BigC ครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 28, 2004 1:26 pm
Symbol: BIGC
Headline: รายงานมติที่ประชุมกรรมการครั้งที่ 5/2547
Time: 28 มิ.ย. 2004 08:24:23
วันที่ 25 มิถุนายน 2547
เรื่องรายงานมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2547
และการกำหนดนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการถือหุ้น
เรียนกรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ขอแจ้งมติที่ประชุม
คณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2547 เวลา 10.00 น. และ
การกำหนดนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการถือหุ้น ต่อตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย ดังนี้
1. ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ
ที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท พิษณุโลก บิ๊กซี จำกัด จำนวน 96,999,995 หุ้น โดยแบ่งเป็น
หุ้นสามัญจำนวน 11,999,995 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 85,000,000 หุ้น ให้กับ
บริษัท เทพารักษ์ บิ๊กซี จำกัด (ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.99) ขายในราคา
หุ้นละ 7.43 บาท อันเป็นราคามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่สอบทานแล้ว สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 720,709,963 บาท (บริษัท พิษณุโลก บิ๊กซี จำกัด และบริษัท เทพารักษ์ บิ๊กซี จำกัด
เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ) โดยมีรายละเอียดดังนี้
จำนวนหุ้นทั้งหมด:105,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่ถืออยู่:บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่จำนวน
96,999,995 หุ้น
(คิดเป็นร้อยละ 92.38)
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนการขายหุ้น:ร้อยละ 92.38
สัดส่วนการถือหุ้นหลังการขายหุ้น:ร้อยละ 0
วัตถุประสงค์ในการขายหุ้น:เพื่อให้การบริหารและการจัดการ
ของบริษัทฯ มีความสะดวกและ
เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
2. ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่ใน
บริษัท อุดรบิ๊กซี จำกัด จำนวน 84,999,994 หุ้น ให้กับ บริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด
(ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.99) แบ่งเป็นจำนวน 60,099,994 หุ้น (ชำระเต็ม
มูลค่าที่จดทะเบียน) ขายในราคาหุ้นละ 6.80 บาท และ จำนวน 24,900,000 หุ้น (ชำระไม่เต็ม
มูลค่าหุ้นที่จดทะเบียน) ขายในราคาหุ้นละ 3.80 บาท อันเป็นราคามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่
สอบทานแล้ว สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 503,299,959 บาท
(บริษัท อุดร บิ๊กซี จำกัด และบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ)
โดยมีรายละเอียดดังนี้
จำนวนหุ้นทั้งหมด:85,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่ถืออยู่:บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่จำนวน
84,999,994 หุ้น
(คิดเป็นร้อยละ 100)
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนการขายหุ้น:ร้อยละ 100
สัดส่วนการถือหุ้นหลังการขายหุ้น:ร้อยละ 0
วัตถุประสงค์ในการขายหุ้น:เพื่อให้การบริหารและการจัดการ
ของบริษัทฯ มีความสะดวกและ
เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
3. คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายเรื่องโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ
และบริษัทย่อยใหม่ เพื่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และลดความซับซ้อนใน
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย โดยโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
ในปัจจุบัน มีลักษณะการถือหุ้นโดยตรงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น คณะผู้บริหารจึงปรับปรุงโครงสร้าง
การถือหุ้นดังกล่าว ให้มีลักษณะเป็นการถือหุ้นโดยอ้อม และพิจารณากลุ่มบริษัทย่อยตามรูปแบบ
การประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน คือ
1) ดำเนินธุรกิจให้เช่าทรัพย์สิน
2) ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีผู้ร่วมทุนท้องถิ่น หรือ
3) หยุดดำเนินกิจการและอยู่ระหว่างการเลิกบริษัท
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการ
เปิดเผยสารสนเทศและการปฏิบัติการใดๆ ของบริษัทจดทะเบียน บริษัทฯ จึงขอแจ้งมติของ
คณะกรรมการดังกล่าวข้างต้น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
-ลายเซ็น-
นางสาวรำภา คำหอมรื่น
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน
ถ้าเป็นแบบนี้นี่ ไม่มีผลอะไรต่อกำไรที่ BigC จะได้รับใช่ไหมครับผม
Headline: รายงานมติที่ประชุมกรรมการครั้งที่ 5/2547
Time: 28 มิ.ย. 2004 08:24:23
วันที่ 25 มิถุนายน 2547
เรื่องรายงานมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2547
และการกำหนดนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการถือหุ้น
เรียนกรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ขอแจ้งมติที่ประชุม
คณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2547 เวลา 10.00 น. และ
การกำหนดนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการถือหุ้น ต่อตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย ดังนี้
1. ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ
ที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท พิษณุโลก บิ๊กซี จำกัด จำนวน 96,999,995 หุ้น โดยแบ่งเป็น
หุ้นสามัญจำนวน 11,999,995 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 85,000,000 หุ้น ให้กับ
บริษัท เทพารักษ์ บิ๊กซี จำกัด (ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.99) ขายในราคา
หุ้นละ 7.43 บาท อันเป็นราคามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่สอบทานแล้ว สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 720,709,963 บาท (บริษัท พิษณุโลก บิ๊กซี จำกัด และบริษัท เทพารักษ์ บิ๊กซี จำกัด
เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ) โดยมีรายละเอียดดังนี้
จำนวนหุ้นทั้งหมด:105,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่ถืออยู่:บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่จำนวน
96,999,995 หุ้น
(คิดเป็นร้อยละ 92.38)
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนการขายหุ้น:ร้อยละ 92.38
สัดส่วนการถือหุ้นหลังการขายหุ้น:ร้อยละ 0
วัตถุประสงค์ในการขายหุ้น:เพื่อให้การบริหารและการจัดการ
ของบริษัทฯ มีความสะดวกและ
เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
2. ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่ใน
บริษัท อุดรบิ๊กซี จำกัด จำนวน 84,999,994 หุ้น ให้กับ บริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด
(ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.99) แบ่งเป็นจำนวน 60,099,994 หุ้น (ชำระเต็ม
มูลค่าที่จดทะเบียน) ขายในราคาหุ้นละ 6.80 บาท และ จำนวน 24,900,000 หุ้น (ชำระไม่เต็ม
มูลค่าหุ้นที่จดทะเบียน) ขายในราคาหุ้นละ 3.80 บาท อันเป็นราคามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่
สอบทานแล้ว สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 503,299,959 บาท
(บริษัท อุดร บิ๊กซี จำกัด และบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ)
โดยมีรายละเอียดดังนี้
จำนวนหุ้นทั้งหมด:85,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่ถืออยู่:บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่จำนวน
84,999,994 หุ้น
(คิดเป็นร้อยละ 100)
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนการขายหุ้น:ร้อยละ 100
สัดส่วนการถือหุ้นหลังการขายหุ้น:ร้อยละ 0
วัตถุประสงค์ในการขายหุ้น:เพื่อให้การบริหารและการจัดการ
ของบริษัทฯ มีความสะดวกและ
เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
3. คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายเรื่องโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ
และบริษัทย่อยใหม่ เพื่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และลดความซับซ้อนใน
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย โดยโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
ในปัจจุบัน มีลักษณะการถือหุ้นโดยตรงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น คณะผู้บริหารจึงปรับปรุงโครงสร้าง
การถือหุ้นดังกล่าว ให้มีลักษณะเป็นการถือหุ้นโดยอ้อม และพิจารณากลุ่มบริษัทย่อยตามรูปแบบ
การประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน คือ
1) ดำเนินธุรกิจให้เช่าทรัพย์สิน
2) ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีผู้ร่วมทุนท้องถิ่น หรือ
3) หยุดดำเนินกิจการและอยู่ระหว่างการเลิกบริษัท
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการ
เปิดเผยสารสนเทศและการปฏิบัติการใดๆ ของบริษัทจดทะเบียน บริษัทฯ จึงขอแจ้งมติของ
คณะกรรมการดังกล่าวข้างต้น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
-ลายเซ็น-
นางสาวรำภา คำหอมรื่น
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน
ถ้าเป็นแบบนี้นี่ ไม่มีผลอะไรต่อกำไรที่ BigC จะได้รับใช่ไหมครับผม