หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 10:27 pm
โดย blueplanet
มีใครบ้างที่มีความคิดดีๆในการประเมินมูลค่าหุ้นตัวนี้
ผมรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้แพงตั้งแต่ราคา 25 บาทขึ้นไป
แต่ตอนที่ราคาต่ำกว่า 25 บาทผมก็สนใจตัวอื่นมากกว่า
คนที่มีหลักการณ์ดีๆก็น่าจะมีเหตุผลที่ดีสามารถอธิบายได้ว่าทำไมราคาสูงขนาดนี้
ราคา 2/5/2555=76.50 กำไร 1.78 pe=76.5/1.78=42.97
กำไร 2554/2553=1.78/1.48=1.20 PEG=42.97/20=2.15
ปี 2552 กำไรโต 51% 2553 กำไรโต 33% 2554 กำไรโต 20%
การเติบโตของกำไรก็โตแบบลดลง ขณะที่ pe เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร มีเหตุผลอะไรที่ทำให้คนยังซื้อหุ้นตัวนี้อยู่
คิดอีกที คนที่รู้จริงๆ ก็อาจจะไม่อยากบอกเพราะความรู้นี้อาจจะมีค่ามหาศาล
ผมบอดสนิทจริงสำหรับหุ้นตัวนี้
ทุกอย่างต้องมีเหตุผล เพราะ มูลค่าในการพนันเกม cpall มหาศาล
คนที่ซื้อคงไม่ซื้อหรือถือแบบไม่มีเหตุผลแน่
ใครมีความคิดอย่างไรก็อยากให้ช่วยกันแชร์ ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับทุกคน
คนที่เข้าใจ cpall อย่างถ่องแท้จะมีประโยชน์มากในการหาหุ้นตัวอื่นที่มี
คุณสมบัติพิเศษแบบเดียวกับ cpall

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 10:40 pm
โดย nighthawks
มารอรับฟัง เหตุผลของทุกท่านด้วยคนครับ

สำหรับผม ผมมองว่ามันคือ premium แทบจะล้วนๆเลยครับสำหรับราคานี้ :wall:

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 10:49 pm
โดย xavi
ผมก็มีหุ้น pe สูงใน port เหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ cpall
หลายครั้งก็ต้องทะยอยขายออก เพราะราคาเกินมูลค่าที่ประเมินไว้
และตอนที่ซื้อคืนก็ไม่เคยซื้อได้ราคาเดิมเลย วิ่งขึ้นไปตลอด

ผมเลยคิดว่าตลาดให้ premium ความเป็น superstock อยู่สองอย่างคือ
1. intangible asset โดยเฉพาะ brand equity
2. ความเชื่อว่าจะมี major change ในเชิงกลยุทธ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรายได้ไปสู่ระดับใหม่
ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเมินมูลค่ายากมาก ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจกิจการจริงๆ หรือรู้ข้อมูลสำคัญๆมากๆกว่าคนภายนอก

ผมก็เลยมองว่ามันทำให้ mos เริ่มต่ำ

แต่ที่ยังต้องมีไว้ก็เพราะมันเป็น super stock นี่ล่ะครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 9:27 am
โดย wanchai_jjj
ผมถือ CPALL ตั้งแต่ปี 52 ตอนซื้อใช้บัญญัติไตรยางค์คิดเลยครับ
ง่ายดี เพราะมั่นใจว่า จะขยายสาขาได้ตามเป้า 7000-10000 สาขา
ส่วนประโยชน์จาก economic of scale , อำนาจต่อรองกับ Supplier ,
การเพิ่มสินค้าแบรนด์ตัวเอง ฯลฯ ถือเป็น Safety ครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 9:30 am
โดย ครรชิต ไพศาล
กราฟ ราคา CPALL ปรับปรุง ราคา , EPS และ ปันผลต่อหุ้น ตามการปันผล หุ้น 1:1 แล้ว
วันขึ้น XD ราคาหุ้นยังขึ้นต่อจากวันก่อนขึ้นXD อีก 2.61% สูงสุดขึ้นไป 12.29 %
ถ้าคิด PE เทียบกับ EPS คงที่เท่าปีนี้ไปตลอด ไม่มีเพิ่มขึ้น = 44.08 ปี ผลรวม EPS จึงจะเท่าราคานี้
แต่ถ้าคิดสมมุติว่า EPS ของเขาจะเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยเหมือน ที่ผ่านมาคือ 21% ต่อปี
จะได้ PERG%21 = 12 ปี ผลรวม EPS จึงจะ >= ราคานี้

วันที่ 2 หลังขึ้น XD นักเก็งกำไรที่ไปซื้ออยู่ด้​านบนยอดเสาอากาศวิทยุ คงขายตัดขาดทุนลงมา ทำให้เห็นแท่งดำ ลงมา
รูปภาพ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 10:48 am
โดย ดำ
บวกค่าความคาดหวังในแง่ดีตามกระแสความนิยมในรอบนั้นๆ

