หน้า 1 จากทั้งหมด 2

จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 10:57 am
โดย chukieat30
วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย กดดันค่าเงินหยวนของจีนแล้ว | 12 Oct. 54

BBC News

วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาลงมติเรียกเก็บเงินภาษีค่าเงินหยวนเพื่อลงโทษที่จีนมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำเกินไป

ทั้งนี้ นักกฎหมายบางคนเห็นว่า ค่าเงินหยวนของจีนส่งผลให้สินค้านำเข้าต่ำเกินไปที่จะสามารถแข่งขันได้ ซึ่งกระทบต่อการจ้างงานของคนอเมริกัน โดยวุฒิสภาได้ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 63 ต่อ 35 เสียง ในขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมากล่าวตอบโต้ในเรื่องนี้ว่า การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามในการร่วมกันฟื้นฟู เศรษฐกิจโลก

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกล่าวว่า ค่าเงินหยวนมีมูลค่าที่ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับเงินดออลาร์สหรัฐฯ ราว 25-30% ทั้งนี้นักกฎหมายบางส่วนมองว่าค่าเงินอาจแตกต่างกันมากกว่า 40% ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกังวลว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระดับชาติของสหรัฐเมริกาและจีน นอกจากนี้ นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรติงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มันเป็นเรื่องอันตรายหากรัฐสภาจะเข้าไปของเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนของ ประเทศ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:04 am
โดย tigerroad197
จีน เองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิด วิกฤต นะครับ

ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจทั่วโลกระส่ำระสาย ออเดอร์ที่จะให้ โรงงานโลก อย่าง จีน ผลิต ก็ย่อมลดน้อยลงไป

แต่นิสัยติดความฟุ้งเฟ้อ นำเข้าสินค้าแบรนด์เนม ไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งฟองสบู่ภาคอสังหา ฯ ของจีน กับ เงินเฟ้อ ที่รอวันระเบิด น่าจะเป็นชนวนให้เกิดวิกฤตต่อไปในเอเชียครับ

สื่อของจีน ถูกควบคุมโดยรัฐบาล ดังนั้น ข่าวสารที่ออกมาล้วนมีแต่แง่บวก หรือเท่าที่รัฐบาลอยากให้สาธารณชนรับรู้เท่านั้น ดังนั้น วิกฤตของจีนจะรับรู้ก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเท่านั้น

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:05 am
โดย chukieat30
เร็วๆนี้ก้เพิ่งจะกีดกันทางการค้าไป ยังไม่พอ วันนี้ยังจะออกบทลงโทษและกล่าวหา

คนอื่นว่า ทำให้ตัวเองต้องล้มลง

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ถ้าจีนบอก เมกาว่า ผมต้องการสภาพคล่อง ผมจะทำไง

ขายบอนด์คุณทิ้งร่วมกับอินเดีย รัสเซีย ดีไหม

แล้วจะโดนกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของวิกฤติเศรษฐกิจหรือเปล่า

แล้วถ้าทำยังงั้น จะมีสงครามไหม

ผมว่า

ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ให้ส่องจีนไว้ให้ดีๆๆๆ อาจจะมีหมัดหนักๆๆต่อยไปโดนผู้นำเมกา

เอาแบบ โดนหมัดนี้ ถึงกับต้องผงะกันเลยทีเดียว

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:07 am
โดย chukieat30
tigerroad197 เขียน:จีน เองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิด วิกฤต นะครับ

ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจทั่วโลกระส่ำระสาย ออเดอร์ที่จะให้ โรงงานโลก อย่าง จีน ผลิต ก็ย่อมลดน้อยลงไป

แต่นิสัยติดความฟุ้งเฟ้อ นำเข้าสินค้าแบรนด์เนม ไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งฟองสบู่ภาคอสังหา ฯ ของจีน กับ เงินเฟ้อ ที่รอวันระเบิด น่าจะเป็นชนวนให้เกิดวิกฤตต่อไปในเอเชียครับ

สื่อของจีน ถูกควบคุมโดยรัฐบาล ดังนั้น ข่าวสารที่ออกมาล้วนมีแต่แง่บวก หรือเท่าที่รัฐบาลอยากให้สาธารณชนรับรู้เท่านั้น ดังนั้น วิกฤตของจีนจะรับรู้ก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเท่านั้น
ผมห่วง เหงียนเวียดกงมากกว่าครับ ใกล้บ้านเรามาก และตอนนี้เงินเฟ้อ+ดอกเบี้ย

ในเวียดกง สูงจนเข้าระดับฟองสบู่ที่ใกล้จะแตก แบบบ้านเราตอนปี40 แล้ว

ถ้าไทยจะต้องกระทบหนัก ก้เพราะ วิกฤติเหงียนเวียดกง นี่แหล่ะครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:16 am
โดย chukieat30
ที่บ้านเรายังไม่เท่าไหร่ แต่ที่เวียดนาม ปีนี้ เผาหลอกครับ

