Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเห็นหุ้นในตลาดบางตัว เป็นหุ้นที่ดี แต่เผอิญมี free float ต่ำมากน้อยกว่า 10 percent อีกครับ อยากทราบว่า free float ที่ต่ำมีผลดีผลเสียอย่างไรหรือเปล่าครับ

ถ้ากิจการดี สภาพคล่องจะต่ำ แล้วหุ้นจะเกิดความสอดคล้องกับหลักการเศรษฐศาสตร์ supply ต่ำ demand สูง
จะทำให้เกิดผลักดันราคารวดเร็ว ดีสำหรับคนที่ชอบ capital gain
แม้จะคนละเรื่องกับผลประกอบการของกิจการก็ตาม แต่จะมีผลอย่างมาก เมื่อประกาศผลหรือปันผลออกมา แล้วคนกระหายอยากได้มัน

ดังนั้น มันเสียตรงที่ว่าคนอยากลงทุนมากๆ จะลำบาก
รวบไปหลายช่องถึงจะได้
ใครที่เริ่มลงทุน port เล็กๆ คงได้

และข้อเสียอีกอย่าง คือตรงข้าม
ถ้าเกิดวันไหน กิจการมีอะไรกระทบสะกิดหน่อย หรือคน panic หรือว่าคนที่ถือเริ่มเบื่ออยากปล่อยโยกไปซื้อหุ้นอื่น
ตอนร่วงมันก็ร่วงหนักได้เหมือนกัน ถ้าคนถือเยอะอยากเททิ้ง มันยกหลายช่อง


ยกตัวอย่าง SVH ที่ผมอยากซื้อมาก ชะเง้อมอง ตั้งแต่ราคา 70 แล้ว
แต่ต้องตัดใจ เพราะดูท่าที คุณหมอเสริฐท่านคงจะรักกิจการนี้มาก ไม่ย่อมปล่อยให้ชาวบ้านมาร่วมลงทุนมากเท่าไหร่เลย

http://www.set.or.th/set/companyholder. ... country=TH



ข้างบนถ้านึกภาพไม่ออก ทดลองเอาเงินไป bid SVH สักแสน แค่ 600 หุ้นเอง พยายามซื้อให้หมดให้ได้ภายในวันเดียว จะรู้เลยว่าเป็นยังไง (วิ่งขึ้นไปหลายช่ิองแน่ๆ)
แล้วถ้าซื้อได้ ลองปล่้อยให้หมดดูเหมือนกัน... ผมเคยยกตัวอย่างให้คนเห็นภาพ เพื่ออธิบายกองทุน ว่าทำไมต้องไปซื้อหุ้นใหญ่ๆ หรือทำไม อ.นิเวศน์ กับ Buffett ไม่สามารถจะมาซื้อ-ขายหุ้นแบบนี้ได้ตามวิธีธรรมดา เหมือนรายย่อยปกติ
จะลงทุนได้ ต้องไปเจรจา big lot แบ่งหุ้นมาจากคนถือรายใหญ่เท่านั้น

Ii'8N เขียน:ถ้ากิจการดี สภาพคล่องจะต่ำ แล้วหุ้นจะเกิดความสอดคล้องกับหลักการเศรษฐศาสตร์ supply ต่ำ demand สูง
จะทำให้เกิดผลักดันราคารวดเร็ว ดีสำหรับคนที่ชอบ capital gain
แม้จะคนละเรื่องกับผลประกอบการของกิจการก็ตาม แต่จะมีผลอย่างมาก เมื่อประกาศผลหรือปันผลออกมา แล้วคนกระหายอยากได้มัน

ดังนั้น มันเสียตรงที่ว่าคนอยากลงทุนมากๆ จะลำบาก
รวบไปหลายช่องถึงจะได้
ใครที่เริ่มลงทุน port เล็กๆ คงได้

และข้อเสียอีกอย่าง คือตรงข้าม
ถ้าเกิดวันไหน กิจการมีอะไรกระทบสะกิดหน่อย หรือคน panic หรือว่าคนที่ถือเริ่มเบื่ออยากปล่อยโยกไปซื้อหุ้นอื่น
ตอนร่วงมันก็ร่วงหนักได้เหมือนกัน ถ้าคนถือเยอะอยากเททิ้ง มันยกหลายช่อง


