ข่าวเศรษฐกิจ กรมส่งเสริมการส่งออก -- จันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 15:54:53 น.
1.สถานการณ์การผลิต :
แหล่งเพาะปลูกข้าวบริเวณที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขง ได้เริ่มปลูกข้าวฤดูการผลิตที่ 3 Autum-Winter ไปแล้วประมาณ 403,000 เฮ็คตาร์ หรือเท่ากับร้อยละ 62 ของพื้นที่ที่จะทำการเพาะปลูกทั้งสิ้นในฤดูนี้ (653,000 เฮ็คตาร์)
มีรายงานข่าวว่าภาวะน้ำท่วมและกระแสน้ำในแม่น้ำที่เชี่ยวมากในช่วงนี้ทำลายผลผลิตทางการเกษตรทั้งข้าวและสวนผลไม้ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยที่ก่อนหน้านี้ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าการทำการเกษตรในบริเวณดังกล่าว สำหรับฤดูการเพาะปลูกครั้งที่ 3 ซึ่งจะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงปลายปี จะได้รับผลดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้าว ซึ่งในช่วงนี้มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรในแหล่งปลูกข้าวบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเพิ่มพื้นที่การผลิต แต่ในขณะนี้ ข้าวที่เริ่มปลูกทั้งหมดอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเร็วกว่าทุกๆปี ประกอบกับฝายกั้นน้ำหลายแห่งถูกทำลายด้วยกระแสน้ำที่รุนแรงมาก ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้เคยออกมาเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระวังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ยังปล่อยให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกพืชผลในฤดูที่3 หน่วยงานทางการเกษตรประเมินว่าความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมจะมีมูลค่าประมาณ 980 เหรียญสหรัฐต่อ 1 เฮกตาร์ สำหรับข้าว ในขณะที่สวนผลไม้มูลค่าความเสียหายอาจจะสูงมากกว่านี้ ถ้าเป็นพืชที่ต้องใช้เวลาในการปลูกใหม่อย่างน้อย 5 ปี
2. การบริโภคข้าว :
ปริมาณการบริโภคข้าวของเวียดนามในปี 2553 มีจำนวนประมาณ 19,300,000 ตัน เปรียบเทียบกับปี 2552 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.38 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 150,000 ตัน
3. ราคาข้าวภายในประเทศ :
ราคาข้าวเปลือกท้องถิ่นในแหล่งผลิตบริเวณ Mekong River Delta (ข้าวเปลือกเมล็ดสั้น) จะอยู่ระหว่าง 7,200-7,300 เวียดนามด่ง/กิโลกรัม ในขณะที่ราคาข้าวเปลือกสำหรับสีเป็นข้าวเมล็ดยาว อยู่ระหว่าง 7,300-7,400 เวียดนามด่ง/กก. สำหรับราคาข้าวกล้องชนิดสีเป็นข้าวหัก 5 % จะอยู่ระหว่าง 9,700 - 9,800 เวียดนามด่ง/กก และข้าวกล้องชนิดสีเป็นข้าวหัก 25 % อยู่ระหว่าง 9,600-9,700 เวียดนามด่ง/กก.
สำหรับข้าวสาร มีราคาจำหน่ายส่งดังนี้
ข้าวหัก 5 % (ไม่บรรจุถุง) กิโลกรัมละ 11,600-11,700 เวียดนามด่ง
ข้าวหัก 15 % กิโลกรัมละ 11,000-11,100 เวียดนามด่ง
ข้าวหัก 25 % กิโลกรัมละ 10,500-10,600 เวียดนามด่ง
(อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท = 798 เวียดนามด่ง)
ทั้งนี้ ข้าวสารทุกชนิดมีราคาสูงขึ้นประมาณกิโลกรัมละ 100 เวียดนามด่ง ในสัปดาห์นี้
4. การส่งออก :
ปริมาณส่งออกในช่วงระหว่างวันที่ 1-17 พฤศจิกายน 2554 มีจำนวน 230,755 ตัน มูลค่า 127.975 ล้านเหรียญสหรัฐ แยกเป็น
- ข้าวหัก 5% - 10 % ปริมาณ 22,329 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.68 ของการส่งออกทั้งหมดในสัปดาห์นี้
- ข้าวหัก 15 % - 20 % ปริมาณ 172,870 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74.91
- ข้าวหัก 25 % ปริมาณ 6,375 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.76
- ข้าวอื่นๆ ปริมาณ 16,205 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.02
- ข้าวเหนียว ปริมาณ 12,704 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.51
- ข้าวหักอื่นๆ ปริมาณ 272 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.12
สำหรับปริมาณส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 17 พฤศจิกายน 2554 มีจำนวน 6.550 ล้านตัน มูลค่า 3.186 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดส่งออกที่สำคัญ (1-17 พฤศจิกายน 2554)ได้แก่
ตลาดเอเชีย ปริมาณ 202,212 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87.63
ตลาดอัฟริกา ปริมาณ 26,315 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.41
ตลาดยุโรป ปริมาณ 881 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.38
ตลาดอเมริกา ปริมาณ 668 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.29
ตลาดออสเตรเลีย ปริมาณ 679 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.39
5. สถานการณ์ข้าวในเวียดนาม/สถานการณ์ข้าวโลก :
5.1 หนังสือพิมพ์เวียดนามรายงานข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปินส์ เปิดเผยว่า ในปี 2555 ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าข้าวรายใหญ่ของโลก อาจจะนำเข้าข้าวสารมากถึง 8 แสนตัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากเวียดนาม อย่างไรก็ตามฟิลิปปินส์จะเริ่มเสนอขอซื้อข้าวในเดือนธันวาคม 2554 หลังจากคณะกรรมการอาหารแห่งชาติเสร็จสิ้นการหารือที่คาดว่าจะมีขึ้นปลายเดือนพฤศจิกายน 2554 เกี่ยวกับจำนวนและขั้นตอนการนำเข้า ทั้งนี้ การนำเข้าจะมีขึ้นก่อนเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลิปปินส์ขาดแคลนข้าวในประเทศ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นพัดผ่านและทำลายพื้นที่เพาะปลูกข้าว ทั้งนี้ ในปี2554 ฟิลิปปินส์ได้นำเข้าข้าวสารจำนวน 8.6 แสนตัน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากเวียดนาม
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย
ที่มา:
http://www.depthai.go.th