Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

รู้สึกว่า 56-1 มัน get to the point ดีกว่าครับ และสำหรับหุ้นบางตัว ผมรู้สึกว่า 56-1 มีข้อมูลบางอย่างที่ใน annual report ไม่มีครับ

ผมอ่านแต่ 56-1 ครับ มันเนื้อๆกว่า, ส่วน annual report มีข้อมูลมากกว่าและมีน้ำเยอะมาก
อ่านเจาะเป็นบริษัทๆ annual report ก็ดีครับ ละเอียดดี
แต่ถ้าอ่านมากๆเป็นร้อยบริษัท ผมเลือกอ่านเฉพาะ 56-1

หลังๆบางทีอ่าน 56-1 เหมือน ไม่ค่อยได้ idea ไม่ก็งงๆ มึนๆ
พออ่าน 56-1 จบก็จะไปโหลดงบมาแล้วเอาหมายเหตุมาอ่านต่อ

สรุปคือ หลังๆผมว่าเอา หมายเหตุมาอ่านอย่างเดียว เหมือนจะดีกว่าอ่าน56-1 อะคับ

ซุนเซ็ก เขียน:ผมอ่านแต่ 56-1 ครับ มันเนื้อๆกว่า, ส่วน annual report มีข้อมูลมากกว่าและมีน้ำเยอะมาก
อ่านเจาะเป็นบริษัทๆ annual report ก็ดีครับ ละเอียดดี
แต่ถ้าอ่านมากๆเป็นร้อยบริษัท ผมเลือกอ่านเฉพาะ 56-1

สงกรานต์แล้ว ครบทุกบ.แล้วจิ ท่าน

ฟิตกันจริงๆครับ โดยส่วนตัว ผมอ่าน annual report เพราะดูภาพสวยกว่า

ถ้าเข้าใจไม่ผิด เหมือน annual report จะมี outlook ของ ผบห. ซึ่งตรงนี้ จะช่วยให้เราเห็นภาพ sector โดยรวมได้มากกว่าครับ

nut776 เขียน:

ซุนเซ็ก เขียน:ผมอ่านแต่ 56-1 ครับ มันเนื้อๆกว่า, ส่วน annual report มีข้อมูลมากกว่าและมีน้ำเยอะมาก
อ่านเจาะเป็นบริษัทๆ annual report ก็ดีครับ ละเอียดดี
แต่ถ้าอ่านมากๆเป็นร้อยบริษัท ผมเลือกอ่านเฉพาะ 56-1

สงกรานต์แล้ว ครบทุกบ.แล้วจิ ท่าน

เพิ่งอ่านได้ 170 บริษัทครับ แต่ไม่ไหวล่ะมัน overload...ตอนนี้อ่านแล้วจะอ้วกครับ 555
ผมเลยหยุดอ่าน 56-1 มาเป็นเดือนล่ะ ไว้ไปเที่ยวชาร์จแบตก่อน หน้าเดือนค่อยกลับมาอ่านต่อ

ซุนเซ็ก เขียน:

nut776 เขียน:

ซุนเซ็ก เขียน:ผมอ่านแต่ 56-1 ครับ มันเนื้อๆกว่า, ส่วน annual report มีข้อมูลมากกว่าและมีน้ำเยอะมาก
อ่านเจาะเป็นบริษัทๆ annual report ก็ดีครับ ละเอียดดี
แต่ถ้าอ่านมากๆเป็นร้อยบริษัท ผมเลือกอ่านเฉพาะ 56-1

สงกรานต์แล้ว ครบทุกบ.แล้วจิ ท่าน

เพิ่งอ่านได้ 170 บริษัทครับ แต่ไม่ไหวล่ะมัน overload...ตอนนี้อ่านแล้วจะอ้วกครับ 555
ผมเลยหยุดอ่าน 56-1 มาเป็นเดือนล่ะ ไว้ไปเที่ยวชาร์จแบตก่อน หน้าเดือนค่อยกลับมาอ่านต่อ

170บริษัท
สุดยอดครับทำได้ไงเนี่ย ขยันจริงๆ
ผมค่อนข้างเรื่องมาก เวลาผมกรองทีนี่ ผมกรองเหลือประมาณไม่ถึง10บริษัทเอง อ่านน้อยดี แต่มันคงอาจจะทำให้พลาดบริษัทดีๆไปบ้างเหมือนกัน
แต่ผมทำแบบนี้ก็รู้สึกเหมาะกับผมแล้วล่ะ... เวลาผมอ่านหรือทำอะไรเยอะไป ผ่านไปสักพักมันจะหมดพลัง แล้วก็ตัน หัวไม่แล่น พาลเลิกเอาดื้อๆ เลยต้องกรองให้เหลือที่สนใจจริงๆ รู้สึกว่ามันทุ่มพลังได้เต็มที่มากกว่า

อ้อ ตามคำถามของเจ้าของกระทู้ ที่ผมชอบที่สุดใน56-1 น่าจะเป็นหัวข้อ "ความเสี่ยง" มั้งครับ บางบริษัทอ่านผ่านๆ ผมจะอ่านแต่ลักษณะประกอบธุรกิจ การแข่งขัน แล้วก็ความเสี่ยง

