Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

Italy, which needs to raise or roll-over €111.3 billion ($151.55 billion) in financing from September to the end of the year, according to Goldman Sachs.


CIC, with more than $400 billion under management, is even less likely to make a major move. It is all but fully invested and has been waiting for a capital injection from Beijing since last year. Moreover, only about $19 billion of its funds have been invested in sovereign bonds, according to Z-Ben, which might not have a huge effect on Italy—which has €1.9 trillion in public debt —even if the whole amount was reallocated to Italian sovereign debt.

มาดู CIC กัน ................

โห ถ้าหุ้นตกทั่วโลก แล้วจีนไปช้อนหุ้นทั่วโลก

จีนก็ครองโลกสบายเลยซิ

พี่จีน อย่าไปซื้อ บอนเลย ซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูกๆ น่าจะดีกว่านะ

ใครไปกระซิบบอกพี่จีนหน่อยซิ

ท่านเติ้งเสี่ยวผิง (ซึ่งเป็นผู้นำที่มองการณ์ได้ไกลมากๆ
อย่างเหลือเชื่อ) ได้วางแผนไว้แล้วว่า ผู้นำของจีน ในรุ่นที่ 4
(รุ่นต่อจากรุ่นที่สาม ที่บริหารงานอยู่ในตอนนี้) จะเป็น ผู้นำที่สามารถ
นำประเทศจีน ไปสู่มหาอำนาจ และเข้ายึดครอง(ทางเศรษฐกิจ)
ทั่วโลก หากพิจารณาคุณสมบัติของ ว่าที่ผู้นำรุ่นต่อไป ก็ตรงตาม
สเปค เลยครับ (ข้ออภัยไม่มีรายละเอียด เพราะจำไม่ได้ครับ แต่
เท่าที่รู้ ผู้นำรุ่นที่สี่ จะมาจาก บุตรหลานของ ผู้นำรุ่นที่หนึ่ง ที่มี
ความเป็น "ชนชั้นปกครอง" สูง, ส่วนรุ่นที่สอง เป็น ผู้นำที่มาจาก
ครอบครัวนักธุรกิจ ที่มาสร้างเศรษฐกิจให้จีนก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว,
รุ่นที่สาม มาจาก ครอบครัวชาวบ้าน ที่มาลดช่องว่างระหว่าง
คนรวยกับคนจนให้ลดน้อยลง) หลังเห็นผลงานของท่าน แล้ว
ผมนับถือและยกย่องว่า ท่านเติ้งเสี่ยวผิง เก่งจริงๆ วิสัยทัศน์
กว้างไกล เป็นยอดคนเหนือคน [ไม่ใช่วางแผน ปีสองปี หรือ
แค่สิบปี ระยะยาว 20 ปีขึ้นไปครับ]

ดังนั้น ตอนนี้ จีน ก็รอจังหวะและโอกาสที่จะเข้า "โจมตี" และ
คิดว่าอีกไม่นานเกินรอ ที่ ยุโรปต้องพังทะลาย และอีกครั้งหนึ่ง
ที่ ชนผิวเหลือง จะสามารถขยายอาณานิคม ไปสู่ดินแดนยุโรป
หลังจากลูกหลานเจงกิสข่านได้ทำมาแล้ว (นานเป็นพันปีเลย)

ตอนนี้ นอกเหนือจาก ประเทศจีน ที่มีกำลังเงินมหาศาล แล้วก็
มีกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่ผลิตน้ำมัน น่าจะมีกำลังเงิน
มหาศาล ส่วน สหรัฐอเมริกา ก็ย่ำแย่พอๆ กับ EU คงช่วย
อะไร EU (เหมือนสมัยที่ เยอรมันยึดยุโรป ใน WWII) ไม่ได้
อีกอย่างจีนก็แยบไปแล้วหนึ่งคร้้ง ตอนจะซื้อ Unocal แต่
สภาฯ ของ US ไม่อนุมัติ และให้ Chevon ซื้อแทน จีนเบนเข็ม
ไปยึดทรัพยากรธรรมชาติ ในโลกที่สามแทน (ซึ่งเจรจาง่ายกว่า
มาก)

กลับมาดูว่าถ้า กรีก ล้ม EU น่าจะบาดเจ็บพอสมควร แต่ถ้า Italy
ล้ม EU โคม่า ยิ่งถ้า Spain ล้มไปด้วย (ใกล้แล้วเหมือนกัน
คนว่างงาน 20% จะรอดหรือ?) เรียบร้อยโรงเรียนจีน แน่นอน

