Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ช่วงนี้หุ้นตก ดูเครียดๆกันผมว่า สูดหายใจลึกๆ ไปพักผ่อนออกกำลังกายให้สบายๆดีกว่าครับ สำหรับคนที่ติดหุ้นผมเห็นว่าน่าจะเชื่อคำแนะนำของ Peter Lynch ว่าอย่าเปิดจอดูพอร์ทบ่อยๆเลยครับจิตตกหมด ผมว่าดูตัวอย่างอาม่าจู ในไฟล์ทีผมแนบมาดูครับ

ผมว่าถ้าคุณยึดมั่นแนว VI เป็นหลักมาตลอด มีสาเหตุเดียวที่คุณควรกังวลและขายหุ้นในช่วงนี้คือ ถ้าคุณมั่นใจว่าบริษัทที่คุณเป็นเจ้าของจะเจ๊งในวิกฎตรอบนี้ก็สมควรขายครับ

สำหรับตัวผมเองพอร์ทถ้านับตั้งแต่ต้นปีติดลบไปหลายเปอร์เซนต์แล้ว อาศัยบุญเก่ากำไรเมื่อ 2ปีที่ผ่านมาทำให้พอรอดตัวมาได้

ให้กำลังใจกับนักลงทุนทุกท่านโดยเฉพาะผู้ที่เข้าตลาดมาไม่นาน สู้ๆครับ

+++++เวลาเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่าเสมอ+++++++

เจ๋งมาก ได้อมยิ้มเลยครับ อาม่าแน่มัก่่มาก ^^

อาม่าแหล่มจริง อ่านไปยิ้มไปเลยครับ แทบจะนึกถึงน้ำเสียงอาม่าได้เลย ไม่รู้มาจากไหน เหอๆๆๆ

สุดยอดเลยครับ

น่ารักดีครับ เพิ่งรู้ว่าน้องสาวปู่Buffettอยู่เมืองไทยนี่เอง

ได้หลานดีครับ แกโชคดีหลานแนะนำ kbank

ลองหลานแนะนำ n-park

วันนี้ก็ VI เหมือนกันแต่เฉพาะในส่วนได้ "ถือ" ยาว แบบลืมไปเลยว่ามี

แต่ม่าแกสุดยอดครับ +10000 ไปเลยยย

กำลังหลงประเด็นหรือป่าวครับ
ซื้อตามคนอื่นบอก ไม่มีการวิเคราะห์บริษัท แค่ถือยาวอย่างเดียว แบบนี้เรียก VI ตัวจริงเหรอครับ?

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

เวลาผมไปประชุมผู้ถือหุ้นของกลุ่มธุรกิจธนาคาร จะเจอ นักลงทุนสูงอายุ แบบนี้จำนวนมากทีเดียวครับ ส่วนใหญ่จะมาประชุมเพื่อเอาของฝาก กับทานอาหารครับ

เท่าที่ได้พูดคุย ส่วนใหญ่พวกท่านจะซื้อแล้วก็ถือยาวครับ

ในแง่ของการเลือกหุ้น อาจจะไม่ถูกใจเพื่อน ๆ หลายท่าน เพราะพวกท่านไม่ได้ซื้อเพราะคิดเอง

แต่ในแง่ของการถือยาว รับเงินปันผล และไม่เคยขายหุ้น ถือว่าได้ใจผมมากครับ

อ่านแล้วรู้จักนำเอาส่วนดีไปปรับใชัครับ ( อย่าติเรือทั้งโกลน ) ส่วนไหนที่เป็นข้อด้อยของพวกท่าน พวกเราก็พึงแก้ไขครับ นี่จึงเป็นประโยชน์สูงสุดที่พึงจะได้รับการจากอ่านครับ

ถึงยังไง พวกท่านก็ถือ นักลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าพวกเราครับ ประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกท่าน คงพอสอนใจอะไรดี ๆ ได้บ้างครับ

อยากทำจิตใจให้ได้เหมือนแก

แล้วที่อยากมากสุดคือ MOS เท่าแกครับ 5 ปี ปันผลได้เท่านึง
ถ้ามีผมก็คงถือไว้ ไปกินอาหารกับเอาของฝากตอนประชุมผู้ถือหุ้นฟรีครับ

อนุโทนาบุญอาม่าครับ แกน่าจะเคยทำบุญมาเยอะ จิตใจปล่อยวางแล้วยังโชคดีเลือกกิจการถูก

ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะถูก หรือผิด ในอนาคตคือคำตอบ

ก็ต้องเริ่มต้นจาก....ก้าวแรก และมีความมั่นคงที่จะเดินไปต่อไปๆๆๆๆ

vi อยู่ที่ใจจิงๆๆ

สังเกตไหมว่า อาม่าไม่ได้ลงทุนซื้อหุ้นในจำนวนมากมายอะไรเลย อาม่าซื้อหุ้นไม่ได้หวังว่าจะร่ำรวยเปลี่ยนฐานะจากการลงทุน หวังเพียงแค่มีเงินปันผลในแต่ละปีมากบ้างน้อยบ้าง หรือแม้บางปีไม่ได้เงินปันผล อาม่าก็ไม่ได้ว่าอะไร

อาม่าไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ธนาคารมากนัก ไม่มีการวิเคราะห์หรือติดตามเลย ซึ่งถ้าลงทุนด้วยเงินไม่มากก็โอเค

แต่คำถาม คือ ถ้าเราลงทุนตามอาม่า เราจะได้รับผลตอบแทนมากพอที่จะปรับเปลี่ยนฐานะทางการเงินหรือให้อิสระภาพทางการเงินแก่เราได้หรือไม่ แน่นอนว่าคงไม่ได้เพราะด้วยจำนวนเงินลงทุนที่น้อย

และถ้าเราลงทุนในจำนวนที่มากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมดของเรา เราจะไม่สนใจอย่างที่อาม่าทำได้หรือไม่ ผมคิดว่าคงทำไม่ได้

ผมคิดว่า อาม่า ก็ใช้หลักการของ บัฟเฟต นะครับ
ซื้อกิจการที่ดีแล้วถือตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
ส่วนราคาเหมาะสมมั้ย ถ้าบริษัทมี growth แค่รอเวลาเดี๋ยวมันก็เหมาะสมเอง
อย่างที่ อาม่าทำมา

ดูหน้าตาแล้ว อาม่าคงไม่ได้หลับหูหลับตาซื้อนะครับ ถึงมองว่าแกจะดูงบการเงินไม่เป็น แต่ผมว่าแกวิเคราะห์เชิงคุณภาพเป็นแน่ๆ ลงทุนโดยเลือกบริษัทที่เข้าใจง่ายและตัวเองรู้จักดี ใครๆต่อให้ไม่ต้องเป็นเซียนวิเคราะห์หุ้นก็ดูออกง่ายว่ามันเป็นกิจการที่แข็งแกร่งจริงหรือไม่ คุ้นๆหลักการนี้ไหมครับ สุดท้ายผมว่าแกมีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก ถึงถือหุ้นkbankมาได้นานขนาดนี้ คิดว่าแกผ่านวิกฤตหุ้นตกมากี่รอบกันครับ แถมลงทุนสะสมหุ้นในพอร์ตจาก 200 หุ้น จนเป็น 3000 หุ้น อย่างที่แกว่า

หลายคนทำไม่ได้นะครับ เห็นหุ้นตก หลายคนคงขายทิ้งไปหมดแล้ว ทั้งที่ตอนนี้กิจการkbank ดูคร่าวๆพื้นฐานมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ดูออกจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยซํ้า

ผมว่าจุดประสงค์ของการรวยหุ้น คือการสะสมหุ้นดีไว้ในพอร์ตให้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่อาม่าทำนี่แหละ

บางคนวิเคราะห์เก่งแค่ไหน แต่แพ้ใจตัวเอง พอเจอหุ้นตกก็ขายทิ้งหมด ทั้งที่พื้นฐานกิจการไม่เปลี่ยนก็มีมาก ผมว่าจิตใจที่มั่นคงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของวีไอ ถ้าคิดว่ามันยังไม่เกินมูลค่าก็ไม่ควรขาย เพื่อเก็งราคาซื้อใหม่

เตือนสติกันอีกรอบ "การลงทุนนั้น EQ อาจจะสำคัญกว่า IQ ครับ"
ผมให้คะแนนอาม่าข้อนี้เต็ม 100%เลย

