Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เท่าที่ดูตอนนี้หนังสือไทยที่อ่านในรูปแบบ ebook เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นแล้วนะครับ ใน ebooks.in.th ก็เริ่มหนาตาขึ้นทั้งหนังสือฟรีและเสียตัง ในค่ายอื่นๆก็เริ่มมีขายหนังสือผ่าน ipad กันแล้ว nation ก็เริ่มแล้ว ผมเห็น ais ก็ลงมาเล่นด้วย dmg ก็มีของตัวเอง ขายหัวเราะก็เอากับเค้าด้วย ในต่างประเทศตอนนี้ยอดขาย ebook แซงหน้าหนังสือจริงไปแล้ว ตอนนี้ se-ed ก็มีแอพในไอแพดนะครับแต่เป็นแอพสั่งซื้อหนังสือ ไม่ได้เป็นรูปแบบของ ebook หรือของไทยในอนาคตต้องโหลดผ่านแอพของแต่ละค่ายหนังสือ เพราะยังไม่มีแกนกลางที่ชัดเจน เพื่อนๆพี่ๆใช้แอพไหนโหลดหนังสือมาอ่านกันบ้างเหรอครับ ผมว่ามันอ่านสบายตาดีนะครับ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่นอนกับลูกแล้วเราไม่อยากเปิดไฟอ่านหนังสือ อ่านผ่านไอแพดสะดวกมากครับ หรี่ไฟไม่ให้จ้า ไม่รบกวนคนที่นอนข้างๆ

ส่วนตัวแล้วอาจจากหน้าจอนานๆไม่ได้ทำให้ปวดตาปวดหัว อ่านจากกระดาษยังรู้สึกดีกว่า

ผมมองว่ามีผลไม่น้อย แต่ก็ไม่น่าจะทำให้หนังสือกระดาษหายไปจากโลกนี้

ผมว่าต่อไปพวก interactive media น่าจะเป็นสื่อที่โดดเด่นมากขึ้นครับ

ฉะนั้นเราจึงเห็น application ของหนังสือพิมพ์/นิตยสาร ทยอยลง iOS/Android กันแล้ว


ส่วนเรื่อง eBook ถ้าเราใช้กับเครื่องอ่าน ก็ํไม่ปวดตานะครับ ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า e-ink (เช่นของ Kindle)

- ผมว่าหนังสือกระดาษไม่น่าจะหายไปครับ แต่พวกนิตยสาร/หนังสือเบาๆสมอง น่าจะเหนื่อยครับ เพราะอ่านแบบ interactive สนุกกว่า มีทั้งภาพ/เสียง (แนะนำ นิตยสาร Mars ใน iPad ครับ สาวๆสวยมาก 555)

ผมว่ามันก็คงค่อยๆปรับเปลี่ยนล่ะครับ แต่คิดว่าการอ่านแบบใช้กระดาษคงไม่หมดไปจากโลกในเร็วนี้
หนังสือพิมพ์นิตยสาร เนื้อหาที่อ่าน เป็นเนื้อหาที่มีเนื้อเรื่องที่ไม่ยาวมากการอ่านบนจอไม่ค่อยปวดตาเท่าไรและรายได้หลักของสื่อเหล่านี้มาจากโฆษณาเป็นหลัก
แต่้ถ้าเป็นนวนิยายหรือเรื่องสั้นผมว่าเวลาอ่านปวดตาเหมือนกันขนาดกระดาษยังปวดเลยครับถ้าอ่านนานๆเพราะใช้เวลาในการอ่านนานมากกว่า

อีกข้อครับ ทุกคนยังไม่มีเงินไปซื้อเครื่องอ่านเหล่านี้ได้ทุกคน อย่างไรหนังสือเป็นเล่มกระดาษก็ยังมีอยู่

ลองอ่านบทความนี้ประกอบครับ พอดีเพิ่งอ่านมา

มุมมอง Digital Magazine จาก @Thinkafe จะโตหรือเป็นได้แค่ “บอนไซ”
http://thumbsup.in.th/2011/09/future-di ... ne-market/

ถ้าตลาดหนังสือ ebook โตได้เรื่อยๆจริง น่าจะกระทบอะไรบ้างครับ ในความคิดผมน่าจะกระทบ ร้านขายหนังสือแมกกาซีนทั่วๆไป หนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ที่รับพิมพ์หนังสืออาจถูกลดปริมาณที่พิมพ์ ผมไม่ได้เดินมาบุญครองมาหลายปีแล้ว เมื่อสองสามวันก่อนได้มีโอกาสไปเดิน ถึงกับแปลกใจมากว่าร้านตู้ขายโทรศัพท์ในมาบุญครองซึ่งภาพแต่เดิมในความคิดจะมีโทรศัพท์หลากหลายรุ่นหลายยี่ห้อวางกันเต็มตู้ ยิ่งโนเกียนี่หลากหลายรุ่นมาก ในปัจจุบันกับกลายเป็นในตู้มีแต่ iphone ipad บ้างก็เป็นแอนดรอย galaxy โทรศัทพ์ธรรมดายี่ห้ออื่นๆหรือแม้กระทั่งโนเกียเองค่อนข้างเหลือน้อยมาก

จริงๆ แล้วต้นฉบับของหนังสือต่างๆ ก็อยู่ในรูปแบบของอิเล็คทรอนิคส์อยู่แล้ว
การจำหน่ายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตน่าจะทำให้นักเขียนใกล้ชิดกับผู้อ่านมากขึ้น
สามารถเพิ่มเติมข้อมูลที่เป็น interactive ได้ และทำให้ราคาจำหน่ายถูกลง
เพราะลดขั้นตอนการขนส่ง หรืกระบวนการจัดจำหน่าย และการจัดเก็บ

อย่างไรก็ตามข้อจำกัด ส่วนหนึ่งน่าจะอยู่ที่ผู้อ่านปลายทางเอง
ซึ่งต้องมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือในการอ่าน..

อีกหน่อยถ้าเทคโนโลยี่ถูกลงเรื่อยๆ เครื่องอ่าน e-book ทั้งหลายถูกลง คนคงนิยมมากขึ้นแน่ๆ มนุษย์ทุกคนชอบความทันสมัย สักวันมันคงเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งในบ้าน เหมือน เครื่องซักผ้า เครื่องเล่นดีวีดี มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ในบ้าน ที่เริ่มมีกันทุกบ้าน (ร้านหนังสือ กับพวกสำนักพิมพ์ต่างๆ คงเหนื่อยขึ้น แต่คงอีกนาน)

อีกอย่าง นักเขียน หรือ หนังสือบางยี่ห้อ ที่กลัวเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ก็อาจไม่สนใจช่องทางนี้ เนื่องจาก การกอปปี้แจกกันมีมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย

ปัญหาลิขสิทธิ์มันคงทำให้บ้านเราต้องหาโมเดลซักแบบของ ebook น่ะครับ แต่ให้เป็นตามเมืองนอกเลยนี่คงยาก เพราะเรามีข้อจำกัดนอกจากลิขสิทธิ์แล้วก็คือกระบวนการจ่ายเงินออนไลน์อีก

ผมมีคนบอกผมว่าใน อเมริกามีร้านคล้าย se-ed คับ ตอนนี้เจ๊งไปแล้วครับ