รายได้เพิ่มไม่ใช่จะดีเสมอไป
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2012 9:36 pm
รายได้เพิ่มนั้น โดยทั่วไปคิดว่าบริษัทนั้นดีขึ้นแน่นอน
แต่พวกเราเป็น VI ต้องคำนึงถึงคุณภาพของรายได้ว่า
รายได้ 1 บาทที่ลงทุนไปนั้น มีต้นทุนเท่าไร แล้วกำไรที่ตอบสนองกลับมาเท่าไร
ไม่ใช่ว่า พอเห็นรายได้โตแบบก้าวกระโดดก็รุมกันใหญ่ มันไม่ใช่ ต้องดูด้วยว่า
Cost เพิ่มขึ้นหรือไม่ ไล่ตั้งแต่ต้นทุนการผลิต ว่าเมื่อขายมากขึ้น ใช้วัตถุดิบเพิ่มขึ้นหรือไม่
ต่อมา การจัดการและการบริหาร ทั้งในส่วนของการขายที่ต้องดำเนินการ Entertain ลูกค้ามากขึ้นหรือไม่
หรือ ต้องจ่ายค่านายหน้าเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น
และส่วนที่สำคัญคือ การใช้จ่ายในการบริการของคณะกรรมการ ที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าเพิ่มขึ้นสมเหตุสมผล หรือไม่
เห็นฝีมือในการบริหารยอดขาย ต้นทุนแล้วหรือยัง
ต่อมาคือ ลูกค้าที่ขายนั้นเป็นรายใหญ่ หรือรายย่อยกระจายกันไป ซึ่งถ้าเป็นรายใหญ่ควรตั้งคำถามว่า
ถ้าเราขึ้นราคาสินค้าของเราแล้ว ทำให้ลูกค้ายังคงซื้อกับเราหรือไม่ หรือหนีไปซื้อเจ้าอื่นเลย หรือเราต้องขายในราคาเดิมซักระยะก่อนให้ลูกค้าปรับตัว แล้วค่อยๆขึ้นเป็นขั้นบันได
เหล่านี้พวกเราควรใส่ใจในการพิจารณากันด้วยล่ะ
ไม่ใช่ละเลยไป
แต่พวกเราเป็น VI ต้องคำนึงถึงคุณภาพของรายได้ว่า
รายได้ 1 บาทที่ลงทุนไปนั้น มีต้นทุนเท่าไร แล้วกำไรที่ตอบสนองกลับมาเท่าไร
ไม่ใช่ว่า พอเห็นรายได้โตแบบก้าวกระโดดก็รุมกันใหญ่ มันไม่ใช่ ต้องดูด้วยว่า
Cost เพิ่มขึ้นหรือไม่ ไล่ตั้งแต่ต้นทุนการผลิต ว่าเมื่อขายมากขึ้น ใช้วัตถุดิบเพิ่มขึ้นหรือไม่
ต่อมา การจัดการและการบริหาร ทั้งในส่วนของการขายที่ต้องดำเนินการ Entertain ลูกค้ามากขึ้นหรือไม่
หรือ ต้องจ่ายค่านายหน้าเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น
และส่วนที่สำคัญคือ การใช้จ่ายในการบริการของคณะกรรมการ ที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าเพิ่มขึ้นสมเหตุสมผล หรือไม่
เห็นฝีมือในการบริหารยอดขาย ต้นทุนแล้วหรือยัง
ต่อมาคือ ลูกค้าที่ขายนั้นเป็นรายใหญ่ หรือรายย่อยกระจายกันไป ซึ่งถ้าเป็นรายใหญ่ควรตั้งคำถามว่า
ถ้าเราขึ้นราคาสินค้าของเราแล้ว ทำให้ลูกค้ายังคงซื้อกับเราหรือไม่ หรือหนีไปซื้อเจ้าอื่นเลย หรือเราต้องขายในราคาเดิมซักระยะก่อนให้ลูกค้าปรับตัว แล้วค่อยๆขึ้นเป็นขั้นบันได
เหล่านี้พวกเราควรใส่ใจในการพิจารณากันด้วยล่ะ
ไม่ใช่ละเลยไป