การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 8:55 am
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 99894.html
SAP
ในตลาดขาลง
เราจะเพิ่มความเสี่ยง 2 เท่า
ดอกแรกคือขาดทุนจากการ short ไปแล้ว
ยังซื้อกลับมาเก็บเข้าพอร์ท ทั้งๆที่ ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง
เราไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงจุดไหน มูลค่าหุ้นในพอร์ทก็จะลดลงได้อีก คือ มีทั้งที่ realized loss ไปแล้ว และ unrealized loss ที่จะตามมา
1. เพิ่มความเสี่ยง 2 เท่า จริงหรือไม่? ..ไม่เข้าใจ ช่วย อธิบายยาวหน่อย หรือให้ตัวอย่าง..ขอบคุณ
2. แล้ว มีแง่ บวกบ้างไหม?
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 9:48 am
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 51878.html
ที่ไม่เคย Short Against Port
ส่วนใหญ่แล้วมักจะไปยึดติดกับ...ต้นทุนราคาหุ้นที่ตัวเองซื้อมา
ทำให้ไม่กล้าที่จะขายหุ้นออกมาก่อน แล้วซื้อคืนภายหลัง
เพราะมัวไปคิดว่าขายขาดทุน ขายไปทำไม
หุ้นพื้นฐานชั้นดี มีอนาคต ปันผลก็มี
ทิ้งแช่ไว้นานๆเดี๋ยวก็ขึ้นมาที่เดิมได้
คนที่คิดแบบนี้
ติด PTT ราคา 400 บาท เมื่อสองปีที่แล้ว
จนป่านนี้ก็ยังไม่หลุด
ขณะที่...คนที่เอาหุ้นที่ติดมาเล่นรอบ
Short Against Port แล้วรับกลับ
ทำไปหลายๆรอบ
หลุดไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับ...
คนที่ไม่เคยแก้ไขพอร์ตด้วยวิธีนี้
ก็ต้องพยายามฝึกฝนให้ชำนาญ
โดยเริ่มด้วยหุ้นจำนวนน้อยๆก่อน
สักพักก็คล่องเอง
ข้อมูลนี้ ถูกไหม ใช้ได้ไหม ? ..ช่วยอธิบาย มากหน่อย
หรือว่า มี ความเสี่ยง 2 เด้ง แบบ ความเห็นแรก.?
Qohelet
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 12:04 pm
การทำ SAP นั้น ต้องใช้ทักษะ การฝึกฝน วินัย การติดตามผล คือใช้เวลาค่อนข้างมาก เพราะความเสี่ยงสูงกว่า L แน่ๆ แต่สูงกว่าสองเท่าหรือไม่นี่ตอบไม่ได้
หลักการง่ายๆ คือ การกำหนด pattern ที่ชัดเจนไว้ แล้ว execute ไปตามนั้น เช่น สมมุติหุ้น X ราคา 100 บาท เราวางแผนการ short ไว้ดังนี้
1. short ออกมา 10% ทุกๆ 5 บาทที่ลง
2. ถ้าหุ้นเด้ง 10% จาก low ให้ cover ซื้อคืนทั้งหมด
ก็เป็นแผนการง่ายๆ downside คือหุ้นหายไปจากมือประมาณ 5% แต่ถ้าหุ้นตกรุนแรงมากๆ คือลงไป 50% เลย ก็อาจจะได้หุ้นเพิ่มประมาณ 30-40% เท่านั้น บางทีทำไปอาจจะไม่คุ้มก็ได้ เพราะถ้าพลาดไปสองสามครั้ง อาจจะเสียหุ้นไป 15% เลยก็ได้
แต่ถ้ามี insight คือรู้ล่วงหน้าได้ว่าหุ้นจะตก ก็ขายไปทั้งหมดแล้วซื้อคืนตอนขึ้น ก็จะได้มากกว่าเยอะ
Tamจัง
Verified User
โพสต์: 189
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 12:18 pm
ผมว่าแนวทางนี้ไม่ใช่ VI นะครับ
เพราะไม่มีใครรู้จุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน
ถ้ารู้คงไม่มานั่ง SAP แล้วครับ รอซื้อต่ำสุดสิใช่ไหม
เพราะไม่มีใครรู้จุดต่ำสุดครับ
คุณขายไปวันนี้ พรุ่งนี้หุ้นขึ้นทำอย่างไรครับ ซื้อกลับมาแพงกว่าเดิม
เท่ากับโดน2เด้ง หุ้นตกขายขาดทุน ซื้อกลับแพงกว่าเดิม
สำหรับ VI ต้องกลับมาพิจารณาว่าบริษัทเป็นอย่างไรมากกว่านะครับ
jeew
Verified User
โพสต์: 99
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 12:44 pm
ระวังจะเสียทั้งไปและกลับ.นะครับ
ถ้าไม่ใช่เซียนเทคนิค อยู่เฉยๆจะดีกว่า...