555+ พี่จีนจงเจริญ

นอกจากการ ขยายทางเศรษฐกิจ แล้ว ต้องดู การขยายทาง วัฒนธรรม ด้วยครับ ดูจาก หนัง ละคร ดนตรี การแพร่กระจายของ Culture จีน
ปัจจุบัน ผมคิดว่ายังห่างไกลจาก เมกา อยู่เยอะครับ ดูจาก ละคร จีน กําลังภายใน ยัง Plot เดิมๆ
หรือ ละคร TV ก็แนวเดิมๆไม่ได้มีความ Complicated แบบ Prison Break CSI 24 Lost etc หรือ ดนตรี ก็มีแต่คนเอเซีย ซึ่งส่วนใหญ่จีนจะฟังดนตรีจีน แต่ กลับกัน ดนตรี เมกัน Hip Hop Blue Jazz Country นั้นกลายเป็นสากล ไปแล้ว
แพร่กระจายไปทั่วโลก

เราไม่เคยเห็น เด็กแถว สยาม รํามวยจีน แต่งตัวแบบ จีนๆ แล้ว เฮ้ย เทห์หวะ มีแต่ เด็กสยาม แต่ง แบบHip Hop
Skate หรือ R&B มันบอกอะไรเราครับ บอกถึง Perception ค่านิยมของเค้าต่อ USA ไงครับ

ประเด็นต่อมา ดูจาก นักคิดและผู้ได้รับรางวัล Nobel นั้นคนจีนนั้นเทียบไม่ได้เลย กับชนชาติ ยิว ที่อยู่ใน อเมริกา และ ยุโรป

ผมจึงคิดว่า การขยายอนานิคม ของจีนนั้น ยังเป็นไปไม่ได้ครับ

อย่าลืมนะครับ US มีไพ่อีกใบ คือ เหมืองทองที่ใหญ่ สุดในโลก ลองดูหนัง
National Treasure ภาค 2 ที่เจอเหมืองทองสิครับ ปัจจุับัน เมกา ยังเก็บไว้เป็นReserve ไม่ขุดมาใช้เลยครับ

วัฒนธรรมจีน นั้น ยังห่างไกลจาก USA นักครับ แทบไม่เห็นคนจีนมี Innovation ใหม่ๆเลย มีแต่ Copy เป็น
King of Pirate ครับ ขนาด ร้าน Apple ยังCopy ทั้งร้าน มาแล้ว!!!!

เป็นมุมมองส่วนตัวนะครับ

อย่ายึดติด มันเป็นการพัฒนาในแบบของจีน...

เมกาอดีตก้เป็นแค่เมืองที่ อังกฤษให้พวกทาส ลงมาทำงาน เท่านั้นเองไม่ใช่เหรอครับ

จนต้องมีสงครามปลดแอก

บางที จีนเองก้อาจจะนำโลกได้ เหมือนกัน

ผมจำได้ว่า สมบัติผลัดกันชม

อังกฤษเองเคยยิ่งใหญ่เบอร์1 แล้วมาเมกา เบอร์1 ต่อไปจีนก้อาจจะเบอร์1

ในโลกของการลงทุน คนที่รวยที่สุดในวันนี้ ก้อาจจะเป็นคนที่จนที่สุดในอีก 30ปีก้ได้ครับ

มันไม่มีอะไรแน่นอน

ในอดีตก่อน 1960 อินซู ก้เคยรวยมาก่อน รวยมากในอเมริกา

แต่ผ่าน 1960ไป สิบปี เค้ากลับสิ้นเนื้อประดาตัว

ก้อย่างที่ผมเคยบอก เก่าใหม่ไม่เกี่ยว จะเซียนหรือแมงเม่า ก้ไม่รู้

จะรู้ก้วัน ที่หยุดลงทุนในหุ้นนั่นแหล่ะ

ถึงรู้ ว่า แมงเม่าหรือเซียน ตราบใดยังไม่ล้มคนก้เรียกเซียน ถ้าล้มคนก้เรียกคนเคยเซียน

