หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้น
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 12:13 pm
โดย leky
ออกตัวก่อนครับว่าที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น ตัวผมเองไม่ได้ซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นหรอกครับ แต่เห็นว่าเดี๋ยวนี้แม้แต่นลท.แนววีไอบางส่วนก็ซื้อหุ้นโดยการใช้เงินมาร์จิ้น แม้กระทั่งเซียนบางท่าน แต่จะเปิดเผยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เวลาหุ้นตกกระทู้ต่าง ๆ ก็จะมีมากมายว่าควรทำอย่างไร ส่วนหนึ่งที่มักจะถูกเอ๋ยถึงคือ ให้ดูที่ MOS ของหุ้นที่เรามีอยู่ การพยายามอย่าไปจับจังหวะของตลาด การกลับไปวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการใหม่ ซึ่งผมอ่านแล้วก็เข้าใจว่าวิธีการแบบนั้นน่าจะเป็นของคนที่ซื้อหุ้นเงินสด ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นการคอมเมนต์เรื่องหุ้นที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นกับตลาดในขาลงว่าควรจะทำอย่างไร เลยตัดสินใจโพสต์กระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันว่า มุมมองและวิธีการของการลงทุนมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ผมเองรู้สึกว่าถ้าเราซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นแล้วตลาดเป็นขาลงหรือคิดว่ามันน่าจะลง วิธีการมองและการถือหุ้นแบบการลงทุนแบบปกติแบบที่เราทำ ๆ กันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะ??? ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างในบางเรื่องหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้เล่นกับเรื่องพื้นฐานของกิจการอย่างเดียว แต่เรายังเล่นกับ
1) ดอกเบี้ยของเงินกู้ ถ้ายิ่งติดหุ้นนานต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้น
2) ความบ้าคลั่งของสภาวะตลาด จริงอยู่บางครั้งหุ้นที่เราซื้อเราคิดว่าดีแล้ว แต่มันลงไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดเป็นขาลงหรือ panic แรง ๆ เราต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งเหล่านี้ เราเห็นว่าหุ้นยังดีถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินสด เราคงไม่เดือดร้อนจะถือจนมันกลับขึ้นมาใหม่ นานแค่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเงินมาร์จิ้น โบรกไม่เล่นกับเราด้วยแน่ ถ้าหุ้นยังลง คุณต้องเอาเงินสดมาวางเพิ่ม ถ้าหนักเข้าก็โดน force sell
3) สภาวะจิตใจของตัวเอง ผมเชื่อแน่ครับว่า คนเล่นมาร์จิ้นเวลาหุ้นลง อารมณ์และความรู้สึกมันคงมากกว่ายามเล่นหุ้นด้วยเงินสด
อยากให้มาแชร์ไอเดียกันครับ ขอบคุณครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 2:28 pm
โดย patongpa
ทยอยขายตัวที่เราคิดว่ายังไม่ขึ้นตอนนี้ออกไปครับ ทำตัวให้เบา หนี้ไม่มากเกินกำลังจ่ายดอกครับ ถ้าเป็นไปได้ทยอยขายจนหนี้เป็น 0 เลยยิ่งดีครับ เหลือวงเงินไว้ซื้อคืนตอนหุ้นเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นก็ยังทันครับ (พูดง่ายแต่ทำยากนะเพราะส่วนมากจะซื้อจนเต็มแม๊ค)
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 2:32 pm
โดย panwasit
leky เขียน:ออกตัวก่อนครับว่าที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น ตัวผมเองไม่ได้ซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นหรอกครับ แต่เห็นว่าเดี๋ยวนี้แม้แต่นลท.แนววีไอบางส่วนก็ซื้อหุ้นโดยการใช้เงินมาร์จิ้น แม้กระทั่งเซียนบางท่าน แต่จะเปิดเผยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เวลาหุ้นตกกระทู้ต่าง ๆ ก็จะมีมากมายว่าควรทำอย่างไร ส่วนหนึ่งที่มักจะถูกเอ๋ยถึงคือ ให้ดูที่ MOS ของหุ้นที่เรามีอยู่ การพยายามอย่าไปจับจังหวะของตลาด การกลับไปวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการใหม่ ซึ่งผมอ่านแล้วก็เข้าใจว่าวิธีการแบบนั้นน่าจะเป็นของคนที่ซื้อหุ้นเงินสด ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นการคอมเมนต์เรื่องหุ้นที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นกับตลาดในขาลงว่าควรจะทำอย่างไร เลยตัดสินใจโพสต์กระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันว่า มุมมองและวิธีการของการลงทุนมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ผมเองรู้สึกว่าถ้าเราซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นแล้วตลาดเป็นขาลงหรือคิดว่ามันน่าจะลง วิธีการมองและการถือหุ้นแบบการลงทุนแบบปกติแบบที่เราทำ ๆ กันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะ??? ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างในบางเรื่องหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้เล่นกับเรื่องพื้นฐานของกิจการอย่างเดียว แต่เรายังเล่นกับ
