Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สวัสดีปีใหม่ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สมาชิก Thai VI ทุกท่านครับ
ในโอกาสแห่งเทศกาลปีใหม่ 2555 นี้
ส่งความสุข ความปราถนาดี
และขออวยพรให้นักลงทุนท่าน
ให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง
สุขภาพใจที่ผ่องในเบิกบาน และ
สุขภาพทางการเงิน ที่เติบโตอย่างมั่นคง
ให้มีอิสระภาพทางการเงินอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ครับ...

ขอขอบคุณ เวปไซต์ Thai VI แห่งนี้ ที่ได้เป็นแหล่งรวบรวม
ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความคิดเห็น และ ข้อแนะนำ สำหรับการลงทุนในหุ้น
สำหรับปี 2554 ที่ผ่านไป
ขอขอบคุณท่านอาจารย์ทุกท่าน
ขอบคุณรุ่นพี่ทุกคน
ขอบคุณเพื่อนๆน้องๆ ทุกคนด้วยครับ
หากเรื่องใดที่ผมได้ทำให้ท่านขุ่นข้องหมองใจ ขอผมได้รับการอภัยด้วยนะครับ
ปล่อยให้ความไม่ดีเหล่านั้นให้หายไปกับปี 54 ครับผม

วางแผนการลงทุนปี 55 ไว้กันอย่างไรบ้างครับ..

รักษาวินัยเคร่งครัด มีสติในการลงทุน

สวัสดีปีใหม่ครับ _/\_

สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันครับพี่โดม

สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันครับ คุณโดม

เห็นลายเซ็น แล้วคุณโดม คงใช้เวลาอีกไม่นานในการพิชิตเป้าหมายนั้นนะครับ

What ever it takes...
1. Routine works free in 1+ 6/12 years
2. Financial freedom in 4 years

เป้าหมายข้อ 1 ผมคงไม่เหมือนคุณโดม เพราะผมยังต้องการทำงานหมอไปตลอด แต่อาจเพลาๆมือบ้างเล็กน้อย แต่คงยังทำงานหมอต่อไป แต่อาจไม่มากเท่าเดิม


จะว่าไปเป้าหมายคุณโดมข้อ 2 คล้ายผมมากเลย เลยตั้งเป้าหมายจะทำงานหนักมากขึ้นในปี 55

เพราะวิเคราะห์ตัวเอง ในปี 54 แล้ว ใจยังนิ่งไม่พออยู่ช่วงหนึ่ง แต่นั่นมีผลทำให้ผมได้ ผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาดไปพอควรเลย ยิ่งตอนน้ำท่วมนี่ ผมไม่มีสมาธิเรื่องหุ้นเลยจริงๆ

ก็คงต้องมาจูนเรื่อง สมาธิ และใจ นี่ให้มั่นคงมากขึ้นกว่าเดิมครับ

สวัสดีปีใหม่ด้วยครับ ขอให้พี่น้องชาวไทยวีไอทุกท่านจงมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เจริญในหน้าที่การงาน สมหวังทุกปรารถนา มั่งคั่งร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไปครับ

Paul VI เขียน:
เป้าหมายข้อ 1 ผมคงไม่เหมือนคุณโดม เพราะผมยังต้องการทำงานหมอไปตลอด

สวัสดีปีใหม่ คุณโดม คุณหมอมุก ครับ

เป้าหมายข้อ 1 ผมเหมือนคุณหมอมุกครับ ผมเป็นวิศวะอุตสาหการครับ และผมยังต้องการเป็นวิศวกรไปจนตายครับ ผมเรียนหนังสือไม่ใช่เพราะเงินคุณพ่อคุณแม่แต่เพียงอย่างเดียว แต่เพราะเงินภาษี ผมกราบรัชกาลที่ ๔ ทุกครั้งเวลาเดินเข้าออกสถาบัน ทุกครั้งที่กราบผมอธิษฐานว่า "ถ้าผมเรียนจบไปได้ผมไม่ขอสิ่งใดผมไม่ขอให้ผมเป็นคนรวยหรือเป็นคนมีชื่อเสียง ผมขอให้ความรู้ที่ได้รับทำให้ผมตอบแทนแผ่นดินได้มากที่สุด ผมจะทำสุดความสามารถ" วิศวกร คือ กร ของพระวิษณุที่เด็กช่างนับถือ วันเวลาผ่านมาจนวันนี้ ผมไม่เคยเสื่อมถอยความเชื่อนี้ ผมมั่นใจในอุดมการณ์ของตนเอง ก็ เป็นความเชื่อของวิศวกรเล็ก ๆ คนนึงน่ะครับ