ขอแก้ไข 1930 นะครับ

ยุคตกต่ำ

แม้โคลัมบัสจะพบทวีปอเมริกาในค.ศ. 1492 แต่ก็วนเวียนอยู่ในหมู่เกาะแคริบเบียนเท่านั้น ในค.ศ. 1513 ควน ปองเซ เด เลออง (Juan Ponce de Léon) นักสำรวจชาวสเปนมาฟลอริดาเพื่อค้นหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย (Fountain of Youth) สเปนเป็นชาติแรกที่ตั้งอาณานิคมในอเมริกา แต่แค่ผิวชายฝั่ง ไม่เข้าไปลึกมาก ในค.ศ. 1540 เดอ โคโรนาโด (Francisco Vásquez de Coronado) ชาวสเปนสำรวจทะเลทรายทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ พบแกรนด์แคนยอน
ส่วนอังกฤษนั้นตั้งอาณานิคมแรกคือเจมส์ทาวน์ (Jamestown) ในค.ศ. 1607 ตั้งชื่อตามพระนามพระเจ้าเจมส์ที่ 1 โดยบริษัทลอนดอนเวอร์จิเนีย (London Virginia Company) ซึ่งจะพัฒนากลายเป็นมลรัฐเวอร์จิเนีย ในปีแรกๆฤดูหนาวนั้นหนาวเหน็บผู้คนล้มตายเพราะขาดอาหาร แต่ด้วยความช่วยเหลือของชาวพื้นเมือง ทำให้อาณานิคมยังอยู่รอด และได้ยาสูบ (tobacco) เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ ปลูกเป็นไร่ขนาดใหญ่ (Plantation) มีการนำทาสผิวดำจากแอฟริกามาใช้
ในอังกฤษเกิดสงครามกลางเมืองอังกฤษและการกดขี่ศาสนา ทำให้พวกนิกายต่างๆหลบหนีมาอเมริกาเพื่อตั้งรกราก พวกพิลกริม (Pilgrim) นั่งเรือเมย์ฟลาวเวอร์ (Mayflower) มาตั้งอาณานิคมพลิมัธ ประกาศ Mayflower Compact เพื่อปกครองตนเอง พวกกลุ่มเพียวริตัน ได้รับการกดขี่ในอังกฤษหนีมาตั้งอาณานิคมอ่าวแมสซาชูเซตต์ (Massachusette Bay) เพื่อสร้างดินแดนในอุดมคติของนิกายพิวริตัน ในค.ศ. 1675 ชาวอาณานิคมทำสงครามอย่างชาวพื้นเมืองอย่างดุเดือดในสงครามพระเจ้าฟิลิป (King Philip's War) ทำให้ชาวพื้นเมืองและชาวอาณานิคมล้มตายมากมาย อาณานิคมพลีมัธและแมสซาชูเซตรวมกันในค.ศ. 1691 รวมเรียกว่า อังกฤษใหม่ (New England)

สมบัติผลัดกันชม คนตายไปก้ล้มลง คนมาใหม่ก้แทนที่

สมัยยุคโบราณ พวกสเปน ยิ่งใหญ่กว่าไทยเรามาก

ใครจะรู้ ว่าวันนี้ สเปนเองต้องกลายเป็นประเทศที่มีหนี้มาก เผลอๆรอบนี้

ประเทศไทยเราอาจจะตั้งกองทุนเวลฟ์ฟันด์ไปซื้อ สินทรัพย์สเปนก้ได้

เชื่อผมเถอะ คนเราที่นึกว่าเก่งแล้ว แน่แล้ว สักวันก้ต้องเจอคนเก่งกว่าแน่กว่า

ประเทศที่ดูถูกพวกเราว่าลิงเหลือง วันนี้ต้องแบมือขอเงินจีนไปช่วยประเทศ

แบบนี้ก้สมน้ำหน้ามันแล้ว พวก อดีตทาสอังกฤษใหม่

สมบัติก้ผลัดกันชมไป

เห็นด้วยกับ คุณ chukieat30 ครับ
เวลาตัดสินเองครับ
อีกอย่างเท่าที่รู้ ประเทศที่ผลิตทองคำมากที่สุดในโลก คือจีน นี่
ไม่ใช่ เมกา

ต่อไปจีนจะหนักกว่าอเมริกา
เพราะรากฐานระบบเศรษฐกิจยังไม่แน่นดี ก็นำมาปฏิบัติซะแล้วกับคำพูดที่ว่า
"แมวสีอะไรจับหนูได้เป็นพอ" มีความหมายมากกว่าที่เห็นมาก ลึกมาก ลึกขนาดเป็นเรื่องการเมืองเลยทีเดียว