ทองคำตอนแตะพันสองก็ใช่ หุ้นแอปเปิ้ลตอนขึ้นเป็นมาร์เก็ตแค็ปอันดับหนึ่งก็ใช่

** มุมมองส่วนตัวนะครับ ตลาดหุ้นไทยรอบนี้เป็นรอบค้าปลีก โรงพยาบาล ตามกระแสนิยมของแนวคิด super stock **

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 1:03 pm
โดย leky
ดำ เขียน:บวกค่าความคาดหวังในแง่ดีตามกระแสความนิยมในรอบนั้นๆ

ทองคำตอนแตะพันสองก็ใช่ หุ้นแอปเปิ้ลตอนขึ้นเป็นมาร์เก็ตแค็ปอันดับหนึ่งก็ใช่

** มุมมองส่วนตัวนะครับ ตลาดหุ้นไทยรอบนี้เป็นรอบค้าปลีก โรงพยาบาล ตามกระแสนิยมของแนวคิด super stock **
บางครั้งกระแสความนิยมก็ถูกเรียกว่าค่า premium ครับ

ซึ่งมันก็เปลี่ยนไปเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่ก่อนยุคปี 40 ก็หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บ.เงินทุนหลักทรัพย์ ไล่มาเรื่อย ๆ ก็สื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ (ตรงกับยุคดอทคอมของทางอเมริกา) พลังงาน ตอนนี้ก็คงเป็นโมเดิร์นเทรด

ถ้าไปดูในแต่ละยุคก็จะเห็นว่า PE ของหุ้นนำตลาดในยุคนั้น ๆ ส่วนใหญ่ล้วนสูงทั้งสิ้น แล้วแต่จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง

หุ้นโมเดิร์นเทรดที่เป็นพระเอกในยุคนี้ ครั้งหนึ่งก็ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เป็นเวลาหลายปี เช่น MAKRO

การขึ้นของหุ้นตัวหนึ่ง ถ้าคุยกับคนที่ดูเรื่องพื้นฐานของบ. เค้าก็จะพยายามอธิบายเหตุผลของพื้นฐาน ถ้าไปคุยกับคนเล่นเทคนิคเค้าก็จะอธิบายในมุมของเทคนิค ถ้าไปคุยกับคนที่เล่นเรื่องฟันด์โฟลว์ ก็จะมองอีกแบบ

ผมว่าในความเป็นจริงหุ้นตัวหนึ่งที่ราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ คงไม่อาจที่จะอธิบายจากสาเหตุเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะในตลาดมีนลท.หลายประเภทครับ ระวังการ bias เพราะมองเพียงเหตุผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไปครับ เพราะนลท.ในตลาดไม่ได้มองแบบเดียวกับเราทั้งหมดครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 1:51 pm
โดย sakkaphan
leky เขียน:
ดำ เขียน:บวกค่าความคาดหวังในแง่ดีตามกระแสความนิยมในรอบนั้นๆ

ทองคำตอนแตะพันสองก็ใช่ หุ้นแอปเปิ้ลตอนขึ้นเป็นมาร์เก็ตแค็ปอันดับหนึ่งก็ใช่

** มุมมองส่วนตัวนะครับ ตลาดหุ้นไทยรอบนี้เป็นรอบค้าปลีก โรงพยาบาล ตามกระแสนิยมของแนวคิด super stock **
บางครั้งกระแสความนิยมก็ถูกเรียกว่าค่า premium ครับ

ซึ่งมันก็เปลี่ยนไปเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่ก่อนยุคปี 40 ก็หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บ.เงินทุนหลักทรัพย์ ไล่มาเรื่อย ๆ ก็สื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ (ตรงกับยุคดอทคอมของทางอเมริกา) พลังงาน ตอนนี้ก็คงเป็นโมเดิร์นเทรด

ถ้าไปดูในแต่ละยุคก็จะเห็นว่า PE ของหุ้นนำตลาดในยุคนั้น ๆ ส่วนใหญ่ล้วนสูงทั้งสิ้น แล้วแต่จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง

หุ้นโมเดิร์นเทรดที่เป็นพระเอกในยุคนี้ ครั้งหนึ่งก็ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เป็นเวลาหลายปี เช่น MAKRO

การขึ้นของหุ้นตัวหนึ่ง ถ้าคุยกับคนที่ดูเรื่องพื้นฐานของบ. เค้าก็จะพยายามอธิบายเหตุผลของพื้นฐาน ถ้าไปคุยกับคนเล่นเทคนิคเค้าก็จะอธิบายในมุมของเทคนิค ถ้าไปคุยกับคนที่เล่นเรื่องฟันด์โฟลว์ ก็จะมองอีกแบบ

