ชาวหมีและชาวกระทิง
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 28, 2011 7:41 pm
ชาวหมีและชาวกระทิง
ที่มา : http://peacedev.wordpress.com/2011/09/2 ... %E0%B8%87/ธรรมชาติของตลาดหุ้นนั้นมีความผันผวน ขึ้น ๆ ลง ๆ เวลาที่มันซึม ๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวไปในทางใดทางหนึ่งแรง ๆ เราเรียกกันว่า side-way เวลาที่มันพุ่งไม่หยุดเราเรียกมันว่าขาขึ้นหรือ ภาวะตลาด”กระทิง” และเวลามันลงไม่หยุดเราเรียกมันว่าขาลงหรือ ภาวะตลาด”หมี”
ในภาวะตลาดต่าง ๆ เรามักเห็นอาการต่าง ๆ ของผู้คนที่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งจนสังเกตุเห็นได้ชัด
คนที่มีความเห็นอย่างแรงกล้าว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะกระทิงหรือคึกคะนองกันไปกับตลาดขาขึ้นผมขอเรียกว่าชาวกระทิง
เช่นเดียวกับคนที่มีความเห็นอย่างแรงกล้าว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะหมีหรือคึกคะนองเมื่อเห็นตลาดขาลงผมขอเรียกว่าชาวหมี
ประเด็นที่น่าสนใจจนต้องเอามาเขียนลงเป็นบทความมีอยู่ว่า ทำไมทั้งชาวหมีและชาวกระทิงถึงดูคะนองกันจนเกิดเป็นดราม่าให้พบเห็นทั่วไปในสื่อออนไลน์เช่นตามเว็บหุ้นต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งตาม social network อย่าง facebook หรือ twitter (อีกหน่อยคงเป็น Google+)
พฤติกรรมที่ดูแปลกเช่นนี้บางทียากจะหาเหตุผลมารองรับแต่สามารถอธิบายได้ดีจากมุมมองทางจิตวิทยา เราลองมาค้นหาตัวตนของพวกเขากันดูนะครับ
ชาวหมี ในกรณีที่เขาไม่ได้ลงทุนในหุ้น หรือ อาจจะลงทุนในแหล่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหุ้นมาก ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
การที่เขาแสดงออกถึงมุมมองทางด้านลบอย่างเกินพอดีหรือจนออกนอกหน้าทั้งที่ตนเองนั้นก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับเหตุการณ์ของตลาด เหตุผลที่ซ่อนอยู่เป็นเพราะความคับข้องใจของตัวเขาเองโดยที่เขาอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ ซึ่งความคับข้องใจนั้นอาจเกี่ยวข้องกับตลาดโดยตรง เช่น เคยเสียหายอย่างหนักกับตลาดหุ้นมาก่อน หรือในวัยเด็กผู้อุปถัมภ์ของตนอาจเสียหายจากตลาดหุ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตของตน หรืออาจเป็นความเกี่ยวข้องในทางอ้อม อย่างเช่น อาจมีความคับข้องใจในชีวิตที่ถูกเอาเปรียบในโลกของทุนนิยม พวกเขาอาจเคยถูกคู่ค้าในธุรกิจโกงจนเสียหายอย่างหนัก หรืออาจเป็นลูกหนี้ที่ไม่พอใจกับการที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพง ๆ ให้กับนายทุน หรือบางทีอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับตลาดหุ้นอย่างสิ้นเชิงเลย เช่น ความคับข้องใจที่สั่งสมมาในวัยเด็กที่มักถูกแย่งขนมหรือของเล่น หรือแม้กระทั่งความคับข้องใจที่เกิดการติดขัดในการขับถ่ายหรือการฝึกใช้ปากในวัยทารก ก็อาจเป็นที่มาของสาเหตุได้
มุมมองในแง่ร้ายของพวกเขาที่มีต่อตลาดทุนหรือตลาดหุ้นมีต้นตอมาจากการระเหิด ((sublimation) หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการรั่วไหลออกมาอย่างเล็กน้อย) เอาความคับข้องใจที่ฝังรากลึกอยู่ในระดับจิตใต้สำนึกออกมาสู่โลกภายนอก ซึ่งมักจะถูกกระบวนการทางจิตปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่สังคมยอมรับได้ อย่างเช่น แสดงออกมาเป็นคำแนะนำหรือความเห็นที่ดูหวังดี แต่นั่นก็กลับยิ่งดูแปลก เพราะบางทีพวกเขาก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้มากกว่าคนอื่น ๆ ที่เขาพยายามให้คำแนะนำ ชาวหมีบางคนไม่เคยมีแม้แต่ประสบการณ์ในการลงทุนจริง ๆ ด้วยซ้ำไป
พวกเขามักจะมาพร้อมกับข่าวร้ายได้ต่าง ๆ นา ๆ สารพัด แต่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะมักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ในภาวะตลาดกระทิงพวกเขายังคงเป็นหมีอยู่อย่างเงียบ ๆ อาจจะออกมาปรากฎให้เห็นบ้างแต่ค่อนข้างน้อยเพราะไม่ค่อยมีใครฟังเขา แต่ในภาวะตลาดหมีพวกเขาจะดูคึกคะนองมาก ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับภาวะตลาดนั้น ๆ
คนกลุ่มนี้มักไม่ค่อยเปลี่ยนจากหมีมาเป็นกระทิง และเป็นความผิดปกติทางจิตที่บำบัดยากที่สุดในกลุ่มเพราะมักเป็นเรื่องที่ฝังลึกอยู่ในใจมานาน