เรื่องการลงทุน เป้าหมายปีหน้าของผม คือการเสาะแสวงหา นกอินทรี บาดเจ็บครับ

(ผมคิดว่า นกอินทรี เขียนแบบนี้นะครับ น่าจะเข้าใจถูก ไม่ใช่ นกอินทรีย์ หรือ ถ้าผมเข้าใจผิดท่านผู้รู้ช่วยแก้ให้ด้วยนะครับ)

เปรียบไปเหมือนผมเป็นนายพรานป่าคนหนึ่งครับ ธรรมชาติของนกอินทรี จะล่าจะจับคงยาก ด้วยกำลัง หน้าไม้ ธนู มีด คงสอยอินทรี ไม่ถึง

โดยผมดูจาก

1 ธุรกิจ อันดับหนึ่ง ของโลก หรือ อย่างน้อยของตลาดของตัวเอง มีแบรนด์ แบรนด์ แบรนด์ แบรนด์ ผมเปิดพอร์ต ตปท. ด้วยครับ
2 ธุรกิจต้องมุ่งไปสู่การเติบโต Growth ผบห. ต้องมีจิตวิญญาณ ตรงนี้
3 คู่แข่งปิดบริษัท แต่เรากำไร มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ต้องมีปัจจัยขับเคลื่อนไม่ให้คู่แข่งตามทัน
4 หนี้ ต้องไม่เน่า ไม่มีภาระหนี้ ที่ทำลายการเติบโต
5 คชจ. ต้อง "เอาอยู่" ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ ที่เล็งเห็น ถ้าเอาไม่อยู่ ต้องออกมาบอกว่า เอาไม่อยู่ ตรงมาตรงไป แบบนี้ ได้ใจ ผถห. มากกว่า
6 ผบห. "ทำ" มากกว่า "พูด"

ธุรกิจแบบนี้ ยากที่จะซื้อในราคาถูก บัฟเฟตต์เองก็เคยบอกเค้ายินดีซื้อในราคาแฟร์ แต่ในราคา Fair นั้นก็ไม่ง่ายที่จะซื้อ เพราะนกอินทรี มักจะบินสูงสอยลำบาก ในช่วงเวลาที่รอนาน ๆ แบบนี้แทนที่จะตะเกียกตะกายแบบลุกลี้ลุกลน รีบ ๆ ซื้อ รีบ ๆ แกะ งบ คิดเองเออเอง

ก็ใช้เวลาแกะงบแบบนาน ๆ ไปเลย เอาเวลาไปแกะงบอ่านรายงานประจำปี อ่าน ThaiVi ย้อนหลัง นาน ๆ ไปเลย

รอหุ้นดีให้ราคาตกมันน่าเบื่อ แต่จะน่าเบื่อพอ ๆ กับ รอหุ้นเน่าให้กลับไปราคาเดิมรึเปล่า? ใครตอบได้บ้าง

หาประเด็นทางธุรกิจ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนกำไร เรียกว่า profit driver แล้วเฝ้าติดตามทั้งในเชิง quantitative และในเชิง qualitative

แต่บางครั้ง ฟ้า ฝน พายุ ก็ทำให้อินทรี ผงาดไม่ได้ ก็ต้องหาร่มไม้ ร่มเงาเกาะ อินทรี ตัวเดิมก็เปียกฝนเหมือน ๆ นกเล็ก ๆ ทั่วไป นายพรานที่ซุ่มซ่อนก็จะทำงาน เวลาของผมก็จะมาถึง ปีนึงจะมาสักทีหรือเปล่า หรือต้องรอถึง 2013 2014 ก็ไม่เป็นไร เพราะวิธีคิดเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกเดือน ทุกไตรมาส หรืออะไร ไม่มีขีดจำกัดตัวเอง

เวลาเหลือก็ปฏิบัติธรรมในเส้นทางที่ตรงจริต ให้เวลากับครอบครัวพ่อแม่ลูกเมีย

ออกกำลังกายให้เหงื่อเค็ม ลดอัตตา ความบ้าวัตถุ บ้าตัวตน ทำอะไรเป็นประโยชน์ได้ก็ทำไป

...............

ปีนี้ได้สนทนากับคุณโดม คุณหมอมุก ก็รู้สึกดีครับ
ขอให้ทุก ๆ ท่านประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว
สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศของเราครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ

ในวาระขึ้นปีใหม่

ขอให้ทุกคนที่มาร่วมอวยพร ในกระทู้นี้ทุกคน

พอรท์9หลัก-10หลัก ในเร็ววัน และ เป็นคนดีของสังคมที่แบ่งปันครับ

มีเงินแล้ว รวยแล้ว อย่าลืมตัวตนคนเก่าเรา เป็นยังไงก้ยังเหมือนเดิม รถก้คันเก่า

บ้านก้หลังเก่า ผบทบ ก้คนเก่า แฮปปี้นิวเยียร์ ไม่แฮปปี้นิวเมียครับ

ขอบคุณคุณโดมสำหรับการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ เวลา 10 เดือนเต็มกับการลงทุนของผมและการเข้ามาหาความรู้ใน thaivi ก็ได้ข้อคิด ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆทุกคนด้วยความจริงใจครับ และขอให้สังคม thaivi มีคุณภาพอย่างนี้ไปตลอดและดียิ่งๆขึ้นไป ท้ายนี้ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ช่วยดลบันดาลให้ทุกท่านมีสุขภาพทางกาย ทางใจที่ดีพร้อมสมบูรณ์ทุกท่านครับ happy new year 2012!
สำหรับปีหน้าและปีต่อๆไปผมก็จะลงทุนในแนวนี้ตลอดไปครับ

กลยุทธปีหน้าของผม
- เน้น Conservative และ Defensive ระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต
- diversify พอร์ตมากยิ่งขึ้น ไม่ focus
- การจะลงทุนหุ้นตัวใหม่ ต้องคิดละเอียดรอบคอบมากกว่าปี 54 อีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว
- เน้นคุณภาพกิจการ หลีกเลี่ยงหุ้น turn-around หุ้นที่ไม่มีเสถียรภาพของรายได้กับกำไร หุ้นที่มีประวัติน้อย หุ้นที่ธรรมาภิบาลมีปัญหา
- ระมัดระวังหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ
- ระวังมือบอน หูเบา ใจร้อน ลงทุนโดยวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน

สวัีสดีปีใหม่ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของทุกๆคนครับ สิ่งที่ไม่ดีขอให้ทิ้งไปกับปีเก่า ขอให้ยึดถือแต่สิ่งดีๆติดตัว และก้าวไปข้างหน้าในปี55นี้นะครับ

เรื่องการวางแผนลงทุนปี55 ตั้งเป้าหมายว่า จะทำผลตอบแทนให้ดีกว่าปีนี้
กลยุทธ์คือ ซุ่มโจมตี ครับ
1 ค้นหาเป้าหมาย หาข้อมูล วิเคราะห์เป้าหมาย
2 หากเป้าหมายยังคง undervalue ถือว่าสบช่องโจมตีทันที
3 หากเป้าหมายยังคง overvalue ต้องไม่ผลีผลาม ซุ่มรอเวลาที่เป้าหมายจะ "เปิดช่องว่าง"โอกาสที่ราคาจะอยู่ใน "ระยะโจมตี" เมื่อไร ต้องโจมตีทันทีครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ พี่ๆที่เคารพ เพื่อนๆ และน้องๆทุกคนใน ThaiVI

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บครับ

ถึงเราจะมีเงินมากมายแค่ไหน แต่ถ้าเราสุขภาพไม่แข็งแรง ก็ไม่มีประโยชน์ครับ

รักษาสุขภาพกาย และใจ ให้แข็งแรง แล้วจะทำให้เราสามารถทำอะไรได้ทุกๆ อย่าง

ทั้งการทำงาน การดูแลคนที่เรารัก และที่สำคัญคือการศึกษาการลงทุนของเราได้อย่างราบรื่นครับ

สำหรับผมการวางแผนการลงทุนในปี 55 คือการศึกษาหาความรู้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อฝึกฝน

ตนเอง และฝึกสมาธิไม่ให้ ฟุ้งซ่านไปตามอารมย์ ของนายตลาด

แค่นี้ผมก็พอใจในการลงทุนแล้วครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ

ขอขอบคุณเว็บไซต์ไทยวีไอสำหรับแหล่งข้อมูล ความรู้ดีๆ ที่มีน้ำใจแบ่งปันให้กันอีกหนึ่งปี
ขอให้เว็บแห่งนี้คงอยู่ไปอีกนาน พร้อมๆ กับคุณภาพที่พัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป (กลับมาเป็นเหมือนในอดีตสมัยปี2003 ที่โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างสร้างสรรค์ก็ดีนะครับ คิดถึงรุ่นเก่าๆ หลายคนที่เคยโพสต์แล้วหายหน้ากันไปนาน ทำไงนะจึงจะกลับมาแลกเปลี่ยนกันเหมือนเดิมอีก)

แผนการลงทุนปีหน้าผมตั้งใจจะให้เวลาในการอ่าน หาข้อมูล และศึกษา ให้มากกว่าการเฝ้าดูราคาหุ้นหน้าจอ ซึ่งสำหรับผมในปีนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผล เสียเวลามากแลกกับการได้มาเล็กน้อย

เป็นการโพสครั้งแรกของผมเลยถือโอกาสอวยพรทุกๆท่านในเวปนี้ที่ให้แนวความคิดและความรู้ ประสบผลสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป และขอให้เวป vi อยู่เคียงข้าง vi ตลอดไปด้วย

ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จตามแรงพยายามและความตั้งใจที่ได้ลงไป
ขอให้พบทั้งความสุขสัมพัทธ์และความสุขสัมบูรณ์

Nevercry.boy เขียน: สวัสดีปีใหม่ คุณโดม คุณหมอมุก ครับ

เป้าหมายข้อ 1 ผมเหมือนคุณหมอมุกครับ ผมเป็นวิศวะอุตสาหการครับ และผมยังต้องการเป็นวิศวกรไปจนตายครับ ผมเรียนหนังสือไม่ใช่เพราะเงินคุณพ่อคุณแม่แต่เพียงอย่างเดียว แต่เพราะเงินภาษี ผมกราบรัชกาลที่ ๔ ทุกครั้งเวลาเดินเข้าออกสถาบัน ทุกครั้งที่กราบผมอธิษฐานว่า "ถ้าผมเรียนจบไปได้ผมไม่ขอสิ่งใดผมไม่ขอให้ผมเป็นคนรวยหรือเป็นคนมีชื่อเสียง ผมขอให้ความรู้ที่ได้รับทำให้ผมตอบแทนแผ่นดินได้มากที่สุด ผมจะทำสุดความสามารถ" วิศวกร คือ กร ของพระวิษณุที่เด็กช่างนับถือ วันเวลาผ่านมาจนวันนี้ ผมไม่เคยเสื่อมถอยความเชื่อนี้ ผมมั่นใจในอุดมการณ์ของตนเอง ก็ เป็นความเชื่อของวิศวกรเล็ก ๆ คนนึงน่ะครับ
..
..
ปีนี้ได้สนทนากับคุณโดม คุณหมอมุก ก็รู้สึกดีครับ
ขอให้ทุก ๆ ท่านประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว
สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศของเราครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ คุณ NB รู้สึกดีมากๆเช่นกันครับที่ได้มีโอกาส
ได้แลกเปลี่ยน ความคิด ความเห็น ช่วงปี 54 ที่ผ่านมา
อาชีพ วิศวกร เป็นอาชีพที่ดี ได้รับการยกย่อง ทำคุณประโยชน์ ต่อการพัฒนาประเทศชาติ อาชีพหนึง
หากผมมีอาชีพวิศวกร ความคิดเรื่องการเลิกงานประจำ คงเปลี่ยนไป

สำหรับผมเอง ผมทำงานมาตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็รู้ว่าต้องทำงานช่วยพ่อแม่แล้ว
เพราะความยากจน ของครอบครัวเป็นทุนเดิม ไม่เคยรู้จักวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือ ฮอล์ลิเดย์
เลิกจากโรงเรียนก็เป็นว่ามือถึงงาน งานปัจจุบันก็เป็นงานที่ต้องให้บริการ บริหารคน บริหารงานเดิมๆซ้ำๆ
ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ด้วยข้อจำกัดของเจ้าของธุรกิจ ที่เราบริหารให้ เลยตั้งใจจะออกจากวงเวียนวงนี้ก่อน
ซึ่งแพลนมาจะ 2ปีแล้วครับ

หลังจากหลุดงานนี้ ก็"อยากทำ"ในสิ่งที่"อยากรู้" "อยากเห็น" มากกว่าสิ่งที่"กำลังเห็นอยู่"
และเวลาอีกปีครึ่ง ต่อจากนี้ ก็จะทุ่มเทให้กับงานที่ตนรับผิดชอบ
เพื่อให้เจ้าของกิจการเขาแฮปปี้ที่สุดเท่าที่จะทำได้
และผมหวังว่าผมจะเดินไปสู่เป้าหมายที่ผมวางไว้อีก 4 ปีข้างหน้า
ในระหว่างทาง ผมก็จะตักตวงความสุข ตามโอกาสที่หาได้ครับ

โปรดรับความปราถนาดีจากผม อยากให้ทุกท่านประสบความสำเร็จจากการลงทุน
ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
และไปถึงเป้าหมายนั้นด้วยความสุข
อย่าได้มีความพะวักพะวง และอุปสรรคใดๆ ครับ

สวัสดีปีใหม่

Paul VI เขียน:สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันครับ คุณโดม

เห็นลายเซ็น แล้วคุณโดม คงใช้เวลาอีกไม่นานในการพิชิตเป้าหมายนั้นนะครับ

What ever it takes...
1. Routine works free in 1+ 6/12 years
2. Financial freedom in 4 years

เป้าหมายข้อ 1 ผมคงไม่เหมือนคุณโดม เพราะผมยังต้องการทำงานหมอไปตลอด แต่อาจเพลาๆมือบ้างเล็กน้อย แต่คงยังทำงานหมอต่อไป แต่อาจไม่มากเท่าเดิม