ผมว่าในความเป็นจริงหุ้นตัวหนึ่งที่ราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ คงไม่อาจที่จะอธิบายจากสาเหตุเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะในตลาดมีนลท.หลายประเภทครับ ระวังการ bias เพราะมองเพียงเหตุผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไปครับ เพราะนลท.ในตลาดไม่ได้มองแบบเดียวกับเราทั้งหมดครับ
มีสิครับที่อธิบายได้ด้วยสาเหตุหนึ่งเดียว โดยรวมๆ ว่ามันเกิดจากอะไร
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากอะไร
จริงๆความคิดผม มันก็คือ เศรษฐศาสตร์พื้นฐานธรรมดานี่เอง
ไม่ใช่อะไรที่แปลกประหลาด เมื่อมีสินทรัพย์ใดๆ หรือกลุ่มใดๆ ที่มีราคาสูงกว่าปกติ สูงกว่าที่เคยเป็น
demand supply
ในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อนักลงทุนมองว่ากลุ่มค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ดีมาก มีแต่คนต้องการ
คนก็แห่ซื้อ=demandเยอะ คนที่มีหุ้นอยู่แล้วไม่อยากขาย=supplyน้อย คนที่อยากซื้อจึงต้องซื้อที่ราคาสูง เป็นวัฏจักรเช่นนี้ ทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ไม่ต่างกับตอนที่สมัยก่อน เมื่อคนต้องการสินทรัพย์ที่ชื่อว่า กลุ่มอสังหา กลุ่มการเงิน ทำให้กลุ่มนี้มีราคาสูงกว่าปกติ หรืออย่างที่คุณlekyบอกตอนยุคดอทคอม อะไรทำนองนั้น

ดังนั้นผมคิดว่า การที่พอหุ้นมีราคาสูงแล้ว เราพยายามหาเหตุผลใส่ไปให้มันว่า "อ้อ กลุ่มค้าปลีกมันควรมีPE30-40 เพราะอย่างนี้นะ เพราะอย่างโน้นนะ" เป็นการยัดเยียด เมื่อ"ผล" มันเกิดแล้ว แล้วค่อยไปหา "เหตุ" มาใส่
ไม่เหตุผลอะไรมากไปกว่าdemandsupplyธรรมดาๆ

ดร.นิเวศน์บอกเองว่า ท่านไม่เคยรู้หรอกว่า หุ้นที่ท่านถือมันจะราคาสูงถึงเพียงนี้ ท่านบอกว่า มันเป็นความโชคดีที่เกิดจากการทำในสิ่งที่ดีต่างหาก

ถ้าคุณทำในสิ่งดีไว้ก่อน เช่น คุณซื้อหุ้นในบริษัทที่มันดี ณ วันนี้คนยังมองไม่เห็น demand น้อย แต่เป็นของดี ผ่านไปวันหน้า demand เยอะเมื่อไร ก็กลายเป็นหุ้นแพงได้ จบ ผมมองไม่เห็นเหตุผลอื่น

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 2:29 pm
โดย MYBIZ
ประเมินมูลค่าของซีพีออลล์ ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าราคาแพงไปครับ(สำหรับผมนะ)
ส่วนการเติบโตในอนาคตก็บอกว่ายังเติบโตได้10-20%ต่อปี ไปอีกหลายๆ ปี
เต็มมูลค่าของผมในบริษัทนี้คือหยุดขยายสาขา ไม่ลงทุนอะไรเพิ่มแล้ว ก็ได้เวลาแล้วในการมองตัวเลือกอื่นครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 2:51 pm
โดย David TON
ผมว่าคนที่ลงทุนตัวนี้อยู่น่าจะแบ่งได้เป็น 3 พวก

1 กลุ่มคนเก็งกำไรระยะสั้นมากและกลุ่มคนไม่รู้ มีไม่น้อยนะครับคนที่ซื้อตอนหลัง X วันแรก
ไม่ทราบจริงๆว่ามีไดลูทจากหุ้นปันผล เห็นว่าราคาตกลงมามากก็เลยซื้อเก็งกะไร กิจการก็ดี๊ดี ราคาก็ถู๊กถูก ว่าแล้วก็เคาะขวาโลดจัดหนักไปเลยเรา.....

2 กลุ่มคนรู้และไม่กล้าซื้อ กลุ่มนี้ศึกษามาด้วยวิธีใดๆก็ตามเมื่อวัดมูลค่าแล้วไม่คุ้มทุกกรณี มีตัวอื่นที่ดูดีกว่าอีกเพียบ กลุ้มนี้จะมาคอยโพสเตือน แต่ก็เห็นหลายคนเตือนมากไม่ได้ อารมณ์นายตลาดกำลังแรงก็ได้แต่ดู และเฝ้าไว้เป็นกรณีศึกษา....

3 กลุ่มคนที่ถือมานานพอสมควรและนานมาก
ด้วยเหตุผลที่คนกลุ่มนี้ถือมามันมีบางประเด็นที่ที่สมควรขายและสมควรถือต่อ แต่รับรองว่าคนกลุ่มนี้ไม่ซื้อเพิ่มณ.ตอนที่กลุ่มแรกซื้อเด็ดขาด กลุ่มที่ขายมีเหตุผลเพราะถ้าฉันไม่ขายในจังหวะนี้แล้วจะขายตอนใหนที่มีคนรับมากขนาดนี้นายตลาดกำลังฮึกเหิมมาก อีกอย่างราคาก็ถือว่าแพง ขายได้ราคาดี จัดหนักจัดไปอยากได้นักเหรอเคาะซ้ายโลด...... กลับอีกกลุ่มในกลุ่มนี้ที่ยังไม่ขายเหตุผลเพราะเรื่องราวของบริษัทยังดูดียังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าราคามันแพงก็เถอะ แต่ถ้าเมื่อไหร่เรื่องราวมันไม่ดีแล้วกลุ่มนี้ก็เผ่นเหมือนกัน

