ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 611
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 2
เห็นใจครับ
ส่วนตัวได้แต่ให้กำลังใจครับ ไม่สามารถแนะนำอะไรได้มากมาย
เพราะไม่เคยติดดอย
(อย่าเข้าใจผิดนะครับ ไม่ได้เก่งนะครับ แต่ผมตัดใจคัตลอสได้ถ้าผิดทาง หรือยอมตัดใจขายเอากำไรที่น้อยที่สุดเวลาขาดทุนกำไรมากๆ เท่าไรก็ต้องเอาออกมาก่อน)
ต้องถามว่าตอนซื้อๆเพราะอะไรครับ ถ้าผิดทางก็ขายเถอะครับ
ซื้อตามเทคนิค ผิดทางก็ต้องขาย
ซื้อตามพื้นฐาน พื้นฐานเปลี่ยนก็ขาย
เก็งผิดก็ขาย
ยอมรับผิดแล้วเริ่มศึกษาใหม่ครับ ดีกว่าปล่อยเงินจมหรือทุนหายไปหมด
ส่วนตัวได้แต่ให้กำลังใจครับ ไม่สามารถแนะนำอะไรได้มากมาย
เพราะไม่เคยติดดอย
(อย่าเข้าใจผิดนะครับ ไม่ได้เก่งนะครับ แต่ผมตัดใจคัตลอสได้ถ้าผิดทาง หรือยอมตัดใจขายเอากำไรที่น้อยที่สุดเวลาขาดทุนกำไรมากๆ เท่าไรก็ต้องเอาออกมาก่อน)
ต้องถามว่าตอนซื้อๆเพราะอะไรครับ ถ้าผิดทางก็ขายเถอะครับ
ซื้อตามเทคนิค ผิดทางก็ต้องขาย
ซื้อตามพื้นฐาน พื้นฐานเปลี่ยนก็ขาย
เก็งผิดก็ขาย
ยอมรับผิดแล้วเริ่มศึกษาใหม่ครับ ดีกว่าปล่อยเงินจมหรือทุนหายไปหมด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 3
ฟังแล้วก็อยากช่วยครับ แต่ผมอาจจะไม่ประสบการณ์มากมายขนาดรู้ไปเสียหมด แต่อย่างน้อยผมก็ผ่านประสบการณ์ในช่วงตลาดตกมาหลายครั้ง และค้นพบว่าทำแบบไหนแล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ขอแชร์ประสบการณ์เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์กับคุณsorosนะครับ
ตอนแรก เวลาผมเข้าซื้อ ยามช่วงตลาดกำลังดี ราคามันก็ขึ้นเรื่อยๆ พอร์ตก็เขียว ผมก็ดีใจและคิดว่า เห็นมั้ยไม่ยากเลย แค่ซื้อหุ้นพื้นฐานดี เดี๋ยวพอร์ตก็โตเรื่อยๆ ลงทุนมันง่ายแค่นี้เอง........สักพักพอตลาดตก พอร์ตผมก็ลดลงกว่าเงินเริ่มต้นครั้งแรก....ตอนช่วงแรกๆก็ทนถือ โดยคิดว่าเด๋วมันก็ขึ้นมาเอง สักพักพอตกมากๆ ก็กลับลำ คิดว่า ไม่ไหวแล้ว ยอมขายขาดทุนดีกว่า ก็เลยขายขาดทุนไป....