ตอนนี้มันเป็นฝุ่นใต้พรมที่Multipleไปเรื่อยๆ รอวันเปิดเผย นักการเมืองไทยที่โกงกินกันว่าแน่

ที่จีน 66ล้านคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสรวมในท้องถิ่นต่างๆ ณ ปี45
แล้วปี2554นี้ล่ะ หึหึ

สมาชิกพรรคคอมมิวนิสกระจายไปทั่ว โกงกินไปทั่ว
ขนาดผู้นำคนหนึ่งโกงกินไป 3000ล้านเหรียญ ขอย้ำว่าเหรียญUS
รัฐบาลจีน ชิลๆ เพราะไม่กระทบตัวเองเท่าไหร่ และคนนี้สายสัมพันธ์กับระดับใหญ่เยอะ
เลยรอด

แล้วคิดดู 66 ล้านคน(ปี45)

ฉะนั้นมันอาจอยู่ในProcessกำลังบ่มรอแตกเหมือนตอนที่อเมริกา
ต้องตั้งกฏและตั้งกลตขึ้นอย่างจริงจังหลังจากตัวเองล้มกันดัง
และระบบกวานซี ยังคงมีอยู่ในสังคมจีน

ถึงขั้น นักธุรกิจชาวต่างชาติฟ้องบริษัทจีนว่าไปโกงเขา ศาลดันพูดว่า
"คุณเป็นใคร เราไม่รู้จักคุณ แต่บริษัทที่คุณฟ้องเรารู้จัก แล้วทำไมเราต้องมาเดือดร้อนเพื่อคุณด้วย"
โดยทั้งนี้ไม่รวมเงินใต้โต๊ะ ค่าวิ่งเต้น ค่าต้องจ่ายซื้อวัตถุดิบจีน

ถ้าธุรกิจของคนต่างชาติกำไรนิดเดียว ขาดทุนทันทีเพราะต้นทุนค่ายัดเงินสูงกว่าสินค้ามาก
โดยขั้นต่ำด้วยนะ ถ้าจะทำธุรกิจในจีน ต้องมีเป็นธุรกิจขั้นต่ำ 200ล้านเหรียญ
ไม่งั้นไม่ให้ทำ เพราะไปเปลืองทรัพยากรพลังงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ของเขา

ใครอยากทราบรายละเอียดลองหาสารานุกรมจีนอ่าน

พี่Rocker จีนกำลังขายอยู่ครับ ล่าสุดคือแบรนด์กีฬาหลี่หนิง ไปอยู่ติดกับที่ผลิตไนกี้เลย ที่อเมริกา

มีหนังสือเล่มหนึ่งกล่าวไว้ดีมาก อย่าขายสินค้า เพราะคนจะไม่ซื้ออย่างเต็มใจ
จงขายวัฒนธรรม เมื่อคนรู้จัก ซึมซับวัฒนธรรมเราแล้ว เราพูดอะไรเขาจะเชื่อ
เมื่อนั้น เขาจะซื้อสินค้าเราอย่างเต็มใจโดยไม่สนใจราคาเลย

ขนาดมวยไทย ที่เรามีวัฒนธรรมมานาน ไม่ว่าจะหนัง หรือเสื้อผ้าประจำชาตินางงาม
ฝรั่งก็คิดได้เลย มวยไทย ต้องที่ไทย

แม้เกาหลีจะมีครั้งหนึ่งบอกว่าตัวเองแหละเหนือกว่ามวยไทย โดยจัดนัดปาหี่
ให้คนเกาหลีเล่นเทควันโด ชนะ คนเกาหลี(ที่แทบจะต่อยไม่เป็น)ที่เล่นมวยไทย

เป็นการClaimว่า ข้านี่เก่งกว่ามวยไทย เพื่อวัฒนธรรมเทควันโด และขายสินค้าตัวเองได้
แต่ฝรั่งไม่เชื่อครับ ดูออกว่าเฟค

ตอนหลังเกาหลีเลยเปลี่ยนแผน บอกว่าตัวเองนี่แหละคิดมวยไทย แล้วคนอพยพไปประเทศไทยก็เลยเอาวิชาตัวเองไปด้วย - -!

