญชีเลยครับ ถ้าผมจะรวมเป็นกองทุนในครอบครับผม

นี้ทำไงครับ หรือว่ารวมซื้อขายของผมคนเดียวแล้วกำไร(ขาดทุน)แบ่งๆกันแล้วแต่สัดส่วน

ของแต่ละคน ผมไม่สะดวกในการซื้อขายเลยครับ

เห็นเคยได้ยินมาว่าถ้าเปิดบริษัทจะไม่คุ้มเท่า ชื่อเป็นบุคคล มันจะเกี่ยกับภาษีอะไรนี้

ใครรู้บอกหน่อยครับ อยากเปิดเป็นบริษัทเลยนะครับ หรือ กองทุนส่วนบุคคล

ผมก็ลงทุนให้แม่กับน้องๆ นะครับ แต่ก็ใช้พอร์ทรวมกัน เพียงแต่แยกให้เป็นสัดเป็นส่วนให้ดีเท่านั้นเองครับ ว่าซื้ออะไรให้ใครเท่าไร

แต่ทราบว่าบางคนก็ใช้วิธีแบบกองทุนรวมดูว่า ณ NAV = ปัจจุบัน คืดเป็นหน่วยลงทุนเท่าไร ลองหากระทู้เก่าๆ อ่านดูนะครับ

อยากรู้เหมือนกันครับเรื่องเปิดบริษัท
ท่านไหนรู้เข้ามาอธิบายให้ฟังด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

เรื่องเงินนี่ทำให้พี่น้องทะเลาะกันได้นะครับ
บริหารเงินตัวเองสบายใจกว่าเน้อ

ณ ปัจจุบัน คิดแบบง่าย ๆ คือ ไม่ค่อยเจอใครจดลงทุนในนาม บริษัท กองทุน ฯลฯ ส่วนใหญ่กลงทุนในนามบุคคล

ข้อดีที่เห็น คือ
1. ไม่มีภาษี capital gain ในขณะนี้ (อนาคตยังกังวลว่าอาจจะมี ค่อยว่ากัน)
2. เครดิตภาษีคืนได้
3. ตรวจสอบง่าย
4. port ใคร port มัน สะดวกตอนต้องการซื้อเพิ่ม ขายเพื่อใช้เงิน ปันผลรับ หรือส่งต่อให้ทายาท

ข้อเสีย ก็อย่างที่คุณรู้ดี

สรุป แยกกันน่าจะดีแล้วครับ ข้อดีที่มากกว่ามาก โดยเฉพาะที่เป็นตัวเงิน

เข้ามาหาความรู้เหมือนกันครับ

เคยคิดเหมือนกันครับ อยากทำ private fund ฟังดูโก้หรูดี
แต่ดูเรื่องระเบียบของนิติบุคคล ก็เหมือนอย่างพี่กาละมังว่าไว้ครับ เสียเปรียบบัญชีส่วนบุคคล
จดกองทุนก็คงเพื่อรับลูกค้า คิดค่าตอบแทน เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า

ผมลงทุนให้ครอบครัวมาประมาณปีกว่า ๆ แล้วครับ เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์อันน้อยนิดบ้างครับ
ิ เดิมทีครอบครัวผมก็มีคนเล่นหุ้นอยู่บ้างครับ สไตล์เก็งกำไร แต่เล่นไม่มากครับ เวลาซื้อก็จะมาฝากผมซื้อ กำไรบ้างขาดทุนบ้าง และต้องโอนเงินเข้าออกบัญชีผมหลายครั้งต่อเดือน ผมเลยเสนอให้ตั้งเป็นกองทุนให้ผมบริหารเื่พื่อความสะดวกในการโอนเงินและการบันทึกข้อมูลหุ้นของแต่ละคน
ในตอนเริ่มแรกที่ตั้งกองทุน ก็นำหุ้นมูลค่าหุ้นของแต่ละคนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ บางคนก็นำเงินมาลงทุนเพิ่มด้วย โดยมีนโยบายว่าทุก ๆ สิ้นเดือน จะคิด NAV 1 ครั้ง หุ้นส่วนสามารถเิพิ่มหรือลดเงินลงทุนได้ (แต่ควรจะแจ้งล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการปรับพอร์ต) กำไรจากการลงทุนผมขอแบ่งเืพื่อนำไปทำบุญเืดือนละ 2 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พอร์ตโตประมาณ 3 เท่าจากเิริ่มแรกแล้วครับ
ปีหน้าผมว่าจะเปลี่ยนนโยบายใหม่แล้วครับ จะทำเลียนแบบวอร์เร็น คือลงทุน 3 ปี รับประกันเิิงินต้นและมีผลตอบแทนขั้นต่ำ 6% ต่อปี กำไรที่เกินจาำก 6% จะขอแบ่ง 25% ให้ตัวเอง 75% ให้ผู้ถือหุ้น
ผมไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนะครับ ทำในนามบุคคลครับ เพราะเรื่องข้อกฏหมายต่างๆ เราไม่ได้ศึกษา แล้วอีกอย่างเิงินทุนเราไม่มากด้วย