โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ความโชคดีของการติดเครื่องหมาย SP คืออะไรหรือ
ผมได้คำตอบแล้วเลยว่า ไม่มีความผันผวนแม้นว่า ประเทศไทยเจอภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ณ ตอนนี้
ไม่รับรู้ว่า ผลกระทบจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เป็นเช่นไร

เพราะมันไม่ได้ซื้อขาย คือ โดนหยุดพักการซื้อขายให้ไปปรับปรุงตัวในเรื่องต่างๆให้ดีแล้วค่อยซื้อขายกันใหม่
นั้นเข้าข่ายว่า ไม่มีความผันผวนเมื่อตลาดปิดอยู่ ความผันผวนเกิดเมื่อตลาดเปิดทำการ
แต่ต้องเติมลงไปด้วย ไม่มีความผันผวนเพราะเจอ SP แต่เกิดความผันผวนได้เมื่อปลด SPไปแล้ว
:)
:)
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตอนนี้เพื่อนฝูงหลายท่านใส่ SP ให้ตัวเองครับ
ผมต้องถามว่า SP ระดับไหนละ
ใส่ระดับความเสี่ยงให้ตัว SP จะชัดกว่านี้
เปิดหน้าชก 5 10 15 หรือ ยกธงขาวไปเลย
หลายครั้งทีเปิด SP มาแล้วมันเป้นโอาส
SP เข้าถึงการรับรู้ "จิตวิทยาฝูงชน" ได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว
กลยุทธ์ของเขาตั้งใจให้ติด SP ดึงความสนใจ
คนเห็นัวไหน SP เขากลัวไปแล้วก็จริง
แต่ความกลัวนี่ละดีสำหรับเขา
ความกลัวของเขาจะทำให้หุ้นตัวขึ้นมาอยู๋ในระดับความสนใจเป็นพิเศษ
และใช้เทคติคให้มันเปิดในวันที่ตลาดอารมณ์เป็น bearish
Critical Mass มีโอกาสเกิดได้ง่ายครับ
SP เป็นการใช้กลยุทธ์ถอยเพื่อรุกครับ

เหมือนอย่างเคสนี้ครับ

ต้องเรียนรู้จิตวิทยาฝูงชน


ในสมัยตงจิ้น แคว้นฉินเป็นแคว้นใหญ่ มีอาณาเขตครอบคลุม 60 กว่าแคว้นเล็ก นับเป็นแคว้นมหาอำนาจเลยที่เดียว

......................
แคว้นฉินมีมหาอำมาตย์ท่านหนึ่งชื่อหวังเหมิ่ง เป็นนักการเมืองที่เก่งมาก ก่อนหน้าที่หวังเหมิ่งจะป่วยตาย เขากำชับแล้วกำชับอีกว่า

“อย่าคิดตีแคว้นจิ้นเด็ดขาด เพราะว่าแคว้นจิ้นอยู่ติดทางใต้ของแม่น้ำฉางเจียง (แม่น้ำแยงซีเกียง) การเมืองภานในดีมาก ประชาชนอยู่ดีกินดี ถ้าหากทำสงครามกับแคว้นนี้ ฝ่ายจิ้นไม่เพียงแต่มีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่มวลชนยังสามัคคีเป็นน้ำเหนึ่งใจเดียวกัน การตีแคว้นจิ้นจึงเป็นเรื่องลำบากมาก ข้าเห็นว่าน่าจะตีเมืองเซียนเปยหรือเมืองซีเชียงทางภาคเหนือดีกว่า พวกเขาก็จ้องตะครุบพวกเราอยู่แล้ว เราจึงควรลงมือก่อน”
..................................

สรุปแล้ว คำสั่งสอนของเขาก็คือว่า ไม่ควรรุกลงทางใต้ แต่ควรบุกตีภาคเหนือ
แรกๆ ฝูเจียนอ๋องฉินก็ปฏิบัติตามคำสั่งเสียของหวังเหมิ่งได้ แต่ครั้นกาลเวลาผ่านพ้นไป ความคิดที่จะยกทัพบุกทางใต้ก็เริ่มผุดขึ้นมาอีก

หันกลับมาดูแคว้นจิ้นบ้าง พวกเขาหวาดกลัวแคว้นฉินมาก จึงมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เซี่ยอันอัครเสนาบดีแคว้นจิ้นถึงกับเลือกหลสนชายของตัวเองเป็นแม่ทัพ เซี่ยอันอัครเสนาบดีแคว้นจิ้นถึงกับเลือกหลานชายของตัวเองเป็นแม่ทัพ เซี่ยเสียนหลานชายของเซี่ยอันเป็นคนหนุ่มที่มีประสบการณ์ในการสู้รบสูง เคยสู้รบกับกองทัพฉินหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจึงรู้จักใช้แผนยุทธศาสตร์และมียุทธวิธีดีๆในการรับมือกับข้าศึก นับแต่นำทัพมา ยังไม่เคยรบแม้แต่ครั้งเดียว
..............................

