Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) เชื่อว่าหลายท่านคงรู้จักดี เพราะมันคือสรุปข้อมูลของบริษัทรวมทั้งผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา

เนื้อหารายละเอียดก็มีรายการตามข้างล่าง
ส่วนที่ 1 บริษัทที่ออกหลักทรัพย์
1 ข้อมูลทั่วไป
2 ปัจจัยความเสี่ยง
3 ลักษณะการประกอบธุรกิจ
4 การประกอบธุรกิจของแต่ละสายผลิตภัณฑ์
5 ทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทย่อย
6 ข้อพิพาททางกฎหมาย
7 โครงสร้างเงินทุน
8 การจัดการ
9 การควบคุมภายใน
10 รายการระหว่างกัน
11 ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
12 ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง

สิ่งที่ทุกคนสนใจคงไม่ใช่ รายละเอียดของหัวข้อว่ามีอะไรใช่ไม๊ครับ มาบอกทำไม สิ่งที่สนใจคือ เราจะมุ่งศึกษาและเน้นหัวข้อไหนเป็นลำดับต้นๆมากกว่า
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ว่า หากท่านสนใจจะลงทุนกับบริษัทไหน สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ 5 อันดับแรกของแบบ 56-1 เราควรจะศึกษาหัวข้อไหนให้ละเอียดที่สุดครับ
ส่วนตัวผมลำดับแรกเลยคือ หุ้นไหนกำลังวิ่งอยู่ครับ ล้อเล่นครับ
อย่างแรกเลยแมงเม่าอย่างผมสนใจหัวข้อสำคัญลำดับต้นๆเลยคือ
3 ลักษณะการประกอบธุรกิจ
4 การประกอบธุรกิจของแต่ละสายผลิตภัณฑ์
2 ปัจจัยความเสี่ยง
11 ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
6 ข้อพิพาททางกฎหมาย

เราต้องพยายามรู้ให้ได้ว่าบริษัททำอะไร อะไรคือสินค้าหรือบริการของบริษัท แล้วค่อยมาดูปัจจัยความเสี่ยงในแต่ละส่วน ประกอบกับงบการเงินเพื่อหาเหตุผลว่าเราสมควรลงทุนด้วยไม๊ ลำดับถัดมา ก็ดูว่าบริษัทมีข้อพิพาทที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นฐานบริษัทหรือไม่ อันนี้ก็สำคัญนะครับ หากละเลยอาจมีเฮ
ส่วนหัวข้ออื่นๆ บางรายการก็อาจไม่ต้องดูละเอียดเลยก็ได้
เอาล่ะ ผมแชร์ในส่วนของผมแล้ว อยากขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยแชร์ในมุมของตัวเองบ้างว่า 56-1 นี่ อะไรที่ทุกคนเปิด zip file แล้วอ่านเป็นลำดับต้นๆครับ
อนึ่ง อ่านแล้วดูเหมือนมีหลักการ แต่การลงทุนส่วนบุคคลก็ยังงูงู ปลาปลา เหมือนเดิม

รอคำตอบจากเพื่อนๆ อยู่นะครับ
โชคดีในการลงทุนครับ

ของผมนั่งอ่านทีละไฟล์ ไล่เรียงลำดับไปเลยครับ จะได้รู้ว่าอ่านครบแล้ว

อ่านบ่อยๆแล้ว ก็รู้สึกว่า F56-1 นี่อ่านไม่นานครับ อ่านแล้วบางทีก็ไม่พอด้วยครับ

kotaro เขียน:ของผมนั่งอ่านทีละไฟล์ ไล่เรียงลำดับไปเลยครับ จะได้รู้ว่าอ่านครบแล้ว

อ่านบ่อยๆแล้ว ก็รู้สึกว่า F56-1 นี่อ่านไม่นานครับ อ่านแล้วบางทีก็ไม่พอด้วยครับ

ขอบคุณครับสำหรับความเห็น ส่วนตัวผม การควบคุมภายในผมไม่อ่านเลย ไม่รู้เป็นวิธีการถูกหรือผิด แต่ผมก็เคยอ่านโดยเนื้อหาอาจไม่น่าสนใจสำหรับผมก็ได้มั้ง เลยข้ามหัวข้อนี้ไป