จะว่าไปเป้าหมายคุณโดมข้อ 2 คล้ายผมมากเลย เลยตั้งเป้าหมายจะทำงานหนักมากขึ้นในปี 55

เพราะวิเคราะห์ตัวเอง ในปี 54 แล้ว ใจยังนิ่งไม่พออยู่ช่วงหนึ่ง แต่นั่นมีผลทำให้ผมได้ ผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาดไปพอควรเลย ยิ่งตอนน้ำท่วมนี่ ผมไม่มีสมาธิเรื่องหุ้นเลยจริงๆ

ก็คงต้องมาจูนเรื่อง สมาธิ และใจ นี่ให้มั่นคงมากขึ้นกว่าเดิมครับ

หากผมมีอาชีพเป็นหมอ ผมอยากจะทำเหมือนพี่หมอครับ
ผมเห็นด้วยกับท่านอาจารย์ไพบูลย์ครับว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่น่ายกย่องสรรเสริญ
เป็นอาชีพที่เสียสละ เป็นอาชีพที่ได้บุญได้กุศล

เรื่องผลตอบแทนของผมปีนี้ถือว่าดีครับ ได้มากกว่าเป้าหมายอยู่พอสมควรครับ
ถึงแม้จะลดน้อยลงกว่าตอนตลาดพีคอยู่มากโข เสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ก็พอใจและมีความสูขครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ คุณโดม และเพื่อน ๆ ใน ThaiVI ทุกคนครับ

ปี 55 น่าจะเข้าสู่ช่วงทำงาน Part Time ได้แล้ว 5555


ผมก็เป็นวิศวกร คล้าย ๆ คุณ NB ทำงานสร้างสรรค์ มาเยอะมาก ภูมิใจในสิ่งที่ทำครับ

แต่ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ครับ


ชอบที่ Steve Job บอกไว้ครับ 2 ประโยคครับ

stay hungry & stay foolish

มรณสติ (เขียนแบบสั้น ๆ)


สุขสันต์ วันปีใหม่ครับ

สวัสดีปีใหม่เหล่าสมาชิก พ่อแม่ พี่น้อง มิตรรักแฟนเพลงทุกๆท่านครับ

ขอบคุณสังคมดีๆแบบ thaivi ครับ (แม้หลังๆจะเปลี่ยนจากเดิมไปเยอะ) ที่เป็นแหล่งข้อมูลดีๆให้ได้คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์กัน

แผนการลงทุนปี 55 ก็คงเหมือนทุกปีครับ ยึดมั่นในหลักการ vi ไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์ตลาด

ปล ยินดีกับพี่ BeSmile ด้วยนะครับ

picatos เขียน:กลยุทธปีหน้าของผม
- เน้น Conservative และ Defensive ระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต
- diversify พอร์ตมากยิ่งขึ้น ไม่ focus
- การจะลงทุนหุ้นตัวใหม่ ต้องคิดละเอียดรอบคอบมากกว่าปี 54 อีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว
- เน้นคุณภาพกิจการ หลีกเลี่ยงหุ้น turn-around หุ้นที่ไม่มีเสถียรภาพของรายได้กับกำไร หุ้นที่มีประวัติน้อย หุ้นที่ธรรมาภิบาลมีปัญหา
- ระมัดระวังหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ
- ระวังมือบอน หูเบา ใจร้อน ลงทุนโดยวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน

รบกวนแชร์หน่อยซิครับว่าทำไมปีหน้าถึงมีแนวคิดอย่างนี้ ขอบคุณครับ

SunShine@Night เขียน:

picatos เขียน:กลยุทธปีหน้าของผม
- เน้น Conservative และ Defensive ระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต
- diversify พอร์ตมากยิ่งขึ้น ไม่ focus
- การจะลงทุนหุ้นตัวใหม่ ต้องคิดละเอียดรอบคอบมากกว่าปี 54 อีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว
- เน้นคุณภาพกิจการ หลีกเลี่ยงหุ้น turn-around หุ้นที่ไม่มีเสถียรภาพของรายได้กับกำไร หุ้นที่มีประวัติน้อย หุ้นที่ธรรมาภิบาลมีปัญหา
- ระมัดระวังหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ
- ระวังมือบอน หูเบา ใจร้อน ลงทุนโดยวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน

รบกวนแชร์หน่อยซิครับว่าทำไมปีหน้าถึงมีแนวคิดอย่างนี้ ขอบคุณครับ

อืม... ความเห็นส่วนตัวนะครับ...