แล้วก็มาเริ่มต้นใหม่ ด้วยเงินต้นต่ำกว่าเดิม... แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่า เอาน่าเดี๋ยวตลาดขึ้นพอร์ตมันก็ขึ้นมามากกว่าเดิมเอง พอช่วงตลาดดีๆก็เข้าซื้อใหม่.......ถือไปสักพัก.........ขึ้นไปสักพัก.........ลงอีกแล้ว
ผมทำวังวนเดิมยังงี้อยู่2-3รอบได้ และผมก็เห็นว่า ผลลัพธ์มันคือ พอร์ตผมลดลงเรื่อยๆครับ ดิ่งลงเรื่อยๆเลย
สุดท้ายมาคิดว่าวิธีแบบนี้มันไม่ใช่ละ ผมก็เลยตั้งใจศึกษาการลงทุนจริงๆจังๆ... หลังจากนั้นผมจึงเลือกซื้อหุ้นที่ผมรู้สึกมั่นใจจริงๆโดยหลักเกณฑ์หลักๆ2อย่างคือ
1 มั่นใจในพื้นฐาน
2 มั่นใจในราคาที่ซื้อว่า เราvaluation ออกมาแล้ว ราคาที่เราซื้อเป็นราคาที่เหมาะสม
เมื่อมั่นใจในข้อข้างบนแล้ว พอถึงคราวตลาดตกอีกครั้ง ผมก็ไม่ปล่อยตัวเองให้ขายตามอารมณ์อีก สรุปก็คือ ยังคงถือหุ้นเต็มพอร์ต(ตอนนั้นมีswitchหุ้นบ้างแต่ไม่ขอพูดเรื่องนี้เดี๋ยวยิ่งงง)
และผลลัพธ์มันก็คือ ในยามตลาดตกมันร่วงจริง แต่พอเวลาผ่านไป หากกิจการเราดีจริง ราคามันก็ค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆเอง และผลก็คือพอร์ตก็โตขึ้น ไม่ได้สาละวันเตี้ยลงเหมือนเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจถือหุ้นผ่านช่วงเวลาเลวร้ายได้ คือความมั่นใจที่เกิดจากการศึกษาในบริษทที่เราลงทุนมาอย่างดี........ผมพบว่า คำพูดที่ว่า ให้ถือหุ้นเต็ม100และไม่ขายยามตลาดตก....... ใช้ไม่ได้กับการลงุทนแบบฉาบฉวย ที่คุณไม่ได้ศึกษาบริษัทจนคุณมั่นใจจริงๆ เพราะจะทำให้คุณเต็มไปด้วยความกลัว และเครียดเพิ่มขึ้นมาอีกตะหาก(ผมเคยเป็นเส้นประสาทอักเสบเพราะเรื่องนี้ครับ)....อันนี้สำหรับตัวผมนะครับ.... ไม่แน่คนอื่นอาจจะทนถือได้ก็ได้ คนเราไม่เหมือนกัน
ดังนั้น ผมสรุปว่า หากคุณ 1 มั่นใจในพื้นฐาน 2 มั่นใจในราคาที่คุณซื้อว่าเป็นราคาที่ให้ผลตอบแทนที่คุณยอมรับได้ในระยะยาว........ คุณไม่จำเป็นต้องไปกังวลอะไรมากมายครับ.....แต่ถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาสักเท่าไรละก็.... ผมก็คิดว่า การที่คุณจะถอยออกมาสักก้าว ยอมล้มสะดุดสักนิด เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าคุณจะทนอยู่บนยอดดอยโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย(เพื่อนผมอยู่บนยอดหุ้นอยู่2ตัว ทั้งพอร์ตมีแค่2ตัว และถือมาประมาณ1-2ปี โดยที่ไม่ยอมขาย เพียงหวังว่าราคามันจะขึ้นมาได้โดยไม่มีเหตุผลอะไรรองรับเพราะตอนซื้อซื้อตามโบรกเชียร์ สรุปคือ พอร์ตไม่ไปไหน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตัวคน ก็ไม่ไปไหนเหมือนกัน ก้าวต่อไปไม่ได้เพราะจมปลักกับหลุมที่ตัวเองขุดขึ้น)
นี่ความคิดผมนะครับ ผมเขียนซะยาวหวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้คุณsorosได้บ้าง ขอบคุณครับ
ขอแชร์ประสบการณ์เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์กับคุณsorosนะครับ
ตอนแรก เวลาผมเข้าซื้อ ยามช่วงตลาดกำลังดี ราคามันก็ขึ้นเรื่อยๆ พอร์ตก็เขียว ผมก็ดีใจและคิดว่า เห็นมั้ยไม่ยากเลย แค่ซื้อหุ้นพื้นฐานดี เดี๋ยวพอร์ตก็โตเรื่อยๆ ลงทุนมันง่ายแค่นี้เอง........สักพักพอตลาดตก พอร์ตผมก็ลดลงกว่าเงินเริ่มต้นครั้งแรก....ตอนช่วงแรกๆก็ทนถือ โดยคิดว่าเด๋วมันก็ขึ้นมาเอง สักพักพอตกมากๆ ก็กลับลำ คิดว่า ไม่ไหวแล้ว ยอมขายขาดทุนดีกว่า ก็เลยขายขาดทุนไป....
