ศูนย์ข้อมูลฯชี้เบื้องต้นบ้านจัดสรรจมน้ำ5หมื่นหลัง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 21, 2011 5:27 am
วันที่ 20 ตุลาคม 2554 13:28ศูนย์ข้อมูลฯชี้เบื้องต้นบ้านจัดสรรจมน้ำ5หมื่นหลัง
โดย : โต๊ะข่าวธุรกิจการตลาด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ สำรวจเบื้องต้น ผลกระทบน้ำท่วม เทียบแผนที่จัดสรรใหม่ คาดมีบ้านจมน้ำ 5 หมื่นหลัง คนปรับแผนทาวน์เฮ้าส์หันซื้อคอนโด
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ได้สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล และพระนครศรีอยุธยารวม 7 จังหวัด ในเบื้องต้นพบว่า น่าจะมีจำนวนคร่าวๆประมาณ5 หมื่นหน่วย ซึ่งได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน
โดยการสำรวจดังกล่าว ศูนย์ข้อมูลฯใช้วิธีนำโครงการที่ขออนุญาตจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ แต่ไม่รวมอาคารชุด และบ้านที่สร้างเอง โดยเป็นโครงการที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2533 นำมาเทียบกับแผนที่อุทกภัย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นบ้านที่สร้างเสร็จและมีการอยู่อาศัยแล้ว ส่วนบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและขายมีไม่มากนัก
ทำเลบ้านจัดสรรที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำครั้งนี้ ได้แก่พื้นที่ชานเมืองทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตกของกรุงเทพฯ เช่น หนองจอก บึงกุ่มคลองสามวา บางบัวทอง รังสิต เป็นต้น
นายสัมมา กล่าวว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ จะทำให้การซื้อขายบ้านไตรมาส 4 ลดลงแน่ แต่เชื่อว่าความรุนแรงคงจะไม่เทียบเท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันและสถาบันการเงินก็ยังคงแข็งแกร่ง
โอกาส"คอนโดฯ"แทนทาวน์เฮ้าส์
นายสัมมา ระบุด้วยว่า ในส่วนของผู้บริโภค หลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ เชื่อว่า ผู้บริโภคที่จะซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ จะใช้เวลาพิจารณายาวนานขึ้นในการตัดสินใจ เนื่องจากต้องพิจารณาโดยถี่ถ้วนปัจจัยด้านทำเลที่อยู่อาศัย โดยจะให้ความสำคัญกับระดับความสูงของพื้นที่โครงการ และระดับความสูงของเส้นทางสัญจรรอบด้าน เพื่อให้สามารถป้องกันภัยจากน้ำท่วมได้ในอนาคต
ในอนาคต ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แต่ไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวได้เพราะมีงบประมาณจำกัด อาจพิจารณาซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมแทนการซื้อทาวน์เฮาส์ หากไม่มั่นใจว่าโครงการแนวราบในทำเลที่ต้องการจะอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วมวัสดุขาด-ก่อสร้างใหม่ล่าช้า
ในส่วนผู้ประกอบการ คาดว่าหลังจากนี้ไป จะประสบปัญหาการก่อสร้างโครงการใหม่ล่าช้า เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ฝนตกหนักและยาวนานต่อเนื่อง โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างได้รับความเสียหายหรือการผลิตวัสดุก่อสร้างหยุดชะงัก การขนส่งวัสดุก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรือวัสดุก่อสร้างบางรายการอาจขาดแคลนหรือมีราคาแพงขึ้นมาก เช่น อิฐบล็อก หิน ปูน ทราย เพราะประชาชน ห้างร้าน โรงงาน และหน่วยงานต่างๆซื้อหาไปทำแนวป้องกันน้ำท่วม
เนื่องจาก อาจต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนวัสดุก่อสร้างหรือวัสดุก่อสร้างมีราคาแพง เนื่องจากภาครัฐต้องดำเนินการบูรณะซ่อมแซมถนน สะพาน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆจำนวนมาก รวมทั้งผู้บริโภคต้องซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
หากปัญหาอุทกภัยยังคงยืดเยื้อในพื้นที่ที่มีตลาดที่อยู่อาศัยมาก เช่น กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และอยุธยา จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดภาวะชะงักงันได้ โดยในฝั่งผู้ประกอบการอาจชะลอการเปิดโครงการใหม่ และการก่อสร้างโครงการ ส่วนฝั่งผู้บริโภคอาจชะลอการโอนกรรมสิทธิ์Tags : น้ำท่วม 2554 • บ้านจัดสรร
