Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเองมีความคิดว่าอยากจะใช้ margin มาได้พักใหญ่ๆแล้ว
แต่ยังไม่อยากใช้ครับ
รอให้ วิธีการลงทุนของผมพิสูจน์ตัวมันในระดับหนึ่งก่อน

ก็เลยอยากทราบประสบการณ์ของ
พี่ๆเพื่อนๆ ว่าเริ่มใช้ margin ตอนอยู่ในตลาดมาแล้วกี่ปี?

ขอบคุณครับ XD

ไม่เคยใช้ครับ และไม่คิดที่จะใช้

ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ไม่โลภพอที่จะต้องเดินให้เร็ว เดินเร็วก้มีโอกาศพลาด

ตามลายเซ็นต์เลยครับ

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก รวยได้ไม่ต้องพึ่งมาร์จิ้นท์

ผมเริ่มใช้ margin ตอนก่อนตลาด crash ช่วง subprime

รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะเลย ตอนเริ่มใช้ บรรยากาศตลาดคล้ายๆ กับช่วงนี้เลยครับ

อ้อ เริ่มใช้หลังจากลงทุนมาได้ 5 ปี มั้ง

การใช้ margin คือการเปิดบ/ช แบบ เครติดบาลานต์ ใช่ไหมครับ

มาจิ้นไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แค่จำไว้ว่า หุ้นขาขึ้นซื้อให้เต็มวงเงินมาจิ้น หุ้นขาลงขายให้เกลี้ยงอย่าเป็นหนี้ แค่นั้นเอง

ผมว่าจะใช้เมื่อไหร่คงไม่ได้อยู่ที่ชั่วโมงบินเป็นหลัก ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะใช้คงต้องมันใจว่า ณ เวลานั้นdownsideต่ำมากๆ เช่น peหุ้น3-4ทั้งๆที่กิจการยังดีอยู่ หรือภาวะตลาดcrashอย่างช่วงsubprimeเป็นต้นครับ ส่วนตัวผมเองต่อให้อยากรวยเร็วแค่ไหนก็คงไม่ใช้หรอกครับ ยิ่งตอนนี้ราคาหุ้นเองก็ไม่ได้ถูกขนาดจะเทมาร์จิ้นได้ เตือนด้วยความหวังดีนะครับ

เมื่อคิดได้ว่าการกู้ margin แค่ 35% นั่นไม่ได้เสี่ยงมากไปกว่าการถือหุ้นเต็ม port ซักเท่าไหร่ครับ

อิอิ ไม่เคยใช้ และไม่คิดที่จะใช้อะครับ
....มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะ...ยากนาน...หึหึ

patongpa เขียน:มาจิ้นไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แค่จำไว้ว่า หุ้นขาขึ้นซื้อให้เต็มวงเงินมาจิ้น หุ้นขาลงขายให้เกลี้ยงอย่าเป็นหนี้ แค่นั้นเอง

เอ แล้วตอนนี้ขาขึ้น..รึ..ขาลงอะครับ

dino เขียน:

patongpa เขียน:มาจิ้นไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แค่จำไว้ว่า หุ้นขาขึ้นซื้อให้เต็มวงเงินมาจิ้น หุ้นขาลงขายให้เกลี้ยงอย่าเป็นหนี้ แค่นั้นเอง

เอ แล้วตอนนี้ขาขึ้น..รึ..ขาลงอะครับ

พี่dino ครับ ก็ต้องรออีกหน่อยครับ ถึงจะชัดขึ้น

แต่ถ้าเป็นตอนขับรถอยู่ ผมว่า ตอนนี้ ก็ตอนขับรถมาถึง สี่แยก ครับ

อันนี้ก็แล้วแต่คนขับแต่ละคน ครับ บางคนชอบรีบเหยียบคันเร่งเพิ่ม บางคนก็ชะลอดูสถานะการณ์ก่อน หรืออื่นๆ อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์และความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน ครับ

( แซวเล่น ครับ พี่dino )

chukieat30 เขียน:ไม่เคยใช้ครับ และไม่คิดที่จะใช้

ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ไม่โลภพอที่จะต้องเดินให้เร็ว เดินเร็วก้มีโอกาศพลาด