แล้วก็มาเริ่มต้นใหม่ ด้วยเงินต้นต่ำกว่าเดิม... แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่า เอาน่าเดี๋ยวตลาดขึ้นพอร์ตมันก็ขึ้นมามากกว่าเดิมเอง พอช่วงตลาดดีๆก็เข้าซื้อใหม่.......ถือไปสักพัก.........ขึ้นไปสักพัก.........ลงอีกแล้ว
ผมทำวังวนเดิมยังงี้อยู่2-3รอบได้ และผมก็เห็นว่า ผลลัพธ์มันคือ พอร์ตผมลดลงเรื่อยๆครับ ดิ่งลงเรื่อยๆเลย
สุดท้ายมาคิดว่าวิธีแบบนี้มันไม่ใช่ละ ผมก็เลยตั้งใจศึกษาการลงทุนจริงๆจังๆ... หลังจากนั้นผมจึงเลือกซื้อหุ้นที่ผมรู้สึกมั่นใจจริงๆโดยหลักเกณฑ์หลักๆ2อย่างคือ
1 มั่นใจในพื้นฐาน
2 มั่นใจในราคาที่ซื้อว่า เราvaluation ออกมาแล้ว ราคาที่เราซื้อเป็นราคาที่เหมาะสม
เมื่อมั่นใจในข้อข้างบนแล้ว พอถึงคราวตลาดตกอีกครั้ง ผมก็ไม่ปล่อยตัวเองให้ขายตามอารมณ์อีก สรุปก็คือ ยังคงถือหุ้นเต็มพอร์ต(ตอนนั้นมีswitchหุ้นบ้างแต่ไม่ขอพูดเรื่องนี้เดี๋ยวยิ่งงง)
และผลลัพธ์มันก็คือ ในยามตลาดตกมันร่วงจริง แต่พอเวลาผ่านไป หากกิจการเราดีจริง ราคามันก็ค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆเอง และผลก็คือพอร์ตก็โตขึ้น ไม่ได้สาละวันเตี้ยลงเหมือนเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจถือหุ้นผ่านช่วงเวลาเลวร้ายได้ คือความมั่นใจที่เกิดจากการศึกษาในบริษทที่เราลงทุนมาอย่างดี........ผมพบว่า คำพูดที่ว่า ให้ถือหุ้นเต็ม100และไม่ขายยามตลาดตก....... ใช้ไม่ได้กับการลงุทนแบบฉาบฉวย ที่คุณไม่ได้ศึกษาบริษัทจนคุณมั่นใจจริงๆ เพราะจะทำให้คุณเต็มไปด้วยความกลัว และเครียดเพิ่มขึ้นมาอีกตะหาก(ผมเคยเป็นเส้นประสาทอักเสบเพราะเรื่องนี้ครับ)....อันนี้สำหรับตัวผมนะครับ.... ไม่แน่คนอื่นอาจจะทนถือได้ก็ได้ คนเราไม่เหมือนกัน
ดังนั้น ผมสรุปว่า หากคุณ 1 มั่นใจในพื้นฐาน 2 มั่นใจในราคาที่คุณซื้อว่าเป็นราคาที่ให้ผลตอบแทนที่คุณยอมรับได้ในระยะยาว........ คุณไม่จำเป็นต้องไปกังวลอะไรมากมายครับ.....แต่ถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาสักเท่าไรละก็.... ผมก็คิดว่า การที่คุณจะถอยออกมาสักก้าว ยอมล้มสะดุดสักนิด เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าคุณจะทนอยู่บนยอดดอยโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย(เพื่อนผมอยู่บนยอดหุ้นอยู่2ตัว ทั้งพอร์ตมีแค่2ตัว และถือมาประมาณ1-2ปี โดยที่ไม่ยอมขาย เพียงหวังว่าราคามันจะขึ้นมาได้โดยไม่มีเหตุผลอะไรรองรับเพราะตอนซื้อซื้อตามโบรกเชียร์ สรุปคือ พอร์ตไม่ไปไหน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตัวคน ก็ไม่ไปไหนเหมือนกัน ก้าวต่อไปไม่ได้เพราะจมปลักกับหลุมที่ตัวเองขุดขึ้น)