บางบริษัทฯ ก็น่าสนใจนะครับ

อย่างล่าสุดที่อ่าน APCO ผมว่าเรื่องการควบคุมภายใน มีการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องประเด็นข้อสังเกตเรื่องผู้สอบบัญชีและข้อสังเกตเรื่องผู้ตรวจสอบภายใน หลายประเด็นน่าสนใจ

ทำให้เรารู้ว่า บริษัทฯ มีการบริหารงานสไตล์ไหน แต่ก็คงขึ้นกับว่าบริษัทไหนจะเปิดเผยข้อมูลมากน้อยแค่ไหน

five-force
SWAT
value chain analysis
corporate strategy

บางบริษัทจะมีเป็น PDF File ให้โหลดไฟล์เดียวเลยรวมทุกหน้าเรียงตามหัวข้อให้เสร็จก็สะดวกดีนะครับ
หรือจะใช้โปรแกรมรวมไฟล์เป็นไฟล์เดียวก็อ่านสะดวกอีกแบบ(เข้าใจว่ามีกระทู้สอนลองค้นกันดูครับ)

หน้าแรกไม่อ่านครับ เพราะเป็นหน้าปก ผมเบื่อที่จะเปิดทีละไฟล์ น่าจะทำเป็นเล่มรวมครับ ส่วนการควบคุมกิจการภายในก็น่าอ่านนะครับ บางทีเราไม่ค่อยเข้าใจข้างในของเขาเท่าไหร่ แต่อ่านก็ดี ขอเน้นเรื่องกิจการที่เกี่ยวข้องกันครับ บางคนไม่อ่านเลย (รวมถึงผมแต่ก่อนนี้ด้วย) อันนี้ก็สำคัญ

ขยันดีนะครับ

ผมนึกถึงแบบ 250-2 ความเห็นของกิจการเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์

อ่านแล้วผมว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ในแง่แนวทางในการประเมินมูลค่ากิจการ

ล่าสุดก็บริษัทอาหารและบริษัทเหล็ก

ส่วนบอสัดที่ยังไม่โดนซื้อ ผมว่าใช้ข้อมูลในแบบ56-1ที่ว่ามาข้างบน แล้วเอาแนวทางประเมินมูลค่ากิจการ

ซึ่งแบบ250-2 ต้องแนบแนวทางต่างๆในการประเมินมูลค่า จากที่ปรึกษาการเงินอิสระมาด้วย

ก็ได้กรอบและวิธีการที่เอาไว้ใช้ซ้อมมือได้ดีครับ

บางบริษัท อย่างอินโดรามา ย๊าวยาว อ่านไปเกือบหลับไป ขำๆนะครับ บางบริษัทก็สั้นๆ อ่านๆๆเป็นสิ่งที่ดี

ผมอ่านเน้นๆเหมือนคุณziamnoomครับ จากนั้นก้อมาไล่อ่านห้องร้อยคนร้อยหุ้นเพื่อเก็บข้อมูลอีกหน่อย(ใช้เวลามากกว่า56-1อีกมั้ง)

ปล.บางบริษัททำ56-1เหมือนไม่อยากทำเลยครับ ไบางบริษัทก้อให้รายละเอียดดีมาก

ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าข้อ5ก็สำคัญนะครับ
5 ทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทย่อย

เพราะมันจะระบุว่าทรัพย์สินบริษัทเรามีอะไรบ้าง มีที่ดิน - อาคาร เป็นของตัวเองรึเปล่า มียี่ห้อสินค้าเป็นของตัวเองรึเปล่า
(ถ้าไปอ่าน 56-1 ของ CPF จะรู้เลยว่าตราสินค้า "CP" ไม่ใช่ของ CPF แต่จะเป็นของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งCPFต้องจ่ายค่าตราสินค้าด้วย)

สำหรับผมอ่าน 56-1 ก็จะอ่านหมดเลยแต่เน้นพยายามทำความเข้าใจพร้อมนึกภาพตามว่าธุรกิจหลักคืออะไร รายได้หลักมาจากไหน โครงสร้างทุนเป็นอย่างไร ดูผลการดำเนินงานพร้อมคำอธิบายการวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน ส่วนเรื่องกรรมการบริษัท ก็จะดูเหมือนกันว่ากรรมการเป็นใคร เราพอรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อหรือไม่ เข้าประชุมครบทุกครั้งหรือป่าว
รายงานประจำปีผมก็อ่าน เพื่อดูวิสัยทัศน์ผู้บริหาร ดูมุมมอง แนวโน้มธุรกิจที่เขามอง เป็นข้อมูลเพิ่มเติมจาก 56-1 จากนั้นก็จะมาดูร้อยคนร้อยหุ้น ดูย้อนหลังไปหลายๆหน้าหน่อยเท่าที่เราคิดว่าจะพอมองเห็นภาพใหญ่ๆของกิจการ จินตนาการตามไปด้วยขณะที่อ่าน งบการเงินก็เอามาป้อนเข้า excel ดูการกระจายของรายได้ ดูรายการพิเศษ ดูคุณภาพกำไรโดยใช้งบกระแสเงินสดช่วย ฝึกคิดกำไรล่วงหน้าโดยใช้ข้อมูลในอดีตมาประกอบ ข่าวที่ผู้บริหารให้มาพิจารณา อะไรทำนองนี้ครับ ฝึกไปเรื่อยๆเท่าที่เวลาอำนวย

Mr. Boo เขียน:ขยันดีนะครับ

ผมนึกถึงแบบ 250-2 ความเห็นของกิจการเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์

อ่านแล้วผมว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ในแง่แนวทางในการประเมินมูลค่ากิจการ

ล่าสุดก็บริษัทอาหารและบริษัทเหล็ก

ส่วนบอสัดที่ยังไม่โดนซื้อ ผมว่าใช้ข้อมูลในแบบ56-1ที่ว่ามาข้างบน แล้วเอาแนวทางประเมินมูลค่ากิจการ

ซึ่งแบบ250-2 ต้องแนบแนวทางต่างๆในการประเมินมูลค่า จากที่ปรึกษาการเงินอิสระมาด้วย

ก็ได้กรอบและวิธีการที่เอาไว้ใช้ซ้อมมือได้ดีครับ

ผมอ่านแบบ 250-2 ของบริษัทขายเครื่องดื่มซึ่งกำลัง Take over กันอยู่ ดูแล้วเชื่อถือไม่ได้ครับ
เหตุผลเพราะว่า
1) แต่ละบริษัทที่ประเมินราคา ไม่สมเหตุสมผล ราคาแต่ละครั้งไม่ได้มีความไกล้เคียงกันเลย ครั้งแรกประเมินแล้ว ราคาต่ำ ไม่มีคนขาย ครั้งนี้ใช้วิธีประเมินสองสามวิธี ได้ช่วงราคาห่างกันมาก
2) ผู้ประเมินอิสระ ไม่อิสระจริง มีผลประโยชน์ขัดแย้ง เนื่องจากต้องการกดราคารับซื้อต่ำๆ เพื่อบีบให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยขายหุ้นออกมา

ผมคิดว่าควรประเมินแยกกันเป็นส่วนๆ ทั้งจากการตีราคาทรัพย์สินของบริษัท และความสามารถในการดำเนินธุรกิจครับ

ผมสนใจการควบรวม เพราะนานๆ จะได้เห็นจริงซักที และโดยเฉพาะเป็นของกลุ่มบริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติ

http://pttch-th.listedcompany.com/misc/ ... ort_th.pdf
http://www.pttar.com/Fileupload/agm2011 ... _agm11.pdf