ยกตัวอย่าง SVH ที่ผมอยากซื้อมาก ชะเง้อมอง ตั้งแต่ราคา 70 แล้ว
แต่ต้องตัดใจ เพราะดูท่าที คุณหมอเสริฐท่านคงจะรักกิจการนี้มาก ไม่ย่อมปล่อยให้ชาวบ้านมาร่วมลงทุนมากเท่าไหร่เลย

http://www.set.or.th/set/companyholder. ... country=TH



ข้างบนถ้านึกภาพไม่ออก ทดลองเอาเงินไป bid SVH สักแสน แค่ 600 หุ้นเอง พยายามซื้อให้หมดให้ได้ภายในวันเดียว จะรู้เลยว่าเป็นยังไง (วิ่งขึ้นไปหลายช่ิองแน่ๆ)
แล้วถ้าซื้อได้ ลองปล่้อยให้หมดดูเหมือนกัน... ผมเคยยกตัวอย่างให้คนเห็นภาพ เพื่ออธิบายกองทุน ว่าทำไมต้องไปซื้อหุ้นใหญ่ๆ หรือทำไม อ.นิเวศน์ กับ Buffett ไม่สามารถจะมาซื้อ-ขายหุ้นแบบนี้ได้ตามวิธีธรรมดา เหมือนรายย่อยปกติ
จะลงทุนได้ ต้องไปเจรจา big lot แบ่งหุ้นมาจากคนถือรายใหญ่เท่านั้น

ขอบคุณครับ สำหรับผม port ยังเล็ก คงไม่มีปัญหาอะไรมาก นอกจากราคาที่จะแกว่งง่าย ใช่มั๊ยครับ

เวลาซื้อ ก็ซื้อยาก เพราะ นักลงทุนที่ต้องการซื้อในปริมาณมากๆ ไล่ราคาไปไกลมากๆ ถึงได้ปริมาณตามที่ต้อง
(ตามที่บอกไว้ข้างบน)

ตอนเวลาขายก็ไม่มี Bid หรือ คนซื้อมาซื้อในราคาที่เราต้องการ
ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเกิดขึ้น ดังนั้นใครที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี่สภาพคล่องต่ำๆ
้ควรที่เรียกส่วนชดเชยความเสี่ยงของสภาพคล่องตัวนี้ไว้ด้วยในการคิดคำนวณราคาหลักทรัพย์

ตอนซื้อก็ยากต้องทำใจซื้อสูงกว่าราคาตลาด ตอนขายยากกว่าอีกถ้าต้องขาดทุน

ถ้าจะซื้อ ก็ต้องเผื่อราคาให้มี MOS ให้สูงมากพอครับ

เพราะถ้าต้องการขายทำกำไรหรือโยกตัวไปตัวอื่น ก็มักจะต้องขายแบบราคาที่ต่ำกว่าอาจจะหลายช่อง

ที่เรา เรียกกันว่า ราคาซื้อ - ขาย มีช่วง "ฟันหลอ" ครับ

เวลาขาย บางครั้งหุ้นสภาพคล่องต่ำๆ ในอดีตหรือฟรีโฟลตต่ำๆ ก็อาจมีคนจุดปกระกาย story บางอย่างขึ้นมา แล้วสภาพคล่องบางครั้งก็มากขึ้นเอง ซึ่งตอนนั้นก็อาจจะทำการขายออกได้โดยง่ายครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น เพราะผมก็เคยมองหุ้นที่ free float ต่ำ แต่ก็ต้องทำใจไปสะสมตัวอื่นก่อน
ก็เพราะเหตุผลที่บอกกันมานี่หล่ะครับ

พี่ ๆ ครับถ้าอย่าง 25-30 % อย่างนี้ถือว่าต่ำหรือป่าวครับ

รายย่อย < 15% / <150 ราย ครับ จึงเป็น low free float

รายชื่อปัจจุบัน
http://www.set.or.th/th/company/companylist.html
หลักทรัพย์ที่มีการกระจายการถือหุ้นไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดเป็นปีที่ 2 ขึ้นไป
updated กรกฏาคม 2554
http://www.set.or.th/th/company/files/F ... UPDATE.xls



ใครที่แก้ไขแล้ว ต้องทำหนังสือรายงาน และมักขึ้นต้นด้วย

"ตามประกาศของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2544 และหนังสือจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ บจ. 288/2551 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551เรื่องการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทที่กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 รายและถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระแล้วของบริษัท"