1-2ปีข้างหน้า เผาจริงไม่ติงนัง

เวียดกง โตเกินที่จะลดตัวเองลงได้ในช่วงปลอดภัยแล้ว กบที่มันอยากใหญ่เวลาพองมากๆ

เพื่อให้ดูใหญ่เท่าวัว ท้ายที่สุด มันก้ต้องท้องแตก และก้ต้องตาย

จะห่วงจีน ให้ห่วงเวียดนามก่อนครับ

จีนเค้าคอมมิวนิสต์ สั่งซ้ายก้ซ้ายขวาก้ขวา การคุมเงินเฟ้อก้ถือว่าทำง่ายกว่าประเทศไทย

เราเสียอีก

จีนอย่าไปมองครับ ห่วง ยุโรป เวียดกง ดีกว่า

สุดท้าย สิ่งที่จะรอดตาย คือ หุ้นที่ได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:27 am
โดย tigerroad197
เป็นข้อคิดเห็นที่น่าสนใจครับ

ขอบคุณ คุณ chukieat30 สำหรับข้อคิดเห็นครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:33 am
โดย tigerroad197
วิเคราะห์ต่างประเทศposttoday

12 ตุลาคม 2554 เวลา 07:51 น

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ขณะที่ปัญหาวิกฤตหนี้ในภูมิภาคยุโรปจะเริ่มมีความคืบหน้าในทางที่มากขึ้น แต่โลกอาจจะไม่มีเวลาโล่งใจได้นานนัก เพราะระเบิดเวลาลูกใหญ่อีกลูกหนึ่งกำลังนับถอยหลังรออยู่

ระเบิดที่ว่า ไม่ได้อยู่ในยุโรปหรือสหรัฐ แต่กลับผูกติดไว้กับพี่เบิ้มแห่งเอเชีย แดนตะวันออกอย่างประเทศจีน โดยมีตัวจุดชนวนสำคัญก็คือปริมาณหนี้มหาศาลที่รัฐบาลท้องถิ่นถือครองอยู่

ย้อนกลับไปเมื่อราว 3 ปีก่อนหน้า เพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551 รัฐบาลกลางของจีนได้ประกาศอัดฉีดงบประมาณมูลค่าเกือบ 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อกระตุ้นกำลังการบริโภคภายในประเทศ

ผลที่ได้คือ ส่งผลให้รัฐบาลจีนตามท้องถิ่นต่างๆ ลงมือร่างแผนผุดโครงการก่อสร้างและพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขึ้นมามากมายราวดอกเห็ดไม่ว่าจะเป็นการตัดถนนสร้างสะพาน ปรับปรุงระบบคมนาคม เช่น รถไฟ สร้างที่อยู่อาศัย และพัฒนาที่ดิน

ทว่า แทนที่จะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังกันไว้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะคึกคัก รัฐบาลท้องถิ่นเหล่านี้กลับตกอยู่ในสภาพที่ต้องแบกรับหนี้ที่กู้มาลงทุนอย่างมหาศาล แถมสถานะของรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งก็สุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นหนี้เสียที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคธนาคารและตลาดอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ เมื่อประมวลตัวเลขกันคร่าวๆ แล้ว ปรากฏว่าในปี 2553 มูลค่าหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นจีนมีสูงถึง 10.7 ล้านล้านหยวน โดยรัฐบาลจีนประเมินว่า ราว 2.5-3 ล้านล้านหยวน มีสิทธิกลายสภาพเป็นหนี้เสีย ขณะที่ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกลับมองว่ารัฐบาลท้องถิ่นมีสิทธิเบี้ยวหนี้สูงถึง 9 ล้านล้านหยวน หรือหากคำนวณเป็นเงินเหรียญสหรัฐก็ราว 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลมากกว่าเงิน 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ที่รัฐบาลสหรัฐใช้ไปกับโครงการเงินช่วยเหลือภาคธนาคารเมื่อปี 2551

เรียกได้ว่า จีนเสี่ยงที่จะล้มดังมากกว่าสหรัฐ หากว่ารัฐบาลท้องถิ่นจีนเกิดชักดาบขึ้นมา

แม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า-ส่งออก หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะยังพอเดินหน้าต่อไปได้ แต่ปัญหาหนี้สาธารณะของรัฐบาลท้องถิ่นก็ทำให้นักลงทุนไม่อาจวางใจหอบเงินมาลงทุนในจีนได้ 100%

สิ่งที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลกันว่า รัฐบาลท้องถิ่นของจีนมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะเงินที่กู้ไปนั้น รัฐบาลท้องถิ่นไม่ได้นำไปลงทุนทำอะไรที่จะงอกเงยเป็นตัวเงินกลับคืนมาได้ นอกเหนือไปจากการสร้างงานในท้องถิ่นเท่านั้น

นอกจากนี้ แม้ว่ารัฐบาลกลางจีนจะมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มากกว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากเพียงพอที่จะนำมาใช้จัดการปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีอยู่ หากว่าจะต้องมีการชักดาบขึ้นมาจริงๆ

แต่สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ก็ส่งผลให้รัฐบาลจีนไม่อยู่ในสภาวะที่จะยอมเสี่ยงให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหดหายลงไปได้ ขณะที่สถานการณ์เงินเฟ้อของประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูงก็ทำให้รัฐบาลจีนมีทางเลือกไม่มากนักในการจัดการปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น