1) ดอกเบี้ยของเงินกู้ ถ้ายิ่งติดหุ้นนานต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้น
2) ความบ้าคลั่งของสภาวะตลาด จริงอยู่บางครั้งหุ้นที่เราซื้อเราคิดว่าดีแล้ว แต่มันลงไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดเป็นขาลงหรือ panic แรง ๆ เราต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งเหล่านี้ เราเห็นว่าหุ้นยังดีถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินสด เราคงไม่เดือดร้อนจะถือจนมันกลับขึ้นมาใหม่ นานแค่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเงินมาร์จิ้น โบรกไม่เล่นกับเราด้วยแน่ ถ้าหุ้นยังลง คุณต้องเอาเงินสดมาวางเพิ่ม ถ้าหนักเข้าก็โดน force sell
3) สภาวะจิตใจของตัวเอง ผมเชื่อแน่ครับว่า คนเล่นมาร์จิ้นเวลาหุ้นลง อารมณ์และความรู้สึกมันคงมากกว่ายามเล่นหุ้นด้วยเงินสด
อยากให้มาแชร์ไอเดียกันครับ ขอบคุณครับ
ผมเองครับ
1) เรื่องดอกเบี้ย ปีละ 6-7% ก็ปกติครับ
2) เรื่องความบ้าคลั่ง ทำให้มีจุด force sell อยู่ แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับว่า เราใช้เท่าไรด้วย
ยังไงก็ต้องเตรียมเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงไว้เสมอๆ เพราะมีเรื่องนี้ล่ะ
3) เรื่องอารมณ์นี่ หนักมาก เพราะเราจะเสียหายกว่าปกติแน่นอนครับ
ของผม ผมเล่นมาร์หุ้นพอร์ท ผม 50% แล้วฝากคนรู้จัก 100% นะครับ
เพราะสมมุติ เงินผม 1 ล้าน(สมมุตินะ) ถ้ามาร์จิ้น 1 ล้าน แสดงว่าผมได้ใช้ 100% Force sell เมื่อลงมา 35% ทันที
แต่ถ้าเราหาพอร์ทคนที่ไว้ใจได้ พอร์ทใหญ่ 10 ล้าน เรากู้แค่ 1 ล้านเท่าเดิม Force sell จะราวๆ 88% (ลงมา88% นะ)
ที่เหลือก็ต้องดูเรื่องของสินทรัพย์ต่างๆด้วย อย่างผม ไม่มีอะไรนอกจากหน้าตาดีๆ 555
แต่ที่บ้าน ก็พอมีที่ดิน ที่อะไร หรือแฟนผมที่ไม่ได้เล่นมาร์จิ้น ก็ส่วนนึงที่ต้องเอามาเผื่อๆไว้ด้วย
เรื่องการคำนวณ ก็ต้องหาบริษัทที่ดี แล้วมีกำไรขึ้นทุกปีด้วย
อย่างเช่นถ้า ดอกเบี้ย 7% ก็ต้องหาบริษัทที่เติบโต+ปันผล 14% ขึ้นไป ไม่งั้นขาดทุนนะครับ
ยังไงก็ขึ้นอยู่กับ เรื่องส่วนบุคคลนะครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 8:23 pm
โดย viviosmanager
ตอนนี้เริ่มเครียดมาร์จิ้นไม่พอ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 8:29 pm
โดย chukieat30
ขอบคุณท่าน pawasitครับ
สำหรับการแชร์เรื่องมารจิ้นท์
ส่วนตัวเล่นไม่ใช้มารจิ้นท์ครับ แต่ถ้าตลาดลงหนักมากๆๆ จนคนหายไปหมดตลาด
ก้อาจจะใช้
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 8:33 pm
โดย nut776
panwasit เขียน:leky เขียน:ออกตัวก่อนครับว่าที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น ตัวผมเองไม่ได้ซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นหรอกครับ แต่เห็นว่าเดี๋ยวนี้แม้แต่นลท.แนววีไอบางส่วนก็ซื้อหุ้นโดยการใช้เงินมาร์จิ้น แม้กระทั่งเซียนบางท่าน แต่จะเปิดเผยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เวลาหุ้นตกกระทู้ต่าง ๆ ก็จะมีมากมายว่าควรทำอย่างไร ส่วนหนึ่งที่มักจะถูกเอ๋ยถึงคือ ให้ดูที่ MOS ของหุ้นที่เรามีอยู่ การพยายามอย่าไปจับจังหวะของตลาด การกลับไปวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการใหม่ ซึ่งผมอ่านแล้วก็เข้าใจว่าวิธีการแบบนั้นน่าจะเป็นของคนที่ซื้อหุ้นเงินสด ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นการคอมเมนต์เรื่องหุ้นที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นกับตลาดในขาลงว่าควรจะทำอย่างไร เลยตัดสินใจโพสต์กระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันว่า มุมมองและวิธีการของการลงทุนมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ผมเองรู้สึกว่าถ้าเราซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นแล้วตลาดเป็นขาลงหรือคิดว่ามันน่าจะลง วิธีการมองและการถือหุ้นแบบการลงทุนแบบปกติแบบที่เราทำ ๆ กันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะ??? ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างในบางเรื่องหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้เล่นกับเรื่องพื้นฐานของกิจการอย่างเดียว แต่เรายังเล่นกับ