นี่ความคิดผมนะครับ ผมเขียนซะยาวหวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้คุณsorosได้บ้าง ขอบคุณครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 4
ชอบชื่อกระทู้
การที่เรารอรถมารับที่ยอดดอย(อีกเมื่อไหร่ไม่รู้) ตอนนั้นเราอาจไม่อยากขายแล้วก็ได้(ถ้าเราไม่รู้มูลค่าบริษัท)
ดังนั้น ลองพิจารณาดูก่อนว่า ดอยที่ท่านอยู่มันน่าอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่น่าอยู่โดดลงมาเหอะ
การลงทุนมีค่าเสียโอกาสเสมอ รอบนดอยมีปันผลก็ยังโอเค แต่ถ้าได้ไม่คุ้มค่ารอ ก็โดดลงมาเถอะครับพี่
คำแนะนำ คือ "อย่าซื้อแพง" และ "ตัดสินใจด้วยตัวเอง "
ดังนั้นท่านต้องวิเคราะห์และประเมินมูลค่าให้ได้ด้วยตัวเอง
แล้วก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง จะทำให้เรามั่นใจที่จะขาย ถือ หรือแม้แต่ซื้อเพิ่ม
ทีนี้จะเดินอยู่ดิน หรือกินอยู่บนดอย ก็นอนหลับสบายครับ หนุกหนานๆกับการลงทุนนะฮะ
การที่เรารอรถมารับที่ยอดดอย(อีกเมื่อไหร่ไม่รู้) ตอนนั้นเราอาจไม่อยากขายแล้วก็ได้(ถ้าเราไม่รู้มูลค่าบริษัท)
ดังนั้น ลองพิจารณาดูก่อนว่า ดอยที่ท่านอยู่มันน่าอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่น่าอยู่โดดลงมาเหอะ
การลงทุนมีค่าเสียโอกาสเสมอ รอบนดอยมีปันผลก็ยังโอเค แต่ถ้าได้ไม่คุ้มค่ารอ ก็โดดลงมาเถอะครับพี่
คำแนะนำ คือ "อย่าซื้อแพง" และ "ตัดสินใจด้วยตัวเอง "
ดังนั้นท่านต้องวิเคราะห์และประเมินมูลค่าให้ได้ด้วยตัวเอง
แล้วก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง จะทำให้เรามั่นใจที่จะขาย ถือ หรือแม้แต่ซื้อเพิ่ม
ทีนี้จะเดินอยู่ดิน หรือกินอยู่บนดอย ก็นอนหลับสบายครับ หนุกหนานๆกับการลงทุนนะฮะ
Sixth Sense Investor
-
- Verified User
- โพสต์: 145
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณสำหรับ คำแนะนำครับ ขอบคุณจริงๆ
จริงแล้วผมเป็นนักลงทุนมือใหม่ครับ ศึกษามาก็เท่าที่พอจะเข้าใจได้(กับสมองอันน้อยนิด) แต่มีใจหึกเหิม คืออยากมีหุ้น เป็นความคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาใช่ไหมครับ
และอีกอย่างนึง ผมเองไม่ใช่เจ้าของ user ครับ แต่เป็นลูกของเจ้าของuser ยืมพ่อใช้ครับ
สรุปว่า ผมเองก็ไม่รู้ครับว่าดอย 3 ดอยที่ผมอาศัยอยู่มันจะดีไมครับ
ขอเรียนถามท่านผู้มีประสบการณ์ครับว่า
1. ฟาร์มไก่ที่ดังที่สุด
2. บริษัทที่อดีตนายกฯ เคยขายให้กับสิงคโปร์ ถือหุ้นโทรศัพท์ กับหุ้นดาวเทียม
3. บริษัท ปั๊มน้ำมันเล็กๆสีเหลืองๆ มีคลังน้ำมันทางภาคใต้
ทั้ง3ดอยนี้เป็นไงครับ (มีใครอยู่กับผมบ้างครับ)
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