ทางออกแรกสุดที่พอจะเป็นไปได้ในขณะนี้ก็คือ ที่ดิน

ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลท้องถิ่นจะมีเงินไม่มากนัก แถมยังมีหนี้ก้อนโตอยู่ในมือ แต่รัฐบาลท้องถิ่นถือเป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุดในมณฑล จนอาจจะเรียกว่าเป็นเศรษฐีที่ดินก็ไม่ผิดนัก

สำหรับจีน ที่ดินถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ค้ำประกันเพื่อขอกู้ยืมเงินจากสถาบันทางการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

หรือหากไม่นำไปค้ำประกันแล้ว รัฐบาลอาจหาทางต่อยอดพัฒนาที่ดินว่างเปล่าให้เป็นอาคารเพื่อที่พักอาศัย หรือเพื่อการพาณิชย์เพื่อหาประโยชน์เข้ารัฐอีกต่อหนึ่ง

เฉินจุน ผู้อำนวยการบริษัท เฉิงตู คอมมิวนิเคชัน อินเวสต์เมนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการสถานีรถไฟวอเตอร์ลูให้กับรัฐบาลท้องถิ่นในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ได้ออกมายอมรับว่า ขณะนี้ได้เดินหน้าสร้างโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ด้วยเงินที่กู้มาก่อนหน้า เพื่อเพิ่มมูลค่าและเรียกเงินเข้ากระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทว่า ปัญหาที่เฉินจุนอาจคิดไม่ถึงก็คือว่ารัฐบาลกลางของจีนในขณะนี้กำลังหามาตรการเข้มงวดเร่งด่วนมากมายเพื่อคุมความร้อนแรงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตฟองสบู่ โดยพยายามคุมราคาที่ดินไม่ให้พุ่งแรงแพงเกินเหตุ พร้อมกับให้ธนาคารของรัฐตัดลดการให้ยืมเงินลง

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรัฐบาลท้องถิ่นมากมายเพียงใด

ทั้งนี้ รายได้หลักๆ ของรัฐบาลท้องถิ่นนอกเหนือไปจากการจัดเก็บภาษีที่รัฐบาลกลางได้เข้ามาควบคุมดูแลอีกทอดหนึ่งเพื่อไม่ให้นำเงินไปใช้โดยเปล่าประโยชน์หรือเอื้อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน อันจะเป็นผลดีในการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนตามแนวนโยบายที่รัฐบาลกลางตั้งเป้าเอาไว้ อีกส่วนหนึ่งมาจากการขายหรือหาประโยชน์จากที่ดินที่ครอบครองอยู่

ราคาที่ดินที่สูงขึ้นทำให้รัฐบาลท้องถิ่นได้ประโยชน์ เพราะมีเงินเป็นกอบเป็นกำที่จะนำมาบริหารจัดการกิจการต่างๆ ของตนเอง

แต่นโยบายของรัฐบาลกลางในปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นตกอยู่ในสภาพที่ว่ามีรายจ่ายมากมายที่จะต้องจัดการทั้งการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และหมดไปกับเงินสวัสดิการสังคม แต่ไม่มีรายได้เพียงพอ และก็ไม่อาจจะเดินหน้าหากู้ยืมได้ที่ไหนอีกต่อไป

นักวิเคราะห์จึงได้บทสรุปที่ไม่ต้องคาดเดาให้ยุ่งยากมากนักว่า รัฐบาลท้องถิ่นอาจจะต้องยอมเข้าคิวชักดาบเบี้ยวหนี้กันเป็นทิวแถว ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากภาคการเงินการธนาคารของประเทศ

และเป็นไปได้ยากที่จีนจะหลบเลี่ยงไม่ให้เจ็บตัวจากการร่วงแรงแบบ Hard Landing ได้

ที่มา : ขอขอบคุณ

http://www.posttoday.com

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:40 am
โดย beaeaebe
เห็นด้วยครับ เวียดนามเงินเฟ้อสูงมากๆ ครับ เวอร์มากครับลองดู % ที่ผ่านมา ถ้าเวียดล้ม ก็วิกฤตเฝอย่อมๆ อาจจะกระทบกันใหญ่เหมือนกัน

จีนท้องถิ่น บางมนฑลเวลาเขาคิด gdp บางทีเล่นคิดจากแค่ปริมาณใช้ไฟฟ้า กะพลังงานเองนะครับ แบบชุ่ยมาก หลังม่านไผ่เขาอึไว้ไม่ทำส้วมดีๆ กองไปกองมามันก็ใหญ่นะครับ

ถ้าหนี้ท้องถิ่นจีนมีมากขึ้น แถมถูกบีบให้เงินหยวนแข็ง แปลว่าหนี้ในมูลค่าหยวนยิ่งมาก เมื่อเทียบกับการส่งออกที่จะโดนบีบให้ความสามารถในการแข่งขันลดต่ำลง หรือแม้กระทั่งจะเอาดอลล่ามาโปะ ก็กลายเป็นว่าดอลล่าอ่อนลงเมื่อเทียบกับหยวน...

ออกกฏหมายแบบนี้ เมกามันไม่ยอมตายคนเดียวนี่หว่า...

