ภาวะทางจิตใจของตนเองกับสภาพสภาวะของตลาดหุ้น
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 26, 2011 5:52 pm
วันนี้ผมไปโรงพยาบาล ได้ยินผู้ชายสองคนคุยกันครับ
สองท่านเคยเรียนมหาลัยมาด้วยกัน ไม่ได้เจอกันมาสามสิบกว่าปีแล้ว แก่ตัวขึ้นมาเจอกันที่ไหน ก็เจอเพื่อนๆ สมัยก่อนกันตามโรงพยาบาลเพราะเริ่มแก่ตัวโรคก็มาตามติดตัว พวกเขามาหาหมอเพราะเป็นความดันสูงเหมือนกันครับ อีกเรื่องที่เรียกความสนใจของผม คือ ท่านทั้งสองซ้ำกันคือเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น
เมื่อดูจากภายนอก ทั้งสองท่านมีปัญหาทางสุขภาพ แต่ใครก็ตามที่ลงทุนมานานและบริหารจัดการอารมณ์ของตนมานานได้ดีเช่นกันจะพอทราบความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างภาวะทางจิตใจของตนเองกับสภาพสภาวะของตลาดหุ้น เช่นในกรณี ความหวังที่ผิดพลาดของผลประกอบการจากที่คิดไว้ หรือ ความไม่รู้ว่าเหตุการณ์บางอย่างที่คาดหวังไว้จะเป็นไปในทางตรงกันข้ามอย่างนี้ตั้งแต่แรก บางท่านจะเข้าใจได้ดีว่า เมื่อจู่ๆ นักลงทุนสูญเสียความหวังหรือความกล้าหาญที่จะตัดสินใจบางอย่างเพราะไม่มั่นใจตัวเองแล้ว ย่อมมีกระทบถึงอาการของโรคต่างๆ ในร่างกายให้ผุดขึ้นมาได้
ในกรณีของชายสองท่าน ผมคิดว่าอาจมีสาเหตุสำคัญมาจากอิสรภาพทางการเงินที่หลุดลอย หรือ ผมควรพูดว่า มาจากอิสรภาพที่จะคาดหวังแต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้นและพวกเขาพบความผิดหวังอย่างรุนแรง
ความผิดหวังรุนแรงจะสามารถลดระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของนักลงทุนในขณะที่พวกเขากำลังวิตกกับภาวะการหดตัวรุนแรงของตลาดหุ้น ภาวะที่จัดการกับอารมณ์ของตัวเองไมได้กลับไม่ได้ถูกนำมาคิดรวมถึงความเสี่ยงเวลาพวกเขาตัดสินใจที่จะเป็นนักลงทุน
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจ ระหว่าง ความศรัทธาต่ออนาคตของบริษัทกับความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ตามอุดมคติตามการลงทุน ระหว่าง หมดสิ้นแต่กำลังต่อสู้ภายในจิตใจตัวเองอย่างยืนหยัด ถ้ายืนหยัดไมได้ ร่างกายของพวกในไม่ช้าจะอ่อนแอลง พวกเขาต้องพายแพ้ต่อโรคภัยไข้เจ็บที่แอบแฝงในร่างกายของเขาในที่สุด
การสังเกตกรณีชายสองคนกับข้อสมมุติฐานที่ได้ สอดคล้องกับอะไรบางอย่าง เรื่องของเรื่องคือ อัตราการตกลงของตลาดหุ้นในช่วงเวลาของความคาดหวังกับข่าวดีบางอย่างที่เกิดในช่วงก่อนหรือระหว่างเทศกาลกิจเจนั้นจะมีโอกาสเพิ่มสูงกว่าปกติ
ในความเห็นของผม คำอธิบายอัตราการตกลงที่สูงกว่าปกติดังกล่าว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความผันผวนทางการเมือง แต่สาเหตุสืบเนื่องมาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ด้วยความหวัง ว่าเมื่อถึงเทศกาลกินเจแล้ว พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากกินเจ และเมื่อขณะที่เทศกาลกินเจใกล้เข้ามาทุกทีหรือกำลังจะผ่านไป แต่ยังไม่มีข่าวดีที่ช่วยให้กำลังใจเลยแม้แต่ข่าวเดียว พวกเขาอาจหมดกำลังใจ เกิดความผิดหวัง จนตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าช่วงปกติ และส่งผลเลวร้ายต่อระบบคุ้มกันต้านทานโรค
