สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.ค.54
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 6:55 pm
เนื่องด้วยได้มีโอกาสไปร่วมงานเสวนาเปิดตัวหนังสือรวยได้ด้วยหุ้นของ K.Hongvalue เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วน เผื่ออาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นบ้างครับ (รบกวนพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่น ช่วย comment ด้วยครับ ถ้าผมจดผิดหรือเข้าใจในประเด็นคาดเคลื่อน)
1.เราควรจะเป็นคนที่มีทัศนคติคิดใหญ่ กรอบความคิดเองจะเป็นตัวนึงที่กำหนดขนาดของความสำเร็จของตัวเรา ถ้าเราคิดเพียงแต่จะลงทุนแค่หวังค่ากับข้าว เราก็อาจจะไม่ได้มุ่งเน้นไปกับการลงทุนทำให้ลงทุนแล้วอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือคิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก)
2.การลงทุนนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรอะไรที่ลึกลับซับซ้อน คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง Warren Buffett เองก็ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณอะไรที่ยุ่งยากในการวัดมูลค่าหุ้นเหมือนกัน
3.การจะเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินข้ามอุตสาหกรรมเองนั้น อาจจะไม่ถูกต้อง เช่นอัตรากำไรขั้นต้นระหว่างอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ไม่เท่ากันเป็นเพราะ Business model ของบริษัทเองนั้นไม่เหมือนกัน เราจึงควรที่จะเข้าใจตัวธุรกิจ Business Model ก่อนที่จะมาดูอัตราส่วนทางการเงิน
4.การลงทุนเองเป็นเรื่องของการมองไปยังอนาคต เพราะฉะนั้นเราไม่ควรที่จะเหมาว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า แล้วในอนาคตบริษัทก็สามารถที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าได้ แต่ควรมองว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากสาเหตุใด และวิเคราะห์ว่าโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคตนั้นจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน (กล่าวโดยสรุปคือเราควรจะเข้าใจที่มาของกำไรของบริษัท, โครงสร้างอุตสาหกรรม แล้วมองไปยังอนาคต)
5.การดูงบการเงิน เราควรจะดูทั้งกำไรสุทธิและกระแสเงินสด การที่มองแต่เพียงกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราขาดทุนหนักได้เพราะในอดีตเองก็เคยมีบริษัทที่ขายของได้เยอะมีกำไรสูง แต่เก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้เลย (กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ) สุดท้ายบริษัทเองก็ล้มละลาย
6.เคล็ดลับนึงของผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือการที่เราจด Diary สำหรับการลงทุนในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้เตือนสติตัวเองทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการลงทุน แล้วหาทางป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนั้นอีกในอนาคต
7.เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างนึง เราจึงควรที่จะบริหารเวลาให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
8.ผู้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น คือผู้ที่มีความตั้งใจและลงมือทำ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านนั้น กว่าจะถึงมาจุดนี้ได้นั้นแทบทุกคนต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก บางคนเองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเงินวันละหลายชั่วโมงทั้งๆที่เขาก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเองควรที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมที่จะมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาหาตัวเรา
9.วิธีการหาข้อมูลเองนั้นมีหลายวิธีแต่แหล่งของข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญมากก็คือรายงานประจำปีของบริษัท, Opp Day ซึ่งยิ่งอ่านมาก ฟังมากก็ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจในธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการประเมินมูลค่าหุ้น
10.การลงทุนในหุ้นเองให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เกี่ยวกับขนาดของ Port การลงทุน เพราะต่อให้คุณมีเงินลงทุนเริ่มต้นเป็น หลัก 100 ล้านบาทแต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการลงทุนที่เพียงพอ คุณก็อาจจะเป็นได้แค่หมูอ้วนพีตัวนึงในตลาดหลักทรัพย์ และจริงๆแล้วนักลงทุนรายย่อยเองก็มีข้อได้เปรียบนักลงทุนรายใหญ่อยู่บางข้อเช่น อิสระในการเลือกลงทุนหุ้นได้หลากหลายกว่า เพราะหุ้นบางตัวในตลาดเองนั้นอาจจะมีสภาพคล่องที่ไม่มากพอที่นักลงทุนรายใหญ่จะเข้าไปลงทุนแต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยเองนั้นไม่มีปัญหาในการลงทุนในหุ้นเหล่านี้
11.การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF (Discount Cash Flow) เองนั้นมีปัจจัยที่ทำให้ค่าที่เราประเมินมูลค่าหุ้นเองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก สำหรับนักลงทุนบางท่านที่ประสบความสำเร็จเองก็อาจจะไม่ได้ทำ DCF ทุกครั้ง หากแต่เขาเองเข้าใจในตัวแปรของ DCF แล้วนำไปประยุกต์ใช้ เช่น หุ้นที่บริษัทขายของแล้วเงินไปจมกับลูกหนี้หมด เวลาประเมิน DCF ก็จะได้ค่าที่น้อย ทำให้ P/E ที่ควรจะเป็นของบริษัทก็ควรที่จะต่ำ, หุ้นที่บริษัทได้ Credit จากเจ้าหนี้การค้าเยอะๆ ซึ่งถ้าเป็นหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย และเวลาขายของนั้นขายของเป็นเงินสด รวมทั้ง Asset Turnover สูงก็ควรจะเป็นบริษัทที่ P/E ค่อนข้างสูง, หุ้นที่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตบางบริษัทไม่ควรที่จะมี P/E ที่สูงนัก เพราะว่าเวลาที่มีการเปลี่ยน model การผลิต จะต้องมีการใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดทำให้เวลาคิด DCF จะได้ค่าที่ต่ำ P/E ก็ควรจะไม่สูงนักเป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจความรู้จากคุณ hongvalue สามารถเข้าไปอ่านความรู้ในการลงทุนเพิ่มเติมได้จาก