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:44 am
โดย chukieat30
สบน.กาง แผนเตรียมกู้เงิน 6.9 แสนล้านบาท ชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 55 และรีไฟแนนซ์หนี้เก่า ชี้ตลาดหุ้นผันผวน เงินทุนไหลออก มั่นใจไม่กระทบแผน อ้างสภาพคล่องในประเทศเหลือเฝือ

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กล่าวว่า สบน.มี แผนกู้เงินในปีงบประมาณ2555ทั้งหมด 6.9 แสนล้านบาท เป็นการกู้เพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท และกู้เพื่อใช้หนี้เดิม (รีไฟแนนซ์) 3.4 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตามอาจจะมีการขยายกอบเงินกู้เพิ่ม ในส่วนของการรีไฟแนนซ์หนี้โครงการไทยเข้มแข็งอีก 1.49 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่กู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวกับธนาคารพาณิชย์ในเวลา 4 ปี ตอนนี้สัญญาผ่านไป 1 ปีกว่าแล้ว ก็มีแผนจะพิจารณาเปลี่ยนเป็นเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ เพราะตอนนี้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 3.8-3.9% ต่อปี เท่านั้น

สำหรับแผนการกู้เงิน 6.9 แสนล้านบาท จะกู้ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2555 ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2555 วงเงิน 1.24 แสนล้านบาท เป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล 3.2 หมื่นล้านบาท แยกเป็นอายุ 5 ปี 1.5 หมื่นล้านบาท อายุ 7 ปี 9,000 ล้านบาท และอายุ 9 ปี 8,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ จะกู้เงินด้วยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 8.9 หมื่นล้านบาท และออกพันธบัตรออมทรัพย์ให้รายย่อยซื้อผ่านตู้เอทีเอ็มอีก 3,000 ล้านบาท

นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวอีกว่า การกู้เงินนไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2555 มีจำนวนไม่มาก เพราะงบประมาณปี 2555 ยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้ยังไม่สามารถกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลได้ คาดว่า งบประมาณปี 2555 จะมีผลบังคับใช้เดือนกุมภาพันธ์ 2555

ผู้อำนวยการ สบน. ยังกล่าวถึงกรณีความผันผวนในตลาดหุ้นไทย ทำให้มีเงินไหลออกนอกประเทศจำนวนมากเชื่อว่าจะไม่กระทบการกู้เงินของรัฐบาล เพราะสภาพคล่องในประเทศมีอยู่มากนอกจากนี้ยังมองว่า เงินทุนไหลออกบ้าง จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทย เพราะจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนส่งผลดีกับการส่งออกของไทยได้รายได้มากขึ้นอีก ทั้งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทยลดลงได้ในอนาคต

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 27 กันยายน 2554 กระทรวงการคลังเสนอให้ครม.เห็นชอบแผนการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้ โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์)จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วง 1 ปี จากวงเงินที่ขอมาทั้งหมด 1,800 ล้านบาท โดยวงเงินที่เหลือคงต้องคงต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจะให้กู้อย่างไร


กู้เพื่อรีไฟแนนท์และลงทุนโครงการเมกะโปรเจคส์ แบบนี้ ใครจะได้ประโยชน์ครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:53 am
โดย chukieat30
beaeaebe เขียน:เห็นด้วยครับ เวียดนามเงินเฟ้อสูงมากๆ ครับ เวอร์มากครับลองดู % ที่ผ่านมา ถ้าเวียดล้ม ก็วิกฤตเฝอย่อมๆ อาจจะกระทบกันใหญ่เหมือนกัน

จีนท้องถิ่น บางมนฑลเวลาเขาคิด gdp บางทีเล่นคิดจากแค่ปริมาณใช้ไฟฟ้า กะพลังงานเองนะครับ แบบชุ่ยมาก หลังม่านไผ่เขาอึไว้ไม่ทำส้วมดีๆ กองไปกองมามันก็ใหญ่นะครับ

ถ้าหนี้ท้องถิ่นจีนมีมากขึ้น แถมถูกบีบให้เงินหยวนแข็ง แปลว่าหนี้ในมูลค่าหยวนยิ่งมาก เมื่อเทียบกับการส่งออกที่จะโดนบีบให้ความสามารถในการแข่งขันลดต่ำลง หรือแม้กระทั่งจะเอาดอลล่ามาโปะ ก็กลายเป็นว่าดอลล่าอ่อนลงเมื่อเทียบกับหยวน...

ออกกฏหมายแบบนี้ เมกามันไม่ยอมตายคนเดียวนี่หว่า...
-----ถูกต้องนะครับ

เค้าคงอยากจะป้ายสีให้จีนตกในฐานะ ผู้ก่อการร้ายทางการเงินครับ

เต็มที่ ถ้าจีนอดรนทนไม่ไหว ขายบอนด์เมกาออกมาหมดเพื่อเสริมสภาพคล่อง

เมกาเค้าก้จะ ใช้กำลังกับจีนได้ (ประสาบ้านเราคือ ตำรวจยัดยาบ้าให้คนไม่ผิด)

เมการอประกาศสงครามเพื่อผูกค่าเงิน และเพื่อลดหนี้ครับ

อีกทั้ง ทองที่ตัวเองถือไว้ มูลค่าก้จะเพิ่มขึ้น

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:56 am
โดย multipleceilings
package กระตุ้นงานของ obama ก็ไม่ผ่านครับ........................... การเมือง... เหอะๆ

(Reuters) - The Senate defeated President Barack Obama's job-creation package on Tuesday in a sign that Washington is likely too paralyzed to take major steps to spur hiring before the 2012 elections.

