Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตามชื่อเลยครับมาลองดูว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าง กับนโยบายของ fed ที่หลายๆคนรอกันมานานว่าจะออกมาเป็นอะไร

ผมตามอ่านข่าว แต่ไม่ค่อยเจอเท่าไรว่าผลกระทบจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ห็นส่วนใหญ่ก็พูดแต่ว่า yield curve จะ flat แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ด้านอื่นๆ

เลยมาขอตั้งกระทู้ขแความคิดเห็นและความรู้พี่ๆเพื่อนๆครับ (กระทู้แรกที่ตั้ง ฉลองวัน set แดงเดือด)

ผมมองว่า ระยะสั้น จะเกิดการไหลกลับของการทำ carry trade จากประเทศที่ดอกเบี้ยต่ำมากๆ เช่น ญี่ปุ่นและสหรัฐ เนื่องจาก ธนาคารและกองทุนจะเจอแรงกดดันของต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจาก yield สินทรัพย์ระยะสั้น ภาพที่เห็นก็เป็นอย่างวันนี้ ผมคิดว่าที่หุ้นตกแรงขนาดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งหมด แต่เป็นเพราะ operation twist ที่สินทรัพย์เสี่ยง เช่นcommodities และ สินทรัพย์ในประเทศเกิดใหม่ ถูกเทขายและ กลับไปหา เงินตระกูลดอลลา และเย็น

ระยะยาว เนื่องจากหนี้ระยะยาวถูกลง พวก mortgage loan อาจมีมากขึ้น บริษัทอาจกู้มาขยายกิจการมากขึ้น ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ตัวเลขอสังหา และการจ้างงานคงค่อยๆปรับตัวในทางที่ดี

ปัญหา เคยอ่านเจอว่าทุกวันนี้ mortgage loan มันก็อยู่ในราคาที่น่าดึงดูดอยู่แล้ว แต่ที่คนไม่มากู้เพราะไม่มีเงิน เพราะฉนั้น ต่อให้ถูกกว่านี้ก็คงไม่กู้มาซื้อบ้านอยู่ดี และสุดท้ายไม่รู้แบงค์จะปล่อยกู้รึเปล่า ตอน QE ก็ไม่ปล่อย หวังว่าครั้งนี้นโยบายนี้จะมีประสิทิภาพกว่าเดิม

ปล.ตอนนี้พอร์ตผมก็ twist มาก ( I am in the heaven, somewhere higher than the Doi)

Operation Twist คือการปรับสัดส่วนการถือพันธบัตรของ Fed ให้เป็นระยะยาวมากขึ้น และลดการถือพันธบัตรระยะสั้น พูดให้ง่ายก็คือ Fed ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ (ถือพันธบัตร) ขยายอายุการชำระหนี้ให้ลูกหนี้ (ไม่ดึงเงินออกจากลูกหนี้ หรือออกจากระบบ)

วัตถุประสงค์ของ Operation Twist คือการกดดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำกว่าระยะสั้น เพื่อให้สภาพคล่องยังอยู่ในระบบ และให้มีดอกเบี้ยต่ำๆ เพื่อกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมกู้เงินมาผลิต ประชาชนกู้เงินหรือรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้เงินในระบบมีการหมุนเวียน (Multiplier effect จะทำงานเอง)

ตลาดคาด Operation Twist เพราะเหมาะสมกว่าและมี side effect น้อยกว่า QE (Quantitative Easing) ที่เป็นการพิมพ์เงินเข้ามาในระบบอย่างที่เห็นใน QE1 & QE2(ซื้อแต่พันธบัตรระยะสั้นๆ) ซึ่งมี side effect ที่น่ารังเกียจตามมาคือ 'เงินเฟ้อ' ที่รุนแรงและมีการเก็งกำไรในราคา asset ที่เกินจริงจนทำให้เกิดฟองสบู่แตกในที่สุด ที่สำคัญคือเป็นที่เห็นกันอยู่แล้วว่า QE ไม่ประสบผลสำเร็จ

นอกจากนี้ Operation Twist นั้น Fed ไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม เหมาะกับเศรษฐกิจของสหรัฐปัจจุบันที่กำลังมีเงินเฟ้อ
อีกทางหนึ่งที่ตลาดคาดว่า Fed จะทำคือ ลดดอกเบี้ยที่จ่ายให้แบงก์เวลาแบงก์เอาเงินมาฝากไว้กับ Fed ซึ่งเท่ากับผลักดันให้แบงก์เอาเงินไปปล่อยกู้ มากกว่าจะเอามาฝากกับ Fed เฉยๆ

ที่มา http://www.biztempnews.com/

ผมว่าน่าจะส่งผลดีกับประเทศต่างๆในโลกนะครับ อาจจะได้รับผลดีมากกว่า usa เสียอีก เพราะ yield curve ของประเทศต่างๆในโลกก็จะถูกบิด(twist)ตามอเมริกาบ้างไม่มากก็น้อย ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง ทำให้ธนาคารชาติในประเทศที่เศรษฐกิจยังดี เช่น ไทย กล้าดำเนินนโยบายที่aggresiveเช่นชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้นไม่ถูกบีบมากเหมือนช่วง 2010 และรัฐบาลประเทศเหล่านี้ก็จะมีเพดานงบการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มมากขี้น เพราะความกังวลเรื่กล้าดำเนินนโยบายที่aggresiveองการชะลอของโลกทำให้ธนาคารชาติและรัฐบาลมุ่งมองไปที่เป้าหมายเดียวกันมากขึ้นคือ เน้นรักษาอัตราการเติบโตมากกว่าเสถียรภาพด้านราคา