ผมรู้สึกว่าหุ้นแพงมาก ตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่ และรู้สึกว่าหาหุ้นอะไรเล่นไม่ได้ ตลาดต้องเอาหุ้นที่คุณภาพกิจการไม่ดี ธรรมาภิบาลไม่ดี มาปัดฝุ่น เปลี่ยนโครงสร้างกิจการหรือธุรกิจ มาสร้าง story ใหม่ๆ มาเล่นกัน ในขณะที่หุ้นคุณภาพกิจการดีๆ ก็ p/e สูงมากๆ และ story ของหุ้นก็เป็นเรื่องในอนาคตออกไปหลายๆ ปี ไม่มีหุ้นที่ถูกแบบว่า ถูกวันนี้ แต่เป็นถูกของวันข้างหน้า ภายใต้สมมติฐานว่าแผนการขยายธุรกิจจะสำเร็จบ้าง แผนการไปต่างประเทศจะสำเร็จบ้าง เป็นต้น เอาจริงๆ คือ ผม หาหุ้นที่มี Margin Of Safety ไม่ได้ ที่ถืออยู่ในพอร์ตก็มีแต่ Upside ไม่มี Margin Of Safety พลาดเมื่อไหร่ ผมขอแค่เจ๊งไม่เกิน 20% ก็ดีใจแล้วครับ

เวลาอยู่ในฟองสบู่ หมายความว่า ไม่ได้หมายความว่าจะลงทุนไม่ได้ แต่ต้องระมัดระวังว่าฟองสบู่จะแตกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมถึงพยายามระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต

ส่วนเหตุที่จะทำให้ฟองสบู่แตก ผมคิดว่าน่าจะมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ที่ตอนนี้เห็นสัญญาณว่าลามจากปัญหาเศรษฐกิจ ไปเป็นปัญหาการเมือง และสังคม ระหว่างประเทศ มีการเล่นแง่ เอามีดเสียบกันไปเสียบกันมาของประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่ภาคประชาชนก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่อาจทำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทำให้ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกเอาไว้ได้ ซึ่งวันใดวันหนึ่ง ผมเชื่อว่าจะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้ จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ใดๆ คาดเดาได้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์สาย Classic ชอบบอกว่า เดี๋ยวมันก็จะปรับเข้าสู่ดุลยภาพเอง ซึ่งผมไม่เชื่อในแนวคิดดังกล่าว ผมคิดว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดดังกล่าวที่มองโลกในแง่ดีเกินไป ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตจะเลวร้ายกว่าสิ่งที่เคยเกิดสมัย Great Depression อย่างเทียบกันไม่ได้ เพราะ ขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าเดิมมาก และความร่วมมือกันเศรษฐกิจในปัจจุบันแนบแน่กันกว่าแต่ก่อน แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น เครื่องมือต่างๆ จะถูกงัดออกมาใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ซึ่งปัญหาอาจจะยืดเยื้อออกไปหลายๆ ปีก็ได้

สวัสดีปีใหม่ 2555 ครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง และ คิดสิ่งใดก็สมปราถนา เรื่องร้ายหรืออะไรไม่ดี ขอให้ทิ้งไว้ในปี 2554 ใครคิดจะกลับตัวทําสิ่งที่พลาด ก็ข้อให้ ทําในปีใหม่

สวัสดีปีใหม่เพื่อนๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านขอให้มีความสุขและหวังสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้นครับ
ขอให้เวปนี้เป็นเวปที่คงอยู่และให้ความรู้แก่นักลงทุนตลอดไปครับ

picatos เขียน:

SunShine@Night เขียน:

picatos เขียน:กลยุทธปีหน้าของผม
- เน้น Conservative และ Defensive ระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต
- diversify พอร์ตมากยิ่งขึ้น ไม่ focus
- การจะลงทุนหุ้นตัวใหม่ ต้องคิดละเอียดรอบคอบมากกว่าปี 54 อีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว
- เน้นคุณภาพกิจการ หลีกเลี่ยงหุ้น turn-around หุ้นที่ไม่มีเสถียรภาพของรายได้กับกำไร หุ้นที่มีประวัติน้อย หุ้นที่ธรรมาภิบาลมีปัญหา
- ระมัดระวังหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ
- ระวังมือบอน หูเบา ใจร้อน ลงทุนโดยวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน

รบกวนแชร์หน่อยซิครับว่าทำไมปีหน้าถึงมีแนวคิดอย่างนี้ ขอบคุณครับ

อืม... ความเห็นส่วนตัวนะครับ...