เป็นคำถามหนึ่งที่ผมคาใจว่ามันต่างกันอย่างไร(เคยโพสท์ถามในห้องมือใหม่แต่ก็โดนแขวะว่าเล่นสั้นซะนี่ เฮ้ออ) เพราะปกติผมจะอ่านแต่56-1 ซึ่งหลังๆพอเริ่มอ่านมากขึ้นซึ่งตอนนี้ตามๆอยู่ประมาณ50-60บริษัทเลยเริ่มมีปัญหาเวลาเริ่มไม่พอ อย่างตอนนี้ก็พึ่งอ่านงบจบทุกบริษัท เลยว่าจะจัดระบบการอ่าน+เก็บข้อมูลใหม่น่ะครับ เน้นเนื้อๆเน้นๆ ขอบคุณกระทู้นี้ครับที่ทำให้ผมได้คำตอบซะที

เห็นด้วยกับพี่หมอเคครับ ผมบางทีใช้ดู commitment ของผู้บริหารเหมือนกันครับ

@ท่าน harikung เจอท่านในห้องบริษัทค้าส่ง IT products อยู่หลายครั้งครับ ขอบคุณที่มาช่วยแชร์ความเห็นครับ

ส่วนตัวอย่างบริษัทที่ผมเคยอ่านแล้วรู้สึกว่า 56-1 เข้าใจง่ายกว่าคือ scblif ครับ

vocher40 เขียน:เห็นด้วยกับพี่หมอเคครับ ผมบางทีใช้ดู commitment ของผู้บริหารเหมือนกันครับ

@ท่าน harikung เจอท่านในห้องบริษัทค้าส่ง IT products อยู่หลายครั้งครับ ขอบคุณที่มาช่วยแชร์ความเห็นครับ

ส่วนตัวอย่างบริษัทที่ผมเคยอ่านแล้วรู้สึกว่า 56-1 เข้าใจง่ายกว่าคือ scblif ครับ

แต่ต้องระวังนะครับ เพราะวิกฤติที่ผ่านๆมา ไม่เคยมี outlook อันไหน
บอกว่า บ. ตัวเอง จะไม่ดีซักราย 55


แต่ผมจะเน้น ใน บ. ที่ ผู้บริหาร มีการ อธิบาย ภาพ industry ที่ชัดเจน
บอกมุมมอง ของ บ. เทียบกับ คู่แข่งได้อย่างชัดเจน

ซึ่ง อย่างน้อยๆ เราก็ได้ความรู้ค่อนข้างมากในอุตฯนั้นๆครับ

รายงาน 56-1 ปัจจุบันมีข้อมูลน้อยกว่าเดิมพอสมควร อาจเป็นเพราะทำให้คู่แข่งที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้เปรียบก็เป็นได้

chatchai เขียน:รายงาน 56-1 ปัจจุบันมีข้อมูลน้อยกว่าเดิมพอสมควร อาจเป็นเพราะทำให้คู่แข่งที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้เปรียบก็เป็นได้

ยืนตามพี่ Chatchai ครับ

vocher40 เขียน:เห็นด้วยกับพี่หมอเคครับ ผมบางทีใช้ดู commitment ของผู้บริหารเหมือนกันครับ

@ท่าน harikung เจอท่านในห้องบริษัทค้าส่ง IT products อยู่หลายครั้งครับ ขอบคุณที่มาช่วยแชร์ความเห็นครับ

ส่วนตัวอย่างบริษัทที่ผมเคยอ่านแล้วรู้สึกว่า 56-1 เข้าใจง่ายกว่าคือ scblif ครับ

ผมพล่านไปทั่วบอร์ดล่ะครับ ไม่ใช่แค่ห้องค้าส่งit ผมว่าผมเป็นโรคเสพติดเวปThaiviอย่างรุนแรง555+

อ่านทั้ง 2 อย่างละครับ
และที่พลาดไม่ได้ ซึ่งมีอยู่ annual report อย่างเดียว

สารจากคณะกรรมการ

อันนี้ก็สำคัญนะ

b4solid เขียน:อ่านทั้ง 2 อย่างละครับ
และที่พลาดไม่ได้ ซึ่งมีอยู่ annual report อย่างเดียว

สารจากคณะกรรมการ

อันนี้ก็สำคัญนะ

ปัจจุบันอันนี้สำคัญมากนะครับผบห ดีดีใช้ตรงนี้ศื่อสารกับ ผถห เยอะมากขึ้น

Minute of AGM ในส่วนคำถามตอบของผู้ถือหุ้นและผู้บริหารก็สำคัญครับ

เห็นพ้องกับคุณ offshore ครับ รายงานการประชุมบิดเบือนหรือไม่บันทึกไม่ได้ เพราะต้องเปิดเผยและถูกต้อง เพราะมีการรับรอง ผมจึงคิดว่า ถ้า 56-1 เปิดเผยไม่ครบเนื่องมาจากเหตุผลของการกลัวจะเป็นการให้ข้อมูลคู่แข่ง แต่ meeting report ที่เต็มไปด้วยคำถามดีๆ จากผู้ถือหุ้นขยันๆ ลงทุนในกิจการจริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆที่ไม่ได้เข้าประชุมมาก

งั้นเดี๋ยวผมคงต้องไล่อ่านannual reportดูแระ

กระทู้นี้ดีครับ

กลับมาดูที่เคยโพสต์ไว้ ปรากฏว่าตอนนี้ก็ยังอ่าน 56-1 เป็นหลักอยู่ครับ แต่ที่อ่านเพิ่มขึ้นคือ AGM Minutes และหมายเหตุประกอบงบการเงิน ซึ่งพบว่ามีประโยชน์มากๆ

อ้อเพิ่มเติมครับ สำหรับบริษัทที่มาออก oppday ก็อ่าน slide oppday แต่บางทีบริษัทใหญ่ๆที่จัด analyst conf เป็นการส่วนตัว ก็เข้าไปหาเปิด slide analyst conf ดูเพิ่มเติมครับ เช่น CRC, SCC