The $447 billion package of tax cuts and new spending failed by a vote of 50 to 48, short of the 60 votes it needed to advance in the 100-member Senate. Voting was expected to continue for several hours but would not affect the outcome.

Obama, campaigning in Florida, said the vote was not the end of the fight for the measure. In a statement after the vote, Obama accused Republicans of obstruction and said he would work with Senate Majority Leader Harry Reid to make sure that individual proposals in the bill would get a vote as soon as possible.

"Ultimately, the American people won't take 'no' for an answer. It's time for Congress to meet their responsibility, put their party politics aside and take action on jobs right now."

Obama had barnstormed around the country to pressure his Republican opponents to back his top legislative priority, but he did not pick up a single Republican vote in the Democratic-controlled Senate.

Two Democrats, facing re-election in conservative states, also voted against the measure.

Obama said earlier on Tuesday he would try to pass components of the bill individually.

Though Obama's top legislative priority is now dead in Congress, it is certain to have a long afterlife on the campaign trail.

Obama's 2012 re-election chances depend on his ability to spur the sluggish economic recovery and revive the nearly stagnant job market.

The U.S. unemployment rate has been above 9 percent since May and almost 45 percent of the 14 million jobless Americans have been out of work for six months or more.

Even Wall Street is feeling the pinch, with a report from the New York State Comptroller showing that banker bonuses are likely to drop for the second year in a row.

Among the elements of the bill which might be salvaged are a payroll tax cut which Obama wants to extend to avoid imposing an effective tax increase at a time when wages have not been rising much. Obama's bill would also extend unemployment benefits for the long-term unemployed, another area that could yield bipartisan support.

Other elements, such as increased highway spending and aid for cash-strapped states, aren't likely to pick up Republican support.

POLITICAL FOOTBALL

Democrats say that Republicans are more interested in defeating Obama than helping the country recover from the deepest recession since the 1930s.

"Republicans think if the economy improves it might help President Obama. So they root for the economy to fail, and oppose every effort to improve it," Senate Democratic Leader Harry Reid said before the vote.

Republicans, who have lined up behind a job-creation agenda centered around relaxing business regulations, say Obama's jobs bill is essentially a warmed-over version of his 2009 stimulus.

That effort helped to ease the impact of the worst recession since the 1930s, but Republicans point out that it did not keep unemployment below 8 percent as the White House had promised.

"Everyone who votes for this second stimulus will have to answer a simple but important question: why on Earth would you support an approach that we already know won't work?" said Senate Republican Leader Mitch McConnell.

Obama's so-called Jobs Council, under the chairmanship of GE Chief Executive Officer Jeffrey Immelt, earlier delivered a report in which they proposed steps to foster U.S. innovation and make the country more attractive to foreign investment.

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:57 am
โดย chukieat30
tigerroad197 เขียน:เป็นข้อคิดเห็นที่น่าสนใจครับ

ขอบคุณ คุณ chukieat30 สำหรับข้อคิดเห็นครับ
ขอบคุณทั้งสอง ท่าน สำหรับทัศนะ และข่าว ครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 12:53 pm
โดย appendix
อธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยว่าหากจีนขายพันธบัตรสหรัฐ แล้วสหรัฐจะเสียหายอย่างไร จีนจะได้อะไร จะเอาเงินดอลล่าไปไว้ที่ไหน และมันเป็นหมัดหนักอย่างไรครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:04 pm
โดย beaeaebe
ก็เทออกมา มันก็เหมือนทุบหุ้นดอลล่าอะครับ

เทเงินดอลล่าออกมามหาศาลขนาดนั้น ค่าเงินดอลก็ต้องลดฮวบๆ แ้ลวจีนถือเยอะ ความแรงก็ไม่ธรรมดาแน่ๆ แถมยังเปรียบเหมือนสัญญาณยิงจรวดนิิวเคลียร์ ทริกเกอร์ให้ทุกชาติที่ถือดอลล่าเทตาม เพราะเมื่อค่าเงินดอลลดลงๆๆๆ ทุกชาติที่ถือรวมถึงไทย ก็ต้องเทออกตามเพราะไม่งั้นที่ถืออยู่ก็จะเหลือมูลค่าเป็นแค่แบงก์กงเต้ก

ทีนี้ก็จะเกิดอาการแพนิคเซลดอลล่า แย่งกันขาย เราไม่ยอมให้ใครขายถูกกว่า ประมาณนั้น

ถ้าจีนทำจริง ก็คือเตรียมขุดบังเกอร์ เพราะจีนเหมือนเอาตีงไปลูบหน้าคนเมกันน่ะครับ คงต้องมีต่อยกันบ้างอะไรบ้างแน่นอน

