กำไรสะสม กำไรสะสมจัดสรร และกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2012 10:50 pm
กำไรสะสมคือ กำไรที่สะสมอยู่ในบริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการมาจนปัจจุบันหักด้วยเงินหรือหุ้นปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น พูดง่ายๆ ก็คือ กำไรสะสมคือ ผลรวมของกำไรขาดทุนที่เกิดจากผลประกอบการของบริษัทในทุกๆ งวดที่ผ่านมาลบด้วยการจ่ายปันผล ตัวอย่างเช่น การคำนวณกำไรสะสมของ บริษัท กขค จำกัด สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x5 สามารถแสดงได้ดังนี้
กำไรสะสมต้นปี. 450,000
กำไรสุทธิ. 560,000
1,010,000
เงินปันผล. (390,000)
กำไรสะสมสิ้นปี. 620,000
กำไรสะสมถือเป็นรายการที่สำคัญสำหรับผู้ถือหุ้น เนื่องจากกำไรสะสมทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้ถือหุ้นสามารถจะได้รับผลตอบแทนจากเงินลงทุนของตัวเองในรูปของการปันผล ดังที่เห็นจากสมการข้างต้นว่า เงินปันผลเป็นรายการที่ตัดจ่ายจากกำไรสะสม ดังนั้น เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลออกไป ผลที่เกิดขึ้นในทางบัญชีคือ เงินสดของบริษัทจะลดลง ในขณะที่กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทจะลดลงด้วยจำนวนที่เท่ากัน
กำไรสะสมสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ กำไรสะสมจัดสรรและกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร
กำไรสะสมจัดสรรคือ กำไรสะสมที่บริษัทจัดสรรไว้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงบางอย่างตามนโยบายของบริษัทหรือตามกฎหมาย เช่น บริษัทอาจจัดสรรกำไรสะสมไว้เพื่อจ่ายเงินโบนัสกรรมการ เพื่อจ่ายหุ้นกู้ เพื่อลงทุน หรือเพื่อการขยายกิจการ หรือบริษัทอาจต้องจัดสรรกำไรไว้เป็น สำรองตามกฎหมาย ตามที่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องจัดสรรกำไรสะสมไว้อย่างน้อย 5% ของกำไรสุทธิแต่ละปี จนกว่าทุนสำรองตามกฎหมายจะมีจำนวน 10% ของจำนวนทุนที่จดทะเบียนหรือมากกว่ากฎหมายกำหนด เหตุผลที่บริษัทต้องจัดสรรกำไรสะสมไว้ก็เพื่อที่จะเก็บเงินสดไว้ไม่ให้ไหลออกจากบริษัทในรูปของเงินปันผล หากบริษัทมีความจำเป็นที่ต้องขยายกิจการ จ่ายชำระหนี้สินระยะยาว หรือปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทสามารถสื่อสารให้ผู้ลงทุนทราบว่า กำไรสะสมจำนวนใดที่สามารถนำมาจ่ายปันผล (กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร) และกำไรสะสมจำนวนใดที่จะสงวนไว้เพื่อการอื่น (กำไรสะสมจัดสรร)
กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรคือ กำไรสะสมที่ไม่มีภาระผูกพัน ซึ่งบริษัท (หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น) สามารถนำไปใช้ในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หรือนำไปการขยายกิจการหรือลงทุนในกรณีที่บริษัทไม่ได้ทำการจัดสรรจากกำไรสะสมไว้ (หมายถึงกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรนี้มีไว้เพื่อรอการจัดสรรและรอโอนย้ายไปอยู่ในส่วนของกำไรสะสมจัดสรร) อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทเกิดขาดทุนสุทธิ กำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรจะถูกกระทบก่อนกำไรสะสมจัดสรร
กำไรสะสมต้นปี. 450,000
กำไรสุทธิ. 560,000
1,010,000
เงินปันผล. (390,000)
กำไรสะสมสิ้นปี. 620,000
กำไรสะสมถือเป็นรายการที่สำคัญสำหรับผู้ถือหุ้น เนื่องจากกำไรสะสมทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้ถือหุ้นสามารถจะได้รับผลตอบแทนจากเงินลงทุนของตัวเองในรูปของการปันผล ดังที่เห็นจากสมการข้างต้นว่า เงินปันผลเป็นรายการที่ตัดจ่ายจากกำไรสะสม ดังนั้น เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลออกไป ผลที่เกิดขึ้นในทางบัญชีคือ เงินสดของบริษัทจะลดลง ในขณะที่กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทจะลดลงด้วยจำนวนที่เท่ากัน
กำไรสะสมสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ กำไรสะสมจัดสรรและกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร
กำไรสะสมจัดสรรคือ กำไรสะสมที่บริษัทจัดสรรไว้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงบางอย่างตามนโยบายของบริษัทหรือตามกฎหมาย เช่น บริษัทอาจจัดสรรกำไรสะสมไว้เพื่อจ่ายเงินโบนัสกรรมการ เพื่อจ่ายหุ้นกู้ เพื่อลงทุน หรือเพื่อการขยายกิจการ หรือบริษัทอาจต้องจัดสรรกำไรไว้เป็น สำรองตามกฎหมาย ตามที่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องจัดสรรกำไรสะสมไว้อย่างน้อย 5% ของกำไรสุทธิแต่ละปี จนกว่าทุนสำรองตามกฎหมายจะมีจำนวน 10% ของจำนวนทุนที่จดทะเบียนหรือมากกว่ากฎหมายกำหนด เหตุผลที่บริษัทต้องจัดสรรกำไรสะสมไว้ก็เพื่อที่จะเก็บเงินสดไว้ไม่ให้ไหลออกจากบริษัทในรูปของเงินปันผล หากบริษัทมีความจำเป็นที่ต้องขยายกิจการ จ่ายชำระหนี้สินระยะยาว หรือปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทสามารถสื่อสารให้ผู้ลงทุนทราบว่า กำไรสะสมจำนวนใดที่สามารถนำมาจ่ายปันผล (กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร) และกำไรสะสมจำนวนใดที่จะสงวนไว้เพื่อการอื่น (กำไรสะสมจัดสรร)
กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรคือ กำไรสะสมที่ไม่มีภาระผูกพัน ซึ่งบริษัท (หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น) สามารถนำไปใช้ในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หรือนำไปการขยายกิจการหรือลงทุนในกรณีที่บริษัทไม่ได้ทำการจัดสรรจากกำไรสะสมไว้ (หมายถึงกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรนี้มีไว้เพื่อรอการจัดสรรและรอโอนย้ายไปอยู่ในส่วนของกำไรสะสมจัดสรร) อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทเกิดขาดทุนสุทธิ กำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรจะถูกกระทบก่อนกำไรสะสมจัดสรร