ผมรู้สึกว่าหุ้นแพงมาก ตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่ และรู้สึกว่าหาหุ้นอะไรเล่นไม่ได้ ตลาดต้องเอาหุ้นที่คุณภาพกิจการไม่ดี ธรรมาภิบาลไม่ดี มาปัดฝุ่น เปลี่ยนโครงสร้างกิจการหรือธุรกิจ มาสร้าง story ใหม่ๆ มาเล่นกัน ในขณะที่หุ้นคุณภาพกิจการดีๆ ก็ p/e สูงมากๆ และ story ของหุ้นก็เป็นเรื่องในอนาคตออกไปหลายๆ ปี ไม่มีหุ้นที่ถูกแบบว่า ถูกวันนี้ แต่เป็นถูกของวันข้างหน้า ภายใต้สมมติฐานว่าแผนการขยายธุรกิจจะสำเร็จบ้าง แผนการไปต่างประเทศจะสำเร็จบ้าง เป็นต้น เอาจริงๆ คือ ผม หาหุ้นที่มี Margin Of Safety ไม่ได้ ที่ถืออยู่ในพอร์ตก็มีแต่ Upside ไม่มี Margin Of Safety พลาดเมื่อไหร่ ผมขอแค่เจ๊งไม่เกิน 20% ก็ดีใจแล้วครับ

เวลาอยู่ในฟองสบู่ หมายความว่า ไม่ได้หมายความว่าจะลงทุนไม่ได้ แต่ต้องระมัดระวังว่าฟองสบู่จะแตกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมถึงพยายามระมัดระวังรักษาพอร์ตสุดชีวิต

ส่วนเหตุที่จะทำให้ฟองสบู่แตก ผมคิดว่าน่าจะมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ที่ตอนนี้เห็นสัญญาณว่าลามจากปัญหาเศรษฐกิจ ไปเป็นปัญหาการเมือง และสังคม ระหว่างประเทศ มีการเล่นแง่ เอามีดเสียบกันไปเสียบกันมาของประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่ภาคประชาชนก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่อาจทำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทำให้ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกเอาไว้ได้ ซึ่งวันใดวันหนึ่ง ผมเชื่อว่าจะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้ จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ใดๆ คาดเดาได้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์สาย Classic ชอบบอกว่า เดี๋ยวมันก็จะปรับเข้าสู่ดุลยภาพเอง ซึ่งผมไม่เชื่อในแนวคิดดังกล่าว ผมคิดว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดดังกล่าวที่มองโลกในแง่ดีเกินไป ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตจะเลวร้ายกว่าสิ่งที่เคยเกิดสมัย Great Depression อย่างเทียบกันไม่ได้ เพราะ ขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าเดิมมาก และความร่วมมือกันเศรษฐกิจในปัจจุบันแนบแน่กันกว่าแต่ก่อน แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น เครื่องมือต่างๆ จะถูกงัดออกมาใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ซึ่งปัญหาอาจจะยืดเยื้อออกไปหลายๆ ปีก็ได้

ตอนนี้ PE เฉลี่ยทั้งตลาดประมาณ 12 ซึ่งผมก็คิดว่าแพงเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าไม่ถึงขั้นฟองสบู่นะครับ ผมว่าเป็นฟองสบู่เฉพาะกลุ่มมากกว่า คือ ฟองสบู่modern trade นอกนั้นก็แพงแบบธรรมดา หรือไม่ก็ประมาณ fair value
เลยอยากถามคุณ picatos ครับ พอดีผมยังมีประสบการณ์การลงทุนไม่นานเท่าไร อยากทราบว่าช่วงที่ตลาดหุ้นถูกๆนี่(ไม่นับวิกฤตินะครับ เพราะเกิดวิกฤติทีหุ้น PE3-5 คงเกลื่อน) PE จะประมาณเท่าไรครับ

อ่านกระทู้ของคุณ picatos แล้วได้ไอเดียดีครับ แสดงว่าคุณ picatos เริ่มเห็นว่าตลาดทุนไม่น่าสนใจกว่าแต่ก่อนรึป่าวครับ? อันเนื่องมาจากความแพงของหุ้นดีๆที่น่าลงทุน กับภาวะคุกคามของเศรษฐกิจโลกที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบง่าย แบบว่าเลวร้ายกว่า 1929 Great depression เลย
มันก็น่าคิดนะครับ แล้วในมุมมองของคุณ picatos คิดว่าเครื่องมือที่จะช่วยประคองตลาดทุนตอนนี้ใกล้จะหมดมุกยังครับ? หรือว่าเขาสามารถสร้างเครื่องมือใหม่ๆออกมาได้เรื่อยๆ? ผมเองก็วิเคราะห์ไม่เป็นเหมือนกันเพราะไม่จบเศรษฐศาสตร์ ตอนนี้ก็เห็นด้วยว่าหุ้นที่เราสนใจไม่ถูกมากแบบน่าดึงดูดใจให้ใส่เงิน แต่ถ้าเรามองข้ามไปถึงปี 2558 นี่คุณ picatos มีมุมมองอย่างไรครับ