ถึงขนาดเกาหลีบอกว่ากษัตริย์ตัวเองยิ่งใหญ่กว่าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยทวีปยุโรปเคยป็นเมืองขึ้นของเกาหลี- -!


การล่าอาณานิคมวัฒนธรรมสำคัญมาก จริงๆตอนนี้ละครไทยก็ดังในจีน
ฉะนั้นดาราไทยที่ดัง หากเป็นแบรนให้สินค้าไทย แล้วเอาสินค้าไทยไปขาย ให้คนมาซื้อ ก็ไม่ต่างจากนักร้องเกาหลีแน่ๆที่มาโฆษณามือถือที่ไม่ได้ดีอะไรเลย แต่Idolตูใช้ ก็เลยอยากใช้

^^ เขียน:พี่Rocker จีนกำลังขายอยู่ครับ ล่าสุดคือแบรนด์กีฬาหลี่หนิง ไปอยู่ติดกับที่ผลิตไนกี้เลย ที่อเมริกา

มีหนังสือเล่มหนึ่งกล่าวไว้ดีมาก อย่าขายสินค้า เพราะคนจะไม่ซื้ออย่างเต็มใจ
จงขายวัฒนธรรม เมื่อคนรู้จัก ซึมซับวัฒนธรรมเราแล้ว เราพูดอะไรเขาจะเชื่อ
เมื่อนั้น เขาจะซื้อสินค้าเราอย่างเต็มใจโดยไม่สนใจราคาเลย

ขนาดมวยไทย ที่เรามีวัฒนธรรมมานาน ไม่ว่าจะหนัง หรือเสื้อผ้าประจำชาตินางงาม
ฝรั่งก็คิดได้เลย มวยไทย ต้องที่ไทย

แม้เกาหลีจะมีครั้งหนึ่งบอกว่าตัวเองแหละเหนือกว่ามวยไทย โดยจัดนัดปาหี่
ให้คนเกาหลีเล่นเทควันโด ชนะ คนเกาหลี(ที่แทบจะต่อยไม่เป็น)ที่เล่นมวยไทย

เป็นการClaimว่า ข้านี่เก่งกว่ามวยไทย เพื่อวัฒนธรรมเทควันโด และขายสินค้าตัวเองได้
แต่ฝรั่งไม่เชื่อครับ ดูออกว่าเฟค

ตอนหลังเกาหลีเลยเปลี่ยนแผน บอกว่าตัวเองนี่แหละคิดมวยไทย แล้วคนอพยพไปประเทศไทยก็เลยเอาวิชาตัวเองไปด้วย - -!

ถึงขนาดเกาหลีบอกว่ากษัตริย์ตัวเองยิ่งใหญ่กว่าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยทวีปยุโรปเคยป็นเมืองขึ้นของเกาหลี- -!


การล่าอาณานิคมวัฒนธรรมสำคัญมาก จริงๆตอนนี้ละครไทยก็ดังในจีน
ฉะนั้นดาราไทยที่ดัง หากเป็นแบรนให้สินค้าไทย แล้วเอาสินค้าไทยไปขาย ให้คนมาซื้อ ก็ไม่ต่างจากนักร้องเกาหลีแน่ๆที่มาโฆษณามือถือที่ไม่ได้ดีอะไรเลย แต่Idolตูใช้ ก็เลยอยากใช้

ชอบคํานี้มากครับ "การล่าอาณานิคมวัฒนธรรม" นี่คือสิ่งที่ผมอยากสื่อ แต่ผมนึกคําไม่ออกครับ
เห็นด้วยกับพี่ครับ เรื่องการขยาย อาณานิคมวัฒนธรรม ละครไทยไม่ได้ดังในจีนนะครับ จริงๆดังใน เขมร ลาว ด้วยครับ
โดยเฉพาะ เขมร กับ ลาว นี่จะรู้จัก ดารา ไทย ดีครับ มีการนําละครไทยไปขายให้ร้านเช่า VDO มากมาย ในเพื่อนบ้านเราครับ ก็คล้ายๆกับที่ คนไทย ดู ละคร เกาหลี ญี่ปุ่น จีน แหละครับ