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 05, 2012 4:45 pm
โดย pullmeunder
David TON เขียน:ผมว่าคนที่ลงทุนตัวนี้อยู่น่าจะแบ่งได้เป็น 3 พวก

1 กลุ่มคนเก็งกำไรระยะสั้นมากและกลุ่มคนไม่รู้ มีไม่น้อยนะครับคนที่ซื้อตอนหลัง X วันแรก
ไม่ทราบจริงๆว่ามีไดลูทจากหุ้นปันผล เห็นว่าราคาตกลงมามากก็เลยซื้อเก็งกะไร กิจการก็ดี๊ดี ราคาก็ถู๊กถูก ว่าแล้วก็เคาะขวาโลดจัดหนักไปเลยเรา.....

2 กลุ่มคนรู้และไม่กล้าซื้อ กลุ่มนี้ศึกษามาด้วยวิธีใดๆก็ตามเมื่อวัดมูลค่าแล้วไม่คุ้มทุกกรณี มีตัวอื่นที่ดูดีกว่าอีกเพียบ กลุ้มนี้จะมาคอยโพสเตือน แต่ก็เห็นหลายคนเตือนมากไม่ได้ อารมณ์นายตลาดกำลังแรงก็ได้แต่ดู และเฝ้าไว้เป็นกรณีศึกษา....

3 กลุ่มคนที่ถือมานานพอสมควรและนานมาก
ด้วยเหตุผลที่คนกลุ่มนี้ถือมามันมีบางประเด็นที่ที่สมควรขายและสมควรถือต่อ แต่รับรองว่าคนกลุ่มนี้ไม่ซื้อเพิ่มณ.ตอนที่กลุ่มแรกซื้อเด็ดขาด กลุ่มที่ขายมีเหตุผลเพราะถ้าฉันไม่ขายในจังหวะนี้แล้วจะขายตอนใหนที่มีคนรับมากขนาดนี้นายตลาดกำลังฮึกเหิมมาก อีกอย่างราคาก็ถือว่าแพง ขายได้ราคาดี จัดหนักจัดไปอยากได้นักเหรอเคาะซ้ายโลด...... กลับอีกกลุ่มในกลุ่มนี้ที่ยังไม่ขายเหตุผลเพราะเรื่องราวของบริษัทยังดูดียังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าราคามันแพงก็เถอะ แต่ถ้าเมื่อไหร่เรื่องราวมันไม่ดีแล้วกลุ่มนี้ก็เผ่นเหมือนกัน
ผมคงอยู่กลุ่ม 2 ครับ
ศึกษาการลงทุนช้าไปจน p/e 40 แล้ว

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 3:38 am
โดย blueplanet
xavi เขียน:ผมก็มีหุ้น pe สูงใน port เหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ cpall
หลายครั้งก็ต้องทะยอยขายออก เพราะราคาเกินมูลค่าที่ประเมินไว้
และตอนที่ซื้อคืนก็ไม่เคยซื้อได้ราคาเดิมเลย วิ่งขึ้นไปตลอด

ผมเลยคิดว่าตลาดให้ premium ความเป็น superstock อยู่สองอย่างคือ
1. intangible asset โดยเฉพาะ brand equity
2. ความเชื่อว่าจะมี major change ในเชิงกลยุทธ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรายได้ไปสู่ระดับใหม่
ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเมินมูลค่ายากมาก ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจกิจการจริงๆ หรือรู้ข้อมูลสำคัญๆมากๆกว่าคนภายนอก

ผมก็เลยมองว่ามันทำให้ mos เริ่มต่ำ

แต่ที่ยังต้องมีไว้ก็เพราะมันเป็น super stock นี่ล่ะครับ
ข้อ 2.น่าสนใจมาก มีอะไบ้างที่จะทำให้ cpall มีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เป็น 40% เพื่อ PE/G=1
มีรายได้อะไรอีกมั้ย ที่ 7-11จะทำได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทำ มันต้องมีอยู่แล้ว
เช่น ขาย โทรศัพท์มือถือ GPS เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดน้ำตาล อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ
ขายประกันภัย ประกันชีวิต พรบ รถยนต์ micro bank ดูแล้วน่าจะมีอีกเยอะ
และที่น่าจะทำให้ขยายตัวมากๆคือ การได้สิทธิเปิด 7-11 ในจีนตอนใต้ และเวียตนาม ประชากรรวมประมาณ
200 ล้าน อย่างไรก็ตามคงต้องร่วมลงทุนกับคนในท้องถิ่น และ ในพม่า กัมพูชา ลาว รวมๆแล้วอีกประมาณ 100ล้าน
ความโลภทำให้จินตนาการไปได้อีกไกล แต่ทุกอย่างคือการคาดเดา การซื้อหุ้นที่ pe40จากบริษัทระดับยักษ์
คงต้องใช้ความศรัทธาอยางมาก มากกว่าศรัทธาของ vi ขี้ระแวงทั่วๆไป

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 10:06 am
โดย Nevercry.boy
คุณบลูครับ