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:16 pm
โดย appendix
สหรัฐต้องการให้ดอลอ่อนนะครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:28 pm
โดย beaeaebe
อ่อนลง กับโดนทำลายลง ต่างกันนะคับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:32 pm
โดย multipleceilings
เอาเรื่องหนี้รัฐบาล europe กับ credit crisis ให้จบก่อนดีกว่าที่จะมากัดกัน.. T_T

ตอนนี้ภายใจอเมกาก็กัดกันเอง ดูจากแนวโน้มหลังๆเหมือนจะเอา obama ลงแล้ว

แต่ตราบใดที่ยังอยู่ในโซนของ cold war ก็ Ok ครับ อย่ายิงกันเป็นพอ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:33 pm
โดย Linzhi
เรื่องจีนผมเคยดูอยู่ช่วง ตอนที่ไปเรียนที่จีน

คุยและฟังกับ prof กับอ. หลายท่าน รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ดัง ๆ ที่ชอบแวะไปจีน

ข้อสรุปผมคือโลกนี้มีอะไรให้วิเคราะห์มากมาย คิดไปก็ถูกบ้างผิดบ้าง

กลับไปวิเคราะห์หุ้นตัวเองดีกว่า ... ง่ายกว่าและอย่างน้อยถูกมากกว่าผิดนิดนึง ก็กำไรแล้ว ..

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 1:59 pm
โดย appendix
จีนกดค่าเงินต่ำติดประกอบกับค้าทาสในประเทศตัวเองเพื่อแลกกับการลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา การผลิตที่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อนี้นำมาซึ่งการได้ดุลการค้าอย่างต่อเนื่องและเงินดอลล่าที่ไหลประเทศจีน ลองคิดดูว่าจีนต้องทำอย่างไรเพื่อต้านการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินหยวนเพราะดุลการค้ามหาศาลนี้ถ้าไม่ใช่พิมพ์แบ๊งค์กงเต๊กของแท้และดั้งเดิมออกมาซื้อดอลล่ามาเนิ่นนานแล้ว และดอลล่าที่มากมายในมือจีนจะให้เอาไปทำอะไรเล่านอกจากซื้อพันธบัตรอเมริกาเพราะไม่มีที่ไหนมั่นคงไปกว่านี้อีกแล้ว การเงินโลกมีนผิดเพี้ยนเพราะใครกันแน่หนอ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 2:06 pm
โดย chukieat30
Linzhi เขียน:เรื่องจีนผมเคยดูอยู่ช่วง ตอนที่ไปเรียนที่จีน

คุยและฟังกับ prof กับอ. หลายท่าน รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ดัง ๆ ที่ชอบแวะไปจีน

ข้อสรุปผมคือโลกนี้มีอะไรให้วิเคราะห์มากมาย คิดไปก็ถูกบ้างผิดบ้าง

กลับไปวิเคราะห์หุ้นตัวเองดีกว่า ... ง่ายกว่าและอย่างน้อยถูกมากกว่าผิดนิดนึง ก็กำไรแล้ว ..
กิจการของเรา บางทีก้แขวนบน เกมของเศรษฐกิจครับพี่ลินซี่

เมื่อเรารู้จักกิจการของเรา เราก้ต้องรู้จักสภาพแวดล้อม ที่จะนำพาหุ้นเราด้วยครับ

แต่ทุกๆวิกฤติ ย่อมจะมีทั้งโอกาศและภัย

ถ้าหุ้นของเรามีภัยข้างหน้า แล้วเราไม่มีชูชีพ อย่าเสี่ยงที่จะเอาตัวเข้าแลกครับ

ถ้าหุ้นของเรามีโอกาศ แล้วเราไม่มีชูชีพ เต็มที่ก้รอเก็บเสื้อชูชีพข้างทางเอาครับ

ในวิกฤติ มีโอกาศ และก้มีภัย

บางทีรู้กิจการดี แต่ไม่รู้ว่า ปัจจัยที่ทำให้กิจการ ดีขึ้นหรือแย่ลง คืออะไร

เวลาภัยมา ก้หนีไม่ทันครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 2:14 pm
โดย chukieat30
appendix เขียน:จีนกดค่าเงินต่ำติดประกอบกับค้าทาสในประเทศตัวเองเพื่อแลกกับการลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา การผลิตที่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อนี้นำมาซึ่งการได้ดุลการค้าอย่างต่อเนื่องและเงินดอลล่าที่ไหลประเทศจีน ลองคิดดูว่าจีนต้องทำอย่างไรเพื่อต้านการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินหยวนเพราะดุลการค้ามหาศาลนี้ถ้าไม่ใช่พิมพ์แบ๊งค์กงเต๊กของแท้และดั้งเดิมออกมาซื้อดอลล่ามาเนิ่นนานแล้ว และดอลล่าที่มากมายในมือจีนจะให้เอาไปทำอะไรเล่านอกจากซื้อพันธบัตรอเมริกาเพราะไม่มีที่ไหนมั่นคงไปกว่านี้อีกแล้ว การเงินโลกมีนผิดเพี้ยนเพราะใครกันแน่หนอ
ขอแย้งครับ แล้วถ้าจีนเทขายพันธบัตร และเอาเงินดอลลไปซื้อทอง