การคาการณ์ของแคว้นจิ้นไม่ผิดเลย ฝูเจียนอ๋องผู้ทะเยอทะยานเริ่มปฏิบัติการอันโฉดเขลาแล้ว พระองค์ทรงนำทัพบุกลงมาทางใต้ แรกๆก็ชนะศึกติดๆกันหลายครั้ง
ก่อนหน้าที่ฝูเจียนจะยกทัพลงใต้ กุนซือเคยเตือนฝูเจียนว่า “แคว้นจิ้นมีแม่น้ำฉางเจียงเป็นแนวป้องกันธรรมชาติ การยกทัพข้ามแม่น้ำฉางเจียงนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก”
แต่ฝูเจียนกลับกล่าวว่า “อย่าพูดจาเหลวไหล กองทัพของข้ายิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงใด ใครๆก็รู้ แค่ข้าสั่งให้ทหารทิ้งแส้ม้าลงในแม่น้ำฉางเจียงแม่น้ำทั้งสายก็กลายเป็นที่ราบเสียแล้ว”

ฝูเจียนเอื้อนเอยวาจาโอหัง ไม่ใส่ใจต่อคำท้วงติงของผู้ใดทั้งสิ้น ดังนั้นฝูเจียนจึงนำพลทหารราบหกแสนคนกับทหารม้าอีกสองแสนเจ็ดหมื่นคนเดินทางลงใต้อย่างห้าวหาญ
ฝ่ายจิ้น แม่ทัพเซี่ยเสียนนำทหารไม่ถึงแปดหมื่นคนออกมารับศึก!
หลังจากสู้รบกันระปรายหลายครั้ง ในที่สุด กองทัพทั้งสองก็ประจันหน้ากันที่แม่น้ำเฝยสุ่ย ทั้งสองฝ่ายต่างๆไม่สบโอกาสเหมาะ จึงได้แต่ตั้งทัพประจันหน้ากันอยู่หลายวัน
เซี่ยเสียนส่งทูตไปเจรจากับฝูเจียนว่า “เราตั้งทัพประจันหน้ากันอยู่อย่างนี้
ไม่มีทางรู้แพ้รู้ชนะกันสักที ข้าพเจ้าขอเสนอให้ฝ่ายท่านถอยทัพตั้งห่างออกไปอีกสักนิด ฝ่ายเราจะได้ข้ามแม่น้ำเฝยสุ่ยมาสู้กับท่านให้รู้ดำรู้แดงสักที”
ฉินอ๋องปรึกษากับเหล่าแม่ทัพแล้วเห็นว่าสมควรรับข้อเสนอของฝ่ายจิ้น ความจริง ฝ่ายฉินแอบดีใจอยู่เงียบๆ เพราะคิดว่าจะฉวยโอกาสที่กองทัพจิ้นกำลังลุยน้ำข้ามฝั่งมานั้น ซุ่มโจมตีกลางทาง แต่เพื่อไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น ฉินอ๋องจึงแสร้งทำเป็นขอคิดดูก่อน แล้วจึงตอบตกลง
...............................

เมื่อตกลงกันได้แล้ว กองทัพฉินเริ่มถอย กองทัพจิ้นก็เริ่มข้ามแม่น้ำ
ในขณะที่กองทัพฉินเริ่มถอยนั้นเอง ขบวนทัพก็เริ่มรวน ทหารไม่ยอมรับฟังคำสั่งของนายหมู่ จึงเสียขบวน ไม่นานนัก หทารจิ้นก็บุกข้ามฝั่งมา และฉวยโอกาสนั้นตีกองทัพฉินชนิดไม่ให้ตั้งตัว ในขณะที่กำลังสับสนวุ่นวายกันอยู่นี้เอง ก็มีเสียงร้องขึ้นในหมู่ทหารฉินว่า

“พวกเราถูกตีแตกแล้ว!”

ความจริง ไม่ใช่ทหารฉินก็ร้องขึ้นเช่นนี้ แต่เป็นเสียงร้องจากเชลยศึกฝ่ายที่ฝ่ายฉินจับตัวมา ทหารฉินได้ยินเช่นนี้ ก็ตื่นตกใจกันใหญ่ พากันวิ่งหนีหนีเอาตัวรอดฝ่ายเซี่ยเสียนรีบนำทหารกล้าไล่ตีมาอย่างกระชั้น ทหารฉินยิ่งวิ่งยิ่งเสียขวัญ ได้ยินเสียงลม เสียงนก เสียงน้ำมูกไหลก็ใจหายวูบ คิดว่าข้าศึกไล่ตามมา

ในที่สุด ทัพใหญ่แปดแสนของ
ฝูเจียนก็พ่ายแพ้ทัพกระจอกแปดหมื่นของเซี่ยเสียน ฝูเจียนผู้โอหังต้องหนีกระเซอะกระเซิงกลับเมืองฉางอันอย่างทุลักทุเล
.....................................