ถ้างั้นเป็นไปได้หรือไม่ครับว่าคนที่วิเคราะห์เค้าไม่ได้วิเคราะห์โดยใช้ PE

ในปี 1984 เคน ฟิชเชอร์ ลูกชายของ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ซึ่งได้รับสมญาว่าเป็นบิดาแห่งหุ้น Growth ได้เขียนหนังสือ Super Stock ขึ้นมาครับ
http://www.amazon.com/Super-Stocks-Kenn ... 133&sr=8-1

และพาคนอ่านซึ่งรวมถึงผมออกจากโลกของ PE

โดยดูจาก PSR, PRR แต่แค่นั้นไม่เพียงพอยังต้องหา Glitch ให้เจอ และต้องอยู่ใน smokestack ด้วยครับ (ธุรกิจที่เป็น every day we use) อาจเห็นเช่น ช่อง 3, เซ็นทรัล, รถไฟฟ้า, ฯลฯ ทำไม PE ถึงแพง

และต้องมี Growth ไม่ใช่ปีนี้ดีปีเดียว ซึ่งตรงนี้ว่ากันยาวครับในรายละเอียด

ส่วนตัวผมผนวกเรื่องนี้เข้ากับ 15 ข้อการลงทุนของ ฟิชเชอร์ คนพ่อด้วยครับ

ปล. 1 ผมไม่มี cpall
ปล. 2 ช่วงนี้อาจเป็นช่วงหุ้นขึ้น
ปล. 3 ผมเป็นนักลงทุนที่ไม่ใช้ PE ในการวิเคราะห์
ปล. 4 รายชื่อหุ้นที่ยกขึ้นมาเพื่อยกตัวอย่างไม่ได้ต้องการ ชี้แนะชี้นำ ใด ๆ ทั้งสิ้น

ปล. 5 ผมชอบสไตล์น้องบลูนะครับ ติดตามครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 10:26 am
โดย nut776
โมเดล cpall dcf มาที เงินสดท่วม ถ้าตัดเงินสดไม่คิดว่าเป็น wc
เห็นด้วยกับพี่ nvcb
อีกอย่างจะเอา pe 15 ต้องรอเหมือน walmart??????
คุณสุมาอี้แกว่าpe มันมีอะไรแปลกๆ
pttep คนซื้อ ตอน pe ร้อยกว่า ถือต่อเรื่อยๆได้กำไร ไม่ต่ำกว่า 4เท่า
gloabal ซื้อ pe 80กว่า ตอนนี้กำไร สามเท่า
bla ซื้อตอนpe 30 กว่า ตอนนี้กำไรเกือบสามเท่า

superstock กับ หุ้น long term growth อาจจะไม่เหมาะกับ pe ก็ได้
เหมือนbuffetใช้
แต่ถ้าจะเก็ง short term หรือ valuation ช่วงสั้นๆอาจจะโอเค มั้งคับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 12:48 pm
โดย Highway_Star
Nevercry.boy เขียน: ในปี 1984 เคน ฟิชเชอร์ ลูกชายของ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ซึ่งได้รับสมญาว่าเป็นบิดาแห่งหุ้น Growth ได้เขียนหนังสือ Super Stock ขึ้นมาครับ
http://www.amazon.com/Super-Stocks-Kenn ... 133&sr=8-1
เล่มนี้มีแปลไหมครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 3:33 pm
โดย Green
คือถ้าเรามั่นใจว่า ธุรกิจแบบนี้ ความแน่นนอนสูง เปลี่ยนแปลงน้อย เป็นผู้นำตลาด ถึงแม้ว่าจะมีสาขา มากแล้ว
มันอาจจะ จะโต ไปประมาณ 15 เปอร์เซนต์ ทุกปี ไปซัก 10 ปี ก็ได้นะ

แต่บางที เราเองก็ไม่แน่ใจว่า ในปี ที่ 10 ตลาดให้ PE ที่เท่าไหร่ มันอาจจะเป็น 40- 50 เท่าเดิม
หรือ พีอี 10 หรือ 15 หรือ 20 หรือ 25 หรือ 30 ก็ได้

อันนี้แล้ว แต่ ว่าแต่ละคนจะประเมิณราคา กันเองครับ

คนซื้อ Microsoft เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยอมจ่าย ที่ พีอี สูงๆ ถือมา 10 ปี ราคา ไม่ไปไหนกว่าที่ซื้อเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เลย ทั้งๆ ที่กำไร เติบโต สิบกว่าเปอร์เซนต์ ทุกปี เพราะ ปัจจุบัน ตลาดให้ค่า พีอี แค่ 11 เท่านั้น

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 4:38 pm
โดย leky
blueplanet เขียน:
xavi เขียน:ผมก็มีหุ้น pe สูงใน port เหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ cpall
หลายครั้งก็ต้องทะยอยขายออก เพราะราคาเกินมูลค่าที่ประเมินไว้
และตอนที่ซื้อคืนก็ไม่เคยซื้อได้ราคาเดิมเลย วิ่งขึ้นไปตลอด