เพื่อที่จะได้พิมพ์ เงินหยวน ให้กลายเป็นเงินสกุลหลักหล่ะครับ

อะไรจะเกิดเมื่อ พยามังกร หวังขึ้นแท่นเบอร์1 ภายใต้การเห็นชอบของสมาชิกอียู

อย่าลืมว่า การพิมพ์เงินออกมาให้กลายเป็นสกุลหลัก ต้องใช้เงินมหาศาล

และต้องมีทองคำเป็นทุนสำรอง จึงจะสามารถพิมพ์เงินได้


อีกข้อ เมื่อก่อน จีนได้ประโยชน์จากเลเบอร์อินเซนทีฟ แรงงานต่ำ ค่าจ้างถูก

แต่ปัจจุบัน ค่าจ้างไม่ถูกแล้วนะครับ ชีวิตความเป็นอยู่เมื่อ 10 ปีที่แล้วในซัวเถา

กับปัจจุบัน ห่างกันมาก

เมื่อก่อนคนต่างจังหวัดยากจน กินข้าวอย่างนึง กับข้าวก้1-2 อดอยาก

แต่เดี๋ยวนี้ เศรษฐี บ้านนอกในจีน ยังเยอะกว่า เศรษฐี บ้านนอกในเมืองไทย

กับข้าวก้เหลา รถก้หรู ที่นาก้กลายเป็นโรงแรม เป็นที่พัก

เด๋วนี้เมืองจีนเปลี่ยนไปมาก คุณต้องลองถามคนมีญาติ หรือ มีพี่น้องเมืองจีน

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 2:23 pm
โดย appendix
สิ่งที่สหรัฐต้องการให้จีนทำ คือหยุดการพิมพ์แบงค์กงเต๊กเสียทีแล้วปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งขึ้นตามธรรมชาติ และนั่นจะทำให้ความได้เปรียบเชิงอัตราแลกเปลี่ยนลดลงหรือหมดไปและหยุดการได้ดุลการค้าที่พิกลพิการนี้ในที่สุดครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 2:26 pm
โดย appendix
จีนซื้อทองได้ครับไม่มีใครเดือนร้อนนี่ครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 2:46 pm
โดย CheNz
แทรกขอความรู้นิดนึงครับ

- ในเรื่องของค่าเงิน หากค่าเงินดอลล่ามีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลง คนที่ถือเงินดอลล่าก็จะขายทิ้ง
เพื่อไปซื้อทองคำเนื่องจากมูลค่าทองคำ ไม่ได้ลดลงตามค่าเงิน
จึงทำให้เมื่อคนหันไปซื้อทองคำ ทองจึงมีราคาสูงขึ้น ถูกต้องไหมครับ

- ส่วนในเรื่องการพิมพ์เงิน กับทองคำ ที่บอกว่า ทองคำเป็นตัว backup ค่าเงิน
นี่หมายความเช่นไรครับ และทำไมการจะพิมพ์เงินออกมา จะต้องมีทองคำมาเกี่ยวข้องด้วยครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 3:59 pm
โดย appendix
ทองคำปัจจุบันเป็นเพียงส่วนเล็กๆที่แต่ละประเทศใช้เป็นตัวแบ๊กเงินครับเงินส่วนใหญ่แบ๊กด้วยหนี้และเงินตราของประเทศอื่น อัตราแลกเปลี่ยนนั้นถูกกำหนดโดยการไหลเข้าออกของเงินผ่านตลาดเงิน โดยมีธนาคารกลางของแต่สะประเทศคอยแทรกแทรง

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 5:10 pm
โดย nasesus
ตอนนี้จีนก็เริ่มตอบโต้แล้วนี่ครับ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่สร้างมาถ่วงดุลตลาดไงครับ
ตลาดหุ้นจีนปิดบวก 71.48 จุด หลังนลท.ช้อนซื้อหุ้น เชื่อกองทุนเพื่อความมั่งคั่งฯเตรียมเก็บ
หุ้นอีก

รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดที่
ระดับ 2,420.00 จุด เพิ่มขึ้น 71.48 จุด หรือ +3.04 %
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนปิดบวก เป็นผลมาจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่า
กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติจีนจะเข้าซื้อหุ้นอีก หลังจากเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารมาแล้ว
เนื่องจากราคาอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง





แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์



เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น [email protected]




ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 12/10/11 เวลา 15:10:39



Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 5:50 pm
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
คิดไปก็ปวดหัวครับ

อเมกาก็มี spy ทำงานในจีน

จีนก็มี spy ทำงานในอเมกา

มันมีอะไรซ่อนอยู่มากมายที่เราไม่รู้

อะไรที่มันออกสื่อให้รายย่อยอย่างเราๆได้เห็นไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ

ทุกอย่างเป็นแค่เครื่องมือใช้เดินเกม ใช้หาตังค์..... เค้ารบกันทีไร เม่าโดนลูกหลงประจำ และก็จบง่ายๆด้วยคำว่าการลงทุนมันมีความเสี่ยง อืม

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 8:17 pm
โดย imerlot
รุ่นปู่ทำมาแล้ว
รุ่นหลานยังจะทำอีกหรือ?