อีกคำถามหนึ่งที่ผมอยากทราบความชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างคำว่า MOS และ upside ถ้าความเห็นผมคำว่า MOS คือการมองไปที่ downside risk ใช่มั๊ยครับ?? ส่วน upside มองไปที่ผลต่างระหว่างมูลค่าและราคาปัจจุบันตามที่เราตั้งใจไว้เช่นใน 1 ปี 3 ปี 5 ปี เป็นต้น?? ขอความเห็นเพิ่มเติมด้วยครับว่าความแตกต่างของ 2 คำนี้เป็นอย่างไร เผื่อว่าจะมีมือใหม่ท่านอื่นๆมาอ่านจะได้ความรู้เพิ่มเติมด้วยกัน ขอบคุณครับ

อืม... ความเห็นส่วนตัวนะครับ...

ผมรู้สึกว่าหุ้นแพงมาก ตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่ และรู้สึกว่าหาหุ้นอะไรเล่นไม่ได้ ตลาดต้องเอาหุ้นที่คุณภาพกิจการไม่ดี ธรรมาภิบาลไม่ดี มาปัดฝุ่น เปลี่ยนโครงสร้างกิจการหรือธุรกิจ มาสร้าง story ใหม่ๆ มาเล่นกัน ในขณะที่หุ้นคุณภาพกิจการดีๆ ก็ p/e สูงมากๆ และ story ของหุ้นก็เป็นเรื่องในอนาคตออกไปหลายๆ ปี ไม่มีหุ้นที่ถูกแบบว่า ถูกวันนี้ แต่เป็นถูกของวันข้างหน้า ภายใต้สมมติฐานว่าแผนการขยายธุรกิจจะสำเร็จบ้าง แผนการไปต่างประเทศจะสำเร็จบ้าง เป็นต้น เอาจริงๆ คือ ผม หาหุ้นที่มี Margin Of Safety ไม่ได้ ที่ถืออยู่ในพอร์ตก็มีแต่ Upside ไม่มี Margin Of Safety พลาดเมื่อไหร่ ผมขอแค่เจ๊งไม่เกิน 20% ก็ดีใจแล้วครับ


ขอบคุณครับ สำหรับมุมมอง พี่ picatos

สวัสดีปีใหม่...ปี 2555 เช่นเดียวกันครับ

ขอบคุณ Thai VI...สำหรับ ความรู้ และแรงบันดาลใจที่ดีเสมอมา

วางแผนลงทุนปี 55....สำหรับปีหน้าของผม "Doing nothing" ครับ
เพราะผมเชื่อมั่นว่า "สิ่งที่เราควรทำ เราได้ทำไปหมดครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว"
ที่เหลือคือ ประหยัดและสะสมเงินมาลงทุนเพิ่มเท่านั้นเองครับ
ปี 2555 ผมตั้งให้เป็น "ปีแห่งความถูกต้อง(สำหรับตัวผมเอง)" โดยผมจะพยายามตั้งใจทำงานประจำให้ดีที่สุด ,เลิกหมกมุ่นเรื่องหุ้นหรือดูราคาหุ้นมากจนเกินไป และจะพยายามทำตนเองให้มีประโยชน์ต่อตัวเอง, ผู้อื่น และองค์กรให้มากที่สุดครับ

ฝากไว้ครับ ที่ http://zenhabits.net/the-art-of-doing-nothing/

ขอให้ทุกท่าน ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ละกันครับ

แผนปีหน้า จดทุกข้อเสีย มองดูตัวเอง แล้วก็ห้ามขาดทุน พอแล้วครับ

สวัสดีปีใหม่ สมาชิก thaivi ทุกท่านด้วยคนครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้มากมาย จากเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ที่เข้ามาแบ่งปันให้กับนักลงทุนรายย่อย
ขอบคุณผู้เสียสละทุกท่านจริงๆ ครับ
ขอให้เวบนี้อยู่คู่นักลงทุนไปนานแสนนาน นะครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ
ขอบคุณ thaivi มากๆ ครับ

ในปี 55 ในเรื่องการลงทุน ก็จะทำอยู่แล้ว ให้ดีกว่าเดิม แค่นั้นละครับ

สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกๆท่านประสบความสำเร็จในการลงทุน ผมก็มักเข้ามาหาอ่านข้อมูลจาก thaivi บ่อยๆ ได้ความรู้และแนวทางดีๆมากมาย ขอบคุณทุกท่านครับ ส่วนปี 55 ก็ต้องเน้นความนิ่ง และ port ระยะยาวก็รอดูการเติบโตของบริษัทไปเรื่อยๆ ผมยังต้องฝึกฝนอีกเยอะครับ