หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 20, 2011 10:36 pm
โดย ปรัชญา
ช่วงนี้จะได้ยินคำว่า การปรับลดเครดิต ที่นักวิเคราะห์หุ้นสนับสนุนการเก็งกำไร หนังสือพิมพ์ว่ากันถี่ยิบเชียว
ว่าควรปรับพอท์ต(พูดให้มันสวยอย่างนั้นล่ะน้า พูดภาษาชาวบ้าน คำว่าปรับพอท์ตก็คือบอกว่าขายหุ้นได้แล้ว เชียร์ขายว่างั้นเถอะ)

คำว่าลดเครดิต มันเกี่ยวอะไรกับหุ้นที่เราถือที่ไหนกัน
มันปรับลดเครดิตโดยบริษัทชื่อเหมือนขนม เอสแอนด์พี
ลดประเทศนั้น ลดประเทศนี้ (มันเข้าไปมั่วจัดให้ทั่วโลก โดยไม่ได้รับเชิญหรือเปล่า)

จิตวิทยามวลชน พอประกาศปรับลดเครดิตปุ๊บ ก็เหมือนกับส่งสัญญานบอกว่าความน่าเชื่อถือหายไปเยอะแยะ

เราน่าจะหยุดตั้งสติ คิดดูสักหน่อย

ว่าหุ้นที่เราถืออยู่ มีฝาหรั่งต่างชาติ กองทุน สถาบันร่วมกันถือเยอะมั๊ย
หุ้นที่เราถืออยู่ จะได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากการปรับลดเครดิตในครั้งนี้
หุ้นที่เราถืออยู่ ยังมีการเติบโต มีผลประกอบการดีกว่าที่ผ่านมาเปล่า ฯลฯ
หุ้นที่เราถืออยู่ สมควรจะขายตามอารมณ์ตลาดหรือ

ยากจะ เข้าใจ...
(ช่วยอธิบายกันหน่อยว่า หุ้นตัวที่เราถือจะได้รับผลกระทบอย่างไรถ้าไม่เกี่ยวข้องกับประเทศนั้นๆ)

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 20, 2011 11:30 pm
โดย simplelife
เครดิตเรทติ้งแบบ S&P หรือ Moody's มันต่างอะไรกับ SAA Consensus ของหุ้น ? เขาเอาข้อมูลที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แล้วมาบอกแนวโน้ม ว่าโอกาศ default สูงแค่ไหน เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอครับ

ใครจะว่ายังไงก็ช่าง เรื่อง Italy ผมก็ว่ามันน่ากังวลมานานแล้ว ตั้งแต่หลายปีก่อน แค่เครดิตเรทติ้งมันลด ไม่ได้ทำให้ fact มันเปลี่ยนไปเลยว่า public debt มีเท่าไร public budget deficit มีทิศทางยังไง หรือแม้แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะมากหรือน้อยเท่าไร

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 12:28 am
โดย cookclick
การที่พวกนี้มาวิเคราะห์อย่างโน้นอย่างนี้แล้วราคามันก็ขึ้นๆลงๆเวอร์ก็เป็นเรื่องดีนิครับ เพราะถ้าไม่มีพวกคนเหล่านี้เราก็อดที่จะสามารถซื้อหรือขายหุ้นในราคาที่ไร้เหตุผล หรือแปลว่าเราหมดสิทธ์กำไรเยอะๆนั้นเอง

ถ้าตลาดหุ้นเกิดมีประสิทธิภาพขึ้นมา(efficient market)พวกเราก็คงจบกัน :'O

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 8:37 am
โดย madseason
เครดิตเรทติ้งแบบ S&P หรือ Moody's มันต่างอะไรกับ SAA Consensus ของหุ้น ? เขาเอาข้อมูลที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แล้วมาบอกแนวโน้ม ว่าโอกาศ default สูงแค่ไหน เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอครับ
เครดิตเรตติ้งมีข้อแตกต่างจาก ssa consensus ตรงที่ว่าเมื่อเครดิตเรตติ้งถูกปรับลดลงจะทำให้ ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศหรือบริษัทนั้นๆสูงขึ้นนะครับ สมมุติ ประเทศ A+ ออก bond จ่ายดอกเบี้ย 5% ประเทศ A อาจต้องจ่ายดอกเบี้ย 5.5% ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมภาระหนี้ที่มีอยู่แล้วครับ