doctornum
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 3:23 pm
ถ้าอยากทำ SAP ต้องไปศึกษาแนวคิด DSM จาก Pantip ครับ อธิบายละเอียดมาก แต่ต้องถามตัวเองว่าคุณเหมาะกับแนวนั้นจริงหรือเปล่า ต้องคอยตามตลาดทุกๆวันเพื่อสร้างกระแสเงินสด ถ้าเป็นตลาดขาลง ได้เงินสดแน่นอน ดีกว่าถือไว้เฉยๆ แต่ถ้าตลาดหักหัวขึ้นก็อาจซื้อคืนไม่ได้ครับ
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 5:18 pm
SAP กระบวนท่าขายแพงซื้อถูก
อีกกระบวนท่าคือซื้อถูกขายแพง
ใครเล่นหุ้นและทำได้แม้กระบวนท่าเดียว
ก็จะรวยที่สุดในโลก ภายในไม่กีปี
SHORT บ้าง LONG บ้าง
แล้วก็เก็บกำไรเข้ากระเป๋า
เก็บได้ทุกวัน
จากหุ้น ไป commodity ค่าเงิน ทอง โลหะเงิน
สิ่งที่ จขกท ถาม นั้นมันยากจนพวก VI ไม่เชื่อว่า การทำ SAP ทำได้จริง
Blueplanet
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 9:55 am
ตามความเข้าใจของผม
คิดว่าการเล่นช๊อต
ต้องมีเครื่องมือ
คนที่ปากบอกว่าอยากทำ มีเครื่องมือในการตัดสินใจ ขายหรือซื้อหรือยัง?
เล่นหุ้นขาลง
ช๊อตขายหุ้น แบบคนเก่งๆเขาพูดกันว่า...หุ้นเท่าเดิม ได้เงินทอน
ช๊อตจาก5.90บาท ไปรับกลับ 5.50บาท ทำนองนี้
คิดค่าคอมไปกลับ2ครั้ง ไม่น้อยเลย
แล้วตอนรีบราวน์เด้งขึ้นขาย
หากหุ้นไปต่อกลับตัว ต้องซื้อกลับ เจอค่าธรรมเนียมการซื้อขายเข้าไป3รอบ
หากไม่กล้าซื้อนั่งมองตาปริบๆมีสิทธิ์ตกรถอีก
ใครเก่งก็เอาแผนมาบรรยายดู
แล้วผมจะเข้ามาชี้ว่าคุ้มแค่ไหนก็ได้นะครับมาถกกัน
เพื่อเพิ่มมุมมอง
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:07 am
ถ้าอยากSOP ต้องเฝ้าจอ...ครับ เหนื่อยหน่อย ไม่มีอิสรภาพเท่าไหร่ เเต่บางครั้งก็สนุกดีเหมือนกันครับ
เเต่ถ้าBrokerของคุณใช้ระบบFIFOในการบันทึกหุ้น อาจทำให้เราสับสนเรื่องต้นทุนที่เเท้จริงได้...