http://bit.ly/pjpEU5
โดย : โต๊ะข่าวธุรกิจการตลาด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ สำรวจเบื้องต้น ผลกระทบน้ำท่วม เทียบแผนที่จัดสรรใหม่ คาดมีบ้านจมน้ำ 5 หมื่นหลัง คนปรับแผนทาวน์เฮ้าส์หันซื้อคอนโด
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ได้สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล และพระนครศรีอยุธยารวม 7 จังหวัด ในเบื้องต้นพบว่า น่าจะมีจำนวนคร่าวๆประมาณ5 หมื่นหน่วย ซึ่งได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน
โดยการสำรวจดังกล่าว ศูนย์ข้อมูลฯใช้วิธีนำโครงการที่ขออนุญาตจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ แต่ไม่รวมอาคารชุด และบ้านที่สร้างเอง โดยเป็นโครงการที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2533 นำมาเทียบกับแผนที่อุทกภัย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นบ้านที่สร้างเสร็จและมีการอยู่อาศัยแล้ว ส่วนบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและขายมีไม่มากนัก
ทำเลบ้านจัดสรรที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำครั้งนี้ ได้แก่พื้นที่ชานเมืองทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตกของกรุงเทพฯ เช่น หนองจอก บึงกุ่มคลองสามวา บางบัวทอง รังสิต เป็นต้น
นายสัมมา กล่าวว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ จะทำให้การซื้อขายบ้านไตรมาส 4 ลดลงแน่ แต่เชื่อว่าความรุนแรงคงจะไม่เทียบเท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันและสถาบันการเงินก็ยังคงแข็งแกร่ง
โอกาส"คอนโดฯ"แทนทาวน์เฮ้าส์
นายสัมมา ระบุด้วยว่า ในส่วนของผู้บริโภค หลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ เชื่อว่า ผู้บริโภคที่จะซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ จะใช้เวลาพิจารณายาวนานขึ้นในการตัดสินใจ เนื่องจากต้องพิจารณาโดยถี่ถ้วนปัจจัยด้านทำเลที่อยู่อาศัย โดยจะให้ความสำคัญกับระดับความสูงของพื้นที่โครงการ และระดับความสูงของเส้นทางสัญจรรอบด้าน เพื่อให้สามารถป้องกันภัยจากน้ำท่วมได้ในอนาคต
ในอนาคต ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แต่ไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวได้เพราะมีงบประมาณจำกัด อาจพิจารณาซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมแทนการซื้อทาวน์เฮาส์ หากไม่มั่นใจว่าโครงการแนวราบในทำเลที่ต้องการจะอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วมวัสดุขาด-ก่อสร้างใหม่ล่าช้า
ในส่วนผู้ประกอบการ คาดว่าหลังจากนี้ไป จะประสบปัญหาการก่อสร้างโครงการใหม่ล่าช้า เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ฝนตกหนักและยาวนานต่อเนื่อง โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างได้รับความเสียหายหรือการผลิตวัสดุก่อสร้างหยุดชะงัก การขนส่งวัสดุก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรือวัสดุก่อสร้างบางรายการอาจขาดแคลนหรือมีราคาแพงขึ้นมาก เช่น อิฐบล็อก หิน ปูน ทราย เพราะประชาชน ห้างร้าน โรงงาน และหน่วยงานต่างๆซื้อหาไปทำแนวป้องกันน้ำท่วม
เนื่องจาก อาจต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนวัสดุก่อสร้างหรือวัสดุก่อสร้างมีราคาแพง เนื่องจากภาครัฐต้องดำเนินการบูรณะซ่อมแซมถนน สะพาน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆจำนวนมาก รวมทั้งผู้บริโภคต้องซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
หากปัญหาอุทกภัยยังคงยืดเยื้อในพื้นที่ที่มีตลาดที่อยู่อาศัยมาก เช่น กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และอยุธยา จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดภาวะชะงักงันได้ โดยในฝั่งผู้ประกอบการอาจชะลอการเปิดโครงการใหม่ และการก่อสร้างโครงการ ส่วนฝั่งผู้บริโภคอาจชะลอการโอนกรรมสิทธิ์Tags : น้ำท่วม 2554 • บ้านจัดสรร
http://bit.ly/pjpEU5