1) ดอกเบี้ยของเงินกู้ ถ้ายิ่งติดหุ้นนานต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้น
2) ความบ้าคลั่งของสภาวะตลาด จริงอยู่บางครั้งหุ้นที่เราซื้อเราคิดว่าดีแล้ว แต่มันลงไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดเป็นขาลงหรือ panic แรง ๆ เราต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งเหล่านี้ เราเห็นว่าหุ้นยังดีถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินสด เราคงไม่เดือดร้อนจะถือจนมันกลับขึ้นมาใหม่ นานแค่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเงินมาร์จิ้น โบรกไม่เล่นกับเราด้วยแน่ ถ้าหุ้นยังลง คุณต้องเอาเงินสดมาวางเพิ่ม ถ้าหนักเข้าก็โดน force sell
3) สภาวะจิตใจของตัวเอง ผมเชื่อแน่ครับว่า คนเล่นมาร์จิ้นเวลาหุ้นลง อารมณ์และความรู้สึกมันคงมากกว่ายามเล่นหุ้นด้วยเงินสด
อยากให้มาแชร์ไอเดียกันครับ ขอบคุณครับ
ผมเองครับ
1) เรื่องดอกเบี้ย ปีละ 6-7% ก็ปกติครับ
2) เรื่องความบ้าคลั่ง ทำให้มีจุด force sell อยู่ แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับว่า เราใช้เท่าไรด้วย
ยังไงก็ต้องเตรียมเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงไว้เสมอๆ เพราะมีเรื่องนี้ล่ะ
3) เรื่องอารมณ์นี่ หนักมาก เพราะเราจะเสียหายกว่าปกติแน่นอนครับ
ของผม ผมเล่นมาร์หุ้นพอร์ท ผม 50% แล้วฝากคนรู้จัก 100% นะครับ
เพราะสมมุติ เงินผม 1 ล้าน(สมมุตินะ) ถ้ามาร์จิ้น 1 ล้าน แสดงว่าผมได้ใช้ 100% Force sell เมื่อลงมา 35% ทันที
แต่ถ้าเราหาพอร์ทคนที่ไว้ใจได้ พอร์ทใหญ่ 10 ล้าน เรากู้แค่ 1 ล้านเท่าเดิม Force sell จะราวๆ 88% (ลงมา88% นะ)
ที่เหลือก็ต้องดูเรื่องของสินทรัพย์ต่างๆด้วย อย่างผม ไม่มีอะไรนอกจาก
หน้าตาดีๆ 555
แต่ที่บ้าน ก็พอมีที่ดิน ที่อะไร หรือแฟนผมที่ไม่ได้เล่นมาร์จิ้น ก็ส่วนนึงที่ต้องเอามาเผื่อๆไว้ด้วย
เรื่องการคำนวณ ก็ต้องหาบริษัทที่ดี แล้วมีกำไรขึ้นทุกปีด้วย
อย่างเช่นถ้า ดอกเบี้ย 7% ก็ต้องหาบริษัทที่เติบโต+ปันผล 14% ขึ้นไป ไม่งั้นขาดทุนนะครับ
ยังไงก็ขึ้นอยู่กับ เรื่องส่วนบุคคลนะครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 21, 2012 11:55 pm
โดย hope1234
แชร์นะครับ
ของผมถ้าพอร์ตยังมีกำไรก็ถือต่อ แต่จะตั้งจุดเอาไว้ว่าถ้าหุ้นลงมาราคานี้ จะขายส่วนของ Margin ทิ้งทันที แต่กรณีที่ตั้งจุดเอาไว้ จะใช้ในกรณีตลาดดูไม่ดีนะครับ เพราะเชื่อว่าต่อให้หุ้นดีแค่ไหน ถ้าเจอตลาดแย่ๆก็มีโอกาสไม่รอดสูง ถ้าถือส่วนของ Margin ไว้ แล้วตัวพอร์ตขาดทุน นอกจากจะเครียดแล้วอนาคตก็ยังเสี่ยงจะโดน Force Sell อีก
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:37 am
โดย panwasit
http://www.mediafire.com/?xyh77icfk08c55i
เห็นมีคนมาขอนิดหน่อย เลยเอามาแจก
ก็ไม่รู้ ถูกเปล่านะครับ แต่ทำตามที่เข้าใจนะครับ
nut776 เขียน:
ที่เหลือก็ต้องดูเรื่องของสินทรัพย์ต่างๆด้วย อย่างผม ไม่มีอะไรนอกจากหน้าตาดีๆ 555
แหม นิดนุงนะ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 1:18 am
โดย Tamจัง
ประสบการณ์จริง ซื้อเพิ่ม+อยู่เฉยๆครับ (เมื่อmarginหมด)
หากตกหนักจริงๆก็ลุ้นไม่ให้โดน force sell (ฮา)
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 9:50 am
โดย picklife
ขั้นแรกต้องถอยกลับมาจุดเริ่มต้น!!! ก่อนที่เราจะใช้มาร์จิ้นเราสร้างแผนรองรับในกรณีที่ตลาดเกิดPanicไว้หรือยัง?
ถ้าตลาดเกิดPanic -10% -10% -10%เรื่อยๆเราจะทำอย่างไร?(หุ้นบางตัวอาจจะลงมากกว่าตลาดเพราะมีเบต้ามากกว่า)
สมมุติเราขาย แล้ววันต่อมาเด้ง+10%เราจะทำอย่างไร?
ถ้ากลับไปซื้อแล้ววันต่อมาลงอีก-10%จะทำไง?
ถ้าตัดสินใจถือละ แล้ววันต่อๆลงต่ออีกจะทำไง?