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 11:35 am
โดย simplelife
madseason เขียน:
เครดิตเรทติ้งแบบ S&P หรือ Moody's มันต่างอะไรกับ SAA Consensus ของหุ้น ? เขาเอาข้อมูลที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แล้วมาบอกแนวโน้ม ว่าโอกาศ default สูงแค่ไหน เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอครับ
เครดิตเรตติ้งมีข้อแตกต่างจาก ssa consensus ตรงที่ว่าเมื่อเครดิตเรตติ้งถูกปรับลดลงจะทำให้ ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศหรือบริษัทนั้นๆสูงขึ้นนะครับ สมมุติ ประเทศ A+ ออก bond จ่ายดอกเบี้ย 5% ประเทศ A อาจต้องจ่ายดอกเบี้ย 5.5% ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมภาระหนี้ที่มีอยู่แล้วครับ
หลายสัปดาห์ก่อน ที่ s&p ปรับลดเครดิต US ราคาพันธบัตรสูงขึ้น ดอกเบี้ยลดลงด้วยซ้ำไปครับ

อย่าไปคิดว่าตลาดหรือคนในตลาดไม่มีความรู้ ขนาดต้องรอให้ credit rating agency เป็นคนบอกว่าอะไรเสี่ยง อะไรไม่เสี่ยงเลยครับ

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 2:38 pm
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
ท้ายสุดก็โลภและกลัวครับ

ในอารมณ์ไม่มีเหตุผล
คิดไปปวดหัวป่าวๆ ณ เวลานี้มีแต่อารมณ์

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 2:40 pm
โดย Golden Stock
ผมว่าอย่าไปต่อว่ากันเลย มันคนละหน้าที่กัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปดีกว่าครับ

บริษัทเครดิตเรทติ้ง เขาก็มีหน้าที่ในการจัดอันดับเครดิต นั่นก็ทำไป ถ้าไม่มีใครมาวิเคราะห์คุณภาพ และความเสี่ยงของตราสารหนี้ต่างๆ คนที่จะมาซื้อตราสารหนี้ จะทราบได้อย่างไรว่าเงินเขาจะปลอดภัยแค่ไหน ? เมื่อครบกำหนดมีโอกาสจะได้เงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ ? และควรได้รับผลตอบแทนเท่าไหรจึงจะเหมาะสมกับความเสี่ยง ?

เช่น PTT ออกหุ้นกู้ อย่างนี้คนส่วนใหญ่รู้จัก มีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ และแทบจะผูกขาดธุรกิจพลังงานในประเทศไทย

แล้วถ้า BLISS ออกหุ้นกู้ในระยะเวลาเท่ากับ PTT และให้ผลตอบแทนที่เท่ากันล่ะ และถ้าเผอิญไปเจอคนขายที่อยากขาย อาจจะบิดเบือนข้อมูล ว่าบริษัทนี้ดีอย่างนี้ ดีอย่างโน้น ลงทุนซื้อได้ไม่มีปัญหา แล้วถ้าคนซื้อเชื่อจะเป็นอย่างไร ? คนที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น อาจจะไม่รู้สถานะบริษัทนี้เป็นอย่างไร เพียงแต่ทราบว่าบริษัทนี้ขายโทรศัพท์มือถือ มีสาขาเยอะแยะ หากเขาลงทุนไปโดยไม่ทราบถึงคุณภาพ และความเสี่ยงของหุ้นกู้ของ BLISS แล้วเงินที่เขาจะลงทุนไปมีความเสี่ยงแค่ไหน ?

ถ้าบริษัทจัดอันดับเครดิตไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ป่านนี้คงเลิกกิจการไปนานแล้ว ไม่ใช่มีความสำคัญ และได้รับความเชื่อถือแบบในปัจจุบันนี้

ส่วนนักลงทุนในตลาดหุ้น มีหน้าที่วิเคราะห์ว่าบริษัทจัดอันดับเครดิตไปเพิ่ม หรือไปลดอันดับเครดิตของประเทศ หรือของบริษัทใด นั้นมีผลกระทบต่อหุ้นที่ตัวเองถืออย่างไรบ้าง ?

กรณีไม่กระทบต่อผลปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แล้วเราจะไปเดือดร้อนอะไร ? อาจจะหงุดหงิดเพราะราคาหุ้นที่เราถือพลอยลงไปด้วยอย่างนั้นหรือ ?

กรณีกระทบต่อหุ้นที่เราถือ เราก็ควรประเมินต่อไปว่ากระทบทางตรง หรือทางอ้อม ? ขนาดของผลกระทบ ? แล้วเราจะตัดสินใจอย่างไร ?

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 6:01 pm
โดย chukieat30
Golden Stock เขียน:ผมว่าอย่าไปต่อว่ากันเลย มันคนละหน้าที่กัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปดีกว่าครับ

บริษัทเครดิตเรทติ้ง เขาก็มีหน้าที่ในการจัดอันดับเครดิต นั่นก็ทำไป ถ้าไม่มีใครมาวิเคราะห์คุณภาพ และความเสี่ยงของตราสารหนี้ต่างๆ คนที่จะมาซื้อตราสารหนี้ จะทราบได้อย่างไรว่าเงินเขาจะปลอดภัยแค่ไหน ? เมื่อครบกำหนดมีโอกาสจะได้เงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ ? และควรได้รับผลตอบแทนเท่าไหรจึงจะเหมาะสมกับความเสี่ยง ?