พอถึงจุดๆหนึ่ง เราจะรู้วิธีลดความอ้วนกันครับ มันไม่ได้ยากนักหนาหรอก แต่ทำไมยังมีคนอ้วนเต็มไปหมด เพราะทำตามหลักการที่ตั้งใจไว้ไม่ได้ซะมากกว่า บางคนทั้งที่รู้ว่าซื้อแพง แต่ก็ทนไม่ได้ เพราะราคามันไม่ถอยมารับตั้งหลายเดือนแล้ว กลัวมันจะขึ้นไปอีก หรือ บางคนก็รู้ว่าหุ้นตกแต่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแต่ก็ยังขายอยู่ดี

ถ้าทำจิตใจให้เข็มแข้งได้ เราน่าจะชนะในระยะยาว อย่างที่ตั้งใจกันไว้

เชื่อไหมว่ากรณีนี้ เป็นกรณีที่คนตายไม่ได้พูด

ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ซื้อหุ้นและถือคล้ายๆกับอาม่า กิจการที่ซื้อตอนนั้นก็ดูมั่นคงแข็งแรง แต่เมื่อหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ใครจะเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้ไม่มีอยู่แล้ว

บงล.ธนสยาม บง.เอกธนกิจ บงล.จีเอฟ บงล.นิธิภัทร บงล.ซิกก้า หรือแม้แต่ธนาคารศรีนคร ธนาคารมหานคร ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ ธนาคารแหลมทอง สหธนาคาร

และถ้าซื้อบริษัทเหล่านี้ที่ดูเหมือนมีกิจการใหญ่โตมั่นคงผู้ถือหุ้นน่าเชื่อถือ เช่น TT&T TRUE SAMART THAI ก็คงไม่ได้ผลตอบแทนซักเท่าไร ถ้าเผื่อมีคนชวนไปจองซื้อหุ้นตอน IPO

การเพิกเฉย กับ การไม่ตื่นตูม บางครั้งก็ดูคล้ายๆกัน

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อมีวิกฤตปี 40 มีนักลงทุนคนหนึ่งซื้อหุ้น KK ไป แล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่ได้ติดตามเรื่องหุ้นนานมากเลย พอหายกลับมาดูหุ้น KK เป็นเพียง 2 บริษัทเงินทุนจาก 58 แห่งที่ไม่ถูกปิดกิจการ เรื่องเลวร้ายทั้งหลายก็ผ่านพ้นไปแล้ว ราคาหุ้น KK กลับพุ่งขึ้นได้กำไรเป็นเท่าๆตัว

นักลงทุนคนนี้เก่งหรือเฮง ถ้าเขาไม่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็ทนถือหรือไม่

การตัดสินใจ หรือ สภาพจิตใจ คงแตกต่างกัน

คนที่ลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด กับ คนที่ลงทุนเพียงน้อยนิดจนไม่มีผลต่อความมั่งคังของครอบครัว

เหมือนกับบางคนที่ลงทุนด้วยเกมส์ก็ดูง่าย แต่พอลงทุนจริง ด้วยเงินจริง ไม่ง่ายเหมือนเก่าหรอกครับ

chatchai เขียน:เชื่อไหมว่ากรณีนี้ เป็นกรณีที่คนตายไม่ได้พูด

ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ซื้อหุ้นและถือคล้ายๆกับอาม่า กิจการที่ซื้อตอนนั้นก็ดูมั่นคงแข็งแรง แต่เมื่อหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ใครจะเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้ไม่มีอยู่แล้ว

บงล.ธนสยาม บง.เอกธนกิจ บงล.จีเอฟ บงล.นิธิภัทร บงล.ซิกก้า หรือแม้แต่ธนาคารศรีนคร ธนาคารมหานคร ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ ธนาคารแหลมทอง สหธนาคาร

และถ้าซื้อบริษัทเหล่านี้ที่ดูเหมือนมีกิจการใหญ่โตมั่นคงผู้ถือหุ้นน่าเชื่อถือ เช่น TT&T TRUE SAMART THAI ก็คงไม่ได้ผลตอบแทนซักเท่าไร ถ้าเผื่อมีคนชวนไปจองซื้อหุ้นตอน IPO

การเพิกเฉย กับ การไม่ตื่นตูม บางครั้งก็ดูคล้ายๆกัน

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อมีวิกฤตปี 40 มีนักลงทุนคนหนึ่งซื้อหุ้น KK ไป แล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่ได้ติดตามเรื่องหุ้นนานมากเลย พอหายกลับมาดูหุ้น KK เป็นเพียง 2 บริษัทเงินทุนจาก 58 แห่งที่ไม่ถูกปิดกิจการ เรื่องเลวร้ายทั้งหลายก็ผ่านพ้นไปแล้ว ราคาหุ้น KK กลับพุ่งขึ้นได้กำไรเป็นเท่าๆตัว