ถ้าสร้างไว้แล้ว ก็ทำตามแผนครับ^^
แต่ถ้าคนที่ไม่มีแผนเลย!!!(คิดว่าได้อย่างอย่างเดียวไม่มีแพ้เลย!!!)
ผมแนะนำประมาณนี้ครับ
(แต่สำหรับคนไม่เล่นจิ้นผ่านไปได้เลยนะครับ ถือยาวสบายๆ^^)
มองในมุมพื้นฐาน
เราจะพบว่าหุ้นยิ่งลงUpsideน่าจะยิ่งเยอะ!!! (VIยิ่งถูกควรยิ่งซื้อมันจึงขัดกัน)
แต่ที่จริงไม่เสมอไปเพราะอย่าลืมว่าตอนที่เราคิด เราจะมีทั้งUpsideและDownside แต่ตอนนั้นโอกาสเป็นDownsideต่ำมาก อาจจะไม่ถึง10% แต่ถ้าสมมุติเกิดวิกฤติและดูน่าจะเกิดแน่ๆแล้วบริษัทเราเกี่ยวกับส่งออก หรือค่าเงิน หรือดอกเบี้ย โอกาสที่เกิดDownsideอาจจะสูงกว่าเดิมมาก จนทำให้เราต้องขายหุ้นในกลุ่มที่เสี่ยงออกไป แม้นUpsideเพิ่ม Downsideลด แต่เนื่องจากโอกาสที่มันจะเกิดDownsideมันมีมากขึ้น เราก็ขายหุ้นกลุ่มนี้ออกมาเท่านี้พอร์ทเราก็น่าจะเหลือเงินสดตรึมส์
ในมุมพื้นฐานอีกแบบ
อันนี้ง่ายๆเลยครับFixอัตราMMไปเลย(MMของทั้งพอร์ท)
หรือถ้ากลัวคิดยาก ก็Fix D/Eก็ได้ เช่นLockD/Eไว้ที่50%
พอหุ้นลงEลด DEก็เกิน0.5เราก็ต้องขายหุ้นออกเพื่อรักษา
สัดส่วนให้DEอยู่0.5เท่าเดิม อะไรประมาณนี้^^
มองในมุมอื่นๆ
บางท่านเล่นจิ้นมาก บอกกับตัวเองว่าเป็นเพียวVI แต่พอหุ้นลงมากๆ
พอถึงจุดหนึ่งเริ่มทนไม่ไหวแล้วกลัวการโดนCall พอร์ทขาดทุนหนัก
จนจิตเริ่มตกก็เลยขายหุ้น!!!<<แบบนี้ผมว่าน่ากลัว เพราะจะเหมือนกับนักลงทุน
ในแนวที่พี่หมอKเคยสอนไว้ นั่นคือ ไม่มีระบบ!!! เพราะถ้าขายแล้วลงต่อก็ดีไป
แต่ส่วนมากพอขายแล้วกลับกลายเป็นLowพอดี แบบนี้จิตตก และอาจจะเลิกลงทุนไปเลย
เพราะไม่ได้เซ็ทระบบไว้แต่แรก แบบนี้แนะนำให้ใช้แบบด้านบนๆในเคสที่อยากเป็นเพียวVI
แต่ถ้าไม่วอรี่เรื่องการเป็นเพียวVIก็ศึกษากราฟให้เป็นกิจจะลักษณะ น่าจะดีกว่าการขายตามอารมณ์มากครับ^^
ปล.ในส่วนVIกับกราฟ จะมีความขัดแย้งกันมากๆ ในเรื่องVIยิ่งลงควรยิ่งซื้อ แต่กราฟยิ่งลงยิ่งขาย ซึ่งการจะเอามารวมกันยังไงอันนี้แล้วแต่คนนะครับ แต่ideaหนึ่งที่ผมเสนอคือถ้าหากว่าเราเล่นกราฟแต่เป็นระยาวๆรอบใหญ่ๆ ที่กราฟจะสั่งให้เราซื้อขาย1-2ปีครั้ง แบบนี้ก็น่าจะช่วยให้ความขัดแย้งตรงนี้ลดลงได้ครับ^^
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 10:17 am
โดย leky
ความเห็นของหลาย ๆ ท่านน่าสนใจทีเดียวครับ ทำให้ผมรู้สึกอย่างหนึ่งว่าหลักการที่เราใช้ทั่วไปตามปกติมันอาจจะใช้ได้ "ไม่ทั้งหมด" หรือกรณีแบบนี้อาจจะเข้าข่าย "กรณีพิเศษ"
สำหรับผมนะครับ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการบริหารพอร์ทมาร์จิ้น แต่ผมคิดว่าถ้าคิดจะซื้อหุ้นด้วยมาร์จิ้นแบบความเสี่ยงไม่มาก น่าจะซื้อตอนตลาดตกจนไม่มีใครอยากซื้อหุ้นแล้ว จริงอยู่เราอาจจะต้องถือหุ้นอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้เพื่อรอให้ตลาดกลับมา แต่ถ้าตลาดกลับมาเมื่อไหร่ ผลตอบแทนที่ได้ก็น่าจะคุ้มกับการรอคอย
เท่าที่เคยทราบมากรณีใช้เงินมาร์จิ้นเป็น "อาวุธเร่ง" น่าจะได้ผลดีในกรณีที่ตลาดเป็นขาขึ้น "เต็มรูปแบบ"
ส่วนการเล่นกับตลาดขาลงโดยเฉพาะการใช้เงินมาร์จิ้นและในตลาดที่ panic มันคงเหมือนกำลังเล่นกับ "มีดที่กำลังหล่นลงมา" บางครั้งเรารอให้มีดมันปักลงไปที่พื้นให้เรียบร้อยก่อน แล้วเข้าไปเก็บ เราก็จะไม่บาดเจ็บครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 10:50 am
โดย picklife
leky เขียน:ส่วนการเล่นกับตลาดขาลงโดยเฉพาะการใช้เงินมาร์จิ้นและในตลาดที่ panic มันคงเหมือนกำลังเล่นกับ "มีดที่กำลังหล่นลงมา" บางครั้งเรารอให้มีดมันปักลงไปที่พื้นให้เรียบร้อยก่อน แล้วเข้าไปเก็บ เราก็จะไม่บาดเจ็บครับ