ขวัญและกำลังใจของกลุ่มชนเป็นสิ่งเปราะบาง ถูกสัญญาณต่างๆ บงการได้ง่าย
สัญญาณบางอย่างทำให้ขวัญและกำลังใจของฝูงชนฮึกเหิมยิ่งขึ้น สามัคคีกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มีพลังเข้มแข็งเกรียงไกรมากยิ่งขึ้น แต่สัญญาณบางอย่างกลับบั่นทอนพลังของกลุ่มชนให้อ่อนแอลง

เซี่ยเสียนเข้าใจจิตวิทยานี้ดี จึงนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เขารู้ดีว่าใจคนขณะถอยร่นจะลนลาน หวาดผวา ผิดกับเวลารุกขวัญและกำลังใจมักจะฮึกเหิม ดังนั้น เขาจึงหลอกให้ฝูเจียนถอยทัพไปหนึ่งก้าว ฝูเจียนหลงกล เพราะเยิ่อหยิ่งคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มาก มีกองทัพแปดแสน แต่ฝ่ายจิ้นมีกองทัพแค่แปดหมื่นเหมือนช้างสู้กับมดแดง ยกเท้าทีเดียว ก็บี้มดตัวน้อยให้ม้วยมอดได้แล้ว เมื่อขาดความระมัดระวัง จึงคิดเอาแต่ได้ เขาหวังจะฉวยโอกาสขณะที่กองทัพของเซี่ยเสียนกำลังข้ามแม่น้ำ ชิงลงมือโจมตีเสียให้แหลกลาญ จะได้ไม่เหนื่อยแรง
...............................

แต่เซี่ยเสียนฉลาดกว่า รู้จุดเด่นจุดด้อยของฝ่ายตนเองและข้าศึกดี เขารู้ว่าทัพฉินใหญ่โต การเคลื่อนไหวย่อมเทอะทะไม่คล่องตัว อีกทั้งเป็นฝ่ายถอย จิตใจย่อมลนลาน ส่วนทัพจิ้นเล็กกะทัดรัด การเคลื่อนไหวย่อมคล่องตัวอีกทั้งเป็นฝ่ายบุก จิตใจย่อมฮึกเหิม พอฝ่ายฉินตอบรับข้อเสนอของตน เว่ยเสียนจึงรีบนำทหารบุกข้ามน้ำอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็สามารถสร้างความระส่ำระสายแก่ทัพฉินได้ ในที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะสงครามไปอย่างงดงาม ศึกล้มยักษ์ในครั้งนี้ ลือลั่นอยู่ในประวัติศาสตร์ชั่วนิรันดร์


..........................................
ภาพประจำตัวสมาชิก
murder_doll
Verified User
โพสต์: 1644
ผู้ติดตาม: 1

Re: โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ช่วงนี้คุณHUMDRUM มาเยี่ยมเยียนบ่อยใน THAIVI นะครับ :D ขอบคุณสำหรับบมความดีดี (แบบว่าช่วงนี้เตรียมรับมือน้ำท่วมเลยยังตามอ่านได้ไม่หมด)
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
hunter_kidz
Verified User
โพสต์: 89
ผู้ติดตาม: 0

Re: โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับพี่ humdrum
" ขอเพียงแค่ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงที่จุดหมาย โปรดจงมั่นใจที่ทำลงไปน่ะถูกแล้ว
อย่าฟังคำคนอย่าสนใจใครอย่าเปลี่ยนแนว คนแน่แน่วเท่านั้นผู้ชนะ "
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

Re: โชคดีที่มีหุ้นติดเครื่องหมาย SP

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมไม่ได้หมายถึง SP แบบนั้น
อันนี้ SP จริงๆครับ
ติดโดนไม่ตั้งใจครับ ไม่ใช่ว่ามีแนวโน้มว่าติดด้วย
เจอแบบมึนๆเลย อยู่ก็ติด มันเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายล่ะครับ
ผมบอกแบบนั้น เพราะอะไรหรือ ช่วงระยะเวลาที่ผมโดน SP กับหุ้นตัวนี้ไป
มันเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์,การชุมนุมประท้วงที่แยกราชประสงค์,ปัญหาหนี้สินของยูโรโซน และ
ไม่แน่ใจว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนปลด SP หรือเปล่า คือน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ประเทศไทยประสบเจอ
ราคาหุ้นยังนิ่งอยู่ที่เดิม ไมไ่ด้ปันผล แต่หุ้นตัวอื่นๆมันสวิ้งเอาสวิ้งเอา
ทุกอย่างขึ้นและลง แต่สิ่งนี้ไม่มีความผันผวน ไม่มีราคาซื้อขาย นิ่งๆอยู่แบบนี้
รอเวลาที่ปลดเครื่องหมาย SP
:)
โพสต์โพสต์