ผมเลยคิดว่าตลาดให้ premium ความเป็น superstock อยู่สองอย่างคือ
1. intangible asset โดยเฉพาะ brand equity
2. ความเชื่อว่าจะมี major change ในเชิงกลยุทธ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรายได้ไปสู่ระดับใหม่
ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเมินมูลค่ายากมาก ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจกิจการจริงๆ หรือรู้ข้อมูลสำคัญๆมากๆกว่าคนภายนอก

ผมก็เลยมองว่ามันทำให้ mos เริ่มต่ำ

แต่ที่ยังต้องมีไว้ก็เพราะมันเป็น super stock นี่ล่ะครับ
ข้อ 2.น่าสนใจมาก มีอะไบ้างที่จะทำให้ cpall มีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เป็น 40% เพื่อ PE/G=1
มีรายได้อะไรอีกมั้ย ที่ 7-11จะทำได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทำ มันต้องมีอยู่แล้ว
เช่น ขาย โทรศัพท์มือถือ GPS เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดน้ำตาล อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ
ขายประกันภัย ประกันชีวิต พรบ รถยนต์ micro bank ดูแล้วน่าจะมีอีกเยอะ
และที่น่าจะทำให้ขยายตัวมากๆคือ การได้สิทธิเปิด 7-11 ในจีนตอนใต้ และเวียตนาม ประชากรรวมประมาณ
200 ล้าน อย่างไรก็ตามคงต้องร่วมลงทุนกับคนในท้องถิ่น และ ในพม่า กัมพูชา ลาว รวมๆแล้วอีกประมาณ 100ล้าน
ความโลภทำให้จินตนาการไปได้อีกไกล แต่ทุกอย่างคือการคาดเดา การซื้อหุ้นที่ pe40จากบริษัทระดับยักษ์
คงต้องใช้ความศรัทธาอยางมาก มากกว่าศรัทธาของ vi ขี้ระแวงทั่วๆไป
CPALL เคยเจ็บจากการลงทุนโลตัสในจีนเมื่อหลายปีก่อนไม่ใช่หรือครับ พอขายโลตัสในจีนทิ้ง หุ้นก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ธุรกิจที่ดีในประเทศหนึ่งอาจจะไม่ดีในอีกประเทศหนึ่งก็ได้นะครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 4:49 pm
โดย leky
sakkaphan เขียน:
leky เขียน:
ดำ เขียน:บวกค่าความคาดหวังในแง่ดีตามกระแสความนิยมในรอบนั้นๆ

ทองคำตอนแตะพันสองก็ใช่ หุ้นแอปเปิ้ลตอนขึ้นเป็นมาร์เก็ตแค็ปอันดับหนึ่งก็ใช่

** มุมมองส่วนตัวนะครับ ตลาดหุ้นไทยรอบนี้เป็นรอบค้าปลีก โรงพยาบาล ตามกระแสนิยมของแนวคิด super stock **
บางครั้งกระแสความนิยมก็ถูกเรียกว่าค่า premium ครับ

ซึ่งมันก็เปลี่ยนไปเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่ก่อนยุคปี 40 ก็หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บ.เงินทุนหลักทรัพย์ ไล่มาเรื่อย ๆ ก็สื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ (ตรงกับยุคดอทคอมของทางอเมริกา) พลังงาน ตอนนี้ก็คงเป็นโมเดิร์นเทรด

ถ้าไปดูในแต่ละยุคก็จะเห็นว่า PE ของหุ้นนำตลาดในยุคนั้น ๆ ส่วนใหญ่ล้วนสูงทั้งสิ้น แล้วแต่จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง

หุ้นโมเดิร์นเทรดที่เป็นพระเอกในยุคนี้ ครั้งหนึ่งก็ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เป็นเวลาหลายปี เช่น MAKRO

การขึ้นของหุ้นตัวหนึ่ง ถ้าคุยกับคนที่ดูเรื่องพื้นฐานของบ. เค้าก็จะพยายามอธิบายเหตุผลของพื้นฐาน ถ้าไปคุยกับคนเล่นเทคนิคเค้าก็จะอธิบายในมุมของเทคนิค ถ้าไปคุยกับคนที่เล่นเรื่องฟันด์โฟลว์ ก็จะมองอีกแบบ

ผมว่าในความเป็นจริงหุ้นตัวหนึ่งที่ราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ คงไม่อาจที่จะอธิบายจากสาเหตุเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะในตลาดมีนลท.หลายประเภทครับ ระวังการ bias เพราะมองเพียงเหตุผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไปครับ เพราะนลท.ในตลาดไม่ได้มองแบบเดียวกับเราทั้งหมดครับ
มีสิครับที่อธิบายได้ด้วยสาเหตุหนึ่งเดียว โดยรวมๆ ว่ามันเกิดจากอะไร
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากอะไร
จริงๆความคิดผม มันก็คือ เศรษฐศาสตร์พื้นฐานธรรมดานี่เอง
ไม่ใช่อะไรที่แปลกประหลาด เมื่อมีสินทรัพย์ใดๆ หรือกลุ่มใดๆ ที่มีราคาสูงกว่าปกติ สูงกว่าที่เคยเป็น
demand supply
ในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อนักลงทุนมองว่ากลุ่มค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ดีมาก มีแต่คนต้องการ
คนก็แห่ซื้อ=demandเยอะ คนที่มีหุ้นอยู่แล้วไม่อยากขาย=supplyน้อย คนที่อยากซื้อจึงต้องซื้อที่ราคาสูง เป็นวัฏจักรเช่นนี้ ทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ไม่ต่างกับตอนที่สมัยก่อน เมื่อคนต้องการสินทรัพย์ที่ชื่อว่า กลุ่มอสังหา กลุ่มการเงิน ทำให้กลุ่มนี้มีราคาสูงกว่าปกติ หรืออย่างที่คุณlekyบอกตอนยุคดอทคอม อะไรทำนองนั้น