เห็นด้วยครับพี่^^
แต่บางครั้งแม่เตือนลูก อาจจะไม่ดีเท่าเพื่อนเตือนเพื่อน
มีคนหนึ่งที่ชอบเล่นมาร์จิ้น100% ชอบจนขนาดตอนที่คำนวณUpside Downside เอาอัตรามาร์จิ้นสูงสุดมาใช้ในการคำนวนด้วย หมายถึงอาจจะเลือกหุ้นที่ดีน้อยกว่าแต่สามารถอัดมาร์จิ้นได้มากกว่า!!!(จนทำให้เขาตกรถไปหลายตัว555+)
แต่keyสำคัญคือเราต้องรู้จักการบริหารความเสี่ยง ระบบการซื้อหรือขาย แผนการลงทุนต้องชัดเจนมากๆๆๆๆจริงๆ ยิ่งเล่นในเกมส์ที่เสี่ยงขึ้นแผนต้องชัดเจนมากขึ้น มองสองด้านตลอดเวลา
อย่างปีก่อนรู้สึกเขาจะล้างพอรทไปสองรอบ และตอนนี้รู้สึกเขาจะมีเงินสดเกือบเต็มพอร์ท(มากกว่า80%)
Keyที่จะสื่อคือ คุณไม่ผิด ถ้าคุณจะมั่นใจจนอัดจิ้น แต่ต้องพึงระลึกไว้เสมอเหรียญมีสองด้านเสมอ คนตายไม่ได้พูด และบางคนที่เขากล้าเสี่ยงเพราะระบบเขาต้องรัดกุมมากๆหรือปล่าว?
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:11 pm
โดย panwasit
แทนที่เราจะขับรถ 100 กลายเป็นขับ 200
ถึงที่เร็วกว่า 2 เท่า แต่อาจมีค่าซ่อมนิดหน่อย
อาจเกิดอันตรายได้มากขึ้น เพราะบังคับไม่ค่อยอยู่
เกิดอันตรายรุนแรงกว่า เพราะความเร็วสูง
มักเกิดอันตราย เพราะทางโค้ง ไม่ชะลอก ไฟแดง ไม่เบรก
คนที่ขับบ่อย ดูเส้นทางบ่อย รู้เส้นทางมาก ความเสี่ยงลดลง
แม้จะถึงเร็วกว่า แต่ต้องเทียบกับ อันตรายด้วย
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:48 pm
โดย ดำ
เรื่องนี้ต้องถึงคุณ chinn เจ้าพ่อมาร์จิ้น
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 9:48 pm
โดย leky
ผมเองก็ยอมรับนะครับว่าไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าการเล่นมาร์จิ้น มันจะทำให้เรากลายเป็น "เล่นหุ้น" มากกว่าลงทุนหรือเปล่า เพราะหลักการหลายอย่ามันก็ดูขัดกับที่เราเคยรู้มาเกี่ยวกับการลงทุนแนว VI หรือถ้าจะใช้วิธีการหลายอย่างมันคงต้องผสมให้ถูก "สูตร" ไม่อย่างนั้น "ยาสูตรนี้" อาจจะทำให้คนใช้ตายเสียเองครับ
ยกเว้นเราจะคิดว่าเราไม่ใช่ VI อาจจะเป็น VS เทคนิค หรือแนวผสมผสาน
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 7:45 am
โดย chinn
leky เขียน:ออกตัวก่อนครับว่าที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น ตัวผมเองไม่ได้ซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นหรอกครับ แต่เห็นว่าเดี๋ยวนี้แม้แต่นลท.แนววีไอบางส่วนก็ซื้อหุ้นโดยการใช้เงินมาร์จิ้น แม้กระทั่งเซียนบางท่าน แต่จะเปิดเผยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เวลาหุ้นตกกระทู้ต่าง ๆ ก็จะมีมากมายว่าควรทำอย่างไร ส่วนหนึ่งที่มักจะถูกเอ๋ยถึงคือ ให้ดูที่ MOS ของหุ้นที่เรามีอยู่ การพยายามอย่าไปจับจังหวะของตลาด การกลับไปวิเคราะห์พื้นฐานของกิจการใหม่ ซึ่งผมอ่านแล้วก็เข้าใจว่าวิธีการแบบนั้นน่าจะเป็นของคนที่ซื้อหุ้นเงินสด ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นการคอมเมนต์เรื่องหุ้นที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นกับตลาดในขาลงว่าควรจะทำอย่างไร เลยตัดสินใจโพสต์กระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันว่า มุมมองและวิธีการของการลงทุนมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ผมเองรู้สึกว่าถ้าเราซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้นแล้วตลาดเป็นขาลงหรือคิดว่ามันน่าจะลง วิธีการมองและการถือหุ้นแบบการลงทุนแบบปกติแบบที่เราทำ ๆ กันอยู่มันอาจจะไม่เหมาะ??? ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างในบางเรื่องหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้เล่นกับเรื่องพื้นฐานของกิจการอย่างเดียว แต่เรายังเล่นกับ