บ้านเราตอนนี้สังเกตุ Trend Culture 2 อันใหญ่คือ ฝาก ตะวันตกก็ เมกา ส่วนเอเซีย ก็ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี
สังเกตุ จากการแต่งกายของวัยรุ่นทั่วไปนะครับ ตาม สยาม MBK จัตุจักร มีเป็นกลุ่มๆเลย และในแต่ละ ฝาก ยังมี Sub Group อีก เอเซีย วัยรุ่นหนุ่มๆก็แต่งแบบ ดงบังชิงกิ X-Japan ก็มี เมกา ไปจัตรุจักร จะเจอ Cow Boy Blue Grass ,Hip Hop R&B etc

ขณะเดียวกัน เสื้อ กางเกง มวยไทย จะขายดีในกลุ่มฝรั่ง ในต่างแดน เช่นกัน แต่ก็ยังเทียบ ไม่ได้ กับ ข้างบนที่กล่าวครับ

ผมอาจจะลำเอียงไปบ้างเพราะคนใกล้ตัวผมก็เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ จริงอยู่ว่าปัญหาคอรัปชั่นนั้นมีจริง และมียิ่งมีมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้นำไม่ได้ตระหนัก ถึงได้มีหนังประวัติศาสตร์ตอนพรรคครบรอบ 60 ปี และปีนี้ที่พรรคครบรอบ 100 ปี เพื่อปลุกระดมให้ประชาชนเข้าใจ ว่าถ้าคอรัปชั่นที่มีมากอยู่อย่างทุกวันนี้ จีนจะเป็นเหมือนเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ที่มีแค่ 4 ตระกูลที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่ง ระบบตรวจสอบทางสังคมก็เป็นไปอย่างเข็มแข็งผ่าน blog ต่างๆ ระบบการขับเคลื่อนประเทศแบบจีน ก็เป็นแบบที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะรวมศูนย์, ตรวจสอบกันเองเป็นตาข่าย, และนโยบายต่อเนื่อง ไม่ใช่มาแบบประชานิยมเหมือนกับหลายๆ ประเทศ

ส่วนที่มีข่าวลือ รายใหญ่ๆ ก็คงจะเป็นนายกเวิน ที่มีหุ้น Ping An (คนก่อตั้งเป็นคนขับรถให้เวินมาก่อน) ภรรยายังควบคุมบริษัทหยก และเป็นบริษัทเดียวที่สามารถรับรองหยกได้ ส่วนลูกชายก็เป็นเจ้าของ private equity อันโด่งดัง อันนี้รวยจริงๆ แต่โชคร้ายมีดี เพราะว่าเกิดแผ่นดินไหวมี Sichuan เลยอาศัยช่องนี้ทำให้ประชาชนรัก ว่ากันว่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว คงจะแย่ไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลังพ้นตำแหน่งก็อาจจะมีการไล่เช็คบิลย้อนหลัง

Innovation จีนตระหนักดี แต่ model ที่เค้าจะทำจะคล้ายญี่ปุ่น/เกาหลี/แม้กระทั่งอเมริกา คือเริ่มจาก learning economy -> innovative economy ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วง innovate ครับ อาจจะเยาะเย้ยก็ได้ เพราะส่วนใหญ่คือการ reverse engineer ที่มีการต่อยอดเพื่อให้เข้าถึงคนส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้อเมริกันเคยทำ โดยอาศัยสิ่งประดิษฐ์ต้นแบบจากยุโรป ก่อนที่ตัวเองจะมาต่อยอดให้ถูกและใช้ได้กับคนส่วนใหญ่

ส่วน Italy และ CIC จริงๆ จุดกำเนิดของ CIC นี่คือต้องลงทุนในสิ่งที่ประเทศขาดแคลน ซึ่งรวมถึง know-how, technology, และ brand นอกเหนือจากทรัพยากรธรรมชาติ พอร์ตการลงทุนถือเป็นความลับไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด มีการซื้อ fix-income/CB ของบริษัททำเหมืองหลายแห่ง แต่ไม่เคยได้ยินว่าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางอื่นๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของธนาคารกลางจีนมากกว่า เป็นที่รู้กันว่าคนที่ทำงานที่ CIC นั่นสุดยอดมากเพราะต้องคอยคัดเลือกสุดยอด fund manager จากทั่วโลกที่ต่างเสนอตัวกันเข้ามาเป็นทิวแถว

"อาณานิคมทางวัฒนธรรม" คำนี้ยกเครดิตให้ คุณยุค ศรีอาริยะ.