สรุปเเล้วในมุมมองผม
1)SAP ทำได้ในกรณีที่เป็นตลาดขาลง เเต่อาจต้องเฝ้าจอ ถ้าไม่เฝ้าจอก็ต้องใช้วิธีขายไปเเล้วตั้งซื้อรอเป็นเเบบพีระมิด(เหมือนที่พี่Jengสอน)
2) ควรทำในหุ้นที่เรามีกำไรCapital Gainเเล้วเเละคิดว่าราคาหุ้นตัวนี้น่าจะตกชัวร์
3) ถ้ายึดการลงทุนเเบบVI(สำนักBuffett) ไม่มีการทำSAPครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:18 am
torpongpak เขียน: 1)SAP ทำได้ในกรณีที่เป็นตลาดขาลง เเต่อาจต้องเฝ้าจอ ถ้าไม่เฝ้าจอก็ต้องใช้วิธีขายไปเเล้วตั้งซื้อรอเป็นเเบบพีระมิด(เหมือนที่พี่Jengสอน)
2) ควรทำในหุ้นที่เรามีกำไรCapital Gainเเล้วเเละคิดว่าราคาหุ้นตัวนี้น่าจะตกชัวร์
ถ้าเครื่องมือไม่มี มีแต่อารมณ์ ใช้อารมณ์ ใช้ข่าว ใช้ความรู้สึกมาตัดสินใจ
หมดชัวร์
คนที่ทำสำเร็จมี แต่ส่วนน้อย
เพราะการลงแล้วหยุด เหวี่ยงขึ้น กดลงในหุ้นแต่ละตัว ค่าเบต้ามันต่างกัน
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:20 am
ปรัชญา เขียน: torpongpak เขียน: 1)SAP ทำได้ในกรณีที่เป็นตลาดขาลง เเต่อาจต้องเฝ้าจอ ถ้าไม่เฝ้าจอก็ต้องใช้วิธีขายไปเเล้วตั้งซื้อรอเป็นเเบบพีระมิด(เหมือนที่พี่Jengสอน)
2) ควรทำในหุ้นที่เรามีกำไรCapital Gainเเล้วเเละคิดว่าราคาหุ้นตัวนี้น่าจะตกชัวร์
ถ้าเครื่องมือไม่มี มีแต่อารมณ์ ใช้อารมณ์ ใช้ข่าว ใช้ความรู้สึกมาตัดสินใจ
หมดชัวร์
คนที่ทำสำเร็จมี แต่ส่วนน้อย
เพราะการลงแล้วหยุด เหวี่ยงขึ้น กดลงในหุ้นแต่ละตัว ค่าเบต้ามันต่างกัน
เห็นด้วยครับพี่ เสี่ยงอยู่ไม่น้อย
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:22 am
torpongpak เขียน:
เห็นด้วยครับพี่ เสี่ยงอยู่ไม่น้อย
เสี่ยงมากเลย ถ้าเราไม่ชำนาญ
เรามาเล่นเกมส์ที่เราถนัดดีกว่า
Hisoka
Verified User
โพสต์: 175
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:39 pm
ผมเคยลองทำเล่นๆตอนตลาดขาขึ้นที่ผ่านมาครับ ไม่มีหลักการอะไรครับ ใช้ความคิดไปเองล้วนๆ
ส่วนใหญ่จะพลาดแล้วไม่ค่อยกล้าตามกลับไปซื้อ คือ ซื้อกลับในจำนวนหุ้นน้อยกว่าเดิม
แต่ถ้าค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นตลาดขาลง(จากข้อมูลหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราคิดว่าเชื่อได้)
ก็น่าจะลองดูนิดๆหน่อย น่าจะทำได้ง่ายกว่าตอนตลาดขาขึ้น
ถือเป็นประสบการณ์ครับ แล้วทีหลังเราจะรู้ด้วยตัวเองว่าน่าทำ sap หรือไม่อย่างไร
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 3:57 pm
ขอฉายซ้ำ รอบที่ 3
simplelife เขียน: ผมว่าซื้อหุ้นแล้วหวังว่ามันจะขึ้น ก็ยากแล้ว
นี่ถือหุ้นอยู่คิดว่ามันจะขึ้น ก็เลยจะถือต่อ แต่ระหว่างทางมันลงก่อนเลยขายไปก่อน เพราะคิดว่าจะลงไปอีกเพื่อที่จะลงไปซื้อถูกลงไปอีก แล้วถือเพื่อให้ขึ้นไปเยอะๆ ยากซ้อนยาก