เช่น PTT ออกหุ้นกู้ อย่างนี้คนส่วนใหญ่รู้จัก มีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ และแทบจะผูกขาดธุรกิจพลังงานในประเทศไทย

แล้วถ้า BLISS ออกหุ้นกู้ในระยะเวลาเท่ากับ PTT และให้ผลตอบแทนที่เท่ากันล่ะ และถ้าเผอิญไปเจอคนขายที่อยากขาย อาจจะบิดเบือนข้อมูล ว่าบริษัทนี้ดีอย่างนี้ ดีอย่างโน้น ลงทุนซื้อได้ไม่มีปัญหา แล้วถ้าคนซื้อเชื่อจะเป็นอย่างไร ? คนที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น อาจจะไม่รู้สถานะบริษัทนี้เป็นอย่างไร เพียงแต่ทราบว่าบริษัทนี้ขายโทรศัพท์มือถือ มีสาขาเยอะแยะ หากเขาลงทุนไปโดยไม่ทราบถึงคุณภาพ และความเสี่ยงของหุ้นกู้ของ BLISS แล้วเงินที่เขาจะลงทุนไปมีความเสี่ยงแค่ไหน ?

ถ้าบริษัทจัดอันดับเครดิตไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ป่านนี้คงเลิกกิจการไปนานแล้ว ไม่ใช่มีความสำคัญ และได้รับความเชื่อถือแบบในปัจจุบันนี้

ส่วนนักลงทุนในตลาดหุ้น มีหน้าที่วิเคราะห์ว่าบริษัทจัดอันดับเครดิตไปเพิ่ม หรือไปลดอันดับเครดิตของประเทศ หรือของบริษัทใด นั้นมีผลกระทบต่อหุ้นที่ตัวเองถืออย่างไรบ้าง ?

กรณีไม่กระทบต่อผลปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แล้วเราจะไปเดือดร้อนอะไร ? อาจจะหงุดหงิดเพราะราคาหุ้นที่เราถือพลอยลงไปด้วยอย่างนั้นหรือ ?

กรณีกระทบต่อหุ้นที่เราถือ เราก็ควรประเมินต่อไปว่ากระทบทางตรง หรือทางอ้อม ? ขนาดของผลกระทบ ? แล้วเราจะตัดสินใจอย่างไร ?

+1 เห็นด้วยครับ

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 9:09 pm
โดย simplelife
ผมไม่ได้รังเกียจอะไรกับ credit rating agency หรอกครับ

ผมพยายามบอกว่าทุกคนเข้าใจ underlying cause ของการเพิ่มหรือลดเครดิตดี เข้าใจมาก่อนที่ agency จะประกาศลดเครดิตซะอีก เราควรจะคิดด้วยตัวของเราเองได้ก่อนที่เขาจะประกาศปรับลดเครดิตซะอีก ลองมองในทางกลับกัน ถ้าปัจจัยต่างๆมันแย่มากๆในสายตาเรา แต่เครดิตไม่ลด แปลว่าเราไม่ต้องห่วงหรือครับ ?

ดังนั้น การเพิ่มหรือลดเครดิต ก็เป็นแค่การยืนยันสิ่งที่เราค่อนข้างรู้อยู่แล้ว ซึ่งสำหรับผมมันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไรเลยครับ ถึงธุรกิจจะทำเงินได้แค่ไหนก็ตาม

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 3:18 pm
โดย Shaihalud
อยากให้ดูสารคดีมะกัน เรื่อง insiderแล้วจะเข้าใจว่าบริษัทพวกนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย น่าจะมีบริษัทจัดความน่าเชื่อถือของบริษัทเรตติ้งด้วยนะครับ ฮาฮา

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 3:27 pm
โดย Jeng
Shaihalud เขียน:อยากให้ดูสารคดีมะกัน เรื่อง insiderแล้วจะเข้าใจว่าบริษัทพวกนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย น่าจะมีบริษัทจัดความน่าเชื่อถือของบริษัทเรตติ้งด้วยนะครับ ฮาฮา
เรื่อง inside job ไม่ใช่หรือ

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 3:51 pm
โดย Shaihalud
ขอโทษด้วยครับ รีบพิมพ์แบบเบลอๆ :wall:

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 4:24 pm
โดย pornchal
แล้วทำไงต่อดีละ ไปไม่ถูกแล้ว งง

Re: ลดเครดิต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 4:43 pm
โดย Jeng
อ้าว ไหนบอกว่าจะมี 100 ล้าน ห้ามงง ซิ