ดังนั้นผมคิดว่า การที่พอหุ้นมีราคาสูงแล้ว เราพยายามหาเหตุผลใส่ไปให้มันว่า "อ้อ กลุ่มค้าปลีกมันควรมีPE30-40 เพราะอย่างนี้นะ เพราะอย่างโน้นนะ" เป็นการยัดเยียด เมื่อ"ผล" มันเกิดแล้ว แล้วค่อยไปหา "เหตุ" มาใส่
ไม่เหตุผลอะไรมากไปกว่าdemandsupplyธรรมดาๆ

ดร.นิเวศน์บอกเองว่า ท่านไม่เคยรู้หรอกว่า หุ้นที่ท่านถือมันจะราคาสูงถึงเพียงนี้ ท่านบอกว่า มันเป็นความโชคดีที่เกิดจากการทำในสิ่งที่ดีต่างหาก

ถ้าคุณทำในสิ่งดีไว้ก่อน เช่น คุณซื้อหุ้นในบริษัทที่มันดี ณ วันนี้คนยังมองไม่เห็น demand น้อย แต่เป็นของดี ผ่านไปวันหน้า demand เยอะเมื่อไร ก็กลายเป็นหุ้นแพงได้ จบ ผมมองไม่เห็นเหตุผลอื่น
สิ่งที่คุณ sakkaphan บอกมา มันอาจจะคล้ายกับที่ผมบอกครับ แต่มองที่บทสรุป ถ้านักเก็งกำไร คนซื้อหุ้นเพราะปัจจัยพื้นฐาน คนซื้อหุ้นเพราะปัจจัยทางเทคนิค หรือกองทุนและฟันด์โฟลว์ ส่วนใหญ่มองไปในทางเดียวกันบทสรุปของมันก็คือ "หุ้นขึ้น" เพราะต่างฝ่ายต่างแย่งกันซื้อหุ้น แต่ถ้าส่วนใหญ่มองไปในทางลบ ต่อให้พื้นฐานดียังไงก็ "หุ้นลง" ครับ

หลายคนคงเคยเจอมาแล้วมั๊งครับ บ.ดี กำไรดี อะไรก็ดีทุกอย่าง แต่ตลาดไม่ดี สุดท้ายหุ้นมันก็ไม่ไปไหนเลย

แต่สำหรับผมนะครับ ถ้าไม่สบายใจกับหุ้นตัวไหนหรือหาคำอธิบายเหตุผลของมันไม่ได้ "ก็อย่าไปซื้อ" ก็แค่นั้นครับ บ.ในตลาดมี 400-500 บ. ไม่ซื้อ CPALL ตัวเดียว คงไม่ทำให้แย่มั๊งครับ :D

จะบอกว่าผมทันเห็นตอน CPALL เป็น CP7-11 นะครับ ตอนเข้าตลาดใหม่ ๆ น่าจะราว ๆ ปี 46 จะบอกว่าตอนนั้นหุ้นตัวนี้ไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้นะครับ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ แต่ละวันซื้อขายไม่มาก ผมเองเข้าใจว่าที่ตอนนั้นเป็นแบบนั้นเพราะตอนนั้นมันไม่ใช่ยุคหุ้นโมเดิร์นเทรด ซึ่งมันไม่ใช่เฉพาะหุ้นตัวนี้เท่านั้นนะครับ MAKRO BIGC มันก็เป็นเหมือน ๆ กัน

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 5:14 pm
โดย blueplanet
ผมอ่าน beating the street ของปีเตอลินซ์(ภาษาไทย)
เมื่อเดือนที่แล้ว ลินซ์พูดถึงหุ้น home depot (ไม่รู้เขียนถูกไม๊)
หุ้นตัวนี้ขึ้นไปประมาณ 100เท่า จากตอนเริ่มเข้าตลาด
ลินซ์กำไรแค่ 3 เท่า หนังสือเล่มนี้พิมพ์ประมาณปี 92-93
สรุปก็คือ ใครอ่านหนังสือเล่มนี้ ตอนพิมพ์ใหม่ๆ และทำตามรวยเละทุกคน
ถ้าใครอ่าน จะต้องซื้อ home pro,global
และหาหุ้นคล้ายๆ wall mart หลีกเลี่ยงหุ้นที่เป็นโรงงาน
สิ่งที่ต้องทำคือศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับ usa แล้วมาลงทุนเมืองไทย