1) ดอกเบี้ยของเงินกู้ ถ้ายิ่งติดหุ้นนานต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้น
2) ความบ้าคลั่งของสภาวะตลาด จริงอยู่บางครั้งหุ้นที่เราซื้อเราคิดว่าดีแล้ว แต่มันลงไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดเป็นขาลงหรือ panic แรง ๆ เราต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งเหล่านี้ เราเห็นว่าหุ้นยังดีถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินสด เราคงไม่เดือดร้อนจะถือจนมันกลับขึ้นมาใหม่ นานแค่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเงินมาร์จิ้น โบรกไม่เล่นกับเราด้วยแน่ ถ้าหุ้นยังลง คุณต้องเอาเงินสดมาวางเพิ่ม ถ้าหนักเข้าก็โดน force sell
3) สภาวะจิตใจของตัวเอง ผมเชื่อแน่ครับว่า คนเล่นมาร์จิ้นเวลาหุ้นลง อารมณ์และความรู้สึกมันคงมากกว่ายามเล่นหุ้นด้วยเงินสด
อยากให้มาแชร์ไอเดียกันครับ ขอบคุณครับ
1) ดอกเบี้ยของเงินกู้ ถ้ายิ่งติดหุ้นนานต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้น
แชร์:ดอกเบี้ยบช.มาร์จิ้นไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกครับ ปันผลจากส่วนเงินสดและส่วนเงินกู้ มันพอจะชดเชยได้
ถ้าเราเลือกหุ้นถูกตัว ไม่นานราคาก็กลับมาครับ
2) ความบ้าคลั่งของสภาวะตลาด จริงอยู่บางครั้งหุ้นที่เราซื้อเราคิดว่าดีแล้ว แต่มันลงไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดเป็นขาลงหรือ panic แรง ๆ เราต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งเหล่านี้ เราเห็นว่าหุ้นยังดีถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินสด เราคงไม่เดือดร้อนจะถือจนมันกลับขึ้นมาใหม่ นานแค่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเงินมาร์จิ้น โบรกไม่เล่นกับเราด้วยแน่ ถ้าหุ้นยังลง คุณต้องเอาเงินสดมาวางเพิ่ม ถ้าหนักเข้าก็โดน force sell
แชร์:ข้อนี้คือประเด็นหลักเลย Force Sell ตัวเองแต่เนิ่นๆครับ
และวางแผนไว้ตั้งแต่แรกว่ากู้พอประมาณ เช่นทุน 66% กู้ 33%
ในภาวะตลาดไม่ดี การขายหุ้นบางส่วนเพื่อลดหนี้ไปอยู่ในระดับปลอดภัยมากๆ
สามารถทำได้โดยการขายหุ้นจำนวนไม่มากเพื่อลดหนี้ ซึ่งจะ รับรู้ขาดทุน ไม่มากเลย
เช่น หุ้นที่เราซื้อมา ขาดทุนไป 10%-20% และเราขายทิ้งไป 10%-20%
เท่ากับ เราขาดทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งมีผลต่อ มูลค่าหุ้นรวมที่ราคาเป้าหมายไม่มาก
คนที่โดน Force Sell ส่วนมาก ไม่ขายเลย จึงถึงราคา Call Margin ได้ง่ายและ ขาดทุนมากเมื่อโดนบังคับขาย
สรุป คือให้วางแผนแต่แรก ลดหนี้ลง ไปสู่ระดับ ที่เหมาะสมในภาวะนั้นๆ
แล้วโบรคจะไม่เข้ามายุ่งกับบัญชีคุณครับ
3) สภาวะจิตใจของตัวเอง ผมเชื่อแน่ครับว่า คนเล่นมาร์จิ้นเวลาหุ้นลง อารมณ์และความรู้สึกมันคงมากกว่ายามเล่นหุ้นด้วยเงินสด
แชร์: ผมว่าแล้วแต่คนครับเหมือนคนที่ VI ถึงแก่นแล้ว ยามหุ้นลงเขาจะยืนบนเหตุผลมากกว่าคนที่เป็นนักเก็งกำไร
คนที่เล่นมาร์จิ้นบนเหตุผลแล้ว ก็สามารถตั้งสติแก้ไขสถานการณ์และเตรียมรับมือได้ เช่นเดียวกันครับ
ช่วงนี้คนถือหุ้นด้วยเงินสดโทรมาขอกำลังใจผมกันเยอะ ส่วนผม Margin เต็มที่ยังไม่ค่อยได้ดูหุ้นเลยครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 7:55 am
โดย chukieat30
ผมว่าแล้วแต่คนครับเหมือนคนที่ VI ถึงแก่นแล้ว ยามหุ้นลงเขาจะยืนบนเหตุผลมากกว่าคนที่เป็นนักเก็งกำไร
คนที่เล่นมาร์จิ้นบนเหตุผลแล้ว ก็สามารถตั้งสติแก้ไขสถานการณ์และเตรียมรับมือได้ เช่นเดียวกันครับ