ในกรณีของชาวกระทิง เรามักไม่ค่อยพบชาวกระทิงที่ไม่ได้ลงทุนเอง อย่างน้อยที่สุดถ้าพบก็จะเป็นกลุ่มคนที่กำลังคิดจะเข้ามาลงทุน หรือไม่ก็มีส่วนได้เสียกับการขึ้นลงของตลาดค่อนข้างมากทั้งในทางตรงและทางอ้อม
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาหุ้นลงหรือภาวะเศรษฐกิจที่ดูแย่ ทุกอย่างจะดูเลวร้ายกว่าความเป็นจริง และดูหนักหนากว่าการมองโลกในแง่ดีตอนที่ตลาดเป็นภาวะกระทิงเสมอ
ชาวหมี ในกรณีที่เขาเองก็ลงทุนในหุ้น
การที่เขาแสดงออกถึงมุมมองทางด้านลบอย่างเกินพอดีนั้น ส่วนมากก็เกิดจากความคับข้องภายในจิตใจเช่นกันแต่เป็นคนละประเภทกับชาวหมีจำพวกแรก
ซึ่งแท้จริงแล้วพวกเขาอาจจะพึ่งทำการ Short sell ล้างพอร์ต หรือปรับลดสัดส่วนการลงทุนมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นมีต้นทุนอยู่ไม่น้อย ดังนั้นการแสดงออกทางพฤติกรรมของเขาจึงเป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากความสูญเสีย หรือการยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่เขาคาด และเป็นไปเพื่อให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำไปนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ชาวหมีในกลุ่มนี้สามารถโยกย้ายแปลงร่างสลับเปลี่ยน ไป ๆ มา ๆ ระหว่างหมีกลับกระทิงได้ตลอดเวลา ตามลักษณะการลงทุนของเขา
ชาวกระทิง ที่ลงทุนอยู่ในหุ้น
อันที่จริงทุกคนที่กำลังลงทุนอยู่ต่างก็มีกระทิงซุกซ่อนอยู่ในใจกันทั้งนั้น แต่การแสดงออกมาอาจแตกต่างกันไปบางคนอาจไม่แสดงออกมาเลยหรือน้อยมาก
จริงอยู่ที่ใคร ๆ ก็อยากให้ผลตอบแทนจากการลงทุนของตนพรั่งพรูด้วยกันทั้งนั้น แต่การที่มองโลกในแง่ดีจนเกินพอดีนั้นบางทีอาจเกินจากความมั่นใจเกินตัวของตัวบุคคล หรืออาจมาจากความคับข้องใจของเขาได้เช่นเดียวกับชาวหมี โดยที่ความคับข้องใจที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้จิตใต้สำนึกของเขาอาจเพิ่มความทวีคุณได้มาก ถ้าหากพวกเขายิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองเช่น ลงทุนใจตราสารที่มีความเสี่ยงสูง ใช้การ leverage หรือมาร์จิ้นเข้าลงทุนจนเกินตัว เช่นเดียวกับชาวหมี คือ สิ่งเหล่านั้นมีต้นทุนสูง ทำให้ความคับข้องใจเหล่านั้นระบายออกมาในรูปของการแสดงออกที่ดูเกินจริง
ชาวกระทิงในกลุ่มนี้สามารถโยกย้ายแปลงร่างสลับเปลี่ยน ไป ๆ มา ๆ ระหว่างหมีกลับกระทิงได้ตลอดเวลา ตามพฤติกรรมการลงทุนของเขาได้เช่นกัน
ไม่ว่าชาวหมี หรือชาวกระทิง พวกเขามักไม่รู้ตัวเองถึงความคับข้องใจที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในจิตใต้สำนึกของเขา เวลาที่มันระเหิดออกมาภายนอก จิตสำนึกของพวกเขาจะเปลี่ยนมันให้กลายมาเป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับมันได้ เช่น การใช้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่พวกเขาหามาเพื่อสนับสนุนตัวเอง โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า เหตุผลเดียวกันนี้อาจเป็นเรื่องไร้เหตุผลในเวลาที่พวกเขาได้สติและหวนกลับมาคิดถึงมัน
และความเห็นอันสุดโต่งของทั้งชาวหมีและชาวกระทิงถือเป็นความเห็นที่ลำเอียงเพราะไม่ได้เกิดจากการประเมินสถานะการณ์อย่างเป็นกลาง และอาจสร้างความเสียหายได้อย่างมากกับตัวเขาเองและผู้คนที่คล้อยตาม หากเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามคาด
จะเห็นได้ว่า ชาวหมีและกระทิงกลุ่มหลังนั้นปฎิบัติตามแรงจูงใจอันลึกลับที่มาจากความคับข้องใจที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง จนบางครั้งเราสามารถบอกได้ไม่ยากเลย ว่าใครกำลังถือไพ่อย่างไรอยู่ในมือ หรือใครกำลังเปลี่ยนไพ่ล้างไพ่ไปแล้ว
ผมคิดว่าคนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาวได้นั้น พวกเขาต้องมีภาวะจิตใจที่เป็นกลาง ไม่หลงไปในทางใดทางหนึ่งมากจนเกินพอดี
นอกจากนั้นพวกเขาต้องมีพลังจิตใจที่แข็งแกร่งมาก จึงจะสามารถดำเนินการลงทุนให้ไปตามแผนการที่วางไว้อย่างมีเหตุผลไม่วอกแวกไปกับเสียงนกเสียงการอบ ๆ ตัวซึ่งมักหลีกเลี่ยงได้ยาก
อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่านักลงทุนที่ดีควรปิดหูปิดตาเพื่อรับฟังข่าวสารจากภายนอก ไม่ว่าข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ตาม แต่ควรเปิดรับฟังความเห็นอย่างรอบด้านแล้วนำมาการวิเคราะห์เป็นกลาง เพื่อการวางแผนลงทุนได้อย่างสมเหตุสมผลและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว