หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 10, 2011 9:40 pm
โดย nadeethongdum
ผมว่าดูจังหวะใช้สติในการลงทุนดีกว่าครับ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไปซื้อตอนสูงเหมือนครั้งที่บ้านเมืองเรามีปัญหาเมื่อในอดีตต่างก็ไม่เข้า ทำไปทำมาเข้าตอนที่มันอยู่ที่สูงแล้วทุกที ผมว่าดูพื้นฐานและกำหนดจุดคัทถ้าผิดพลาดจะดีกว่าครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 10, 2011 10:02 pm
โดย prichar s.
พื้นฐาน เป็นการมองที่ตัวกิจการ
คัท เป็นการคัทที่ราคา

หรือว่า ซื้อด้วยพื้นฐาน แล้วคัทที่ราคา?
หรือว่า ราคาตกทำให้พื้นฐานเปลี่ยน?

รู้สึกมันจะคนละขั้วกัน ไม่น่าไปด้วยกันได้เลยนะ
...............................................

ผมจับจังหวะไม่เป็น เคยลองแต่คร่อมตลอด

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 10, 2011 10:23 pm
โดย nadeethongdum
ในบางครั้งเมื่อตลาดเกิดอาการที่ผันผวนผมว่าก็ควรใช้เทคนิคเข้ามาเพื่อเป็นการตัดและรอจังหวะเข้าอีกครั้งแต่ก่อนเข้าก็จะศึกษาถึงพิืนฐานในตัวหุ้นนั้นก่อนทุกๆครั้งและก็ใช้เทคนิคเป็นตัวชี้ถึงจังหวะว่าจะเข้าได้หรือยังครับ(เป็นการผสมผสาน)

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 10, 2011 11:09 pm
โดย ส.สลึง
ได้ยินบ่อยครับ วิธีผสมผสาน
บางคนใช้ได้ดี ก็ดีไปครับ
แต่สำหรับผมแล้วไม่จำเป็นเลยครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 11:07 am
โดย tigerroad197
nadeethongdum เขียน:ในบางครั้งเมื่อตลาดเกิดอาการที่ผันผวนผมว่าก็ควรใช้เทคนิคเข้ามาเพื่อเป็นการตัดและรอจังหวะเข้าอีกครั้งแต่ก่อนเข้าก็จะศึกษาถึงพิืนฐานในตัวหุ้นนั้นก่อนทุกๆครั้งและก็ใช้เทคนิคเป็นตัวชี้ถึงจังหวะว่าจะเข้าได้หรือยังครับ(เป็นการผสมผสาน)
เซียนหุ้นที่สามารถใช้หลักการทั้งสองผสมผสานเข้าด้วยกันจนประสบความสำเร็จ ก็คือ เสี่ยยักษ์ ครับ ( ดูพื้นฐานกิจการ ใช้เทคนิคเป็นจุดซื้อขาย )

จากเงินทุน 2 ล้าน สามารถทวีคูณเป็น พันล้าน

เฉพาะ หุ้นโภคภัณฑ์ในดวงใจของท่านตัวเดียว สามารถทำกำไรให้ถึง 700 ล้านบาทครับ

แต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้อย่างท่านบ้าง ? ?

สาเหตุที่ท่านสามารถทำได้ เพราะท่านรู้ตัวว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่

หลักการในการลงทุนของท่าน ก็คือ

" จะอยู่รอดต้องเป็นมืออาชีพ "

นั่นคือ ท่านทุ่มเทให้กับ ตลาดหุ้น และศึกษาเทคนิคข้อดีของวิธีการลงทุน ไม่ว่าแนว VI หรือ เทคนิค แล้วจับเอามาผสมผสานกัน

ท่านถือหลักว่า หลักการไม่เคยผิด แต่ที่ผิดคือ คนที่ใช้ ไม่รู้จริง

ท่านเชื่อเสมอว่า เทคนิคเคิล ไม่เคยหลอก ถ้าคนที่ใช้เก่งจริง การที่จะเป็น มืออาชีพ ให้ได้จึงต้องรู้จริงในหลักการ ( และไม่เกี่ยงที่จะศึกษาเพื่อนำมาใช้ )

การใช้ เทคนิคผสมผสานกับพื้นฐาน โดย เทคนิคช่วยในจุดซื้อขาย แต่ต้องดูพื้นฐานของกิจการด้วย

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 11:12 am
โดย tigerroad197
ดังนั้น หากท่าน จขกท เชื่อมั่นในแนวทางของท่าน

ก็ขอให้ท่านหมั่นศึกษาวิธีการผสมผสานตามแนวทางของท่าน ให้รู้แตกฉานจริง ๆ แล้วนำไปปฏิบัติ

เพราะอย่างน้อยท่านก็พอจะทราบแล้ว ยังมี เซียนหุ้น ท่านหนึ่งที่สามารถผสมผสานทั้งสองหลักการจนประสบความสำเร็จ นั่นก็หมายความว่า แนวทางของ จขกท นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

แต่ที่สำคัญก็คือ ต้องรู้จริง ทั้งสองหลักการ

May Force Be With You

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 11:17 am
โดย tigerroad197
nadeethongdum เขียน:ในบางครั้งเมื่อตลาดเกิดอาการที่ผันผวนผมว่าก็ควรใช้เทคนิคเข้ามาเพื่อเป็นการตัดและรอจังหวะเข้าอีกครั้งแต่ก่อนเข้าก็จะศึกษาถึงพิืนฐานในตัวหุ้นนั้นก่อนทุกๆครั้งและก็ใช้เทคนิคเป็นตัวชี้ถึงจังหวะว่าจะเข้าได้หรือยังครับ(เป็นการผสมผสาน)
วิธีการ คัทลอส นี้ เสี่ยยักษ์ ก็นำมาใช้ครับ โดยตั้งเป้าการคัทลอสอยู่ที่ 15% เพื่อรักษา เงิน เอาไว้ไปใช้ในการลงทุนรอบต่อไป

ถ้ายังไงท่าน จขกท ลองศึกษาประวัติและแนวทางการลงทุนของ เสี่ยยักษ์ จะได้ประโยชน์มากทีเดียว สำหรับแนวทางการผสมผสานของท่าน จขกท ครับ

เป็นกำลังใจให้ประสบความสำเร็จครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 11:34 am
โดย Ii'8N
....

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 11:38 am
โดย tigerroad197
ต้องขอขอบพระคุณ ท่าน Ii'8N มากครับ

ผมกำลังหากระทู้เกี่ยวกับ เสี่ยยักษ์ เพื่อนำมาฝากท่าน จขกท อยู่พอดีครับ

ขอบพระคุณมากครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 11, 2011 9:25 pm
โดย nadeethongdum
ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านมากที่ให้ข้อมูลครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 8:58 am
โดย Pathfinder
แนวคิดหรือเครื่องมือแต่ละตัวอาจจะมีวัตถุประสงค์ จุดเด่น และจุดด้อยที่แตกต่างกัน ผมคิดว่าการผสมผสานก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ การมีเครื่องมือเยอะก็เหมือนติดอาวุธครบมือทำให้เราสามารถวางกลยุทธ์ได้หลากหลายมากขึ้น แต่เราจะต้องรู้จริงในเครื่องมือที่เราใช้นะครับ ไม่อย่างนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยง!

ส่วนตัวผมตอนนี้ขอใช้เรื่องปัจจัยพื้นฐานเป็นแนวคิดหลัก เพราะเป็นเรื่องที่ผมสามารถหยิบฉวยได้สะดวกที่สุดไปก่อน
และจะไม่พยายามหาจังหวะการซื้อขายบ่อย คิดว่าการซื้ออาจมีหลาย step แต่ใ้ช้แค่วิธี Dollar Cost Average ไปยัง MOS ที่ต้องการ
ส่วนการป้องกันความเสี่ยงของ Port ในกรณีที่ตลาดตกลงมากๆ การใช้ SET50 Option ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ (แต่ยังใช้ไม่เป็น)

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 9:21 am
โดย viim
ขอเรียนถามต่อนะครับสำหรับคนที่ใช้ผสมผสานระหว่าง technical และ fundamental ในกรณีที่อาจจะเป็นไปได้ว่า 2 หลักการขัดแย้งกัน เช่น กรณีที่บอกว่าเป็น sell signal by technical แต่ดูแล้วปัจจัยพื้นฐานดีอยู่และดีมากๆ อย่างนี้เราควรทำไงครับ ต้องอาศัยประสบการณ์หรือยังไง หรือว่าต้องดูเป็นกรณีๆไปอีก?

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 10:59 am
โดย tigerroad197
viim เขียน:ขอเรียนถามต่อนะครับสำหรับคนที่ใช้ผสมผสานระหว่าง technical และ fundamental ในกรณีที่อาจจะเป็นไปได้ว่า 2 หลักการขัดแย้งกัน เช่น กรณีที่บอกว่าเป็น sell signal by technical แต่ดูแล้วปัจจัยพื้นฐานดีอยู่และดีมากๆ อย่างนี้เราควรทำไงครับ ต้องอาศัยประสบการณ์หรือยังไง หรือว่าต้องดูเป็นกรณีๆไปอีก?
ถ้าตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม

เอา ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักก่อนครับ เพราะถ้าปัจจัยพื้นฐานยังดี และดีมาก ๆ ก็ถือต่อไป

ส่วน เทคนิคเคิล นั้น เอาไว้ใช้ตอนที่ตัดสินใจจะขายจริง ๆ แล้วครับ

อย่างเช่น ช่วง 26 ก.ย. ที่ผ่านมา หุ้นพื้นฐานดี ๆ หลายตัวตกลงมาแรง ก็ยังสามารถถือต่อ หรือใช้เทคนิคเคิลช่วยในการซื้อเพิ่ม

ซึ่งหากให้เปรียบตามสำนวนนิยายกำลังภายในแล้ว ปัจจัยพื้นฐานก็เสมือนกับ พลังภายในที่ค่อย ๆ บ่มเพาะสร้างขึ้นมา จนร่างกายมีพละกำลังสมบูรณ์เต็มเปี่ยม

ส่วน เทคนิคเคิล ก็เสมือน กระบวนท่า ที่เอาไว้โจมตีคู่ต่อสู้ครับ

ดังนั้น หากมีกระบวนท่าที่แม่นยำ คล่องแคล่ว แต่ใช้ออกโดยไร้พลังภายใน ก็เหมือนกับชกถูกเป้า แต่คู่ต่อสู้ไม่ล้ม เพราะไม่รู้สึกเจ็บ แถมยังมีโอกาสถูกตีโต้กลับมาอีก

แต่หากมีกำลังภายใน แต่ไร้กระบวนท่า ก็เหมือนกับ นักมวยที่มีแรงเยอะ อึด แต่ไม่รู้จักวิธีการชกมวย ไม่รู้วิธีออกหมัดครับ

แต่หากพร้อมทั้ง กำลัง และ กระบวนท่า ก็พรั่งพร้อมทั้งรุกและรับแล้วครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:11 am
โดย tigerroad197
ซึ่งถ้าหากเวลาเราดูหนังจีนแนวกังฟูหรือกำลังภายใน อย่างเช่น ไอ้หนุ่มหมัดเมา ที่ เฉิงหลง แสดงนำ

จะเห็นว่า ตอนที่ ยาจกซู ( รับบทโดย หยวนเสี่ยวเถียน ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ) สอนกังฟูหรือวิทยายุทธให้กับ หวงเฟยหง ( รับบทโดย เฉิงหลง ) นั้น ขั้นตอนแรกเขาสอนพื้นฐานทำให้ร่างกายแข็งแรงก่อนครับ ไม่ว่าจะเป็นการตักน้ำใส่ตุ่ม ซิทอัพ ยืนท่าม้า เป็นต้น แต่ยังไม่ได้สอนกระบวนท่าให้

จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง หวงเฟยหง เกิดไปมีเรื่องกับอันธพาลเข้า ส่วน ยาจกซู ก็เกิดอาการลงแดง ( เพราะติดเหล้า ) ทำให้มือไม้สั่น ไม่มีเรี่ยวแรง

ผลก็คือ ศิษย์กับอาจารย์ ต้องหนีครับ เพราะ ศิษย์มีแต่แรง ส่วนอาจารย์กำลังหมดแรง ไม่อยู่ในสภาพต่อสู้ได้

และหลังจากที่ หวงเฟยหง ฝึกกำลังจนอยู่ตัวแล้ว ยาจกซู ถึงได้เริ่มลงมือถ่ายทอดกระบวนท่าให้ คือ วิชาหมัดเมาแปดเซียน ครับ

ดังนั้น ปัจจัยพื้นฐาน ย่อมสำคัญ และต้องมาก่อน เพื่อปกป้องร่างกายจากการถูกโจมตี ส่วนกระบวนท่านั้นเอาไว้ออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ครับ

Re: ใช้จังหวะและพื้นฐานดีกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 3:19 pm
โดย viim
ขอบคุณครับคุณ tigerroad197 เห็นภาพเลย :)