นักลงทุนคนนี้เก่งหรือเฮง ถ้าเขาไม่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็ทนถือหรือไม่

เป็นไปได้จริงๆอย่างที่พี่พูดครับ พี่ฉัตรชัย

ต้องเพิ่มอีกสองบรรทัด ถึงจะสมบูรณ์

ถาม แล้วแบบนี้อาม่าใช้เวลาทุกวันทำอะไร

ตอบ อั๊วว่าง ๆ ก็เดินไปกสิกร ทุกวัง ทุกวัง ไปปรับบุ๊ก แล้วถือโอกาสดูว่าพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับลูกค้าดีมั๊ย ผจก.พูดถึงเรื่องการปล่อยสินเชื่อว่ารัดกุมดีเหมือนเดิมรึเปล่า ดูว่าลูก ๆ หลาน ๆ พูดถึงกสิกร หรือ Wisdoms ยังไง ดูว่าแบบปะกันใหม่ ๆ ขายดีรึเปล่า คุยกับแบงค์ข้าง ๆ ว่าเป็นยังไง หั่งเช้งดีมั๊ย พูดถึงกสิกรว่ายังไง

วัน ๆ ก็เจี๊ยแต๊ อยู่แถว ๆ นั้นแหละ ก็ธนาคารของอั๊วนี่นา ...

อาม่าแกลงทุนก่อนผมเกิดอีกนะเนี่ย แล้วแกก็ถือมายาว ๆ ได้ขนาดนี้ นับถือ ๆ

ขอเสริมอีกนิด นะครับ
การหลับหูหลับตาถือยาวๆอย่างเดียวไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีแน่นอน แต่ถ้าคุณยังมั่นใจในพื้นฐานว่ายังไปได้ดีสามารถผ่านวิฤติยุโรป(ถ้าเกิดจริงซึ่งอาจไม่เกิดก็ได้)และสามารถเติบโตหลังวิกฤติได้ แต่อยากขายเพราะหุ้นตกผมคิดว่ามันผิดหลักการลงทุนแนว VI อย่างมากๆครับ

Linzhi เขียน:ต้องเพิ่มอีกสองบรรทัด ถึงจะสมบูรณ์

ถาม แล้วแบบนี้อาม่าใช้เวลาทุกวันทำอะไร

ตอบ อั๊วว่าง ๆ ก็เดินไปกสิกร ทุกวัง ทุกวัง ไปปรับบุ๊ก แล้วถือโอกาสดูว่าพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับลูกค้าดีมั๊ย ผจก.พูดถึงเรื่องการปล่อยสินเชื่อว่ารัดกุมดีเหมือนเดิมรึเปล่า ดูว่าลูก ๆ หลาน ๆ พูดถึงกสิกร หรือ Wisdoms ยังไง ดูว่าแบบปะกันใหม่ ๆ ขายดีรึเปล่า คุยกับแบงค์ข้าง ๆ ว่าเป็นยังไง หั่งเช้งดีมั๊ย พูดถึงกสิกรว่ายังไง

วัน ๆ ก็เจี๊ยแต๊ อยู่แถว ๆ นั้นแหละ ก็ธนาคารของอั๊วนี่นา ...

ยุคก่อนหน้าปี 40 เวลาผมป่วยก็จะไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นประจำ

คนไข้ก็เยอะนะครับ ดูคึกคักทีเดียว

แต่แล้ว หุ้น PYT ก็ต้องถูกพักการซื้อขายครับ

เพราะบริษัทมีการกู้ยืมเงินสกุลต่างประเทศจำนวนมาก เพื่อนำไปลงทุนสร้างอาคารสำนักงาน สร้างโรงเรียนนานาชาติ สร้างโรงพยาบาลพญาไท 2 พญาไท 3 เมื่อมีการลดค่าเงินบาท และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับสูงขึ้นมาก บริษัทก็ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ครับ

อาม่าเครียดเลยครับแบบนี้พี่ฉัตรชัย

พญาไท ถ้าถือถึงตอนนี้ อาม่าคงได้ถือหุ้น BGH แล้วมั้ง (ด้วยความโชคดี) ส่วนโครงการพญาไท 4 ที่เพชรบุรี, รร. นานาชาติ, ศูนย์ fantasy คงเป็นความฝันเก่า ๆ ไป