อย่างที่ทราบกันแล้ว ความพยายามใดที่จะฟื้นฟูความเข้มแข็งของนักลงทุนกลับคืนมานั้น สิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการลงทุนก็คือ การแสดงให้ตัวเองเห็นอนาคตบางอย่าง พูดอีกอย่างคือ ใครก็ตามที่มีเหตุผลที่จะเป็นนักลงทุนตามอุดมคติของตนแล้ว ย่อมสามารถอดทนต่อสภาพความผันผวนในตลาดได้มากกว่า ไม่ว่าจะมารูปแบบใดได้เกือบหมดทุกอย่าง พวกเขาสามารถนำมาใช้เป็นคติเตือนใจตนเองและบำบัดจิตใจตนเองจากความผิดหวังโดยอัตโนมัติ และ สร้างสุขภาพจิตพวกเขาให้เข้มแข็งมากพอจะแบกรับสภาพเลวร้ายที่เผชิญอยู่
ผมจำได้ว่า เคยนั่งตรวจรายการงบดุลความสุขอยู่ตอนเย็นวันอาทิตย์วันหนึ่ง งบดุลนี้เป็นการร่างรายการของอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวัน พอครบอาทิตย์ก็จับพวกเขามาแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามหัวข้อความสุข/ความทุกข์ อาทิตย์นั้น พบว่า ผมมีช่วงที่มีความสุขแค่สองช่วงเวลาเท่านั้น ในวันนั้น ผมพบว่าความรู้สึกกำลังเป็นทุกข์จะหมดสภาพหายไปในทันทีที่เรากำหนดภาพชัดเจนแน่นอนของมันออกมาได้อย่างชัดเจน
นั่นหมายความว่า สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังจากตลาดนั้นไม่ได้สำคัญมากหเมื่อเทียบเท่ากับสิ่งที่ตลาดหุ้นคาดหวังจากพวกเขา นั่นต่างหากที่สำคัญอย่างแท้จริง
สวัสดีครับ
สองท่านเคยเรียนมหาลัยมาด้วยกัน ไม่ได้เจอกันมาสามสิบกว่าปีแล้ว แก่ตัวขึ้นมาเจอกันที่ไหน ก็เจอเพื่อนๆ สมัยก่อนกันตามโรงพยาบาลเพราะเริ่มแก่ตัวโรคก็มาตามติดตัว พวกเขามาหาหมอเพราะเป็นความดันสูงเหมือนกันครับ อีกเรื่องที่เรียกความสนใจของผม คือ ท่านทั้งสองซ้ำกันคือเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น
เมื่อดูจากภายนอก ทั้งสองท่านมีปัญหาทางสุขภาพ แต่ใครก็ตามที่ลงทุนมานานและบริหารจัดการอารมณ์ของตนมานานได้ดีเช่นกันจะพอทราบความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างภาวะทางจิตใจของตนเองกับสภาพสภาวะของตลาดหุ้น เช่นในกรณี ความหวังที่ผิดพลาดของผลประกอบการจากที่คิดไว้ หรือ ความไม่รู้ว่าเหตุการณ์บางอย่างที่คาดหวังไว้จะเป็นไปในทางตรงกันข้ามอย่างนี้ตั้งแต่แรก บางท่านจะเข้าใจได้ดีว่า เมื่อจู่ๆ นักลงทุนสูญเสียความหวังหรือความกล้าหาญที่จะตัดสินใจบางอย่างเพราะไม่มั่นใจตัวเองแล้ว ย่อมมีกระทบถึงอาการของโรคต่างๆ ในร่างกายให้ผุดขึ้นมาได้
ในกรณีของชายสองท่าน ผมคิดว่าอาจมีสาเหตุสำคัญมาจากอิสรภาพทางการเงินที่หลุดลอย หรือ ผมควรพูดว่า มาจากอิสรภาพที่จะคาดหวังแต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้นและพวกเขาพบความผิดหวังอย่างรุนแรง
ความผิดหวังรุนแรงจะสามารถลดระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของนักลงทุนในขณะที่พวกเขากำลังวิตกกับภาวะการหดตัวรุนแรงของตลาดหุ้น ภาวะที่จัดการกับอารมณ์ของตัวเองไมได้กลับไม่ได้ถูกนำมาคิดรวมถึงความเสี่ยงเวลาพวกเขาตัดสินใจที่จะเป็นนักลงทุน
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจ ระหว่าง ความศรัทธาต่ออนาคตของบริษัทกับความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ตามอุดมคติตามการลงทุน ระหว่าง หมดสิ้นแต่กำลังต่อสู้ภายในจิตใจตัวเองอย่างยืนหยัด ถ้ายืนหยัดไมได้ ร่างกายของพวกในไม่ช้าจะอ่อนแอลง พวกเขาต้องพายแพ้ต่อโรคภัยไข้เจ็บที่แอบแฝงในร่างกายของเขาในที่สุด
การสังเกตกรณีชายสองคนกับข้อสมมุติฐานที่ได้ สอดคล้องกับอะไรบางอย่าง เรื่องของเรื่องคือ อัตราการตกลงของตลาดหุ้นในช่วงเวลาของความคาดหวังกับข่าวดีบางอย่างที่เกิดในช่วงก่อนหรือระหว่างเทศกาลกิจเจนั้นจะมีโอกาสเพิ่มสูงกว่าปกติ
ในความเห็นของผม คำอธิบายอัตราการตกลงที่สูงกว่าปกติดังกล่าว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความผันผวนทางการเมือง แต่สาเหตุสืบเนื่องมาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ด้วยความหวัง ว่าเมื่อถึงเทศกาลกินเจแล้ว พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากกินเจ และเมื่อขณะที่เทศกาลกินเจใกล้เข้ามาทุกทีหรือกำลังจะผ่านไป แต่ยังไม่มีข่าวดีที่ช่วยให้กำลังใจเลยแม้แต่ข่าวเดียว พวกเขาอาจหมดกำลังใจ เกิดความผิดหวัง จนตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าช่วงปกติ และส่งผลเลวร้ายต่อระบบคุ้มกันต้านทานโรค
อย่างที่ทราบกันแล้ว ความพยายามใดที่จะฟื้นฟูความเข้มแข็งของนักลงทุนกลับคืนมานั้น สิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการลงทุนก็คือ การแสดงให้ตัวเองเห็นอนาคตบางอย่าง พูดอีกอย่างคือ ใครก็ตามที่มีเหตุผลที่จะเป็นนักลงทุนตามอุดมคติของตนแล้ว ย่อมสามารถอดทนต่อสภาพความผันผวนในตลาดได้มากกว่า ไม่ว่าจะมารูปแบบใดได้เกือบหมดทุกอย่าง พวกเขาสามารถนำมาใช้เป็นคติเตือนใจตนเองและบำบัดจิตใจตนเองจากความผิดหวังโดยอัตโนมัติ และ สร้างสุขภาพจิตพวกเขาให้เข้มแข็งมากพอจะแบกรับสภาพเลวร้ายที่เผชิญอยู่
ผมจำได้ว่า เคยนั่งตรวจรายการงบดุลความสุขอยู่ตอนเย็นวันอาทิตย์วันหนึ่ง งบดุลนี้เป็นการร่างรายการของอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวัน พอครบอาทิตย์ก็จับพวกเขามาแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามหัวข้อความสุข/ความทุกข์ อาทิตย์นั้น พบว่า ผมมีช่วงที่มีความสุขแค่สองช่วงเวลาเท่านั้น ในวันนั้น ผมพบว่าความรู้สึกกำลังเป็นทุกข์จะหมดสภาพหายไปในทันทีที่เรากำหนดภาพชัดเจนแน่นอนของมันออกมาได้อย่างชัดเจน
นั่นหมายความว่า สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังจากตลาดนั้นไม่ได้สำคัญมากหเมื่อเทียบเท่ากับสิ่งที่ตลาดหุ้นคาดหวังจากพวกเขา นั่นต่างหากที่สำคัญอย่างแท้จริง
สวัสดีครับ