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2012 4:04 pm
โดย charonp
Nevercry.boy เขียน: และพาคนอ่านซึ่งรวมถึงผมออกจากโลกของ PE

โดยดูจาก PSR, PRR แต่แค่นั้นไม่เพียงพอยังต้องหา Glitch ให้เจอ และต้องอยู่ใน smokestack ด้วยครับ (ธุรกิจที่เป็น every day we use) อาจเห็นเช่น ช่อง 3, เซ็นทรัล, รถไฟฟ้า, ฯลฯ ทำไม PE ถึงแพง

และต้องมี Growth ไม่ใช่ปีนี้ดีปีเดียว ซึ่งตรงนี้ว่ากันยาวครับในรายละเอียด
รบกวนพี่ Nevercry.boy ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PSR PRR รวมถึง Glitch คืออะไร แล้ววิธีการหา หาอย่างไร
และกิจการที่อยู่ในช่วง smokestack หมายความว่าอย่างไรครับ

รบกวนช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อยครับ ขอบคุณครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2012 10:04 am
โดย Goldstar
ผมประเมินว่า cpall ดีแต่แพง

ตอนนี้มี 6000สาขา? จำไม่ได้ ผมว่าเป้า cpall อยู่ที่ 15000-18000 สาขาทั่วประเทศ

สมมุติว่า ไม่มี license ไปเปิดที่ประเทศอื่น (เปิดได้เฉพาะในประเทศไทย)

พอเข้าสาขาที่ 12,000-14,000 ผมว่าตัวเลขการเปิดสาขาใหม่ก็เริ่มน้อยลง เหลือแบบ ปีละ 200-300 สาขา พอถึงตอนนั้นหุ้นก็ไม่ใช่ PE 40-50 หรอกครับ

พอคนเห็นว่า cpall เริ่มโตช้า PE ก็เริ่มลดแล้วครับ เขาไม่รอวันที่มันจะตัน, ถึงแม่ว่ากำไรจะเติบโตทุกปี แต่ราคาก็ไม่ขึ้นเพราะ PEลดลงเรื่อย สุดท้ายก็เหลือ 10-12ก็หรูแล้วครับ กินแต่ปันผลไป ราคาน่าจะไม่สวยมาก (ไม่ได้ทำเลข eps อะไรทั้งนั้น แค่คร่าวๆนะครับ)

นี่คือในcaseที่cpallไม่สามารถไปขยายต่อได้ในต่างประเทศ อันนี้ยังเป็นเรื่องของอีกหลายๆปีข้างหน้า ตอนนี้cpall ยังสดใสดีครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2012 9:29 pm
โดย Warantact
เต็มมูลค่าแล้วครับ
PE40เท่า ถือได้ ขายได้ ซื้อแล้วกอดไม่คุ้ม

ถ้าเป็นสายเกรแฮม PEเกิน25ก็ร้องยี้แล้ว

สายฟิชเชอร์25ยังซื้อได้ แต่ต้องศักยภาพจริงๆ
บริษัทที่ขยายไประดับโลกได้อย่างโค้ก บัฟเฟตซื้อตอนPE20ได้
แต่40คงไม่

ราคานี้ ถ้าอยากได้กำไรระยะยาวมากๆ cpallก็ต้องโตไวกว่าโค้กสองเท่า

ผมว่ารอได้ก็รอเหอะ เด๋วมันก็ร่วง

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:50 am
โดย dr1
ตกลงได้สิทธิที่เวียดนามจริงๆหรือครับ
เพราะมีโพสท์ว่าเวียดนามกะอินโดไม่ให้เปิดโมเดืร์นเทรดขนาดเล็ก?

ประเมินcpallแบบสิ้นคิดแบบนี้ได้มั้ย?

หูย.....
7000สาขา
ตอนยังไม่ปันผลหุ้นก็สาขาละสตางค์เอง
ตอนนี้ราคาตกลงแต่สาขาละไม่ถึงสตางค์

ต้องรีบไปซื้อเพิ่ม อิ. อิ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 11:39 pm
โดย RS
ขยายสาขาไปนอก ระยะสั้น อาจต้องแบกต้นทุนมากหน่อยครับ ทั้ง DC, IT ค่าเช่าอสังหา ได้ยินว่า ที่เวียดนามไม่ถูก อย่างที่เมืองไทย แว่วๆ ว่า 500 สาขาขึ้นไป ถึง break even....

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 11:44 pm
โดย RS
เมืองไทย คงยังโตได้เรื่อยๆ ถึงราว 10000 สาขา จากนั้นต้องดู ธุรกิจใหม่ ว่าทำไหวมั้ย ทั้ง e-commerce, exta, etc.

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 1:56 pm
โดย wj
ผมว่าระยะยาวราคา 30 บาทก็หรูแล้วครับ

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 6:43 pm
โดย yuta2099
ผมว่าราคาที่เป็นอยู่ตอนนี้มันมาเร็วไปครับ ราคานี้ควรเป็นอีก 3-4 ปีข้างหน้า (ที่ 10000 สาขา) แต่ถ้าตลาดชอบเราอาจเห็น 150 ที่ 3-4 ปีข้างหน้าก็ได้ คาดการณ์ยาก