ส่วนผลกระทบกับราคาหุ้นในระยะสั้นดูไม่ออกครับ แต่ในระยะยาวน่าจะเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ
(ตลาดหุ้นจะมีผลตอบแทนที่ดี เมืออัตราการเติบโตกำไรดี เงินเฟ้อต่ำ อัตราดอกเบี้ยต่ำ)

ที่ผมงง คือ พันธบัตรของใครครับ เนื่องจากหน้าที่นึงของแบงค์ชาติ คือ ออกพันธบัตร แล้วจะไปซื้อพันธบัตรของใคร หรือคือการซื้อคืนจากตลาดคับ ขอโทษด้วยอ่อน econ คับ

พันธบัตรของกระทรวงการคลัง แห่งรัฐบาลสหรัฐ แต่ Fed (ธนาคารกลางแห่งชาติ) พิมพ์เงินออกมาซื้อครับ

ดูปริมาณเงินที่ fed อัดเข้าระบบดูแล้วจะอึ้งๆๆๆครับว่ากล้าดีเดือดจริงๆ

เรียนถามผู้รู้ครับ พอจะทราบไหมครับว่า

ถ้าออก โอเปอทวิสแล้ว จะออกคิวอี3 ได้หรือไม่

เพราะการทำโอเปอทวิสทำให้ดอกพันธบัตรระยะยาวลดลง แบบนี้ผู้ที่เป็นเจ้าหนี้

ที่ปกติจะได้ดอกอันน้อยนิด ถูกลดดอกลงอีก แบบนี้ผู้ให้กู้ควรทำเยี่ยงไรครับ

และการออกโอเปอทวิสจะทำให้ตลาดหุ้นและราคาโภคภัณลง แต่ เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง

ถ้าตลาดมันลงมากจนเกินไป เค้าจะออกคิวอี3ไหมครับ

ผมขอ คนที่แข็งๆอีค่อนมาตอบหน่อยนะครับ

เป้าหมายของอเมริกาคือ ทำให้แบงค์ปล่อยกู้เพื่อให้ธุรกิจขยายตัว และผลลัพสุดท้ายที่ต้องการที่สุดก็คือการจ้างงานที่สูงขึ้น
พอจ้างงานสูงขึ้นคนมีเงินและเริ่มใช้จ่ายเศรษกิจก็กลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างก็จบ ถือว่าประสบความสำเร็จ (QE ก็เพื่อให้money supply เพิ่มอย่างมหาศาล + ดอกต่ำอีก ก็เพื่อให้เกิดแบบนี้ละ)
แต่ผลลัพย์ที่ได้ไม่เป็นอย่างที่ fed คิด ธนาคารขาดความเชื่อมั่นไม่ปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจง่ายๆ(เหมือนไทยตอนต้มยำกุ้งเลย กรรมตามสนอง) แล้วยังเอาเงินที่มีอย่างเหลือเฟือ+ต้นทุนโครตถูกนั้น ไปปล่อยให้พวกเก็งกำไร เอามาเล่นหุ้น เล่นcommodity จนทำให้ราคา ดัชนีเหล่านี้ขึ้นสูงใน3ปีที่ผ่านมา แต่จริงๆที่เป็นแบบนั้นไม่เป็นผลดีเลย เพราะเป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อซึ้งกลับไปซ้ำเติมภาคธุรกิจซ้ำอีก
ตอนนี้อเมริกาไม่ได้ขาดสภาพคล่องหรอกครับออกจะเกินด้วยซ้ำ แล้วยังหนี้ภาครัฐที่สูงจนต้องปรับเพดานหนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ผมจึงคิดว่าอเมริกาจะไม่ออกQEแน่ ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ปักหัวลงให้เห็นจังๆ

Operation Twist คือการสลับอายุพันธบัตร FED ขายพันธบัตรระยะสั้น
และซื้อพันธบัตรระยะยาวจากรัฐบาลด้วยเงินที่เท่ากัน ก็คือการยืดหนี้แหละ เหตุผลที่
อธิบายเรื่องดอกเบี้ยมันเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ต้องทำ เพราะ รัฐบาลอมเริกาไม่มีตัง
ส่วนอีก 6-10ปีจะมีตังไม่มีตังมันเรื่องอนาคต ไม่มีใครสนใจหรอก
Operation Twist คงทำจนพันธบัตรระยะสั้นที่ FED ถืออยู่หมดลง
และเมื่อ USD แข็งไปถึงจุดนึง Asset ทั่วโลกหัวทิ่มลงไปลึกพอ แล้วเอาตัวเลขทั้ง
หมดเข้าคอมพิวเตอร์ คำนวณมาแล้ว อเมริกาได้กำไรมากที่สุด QE3 ก็จะออกมาช่วยชาวโลก
ถึงเวลานั้น นอกจาก อเมริกาจะได้ตังแล้ว ยังจะได้กล่องด้วย ไม่เหมือน QE2 ที่ คนด่ากันทั้งโลก

รบกวนถามเพิ่มหน่อยครับ
พันธ์บัตรระยะสั้นที่เฟดจะขายออกไป
- ขายให้ใครครับ
- ราคาที่ขายกำหนดอย่างไรครับ
- มูลค่าและระยะเวลาที่ขาย เท่าไรบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ

FED ขายให้รัฐบาลสหรัฐ
(ทั้ง ธนาคารกลางและรัฐบาล สามารถออกพันธบัตรได้ทั้ง2 หน่วยงาน)
คำถามที่เหลือไม่รู้ (ไม่ค่อยเข้าใจคำถาม)