ถ้าอาม่าไปจัดพอร์ตบ้าง เปิดหมวด B ถือ BGH, BH, BIGC, BBL อ้าวเน่าหมด โดนวิกฤตทุกตัว

อาม่าฝากคำจีนแทนแล้วกัน
ความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ ขึ้นอยู่กับ ฟ้าลิขิต ความมั่งคั่งอย่างพอเพียง ขึ้นอยู่กับ การอดออม

เดี๋ยวผมจะเข้าข้างอาม่ามากเกินไป
ความเห็นผมคือ ถือหุ้นยาว ไม่ใช่คำตอบ ถือหุ้นอะไรก็ยังไม่ใช่ (ดังนั้นอย่าลอกหุ้นเลยครับ)

ถือหุ้นอะไรอยู่ และถือเพราะอะไร นั่งแหละคือคำตอบ

เรื่องอาม่าคนนี้ เคยมีคนโพสทีนึงแล้วแต่จำไม่ได้กระทู้ไหน

ผมก็แย้งว่านี่ไม่ใช่ VI
มีแต่คนเชียร์ VI VI

วันนี้มาอีกแล้ว...

ปล. ผมเห็นด้วย กับพี่ฉัตรครับ

Linzhi เขียน: ความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ ขึ้นอยู่กับ ฟ้าลิขิต ความมั่งคั่งอย่างพอเพียง ขึ้นอยู่กับ การอดออม

พี่Linzhi ประโยคนี้ชอบมากเลย แล้วจะขอไปใช้บ้าง นะ ครับ ขอบคุณ ครับ

ว่าแล้ว ทำต่อไปเรื่อยๆ ท่อนหลังประโยคนี้ขึ้นกับตัวเรา เกินกว่านั้น ถือว่า ฟ้าลิขิต

อาม่ารู้ไหมว่าปี 40 kbank ก็เฉียดล้มละลายเหมือนกัน

สงสารอาม่า.....

อาม่าคงไม่ได้ตั้งใจจะเป็น VI แต่ลงทุนตามความเข้าใจของตัวเอง
และได้รับผลตอบแทนตามที่แกยอมรับได้

VI หรือไม่VI ก็ไม่สำคัญมั้ง เพราะที่คิดว่าตัวเองเป็นVI บางคนก็ยังเจ็บ JAS JAS อยู่จนบัดนี้เลย

panda2010 เขียน:สงสารอาม่า.....

อาม่าคงไม่ได้ตั้งใจจะเป็น VI แต่ลงทุนตามความเข้าใจของตัวเอง
และได้รับผลตอบแทนตามที่แกยอมรับได้

VI หรือไม่VI ก็ไม่สำคัญมั้ง เพราะที่คิดว่าตัวเองเป็นVI บางคนก็ยังเจ็บ JAS JAS อยู่จนบัดนี้เลย

ผมว่าบางทีอาม่าแกมาได้มาเห็นกระทู้นี้ผมว่า แกอาจจะบอก พวกลื้อพูดอะไร วีอง วีงไอ ไม่รู้ อั๊วกำไรฮั่งเช้งๆ ของอั๊วก็พอใจแล้ว คิดไรมากมายปวกหัว ซื้อแล้วอั๊วก็เก็บของอั๊ว บอกไม่ขายก็ม่ายขายย

ผมขอเรียกวิธึการลงทุนของอาม่าว่า hi (holding investor)

คือถือไปเรื่อยๆเปื่อยๆ ไม่หือไม่อือ

ไม่หวังมาก ไม่อยากมาก มีความสุข

เพราะแกไม่ได้ทุ่มเงินจนสุดตัว

อย่าว่าอาม่าผมเลยครับ

Linzhi เขียน:อาม่าเครียดเลยครับแบบนี้พี่ฉัตรชัย

พญาไท ถ้าถือถึงตอนนี้ อาม่าคงได้ถือหุ้น BGH แล้วมั้ง (ด้วยความโชคดี)

คงได้ถือ BGH ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเหลือซักกี่หุ้น เพราะ PYT มีการแปลงหนี้เป็นทุน จนสัดส่วนความเป็นเจ้าเดิมแทบไม่เหลือครับ เจ้าของก็เปลี่ยนจากคุณอาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นเจ้าหนี้แทน ก่อนที่คุณวิชัยจะมาซื้อต่อไป