ตามลายเซ็นต์เลยครับ

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก รวยได้ไม่ต้องพึ่งมาร์จิ้นท์

ใช้มาร์จิ้นไม่ได้แปลว่าโลภนะครับ
ลงทุนในตลาดหุ้นก็ไม่ได้แปลว่าโลภด้วย

thaloengsak เขียน:

chukieat30 เขียน:ไม่เคยใช้ครับ และไม่คิดที่จะใช้

ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ไม่โลภพอที่จะต้องเดินให้เร็ว เดินเร็วก้มีโอกาศพลาด

ตามลายเซ็นต์เลยครับ

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก รวยได้ไม่ต้องพึ่งมาร์จิ้นท์

ใช้มาร์จิ้นไม่ได้แปลว่าโลภนะครับ
ลงทุนในตลาดหุ้นก็ไม่ได้แปลว่าโลภด้วย

อยากรู้ว่ามาจิ้นท์มันแสบยังไงต้องลองถาม พวกเซียนดูสิครับ

ปี2008 ความมั่งคั่งลดลงแค่ไหน

การหามาได้ ก้ยากพอๆๆ กับการรักษาสถานะของความมั่งคั่ง

เริ่มใช้ตอนไหน
ก็ตอนที่ตลาดขึ้นมาเยอะๆ คล้ายๆตอนนี้แหละครับ เพราะเห็นคนใช้กันเยอะ
ตอนนั้น ดัชนี 800 จุด หลังจากขึ้นมาจาก 400

หลังจากเริ่มหัด ก็โดน subprime หุ้นลงไป 400
โดนรับน้องโหดมากครับ สำหรับตอนนั้น

ใช้หลัง ซัพไพรม์ ไม่นานครับ (ค่อนข้างจะโชคดี)
ตอนนั้นมันอยากซื้อหุ้นมากๆ แต่เงินตัวเองหมด
ใช้เพราะคิดว่าหุ้นมันไม่น่าจะตกไปได้อีกแล้ว

ใช้แล้วติดครับ แรกๆกะว่าพอหุ้นขึ้นได้สักระดับนึง จะปลดมาร์จินออก
แต่พอมันขึ้นมาจริงๆ กลายเป็นว่ายังใช้มาร์จินมาโดยตลอด

ถ้าจะใช้ ต้องคิดไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ ว่าถ้าเกิดเหตุไม่เป็นไปตามที่คาดแล้วจะรับมือยังไง

ขอบคุณเพื่อนๆ

เคยคิดจะขออนุมัติ margin อยู่ช่วงนึง

แต่เนื่องจากวงเงิน port ตำเกินกว่าจะอนุมัติ

เลยถือเป็นโชคดีไป

ไม่งัน้หมดตัวไปแล้วครับ (รอดมาได้หวุดหวิด) XD

ขอเรียนรู้ไว้ก่อน ถ้าไม่รู้และไม่เข้าใจจริงไม่ใช่แน่

มองว่าเปนขาขึ้นครับ เคยขายปู 750 ตอนนี้ 590 จะให้ลงไปไหนอีกล่ะครับ
ตอนนี้บางบริษัทเงินหมดจนต้องส่งต่อให้ไปกู้ tsfc. ใครยังไม่ได้กู้ต้องรีบหน่อยนะครับ (ล้อเล่น)

ต้องมั่นใจแล้วว่าเป็นภาวะวิกฤตจริงๆ
และต้องเป็นภาวะวิฤตที่ยาวนานมากกว่า 3 เดือน

สำหรับผมแล้วตอนหุ้นตกไป 850 เมื่อปลายปี 2011
ก็ยังไม่ได้ใช้ margin ครับ
เพราะราคามันยังไม่ถึงที่เราต้องการ

คือมันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าการใช้ margin ครั้งนี้คุ้ม

ตัวผมจะใช้เกณฑ์การปันผลครับ
ถ้าตีได้ว่าปันผลอยู่ราวๆ 15 %ขึ้นไป ก็จะเริ่มใช้ margin แล้ว
ช่วงเวลาที่หุ้นส่วนใหญ่มี div yield% สูงๆ
ก็เป็นสัญญาณตัวนึงที่บอกว่าหุ้นถูกมากแล้ว

