บล.ธนชาต :กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แนะนำ Overweight ชู LH ได้ประโยชน์มากสุดจากบ้านหลังแรก
Property Sector Overweight News Update
Phannarai Tiyapittayarut | Email:
[email protected]
ครม.ผ่านมาตรการบ้านหลังแรก
* คืนเงินภาษี 10% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 5 ลบ.
* โดยมาตรการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ 22 ก.ย.11-31 ธ.ค.12 สำหรับบ้านใหม่เท่านั้น
* ผู้มีรายได้ระดับกลาง-สูงได้ประโยชน์มากที่สุด
*LH ได้ประโยชน์มากสุด และเป็น Top sector pick ของเรา
คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติมาตรการคืนเงินภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก (ทั้งที่อยู่อาศัยประเภท Low-rise และ High-rise)
ราคาไม่เกิน 5 ลบ./หลัง ซึ่งมาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประชานิยมของรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขมีดังนี้
1. เป็นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
ตามจำนวนที่จ่ายจริง ในอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
2. ผู้มีเงินได้มีสิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละปีเป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่องกันตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่
รวมกันแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
3. การยกเว้นภาษีจะใช้วิธีการหักค่าลดหย่อน ซึ่งผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิ์ครั้งแรกสำหรับเงินได้ในปีที่ได้โอน
กรรมสิทธิ์หรือปีถัดไปก็ได้ โดยสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี
4. ผู้มีเงินได้ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.11 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.12
5. มีเงินได้ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน
6. ผู้มีเงินได้ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่จด
ทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องไม่เคยผ่านการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์มา
ก่อนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน และไม่ใช้บ้านที่สร้างเอง
ความคิดเห็น
เราคิดว่านโยบายนี้จะช่วยเพิ่มความต้องการที่อยู่อาศัยได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่ามาตรการในปี 2009 (หัก
ลดหย่อนภาษีได้ 300,000 บาท สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่) เนื่องจากราคาถูกกำหนดไว้ไม่
เกิน 5 ลบ. และลดหย่อนภาษีได้จำกัดที่ 10% ของมูลค่าบ้าน
ผลประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่แก่ผู้มีรายได้ระดับกลาง-สูง ผู้ซึ่งสามารถซื้อบ้านมูลค่า 5 ลบ. และผู้ที่จ่ายภาษีใน
อัตราที่สูง หากเทียบกับมาตรการปี 2009 กลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับการลดหย่อนภาษีสูงขึ้น หากพวกเขาซื้อบ้าน
มูลค่ามากกว่า 3 ลบ. ตัวอย่างเช่น ซื้อบ้านราคา 5 ลบ. และจ่ายภาษี 37% จะได้รับภาษีคืนสูงสุด 185,000 หรือ
37,000 บาทต่อปี
ผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ลบ./หลัง จะได้ประโยชน์ทางภาษีน้อยกว่าคราวที่ผ่านมา เนื่องจากเงินภาษี
คืนถูกกำหนดไว้ไม่เกิน 10% ไม่ใช่ 300,000 บาท อย่างมาตรการก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น ซื้อบ้านราคา 1 ลบ.
และจ่ายภาษี 10% จะได้ภาษีคืนเพียง 10,000 บาท หรือ 2,000 บาทต่อปี ดังนั้น ประชาชนอาจจะไม่รีบซื้อบ้าน
เพราะมาตรการภาษีนี้
แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ส่งผลบวกต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และน่าจะผลักดันให้มีความต้องการที่อยู่
อาศัยในปีหน้ามากกว่าที่เราคาดไว้ในปัจจุบันที่ 9% เนื่องจากได้ภาษีคืนก็ดีกว่าไม่ได้เลย
มาตรการนี้ทำให้เกิด upside ต่อกำไรของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เราทำบทวิเคราะห์ ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์มาก
สุด คือ LH เนื่องจากมีบ้านในราคา 3-5 ลบ./หลัง ในสัดส่วนที่มากที่สุด ขณะที่ LPN ได้ประโยชน์น้อยสุด
เนื่องจากเกือบ 100% ของโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดมีราคาต่ำกว่า 3 ลบ./ยูนิต นอกจากนี้โครงการส่วนใหญ่
ของบริษัทฯ เป็นโครงการคอนโด ดังนั้น upside จึงมาจากความสามารถในการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งสามารถ
แล้วเสร็จและโอนได้ในปีหน้า เราได้พูดคุยกับทางบริษัทฯ LPN มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอนโด 2 โครงการซึ่ง
ไม่เคยประกาศมาก่อนในช่วง 4Q11 โดยแต่ละโครงการมีมูลค่า 1 พันลบ. หากสมมติให้ทุกยูนิต รวมทั้งโครงการ
ที่เปิดตัวใหม่ซึ่งสามารถโอนได้ในปีหน้าขายได้ทั้งหมด บริษัทฯ จะมีรายได้สูงสุดราว 15 พันลบ. ในปี 2012F สูง
กว่าเป้ารายได้ของเรา และของบริษัทฯ ที่ 14 พันลบ. ราว 7%
เรายังคงแนะนำ OVERWEIGHT กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไทย โดย Top Buys ของเรา คือ LH (ราคาเป้าหมาย 8
บาท/หุ้น) และ LPN (ราคาเป้าหมาย 14 บาท/หุ้น) นอกจากนี้เรายังแนะนำ ซื้อ SPALI (ราคาเป้าหมาย 15.00
บาท/หุ้น), PS (ราคาเป้าหมาย 24 บาท/หุ้น) และ AP (ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท/หุ้น) เราแนะนำ ถือ QH
(ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท/หุ้น) ราคาเป้าหมายของเราอิงประมาณการปี 2011F และเราต้องปรับมาใช้ประมาณ
การปีหน้า (ยกเว้น LPN เนื่องจากเราได้ปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าแล้ว)