ช่วงนี้คนถือหุ้นด้วยเงินสดโทรมาขอกำลังใจผมกันเยอะ ส่วนผม Margin เต็มที่ยังไม่ค่อยได้ดูหุ้นเลยครับ
+1 เยี่ยมครับ ในสภาวะแบบนี้ ใครคุมอารมณ์ คุมสติไม่ไ้ด้ เจ็บตัวหนักครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 10:03 am
โดย noooon010
ผมไม่เคยใช้ margin ครับ
แต่มาขอตอบเพื่อนนะครับ ^^
ข้อเสียของ margin คือ ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่าที่เค้ากำหนด เช่นตกมามากกว่า 30% จะถูก force sell(ผมเข้าใจถูกไหมเอ่ย ><)
การเล่น margin แสดงว่า เราต้องการพลังของ leverage
ดังนั้นถ้ากรณีนี้ ผมจะทำตามหลักของ George Soros คือ เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่า ปวดหลัง
(=คาดการณ์ผิด) ผมจะทำการขายหุ้นครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 10:12 am
โดย pat4310
หาเงินมาอุดกันโดน call เพราะเราเชื่อในพื้นฐานครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 11:27 am
โดย noooon010
เกี่ยวกับ คำว่า Margin of safety (MOS)ผมชอบ บท "MOS ตามอำเภอใจ" ในหนังสือ 85 idea ของพี่โจ๊ก สุมาอี้มากๆครับ
เท่าที่ผมจำได้ พี่โจ๊กกล่าวว่า MOS เป็น subjective แต่ละคนมี MOS ไม่เท่ากัน
การที่เราเลือกหุ้นลงทุน ควรดูว่า เราเข้าใจ บริษัทนั้นๆมาก / น้อยแค่ไหน
ถ้าเข้าใจน้อย MOS ควรจะมากหน่อย
สิ่งหนึ่งที่เมื่อเราลงทุนแล้ว เรารู้สึกแย่คือ
มันไม่เป็นไปตามที่เราหวัง
ผมชอบอ่านบทที่ 16 ของหนังสือ ลงทุนสวนกระแส แบบ Anthony Bolton ครับ
ไปๆมาๆ กว่าหุ้นที่เราเลือกจะสะท้อนราคาที่แท้จริง อาจต้องรอเป็นปี - หลายปี
แต่มันคุ้มค่ากับที่เราได้ "เลือกลงทุนเอง" ครับ
มีความสุขกับการลงทุนครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 24, 2012 9:26 am
โดย ซากคน
noooon010 เขียน:
สิ่งหนึ่งที่เมื่อเราลงทุนแล้ว เรารู้สึกแย่คือ
มันไม่เป็นไปตามที่เราหวัง
ไปๆมาๆ กว่าหุ้นที่เราเลือกจะสะท้อนราคาที่แท้จริง
อาจต้องรอเป็นปี - หลายปีแต่มันคุ้มค่ากับที่เราได้ "เลือกลงทุนเอง" ครับ
มีความสุขกับการลงทุนครับ
หลายๆคนแบ่งแยกนักลงทุน ออกจาก นักเก็งกำไร อย่างหยาบๆด้วยสายวิชา
แต่ซากว่า ตัวแดง ข้างบนนี่แหละ ที่ทำให้ ใครต่อใครกลายเป็นนักเก็งกำไรได้อย่างไม่ยากเย็น แม้ว่าจะร่ำเรียน อ่านเขียนมามากเพียงใด
ยิ่งคาดหวังมาก ยิ่งมีแนวโน้มจะลงมือกับพอร์ทมาก ปัจจัตตังครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 24, 2012 11:04 am
โดย ดำ
ที่จริงมีอันที่โหดว่าโดน Call โดน Force อีกนะ คือจู่ๆ วันดีคืนดี โบรกโทร.มาบอกว่าตั้งแต่เดือนหน้าหุ้นที่ถืออยู่จะไม่ให้กู้แล้ว ให้เอาเงินสดมาวางเพิ่มหรือไม่ก็ขายทิ้งออกไปภายในเดือนนี้
อันนี้สิโหดจริง ลองถามเซียน VI ยุค Gen 2 ก็ได้ว่าช่วง Subprime เจอกันหนักแค่ไหน (ช่วงที่มีข่าวว่า TSFC เกือบเจ๊งน่ะครับ)
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 2:38 pm
โดย perfectackle
หมายความว่า โบรคเค้าจะเอาเงินคืนโดยไม่สนราคาหุ้นของเราเหรอครับ ไม่รุ้่ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า คุณดำ ช่วยขยายความหน่อยครับ
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 3:46 pm
โดย ดำ
perfectackle เขียน:หมายความว่า โบรคเค้าจะเอาเงินคืนโดยไม่สนราคาหุ้นของเราเหรอครับ ไม่รุ้่ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า คุณดำ ช่วยขยายความหน่อยครับ
ประมาณนั้นครับ จะบอกล่วงหน้าแล้วแต่กรณี 1 เดือน 2 เดือนว่ากันไป