http://hongvalue.wordpress.com/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณ Hongvalue มากๆครับสำหรับความรู้ที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ
1.เราควรจะเป็นคนที่มีทัศนคติคิดใหญ่ กรอบความคิดเองจะเป็นตัวนึงที่กำหนดขนาดของความสำเร็จของตัวเรา ถ้าเราคิดเพียงแต่จะลงทุนแค่หวังค่ากับข้าว เราก็อาจจะไม่ได้มุ่งเน้นไปกับการลงทุนทำให้ลงทุนแล้วอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือคิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก)
2.การลงทุนนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรอะไรที่ลึกลับซับซ้อน คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง Warren Buffett เองก็ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณอะไรที่ยุ่งยากในการวัดมูลค่าหุ้นเหมือนกัน
3.การจะเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินข้ามอุตสาหกรรมเองนั้น อาจจะไม่ถูกต้อง เช่นอัตรากำไรขั้นต้นระหว่างอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ไม่เท่ากันเป็นเพราะ Business model ของบริษัทเองนั้นไม่เหมือนกัน เราจึงควรที่จะเข้าใจตัวธุรกิจ Business Model ก่อนที่จะมาดูอัตราส่วนทางการเงิน
4.การลงทุนเองเป็นเรื่องของการมองไปยังอนาคต เพราะฉะนั้นเราไม่ควรที่จะเหมาว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า แล้วในอนาคตบริษัทก็สามารถที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าได้ แต่ควรมองว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากสาเหตุใด และวิเคราะห์ว่าโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคตนั้นจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน (กล่าวโดยสรุปคือเราควรจะเข้าใจที่มาของกำไรของบริษัท, โครงสร้างอุตสาหกรรม แล้วมองไปยังอนาคต)
5.การดูงบการเงิน เราควรจะดูทั้งกำไรสุทธิและกระแสเงินสด การที่มองแต่เพียงกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราขาดทุนหนักได้เพราะในอดีตเองก็เคยมีบริษัทที่ขายของได้เยอะมีกำไรสูง แต่เก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้เลย (กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ) สุดท้ายบริษัทเองก็ล้มละลาย
6.เคล็ดลับนึงของผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือการที่เราจด Diary สำหรับการลงทุนในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้เตือนสติตัวเองทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการลงทุน แล้วหาทางป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนั้นอีกในอนาคต
7.เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างนึง เราจึงควรที่จะบริหารเวลาให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
8.ผู้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น คือผู้ที่มีความตั้งใจและลงมือทำ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านนั้น กว่าจะถึงมาจุดนี้ได้นั้นแทบทุกคนต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก บางคนเองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเงินวันละหลายชั่วโมงทั้งๆที่เขาก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเองควรที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมที่จะมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาหาตัวเรา
9.วิธีการหาข้อมูลเองนั้นมีหลายวิธีแต่แหล่งของข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญมากก็คือรายงานประจำปีของบริษัท, Opp Day ซึ่งยิ่งอ่านมาก ฟังมากก็ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจในธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการประเมินมูลค่าหุ้น
10.การลงทุนในหุ้นเองให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เกี่ยวกับขนาดของ Port การลงทุน เพราะต่อให้คุณมีเงินลงทุนเริ่มต้นเป็น หลัก 100 ล้านบาทแต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการลงทุนที่เพียงพอ คุณก็อาจจะเป็นได้แค่หมูอ้วนพีตัวนึงในตลาดหลักทรัพย์ และจริงๆแล้วนักลงทุนรายย่อยเองก็มีข้อได้เปรียบนักลงทุนรายใหญ่อยู่บางข้อเช่น อิสระในการเลือกลงทุนหุ้นได้หลากหลายกว่า เพราะหุ้นบางตัวในตลาดเองนั้นอาจจะมีสภาพคล่องที่ไม่มากพอที่นักลงทุนรายใหญ่จะเข้าไปลงทุนแต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยเองนั้นไม่มีปัญหาในการลงทุนในหุ้นเหล่านี้
11.การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF (Discount Cash Flow) เองนั้นมีปัจจัยที่ทำให้ค่าที่เราประเมินมูลค่าหุ้นเองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก สำหรับนักลงทุนบางท่านที่ประสบความสำเร็จเองก็อาจจะไม่ได้ทำ DCF ทุกครั้ง หากแต่เขาเองเข้าใจในตัวแปรของ DCF แล้วนำไปประยุกต์ใช้ เช่น หุ้นที่บริษัทขายของแล้วเงินไปจมกับลูกหนี้หมด เวลาประเมิน DCF ก็จะได้ค่าที่น้อย ทำให้ P/E ที่ควรจะเป็นของบริษัทก็ควรที่จะต่ำ, หุ้นที่บริษัทได้ Credit จากเจ้าหนี้การค้าเยอะๆ ซึ่งถ้าเป็นหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย และเวลาขายของนั้นขายของเป็นเงินสด รวมทั้ง Asset Turnover สูงก็ควรจะเป็นบริษัทที่ P/E ค่อนข้างสูง, หุ้นที่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตบางบริษัทไม่ควรที่จะมี P/E ที่สูงนัก เพราะว่าเวลาที่มีการเปลี่ยน model การผลิต จะต้องมีการใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดทำให้เวลาคิด DCF จะได้ค่าที่ต่ำ P/E ก็ควรจะไม่สูงนักเป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจความรู้จากคุณ hongvalue สามารถเข้าไปอ่านความรู้ในการลงทุนเพิ่มเติมได้จาก
http://hongvalue.wordpress.com/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณ Hongvalue มากๆครับสำหรับความรู้ที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