Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หากสวรรค์ใจร้าย ให้สิทธิ์ผมเลือกได้เพียงอย่างเดียว ผมขอเลือกอย่างหลังมากกว่า

ในโลกแห่งการลงทุน ล้วนมีแต่คนฉลาด เข้ามาแข่งขัน เข้ามาวิเคราะห์ธุรกิจ
ทุกคนหวังจะค้นพบในสิ่งที่ตลาดยังไม่พบ
พบเทรนด์ที่กำลังมา และผู้คนยังไม่รู้สึก
วิเคราะห์ออกว่า บริษัทกำลังจะกลับตัว ขณะที่ผู้คนเชื่อว่ามันยังเน่าอยู่
ตีแตกธุรกิจที่ซับซ้อนเข้าใจยาก มีโมเดลประเมินมูลค่าที่เหนือชั้น
เข้าซื้อตอนราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง

การจะหวังให้ตัวกระผมนั้นฉลาดกว่าคนอื่น มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นเหล่านี้
สำหรับผมนั้นยากจริงๆ มันต้องใช้ความพยายาม และ ทรัพยากรอย่างมหาศาล

การลงน้ำหนักไปที่การมีอุปนิสัยของนักลงทุนที่ดี จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า

อุปนิสัยของนักลงทุนที่ดีสำหรับผม
คือการมีระเบียบวินัย มากกว่าการค้นพบอะไรที่ยากและท้าทาย
เน้นไปที่การให้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจธุรกิจอย่างเจาะลึก
ว่ามันทำเงินอย่างไร และแข็งแกร่งอย่างไร
เคล็ดลับคือ หาบริษัทที่เข้าใจง่าย ธุรกิจบ้าน ๆ ใคร ๆ ก็รู้
เดาทางง่าย ไม่หวือหวา อาจไม่โตแรงแต่โตไปได้เรื่อย ๆ ในระดับที่มากกว่าเงินเฟ้อ
ดูแล้วมั่นคง รายได้ กำไรมาแน่นอน

งานที่ต้องทำจริงๆ คือการรอ และ รอ เพื่อคอยรับโอกาสจากคนที่ไม่มีอุปนิสัยของนักลงทุนที่ดีที่เขาจะหยิบยื่นให้เราเมื่อเวลามาถึง

อดทน ตามสถานการณ์ และ รอจังหวะ ใจเย็น

หลีกเลี่ยง ไม่ให้เสียงโห่ร้องยินดีของคนรอบข้าง ทำให้เรายอมซื้อหุ้นในราคาที่แพง เพื่อหวังไปขายในราคาที่แพงกว่า

เข้าซื้อในวันที่ผู้คนและตลาด วุ่นวายไร้ระเบียบ ผันผวนและนำมาซึ่งโอกาสซื้อของดีที่เล็งไว้

หมั่นตรวจสอบว่าของดีที่ได้มาในราคาถูกนั้น ธุรกิจยังไปได้ดีตามที่เราเล็งไว้

ปล่อยให้มันโตไปเรือ่ยๆ กล้าถือให้นาน อย่าให้ความท้อใจ หรือ อะไรก็แล้วแต่ เบี่ยงเบนให้เราขายของดีที่มีในมือ

ปล่อยมันไป เมื่อถึงวันที่มันไม่ใช่บริษัทที่น่าสนใจเหมือนวันที่เราซื้อแล้ว

ผมเน้นไปที่อุปนิสัยเหล่านี้ แล้วรู้สึกว่ามันเป็นหนทางชนะสำหรับนักลงทุนอย่างผมที่ไม่ได้เก่งกาจระดับแนวหน้าเหมือนระดับพี่พี่ ทำให้เราพออยู่รอดได้ในตลาดการลงทุนที่ต้องแข่งทั้ง ฝรั่ง กองทุน รายใหญ่ และ เพื่อน ๆ รายย่อยท่านอื่น

โชคดีกับการลงทุนทุกท่านครับ

โดนมากครับพี่เปา

ขอบคุณครับ

OutOfMyMind เขียน: ...
...
...
งานที่ต้องทำจริงๆ คือการรอ และ รอ เพื่อคอยรับโอกาสจากคนที่ไม่มีอุปนิสัยของนักลงทุนที่ดีที่เขาจะหยิบยื่นให้เราเมื่อเวลามาถึง

อดทน ตามสถานการณ์ และ รอจังหวะ ใจเย็น
...
...

ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง กับโลกปัจจุบัน การรอ และรอ ดูแล้วมันจะตรงข้ามกับโลกไฮเทคที่รวดเร็วจริงๆ

แล้วตอนเข้าตลาดมาใหม่ๆ ก็เหมือนม้าป่า ม้าที่ไม่เชื่อง ม้าพยศ มันอยู่นิ่งๆไม่ได้ แตกตื่น ตื่นเต้นกับสิ่งรอบข้างได้ง่ายๆ

ด้วยทั้งความโลภมากๆ และกลัวเสียมากๆ

เห็นด้วย ครับ เลือกอุปนิสัยที่ดีก่อน น่าจะช่วยให้อยู่รอดในตลาดที่ไม่มีแต้มต่อได้ดีกว่า ที่ตัวเจ้าถิ่น ตัวแชมป์ กับตัวเพิ่งเกิด กติกาเดียวกันไม่มีแต้มต่อ

แล้วถ้าอยู่รอดได้แล้ว ความชาญฉลาดที่ดี มันก็คงถูกสะสมเพิ่มขึ้นได้เอง ตามเวลาและประสบการณ์

ขอบคุณ บทความที่ดีๆ ครับ

สรรเสริญ นักลงทุนสายโชริวเคน ที่ยังเหลืออยู่น้อยนิดในยุคสมัยนี้

ซากโชคดีที่มีนิสัยเหล่านี้อยู่ใน DNA พอสมควร สำหรับซากมันเป็น leading indicator ที่ส่งสัญญาณเตือนเราล่วงหน้าเสมอก่อนที่เราจะเข้าไปพัวพันกับสิ่งที่เรายังเข้าไม่ถึง หยั่งไม่ได้

วันที่ซากตบเท้าเข้ามาในตลาดอันเรืองรองนี้ ซากหวังจะเป็น นักลงทุนสายโชริวเคน แต่แล้ววันนึงก็พบว่า ระดับความคาดหวังในผลลัพธ์ เป็นตัวชี้ขาดที่จะกำหนดว่า เรามีความเป็นนักเก็งกำไร หรือ นักลงทุนอยู่ใน DNA มากกว่ากัน

การคิดแบ่งแยกนักลงทุนออกจากนักเก็งกำไร ด้วยลำพัง สายวิชา/สำนักที่ร่ำเรียนมา แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของคน ที่มักละเลยการทำความเข้าใจตัวเอง แล้วเชื่อทันทีว่าเราเป็นในสิ่งที่เราเสพจากข้างนอก โดยลืมถามตัวเองว่า พอใจไหมในสิ่งที่เป็น สิ่งที่ได้รับกลับมา ??

ซากเชื่อว่า จะนักลงทุนก็ดี..นักเก็งกำไรก็ดี หากอยู่รอดปลอดภัย และหากินในตลาดมาจนถึงทุกวันนี้
พวกเขาเหล่านั้นล้วน ชาญฉลาด และ มีอุปนิสัยที่ดี ไม่อาจขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปได้

อย่างน้อยที่สุด ถ้าไม่มีความฉลาดแบบไหวพริบ ปฏิภาณ ก็ย่อมต้องมี ฉลาดพอที่จะ รู้จักตัวเอง
ซึ่งต้องมีก่อน Circle of competence ในสิ่งที่จะลงเงินด้วยซ้ำ

IMHO ถ้าอยากเห็นอะไรที่คนอื่นมองไม่เห็น ก่อนอื่นต้องเอาผ้าผูกตาที่ติดมาแต่กำเนิดออกให้ได้ก่อน ผ้าผืนแรก คือ "ความโลภ" ผ้าผืนที่สอง "ความกลัว"

+1ให้ครับ นานๆจะเจอคน ดั้งเดิมไม่เติม พริก น้ำปลา มะนาว

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ

เป็นบทความที่ผมชอบมากๆ บทความหนึงที่เคยอ่านมาครับ พี่เอ้าท์ออฟมายมายด์

นี่เป็นผลึกหนึง ที่วีไอควรมี

ยอดเยี่ยมครับ

+1 ครับ...นักลงทุนชาญฉลาดอาจจะตัดสินใจพลาดอย่างแรงได้เพราะไม่มีใครฉลาดตลอดเวลา...แต่นักลงทุนที่มีอุปนิสัยการลงทุนที่ดีจะอยู่ในตลาดได้นานกว่าหรืออาจจะตลอดไป

โดนมากครับ

หูยยย โดนฮุกเข้าท้อง จุกกันไปเยอะเลย เหลา

การเลือกบริษัทที่จะลงทุนว่ายากแล้ว แต่การมีวินัยในการลงทุนยากกว่ายิ่ง
ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ

สําหรับผมมองว่า มันเป็นfeedback ของกันและกัน และมักจะมาคู่กันนะครับ

ขอบคุณมากครับพี่ เข้าใจแล้วที่พี่บอกผมว่า เลือกหาหุ้นที่มองกำไรได้ชัดเจน

ขอบคุณครับ

ลึกซึ้ง ง่ายๆ แต่ตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอ
เพราะยังมีความกลัวและความโลภ นั้นคือ
ยังรู้สึกว่ายังไม่รู้จริง ต้องศึกษากันต่อไป

มาอ่านทบทวน ย้ำเตือนตัวเองอีกสักครั้ง

ผมคิดว่าอุปนิสัยนักลงทุนที่ดี
น่าพอจะคล้ายๆ พรสวรรค์ได้ไหม
ส่วนการเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด
น่าจะเกิดจากพรแสวงนะ

ถ้าไม่มีก็ต้องฝึก ถึงไม่มีพรสวรรค์แต่แรกก็ฝึกได้
ภาษาพระเขาเรียก "วิริยะ"

แต่ฝึกแล้ว ก็ต้องทบทวน ว่าที่ฝึกไป
มันถูกหรือผิด ไม่ใช่ฝึกผิดๆ ไปเรื่อยๆ
พระท่านเรียก "วิมังสา"

ฉันทะ จิตตะ วิริยะ วิมังสา เป็นหมวดธรรม
พระท่านเรียก อิทธิบาท 4
ผมไม่เก่งภาษา ลักจำมามั่วๆ แปลแบบบ้านๆ ว่า ผู้มีฤทธิ์

คนที่อยากจะทะอะไรเก่ง หนีไม่พ้น
ต้องมี 4 หลักนี้

ถ้าจะปรับให้ดูทันสมัยหน่อย ผมคิดว่ามันคล้ายๆ
กงล้อ PDCA = Plan-Do-Check-Action มาก
แต่ต้องหมุนไปเรื่อยๆ นะ

เคยอ่านบทความของน้าหนุ่มเมืองจัน
เกี่ยวกับการฝึกให้พนักงาน หรือ
คนที่บ้านคิด +++ เป็นเรื่องที่คุณธนา
อดีต ceo ของ dtac เล่าให้ฟัง

ใครสนใจ ไปหาฟาสท์ฟูดธุรกิจดู
ไม่เล่า แฮ่ๆๆๆ

ขนาดคิดบวก ยังฝึกกันได้เลย ไม่น่าเชื่อจริงๆ

สถานะการณ์เวลานี้ เมามันส์ ตื่นตกใจ และตื่นเต้น

กลับมาอ่าน ทบทวน ความคิด ตัวเอง อีกสักครั้ง

เยี่ยมครับ

ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอบคุณที่ขุดขึ้นมาให้อ่านกันครับ ^ ^'

ขอบคุณมากครับ เมื่อเรารู้ถึงความโลภ ความกลัวของตัวเอง บทความนี้เหมาะแก่การทบทวนตัวเองมากครับ

ขอบคุณบทความนี้ครับ เตือนใจดีมากครับ

ขอบคุณครับพี่เปา

ผมขอเสริมนิดนึงนะครับ แต่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับต้องออกตัวไว้ก่อน ความจริงแล้ว
จากหัวข้อที่โพส....ผมว่าทั้ง 2 อย่างที่ว่ามันเป็นของคู่กัน และทั้ง 2 อย่างก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทั้งคู่
ผมว่านักลงทุนที่ดีทุกคนก็คงต้องมีคุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนี้อยู่ในตัวพร้อมๆกันแหละ แต่ฝั่งทางไหน
จะมากจะน้อย อันนี้คงแตกต่างกันบ้่างขึ้นอยู่กับบุคคล แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าเริ่มต้นที่อย่างไดอย่างหนึ่ง
แล้ว รับรองอีกอย่างต้องตามมาแน่ ผมเองอาจมองต่างออกไปบ้างจากเพื่อนท่านอื่นเล็กน้อยแต่ถือว่าเป็นการแชร์
ความคิดกันนะครับ(อาจเป็นข้อดีหือข้อเสียอีกข้อก็ได้นะครับที่มองต่างจากคนอื่น 555).....

ขอขุดมาอ่าน ขอบคุณมากครับ

จริงครับ ทุกวันนี้เพจ/เซียนในเฟส ในยูทูป นักวิเคราะห์ เต็มไปหมด หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนเก่ง แต่จะมีสักกี่คนที่มีอุปนิสัยอย่างนักลงทุนจริงๆ