ทางเลือกมี 3 ทาง คือ เอาเงินใหม่มาเติม ขายหุ้นในพอร์ตทิ้งบางส่วน(ตัวไหนก็ได้) หรือ เอาหุ้นใหม่มาจดจำนำเพิ่มครับ
ตัวอย่างที่ผ่านมา คือ ตอนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ โบรกจะดูจากสภาพคล่องของหุ้นเป็นหลัก ซึ่งถ้าใครจำได้ช่วงนรกแตกตอนนี้ กระทั่งหุ้นใหญ่ๆ ยังมี bid-offer ไม่เท่าไหร่ พื้นฐานหรือปันผลไม่ใช่ปัจจัยหลักที่พิจารณา เพราะในมุมของโบรกคือ ทำยังไงถึงจะขายหุ้นได้ครบถ้าต้อง Force โดยไม่เสียราคามากเกินไป
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 5:13 pm
โดย simplelife
ผมขอเพิ่มนิดนึง ผมเห็นหลายๆกระทู้แล้วชอบอ้าง MOS กับเรื่องกำไรขาดทุนทางบัญชี (จากตัวเลขบนกระดาน)
MOS ไม่ได้แปลว่า Margin of Safety ระหว่างเรากับ Mr. Market มันเป็นระหว่างเรากับ our own stupidity มากกว่า ตามตำรา Graham เลย คือ Mr. Market จะพาราคาไปทางไหน ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ Mr. Market เขาอารมณ์แปรปรวนมากๆ MOS มันมีไว้ป้องกันที่เราจะคำนวณ "มูลค่า" ผิดมากกว่า
ลองยกตัวอย่างก่อนว่า บริษัท XYZ (ที่ไม่ใช่วงดนตรี) เราคำนวณ intrinsic value ได้ 20 บาท ณ วันนี้ ราคา 15 บาท เราซื้อเวลานี้เท่ากับมี MOS 25% ถามว่ามันรับประกันอะไรได้หรือเปล่าว่าราคาบนกระดานจะไม่ลงไป 12 หรือ 10 บาท ถึงแม้เราจะซื้อมี MOS 25% แล้ว มันก็ไม่ได้แปลว่าราคามันจะไม่ลงไปอีก 25% จนเราขาดทุน
มันมีประโยชน์แค่ว่า พอมันมี MOS ถึงเราจะคำนวณได้ 20 บาท แต่มันเกิดจากการคาดการณ์ตัวเลขที่ผิด มูลค่าของมันจริงๆ อาจจะแค่ 18 บาทก็ได้ แต่ถ้าซื้อไว้ที่ 15 บาท มันก็ยังโอเค ราคาตลาดถ้ามันเข้าสู่มูลค่าของเราเมื่อไร เราก็จะกำไร 18-15 = 3 บาท
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 6:22 pm
โดย firewalker
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 1:09 pm
โดย viviosmanager
T-T
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 09, 2012 7:38 pm
โดย ktpkhk8
ต้องคัด loss ทันที อย่าให้หุ้นตกจนเกินควบคุมได้ หรือปล่อยให้ลงเรื่อยๆ โดยรอลุ้น rebound เด็ดขาด
เพราะเงินที่ใช้ไม่ใช่เงินเราทั้งหมด ขนาดเป็นเงินเราทั้งหมดโดยไม่กู้ยืมยังต้องมีจุดคัด loss เสมอเลย
ไม่ต้องพูดถึงเงินมาร์จิ้นย่อมอันตรายกว่า จากประสบการณ์เราไม่สามารถรู้อนาคตได้ว่าหุ้นจะลงต่อ
หรือจะขึ้นต่อจากเหตุการณ์ปัจจุบัน เพราะในระหว่างที่ถือหุ้น ไม่มีใครกำหนดราคาที่แน่นอนของหุ้นได้
ใครที่ว่าหุ้นตัวนี้จะมีสัญญาณอะไรต่ออะไร ว่าจะขึ้นจะ rebound ลองถ้าเหตุการณ์รุนแรงไปในข้างใดข้างหนึ่ง
หุ้นก็จะสะท้อนราคาตามตลาดซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าหุ้นดี หรือไม่ดี หุ้นที่เราซื้อแล้วขายได้กำไรอยู่ก็นับเป็นหุ้นดี
หุ้นที่เราซื้อแล้วขายขาดทุนก็นับเป็นหุ้นไม่ดี (สำหรับเราในช่วงเวลานั้น) จึงนับได้ว่าหุ้นเป็นเกมส์ทายใจ
ก็ว่าได้ เหตุกำหนดเกมส์ของหุ้นในแต่ละเวลาแตกต่างกันเสมอ แล้วปัจจัยใดจะทำให้เรากำหนดชะตาหุ้นได้
ดังใจทุกช่วงเวลาละครับ ไม่ว่าจะปัจจัยพื้นฐานหรือเทคนิค เมื่ออนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน อดีตเป็นสิ่งที่เกิดแล้ว
ปัจจุบันสิของจริงครับ...
Re: ท่านจะทำอย่างไรเมื่อหุ้นตกและท่านซื้อหุ้นด้วยเงินมาร์จิ้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 11:14 am
โดย pullmeunder
ส่วนตัวคิดว่า การใช้มาร์จิ้นนั้นก็เหมือนการโดนบังคับให้เด็ดดอกไม้ที่กำลังสวยงามไวขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยที่จี้หลังมาติดๆ