แต่ต้องมั่นใจในตัวกิจการมากๆนะครับ
ว่าจะมีความสามารถในการจ่ายปันผลในปีต่อไปรึปล่าว
อันนี้ต้องไปวิเคราะห์งบการเงินอย่างละเอียดอีกครั้งครับ

และไม่ควรลงทุนในบริษัทเดียว
อย่างน้อยต้อง 3 บริษัท
เผื่อว่า 1 ในนั้น ไม่จ่ายปันผลในปีถัดมา

ใช้ magin ราว 1/3 ของเงินลงทุนทั้งหมดครับ
เพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกชั้น

และต้องมั่นใจจริงๆว่า คุณมีทรัพย์สินบางอย่างที่จะนำไปโปะ margin
ในกรณีที่ผิดพลาดจริงๆครับ

ผมว่าหุ้นที่เราจะใช้ Margin ควรมีสภาพคล่องการซื้อขายในแต่ละวันพอสมควร

เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบ หม่อมอุ๋ย หรือ ตลาด crash เราจะสามารถ manage ได้

พี่ ๆ ครับแล้วบัญชี magin เค้าคิดดอกเบี้ยเราในอัตราเท่าไหรครับ แล้วคิดเป็นวันหรือเป็นเดือนครับ

เริ่มใช้เมื่อได้รับการอนุมัติ วงเงินผ่านครับ

ผมเริ่มเมื่อตอนที่คิดว่าพร้อมครับ มีแผนการบริหารมาร์จิ้นที่ชัดเจน
และลองนำแผนนั้นไปรันดูในหลายๆวิกฤติที่ผ่านมาแล้วสามารถรอดได้
แต่ต้องระวังเรื่องเบต้าด้วยนะครับ บางทีตลาดลงมา-45%
แต่หุ้นบางตัว-70%ก็มีไม่น้อย ดังนั้นต้องระวังด้วยครับ^^

ไม่เคยใช้ (เพราะไม่มีใครปล่อยให้ใช้ครับ)
เพราะหุ้นที่ผมสนใจ ส่วนมากแล้ว มักจะ...
"ขาดทุน, งบการเงินย่ำแย่, ไม่มีสภาพคล่อง และไม่จ่ายปันผลมายาวนาน"

ถ้ารู้ว่าโบรคไหนปล่อย รบกวนบอกผมด้วยนะขอรับ
แต่ผมเชื่อลึกๆว่า ไม่มีใครปล่อย
ดังนั้น สรุปว่า... ผมไม่มีโอกาสได้ใช้ครับผม

Margin เป็นอุปกรณ์สร้างความมั่งคั่งอย่างหนึ่ง หากท่านใช้เป็น.....

ก็ไม่ต่างอะไรกับการยืมเงินบล.มาเล่นนั่นล่ะครับ แต่ข้อเสียคือหากหุ้นผันผวน คุณอาจโดนบังคับขายได้ง่ายๆ...

ผมเองเคยเล่นมาจิ้นตั้งแต่ก่อน crisis รอบนี้ โดยมีอายุ 20 กลางๆครับ ตอนแรกพ่อแม่บอกไว้เลยว่าลงทุนหุ้น ขออย่างเดียวว่าอย่าเล่นมาจิ้น

ผมไม่เชื่อครับ ผมลองดู....แล้วผลก็คือ ผมเสมอตัว แต่เรียนรู้อะไรมากมายครับ... ก่อนเกิด crisis ผมชอร์ต SCB กับ PTTEP ไว้โดยมองขาด (แถมมองถูกอีกว่าเศรษฐกิจจะทรุด)

SCB ร่วงลงจากเกือบ 100 ลงมามากมาย..... PTTEP สิครับ ผมจำได้ว่าผมชอร์ตไว้ประมาณซัก 150 บาท แต่ด้วยความที่ว่าคนมาเก็งกำไรน้ำมันมากจนวิ่งไป $140 ต่อบาเรล ก่อนจะร่วงระนาวไปเหลือ $30-$40

ตอนนั้นเลยคิดว่าจะเลิกเล่นมาจิ้นเลยครับ เพราะบางทีจังหวะผิดนิดเดียวก็อาจหมดได้