Frantic attempts to shore up the economies of individual nations through protectionist policies, such as the 1930 U.S. Smoot–Hawley Tariff Act and retaliatory tariffs in other countries, exacerbated the collapse in global trade. By late 1930, a steady decline in the world economy had set in, which did not reach bottom until 1933.
http://en.wikipedia.org/wiki/Great_Depression
Oct. 11, 2011, 6:30 p.m. EDT
Senate passes bill pressuring China on currency
http://www.marketwatch.com/story/senate ... etPulse%29

WASHINGTON (MarketWatch) -- The Senate approved a bill on Tuesday that would allow new duties on goods from China and other countries that lawmakers say manipulate their currencies. The measure now faces an uphill climb: House Republican leaders are cool to it, as is President Barack Obama. The bill passed 63-35.

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 11:15 pm
โดย Linzhi
chukieat30 เขียน:
Linzhi เขียน:เรื่องจีนผมเคยดูอยู่ช่วง ตอนที่ไปเรียนที่จีน

คุยและฟังกับ prof กับอ. หลายท่าน รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ดัง ๆ ที่ชอบแวะไปจีน

ข้อสรุปผมคือโลกนี้มีอะไรให้วิเคราะห์มากมาย คิดไปก็ถูกบ้างผิดบ้าง

กลับไปวิเคราะห์หุ้นตัวเองดีกว่า ... ง่ายกว่าและอย่างน้อยถูกมากกว่าผิดนิดนึง ก็กำไรแล้ว ..
กิจการของเรา บางทีก้แขวนบน เกมของเศรษฐกิจครับพี่ลินซี่

เมื่อเรารู้จักกิจการของเรา เราก้ต้องรู้จักสภาพแวดล้อม ที่จะนำพาหุ้นเราด้วยครับ

แต่ทุกๆวิกฤติ ย่อมจะมีทั้งโอกาศและภัย

ถ้าหุ้นของเรามีภัยข้างหน้า แล้วเราไม่มีชูชีพ อย่าเสี่ยงที่จะเอาตัวเข้าแลกครับ

ถ้าหุ้นของเรามีโอกาศ แล้วเราไม่มีชูชีพ เต็มที่ก้รอเก็บเสื้อชูชีพข้างทางเอาครับ

ในวิกฤติ มีโอกาศ และก้มีภัย

บางทีรู้กิจการดี แต่ไม่รู้ว่า ปัจจัยที่ทำให้กิจการ ดีขึ้นหรือแย่ลง คืออะไร

เวลาภัยมา ก้หนีไม่ทันครับ
ไอเดียผมแค่ว่า ถ้าเรารู้ก็ดีครับ เพราะความไม่รู้ คือ ความเสี่ยง แต่เราจะไปรู้ทุกเรื่องคงเป็นไปได้ยากมาก

เช่นถ้าเราจะปกป้องน้ำท่วมบ้านที่อยู่กทม. เราคงอยากรู้ว่าน้ำฝนมันตกเต็มเขื่อนทางภาคเหนือตอนล่างรึเปล่า พายุดีเปรสชั่นจะเข้ากี่ลูก กำลังจะก่อตัวอีกกี่ลูก

แต่ถามว่าเข้ากี่ลูก ถึงจะเสี่ยง ต้องรู้แค่ไหน ถึงจะประเมินได้ หรือข้อมูลบางอย่าง ทำยังไงเราก็ไม่รู้ดี

สู้เรารู้ว่า บ้านเราอยู่สูงหรือต่ำกว่าระดับน้ำทะเลแค่ไหน ข้างบ้านเราท่วมรึยัง หมู่บ้านข้าง ๆ เป็นยังไง

ส่วนข้อมูลที่พี่ chukiet30 ถามเรื่องจีน เรื่องอเมริกา ว่ามันเป็นข้อมูลใกล้ตัวอย่างข้อมูลหมู่บ้านข้างบ้าน
หรือเป็นข้อมูลที่ไกลตัวมากอย่างหมู่บ้านเหนือเขื่อน ก็คงต้องตัดสินกันเองครับ

Re: จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป ในอนาคต

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 13, 2011 8:59 am
โดย chukieat30
imerlot เขียน:รุ่นปู่ทำมาแล้ว
รุ่นหลานยังจะทำอีกหรือ?

Frantic attempts to shore up the economies of individual nations through protectionist policies, such as the 1930 U.S. Smoot–Hawley Tariff Act and retaliatory tariffs in other countries, exacerbated the collapse in global trade. By late 1930, a steady decline in the world economy had set in, which did not reach bottom until 1933.
http://en.wikipedia.org/wiki/Great_Depression
Oct. 11, 2011, 6:30 p.m. EDT
Senate passes bill pressuring China on currency
http://www.marketwatch.com/story/senate ... etPulse%29

WASHINGTON (MarketWatch) -- The Senate approved a bill on Tuesday that would allow new duties on goods from China and other countries that lawmakers say manipulate their currencies. The measure now faces an uphill climb: House Republican leaders are cool to it, as is President Barack Obama. The bill passed 63-35.
จะย้อนรอย 1930 ไหมครับ