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 4:27 pm
เรื่องการยืมหุ้นมาชอตผมถูกใจที่พระเอกเรื่องเจ้าพ่อตลาดหุ้นพูดว่า"กินเลือดคนอื่นไม่เอาหรอกน่าใครจะล้มละลายกันหมดนะยังจะไปโกยเงินเขาอีก ได้มาก็ไม่มีความหมาย" หลังจากที่นางเอกแนะนำให้พระเอกชอตหุ้น
ccc111
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 465
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:33 pm
Short against port สำหรับผม ส่วนใหญ่แล้ว ทำเพื่อต้องการลดความเสี่ยงของพอร์ต
เวลาที่รู้สึกไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง ไม่ได้ทำเพราะต้องการทำกำไร ดังนั้นผมจะไม่ short หุ้นทั้งหมด
แต่จะ short แค่บางส่วนตามแต่สถานการณ์
ถ้าหุ้นลงก็มีเงินเตรียมไว้ซื้อ แต่ถ้าหุ้นไม่ลงก็ยังได้กำไรจากหุ้นที่เหลืออยู่
แม้ว่าจะได้น้อยลง แต่ก็ลดความเสี่ยงในกรณีที่หุ้นลง
การซื้อคืนหุ้นที่ short ไป จะทำเมื่อหุ้นลงไปถึงจุดที่คิดว่าเริ่มมีความปลอดภัยแล้ว
หรือถ้าหุ้นไม่ลงก็จะซื้อคืนเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มปกติแล้ว และราคาหุ้นนั้นยังถูกอยู่
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:36 pm
ศิษย์เซียน007 เขียน: เรื่องการยืมหุ้นมาชอตผมถูกใจที่พระเอกเรื่องเจ้าพ่อตลาดหุ้นพูดว่า"กินเลือดคนอื่นไม่เอาหรอกน่าใครจะล้มละลายกันหมดนะยังจะไปโกยเงินเขาอีก ได้มาก็ไม่มีความหมาย" หลังจากที่นางเอกแนะนำให้พระเอกชอตหุ้น
ขอQuoteไปตอบอีกห้องนึงนะครับชอบมาก ประโยคในเครื่องหมายคำพูดทำให้นึกถึงเสียงพากย์ของ"อาฉี"เลยอะ
เเละเเสดงให้เห็นความเป็น"สุภาพบุรุษนักลงทุน"ของคุณศิษย์เซียน007ครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 10:45 pm
ศิษย์เซียน007 เขียน: เรื่องการยืมหุ้นมาชอตผมถูกใจที่พระเอกเรื่องเจ้าพ่อตลาดหุ้นพูดว่า"กินเลือดคนอื่นไม่เอาหรอกน่าใครจะล้มละลายกันหมดนะยังจะไปโกยเงินเขาอีก ได้มาก็ไม่มีความหมาย" หลังจากที่นางเอกแนะนำให้พระเอกชอตหุ้น
เอิ๊กกกกกกกกกกกกก!
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 11:01 pm
torpongpak เขียน: ศิษย์เซียน007 เขียน: เรื่องการยืมหุ้นมาชอตผมถูกใจที่พระเอกเรื่องเจ้าพ่อตลาดหุ้นพูดว่า"กินเลือดคนอื่นไม่เอาหรอกน่าใครจะล้มละลายกันหมดนะยังจะไปโกยเงินเขาอีก ได้มาก็ไม่มีความหมาย" หลังจากที่นางเอกแนะนำให้พระเอกชอตหุ้น
ขอQuoteไปตอบอีกห้องนึงนะครับชอบมาก ประโยคในเครื่องหมายคำพูดทำให้นึกถึงเสียงพากย์ของ"อาฉี"เลยอะ
เเละเเสดงให้เห็นความเป็น"สุภาพบุรุษนักลงทุน"ของคุณศิษย์เซียน007ครับ
ยินดีคับ พอผมฟังพระเอกพูดตอนแรกก็อึ้งเหมือนกันคมจริงๆ ผมว่ารอลงทุนหุ้นตอนพายุวิกฤตศก.ผ่านไปใหม่ๆก็สามารถทำกำไรได้มากอยู่แล้ว ไปยืมหุ้นมาชอตจะซ้ำเติมนักลงทุนที่เล่นมารืจิ้นอยู่ก็ได้คับ