เขียนหนังสือ เต๋าแห่งสังคมศาสตร์ ลองหาอ่านดูนะครับ หนังสือดีมาก แล้วคุณจะไม่เชื่อใครง่ายๆ คิดแบบthesis+nonthesis=synthesis

ประเทศที่พยายามเป็น 1 ด้านกีฬา ก็เพราะว่า ถ้าตัวเองเป็นแชมป์
ประเทศนั้นก็จะผลิตสินค้าแชมป์ออกมาขายนี่แหละครับ
เหตุผลนี้เลยเหมือนกดดันนักกีฬาจีนพอควร เพราะเป็นการหวังผลที่มากกว่าเหรียญทอง

แบรนด์ไทยจากวอลเลย์บอลหญิงไทยก็ได้ จุดขายนอกจากนักวอลเลย์ไทยมีบรรยากาศในทีมดี ก็มีโค้ชอ๊อดผู้ชายร่างใหญ่ใจดี ไม่เหมือนชาติอื่นอีก

แบรนด์กีฬาไทยFBTจริงๆถ้าไปSynergyกับบริษัทปรับภาพลักษณ์ธุรกิจหน่อย + วิทยาศาสตร์การกีฬาknow howจากต่างประเทศ และมีช่องทางจำหน่ายต่างประเทศ
นักกีฬาไทย+Teaserโฆษณา แค่นี้ก็แหล่มแล้ว

กระทรวงกีฬากลายเป็นคนหาเงินเข้าประเทศเลยนะเนี่ย
เกาหลีเอากระทรวงวัฒนธรรมดัน

โอ้ มีผู้สนิทข้างในมาเล่า ดีจัง

ที่ผมอ่านมา เขาก็บอกนะครับ ว่ารัฐจีนตระหนักเรื่องนี้มาก คอรัปชั่น
และพยายามสร้างรากฐานทางจิตใจให้โตทัน

เพราะการเอาพ่อค้ามาเป็นสมาชิกพรรค แน่นอนว่าเก่งเรื่องการหาเงิน แต่คนที่เชิญคนเหล่านี้มาช่วย ก็พยายามพัฒนาเรื่องจิตใจทำเพื่อส่วนรวมด้วย ไม่ใช่หาเงินอย่างเดียว


คนเก่งเยอะจริงครับ ผมยอมรับ แต่ยังมีข้อกังขาว่าเจตนารมณ์ผู้นำจีนก่อนจะมาปฏิรูปเปิดเสรีต้องการว่า

ความคิดที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมของพวกคนเก่งๆจะตามทัน การหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไหม

ชอบแนวคิด ประเทศ เกาหลี ครับ สถานที่เที่ยว ทะเล แม่นํ้า ภูเขา รวมๆสู้ ไทยไม่ได้นะครับ แต่เค้าพยายาม
ดันท่องเที่ยวโดยการ สร้างละคร แล้ว พอมีละคร ก็มี Story แล้ว เวลาพา นักท่องเที่ยว มา ก็พาไป สถานที่ถ่ายละคร
อย่างร้านกาแฟ Coffee Prince คนไปเที่ยวก็ไปถ่ายรูปกัน หรือ ที่อื่น จากไม่มีอะไรเด่น สร้างจุดเด่น โดยการให้มันมี Story

เมื่อเมษา ผมไปลังกาวี เจริญกว่าก่อนเยอะมากครับ เหตุเพราะ มหาเธร์ ใช้จุดขายของลังกาวี คือ Story ของ
พระนาง มัสซูรี ในทุกProgram Tour จะต้องพาไป สถานที่จําลอง ที่แจ้งว่า ฝังพระศพ ของพระนาง มัสซูรี
แล้วก็มี ของที่ ระลึกขาย เหมือน ใครมาเที่ยว Malya แล้วไปลังกาวี ถ้าไม่ไป ที่ของพระนาง มัสซูรี ก็เหมือนมาไม่ถึง
พอเราไปก็จะมี VDO ฉาย Story ให้ดูใน Museum เป็นห้อง

หากลังกาวี ไม่มี Story พระนาง มัสซูรี อาจไม่เจริญเช่นปัจจุบัน และ Story ของพระนางเป็นมูลความจริงซะส่วนใหญ่
ไม่ใช่ ละคร จึงทําให้เหมือนเราทราบ History ของเกาะด้วย