ตัดมาแปะ....วอลุ่ม3.7หมื่นล้านบาทแล้ว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 04, 2003 9:01 am
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
.มั่นใจดัชนีมีโอกาสถึง800จุด
ประสาน ไตรรัตน์วรกุล เลขาธิการ ก ล ต.
.หุ้นปรับตัวขึ้นเนื่องจากสภาพคล่องในระบบมีมาก จึงไม่น่าห่วง
สุชาติ เชาว์วิศิษฏ์ รมว.คลัง
ต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรแน่นอน ก ล ต.-ตลาดต้องดูแลใกล้ชิด
ชวลิต ธนะชานันท์ ประธานตลาดหุ้น
ตอนนี้ก็ห่วงแต่นักลงทุนรายย่อยที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
ย้อนอดีตตลาดหุ้นก่อนพังทลาย
วันที่ 4 มกราคม2537
เป็นวันที่ดัชนีราคาหุ้นไทยพุ่งขึ้นไปสูงสุด ที่ระดับ 1,753.37จุด
ก่อนที่จะพังทลายลงมาในวันถัดมา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2537
โดย...ที่ดัชนีราคาหุ้นในวันนั้นลดลงมากว่า14จุด
แต่มูลค่าการซื้อขายกลับถล่มทลาย
มีการซื้อขายในวันเดียวถึง 4 หมื่นล้านบาท
โดยแรงขายมากกว่าแรงซื้อ
นับจากวันนั้นมาเป็นเวลานานถึง9ปีครึ่ง ที่ตลาดหุ้นไทยได้ตกอยู่ในสภาพตกต่ำ
จนมาถึงเมื่อวานนี้(3กค.46)
มูลค่าซื้อขายได้ไหลทะลักเข้ามามากกว่า3.5หมื่นล้านบาท
37,119.32 ล้านบาท
ดัชนีหุ้นไทย 3 กรกฏาคม2546 อยู่ที่489.80จุด
จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ
และดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นกว่า12จุด หรือมากกว่า2.5%
บทเรียนฟองสบู่แตกของตลาดหุ้นไทยในครั้งนั้น
ได้บันทึกเหตุการณ์ไว้ว่า เพียงช่วงเวลา3เดือน
ระหว่างตุลาคม-พฤษจิกายน-ธันวาคม ปี 2536
เป็นช่วงบรรยากาศ
ซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย เป็นแบบบ้าคลั่ง
เพราะทุกคนในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารนโยบายการเงินการคลังของประเทศ
รวมทั้งนักลงทุนต่างมองดีไปหมด
ทำให้มูลค่าซื้อ-ขายพุ่งขึ้นไปถึงช่วง2สัปดาห์
สุดท้ายใน เดือนธันวาคม เฉลี่ยวันละ2.7หมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ ปี2537นั้น
มูลค่าซื้อ-ขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงวันละ3.6หมื่นล้านบาท
ในขณะนั้นกระทรวงการคลัง
ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ
ช่วง11เดือนของปี2536
มีเม็ดเงินเข้าตลาดสูงถึง2.9แสนล้่านบาท
โดยมีการวิเคราะห์กันว่านอกจากสาเหตุ
การไหลเข้ามาของเม็ดเงินต่างชาติแล้ว
มาจาก....การซื้อ-ขายหุ้นด้วยเงินกู้ หรือ มาร์จิน
ของนักลงทุนไทยที่มีวงเงินสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท
ในขณะนั้นส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรอย่างหนัก
และผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งทะยานสูงจนระดับ...
ค่าพี/อี อยู่ที่ 30 เท่า
ดังนั้น ตลาดหุ้นไทย จึงเกิดยุคฟองสบู่แตกในที่สุด
(อนาคต ประวัติศาสตร์กำลัง เริ่ม....มากวักมือให้เข้าวงจร).