จริงแล้วผมเป็นนักลงทุนมือใหม่ครับ ศึกษามาก็เท่าที่พอจะเข้าใจได้(กับสมองอันน้อยนิด) แต่มีใจหึกเหิม คืออยากมีหุ้น เป็นความคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาใช่ไหมครับ
และอีกอย่างนึง ผมเองไม่ใช่เจ้าของ user ครับ แต่เป็นลูกของเจ้าของuser ยืมพ่อใช้ครับ
สรุปว่า ผมเองก็ไม่รู้ครับว่าดอย 3 ดอยที่ผมอาศัยอยู่มันจะดีไมครับ
ขอเรียนถามท่านผู้มีประสบการณ์ครับว่า
1. ฟาร์มไก่ที่ดังที่สุด
2. บริษัทที่อดีตนายกฯ เคยขายให้กับสิงคโปร์ ถือหุ้นโทรศัพท์ กับหุ้นดาวเทียม
3. บริษัท ปั๊มน้ำมันเล็กๆสีเหลืองๆ มีคลังน้ำมันทางภาคใต้
ทั้ง3ดอยนี้เป็นไงครับ (มีใครอยู่กับผมบ้างครับ)
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 6
ระวังคนว่านะSOROS.DD เขียน:ขอบคุณสำหรับ คำแนะนำครับ ขอบคุณจริงๆ
จริงแล้วผมเป็นนักลงทุนมือใหม่ครับ ศึกษามาก็เท่าที่พอจะเข้าใจได้(กับสมองอันน้อยนิด) แต่มีใจหึกเหิม คืออยากมีหุ้น เป็นความคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาใช่ไหมครับ
และอีกอย่างนึง ผมเองไม่ใช่เจ้าของ user ครับ แต่เป็นลูกของเจ้าของuser ยืมพ่อใช้ครับ
สรุปว่า ผมเองก็ไม่รู้ครับว่าดอย 3 ดอยที่ผมอาศัยอยู่มันจะดีไมครับ
ขอเรียนถามท่านผู้มีประสบการณ์ครับว่า
1. ฟาร์มไก่ที่ดังที่สุด
2. บริษัทที่อดีตนายกฯ เคยขายให้กับสิงคโปร์ ถือหุ้นโทรศัพท์ กับหุ้นดาวเทียม
3. บริษัท ปั๊มน้ำมันเล็กๆสีเหลืองๆ มีคลังน้ำมันทางภาคใต้
ทั้ง3ดอยนี้เป็นไงครับ (มีใครอยู่กับผมบ้างครับ)
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
1 ผมก็มี แต่ราคาต่ำกว่านี้นะ
2 ไม่มี เสียดาย น่าจะมี
3 นึกไม่ออกอะ รู้แค่ น้ำเงิน กับ เขียว
1 กับ 2 ส่วนตัวคิดว่า ยังไงก็ไม่เจ็ง แต่ลงแค่ไหน ไม่รู้ (รู้ก็รวยเละ)
3 เล็กๆ ถ้าขนาดเล็ก แถมน้ำมันมันก็โภคภัพฑ์ อย่างไปเสี่ยงเลย (แต่ผมไม่ร้รายละเอียดนะ
ปล 1 ก็โภทภัทพ์ แต่มีอาหารสำเร็จขาย ทำให้กำไรเหวี่ยงน้อยลงมาก น่าจะดีกว่า
ปล คิดได้ไง
ปล ความเห็นส่วนตัว
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 8
ทางที่ดี ปลูกบ้านและใช้ชีวิตอยู่กับดอยอย่างเป็นสุขครับSOROS.DD เขียน:บนดอยมันไม่มีอากาศหายใจเลยครับ ช่วยผมด้วย
ผมเองก้เคยปลูกบ้านบนดอย บางหลังถ้ามันจำเป็นต้องปลูกก้ต้องปลูก
หลังไหนจำใจปลูก ถ้าดอยยังหนาว ก้รื้อทิ้ง
แต่ปีนี้ ไม่ยอมดอย ปรับพอรท์รอไปสัก2อาทิตย์แล้วครับ
ตั้งใจแล้วว่า ปีนี้ จะไม่ขนเอาเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอออกมาใส่อีก
เก็บใส่ตู้เสื้อผ้าไปแล้ว
สำหรับของแสลง
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 9
ผมว่าคำแนะนำทั่วไปจะบอกว่า ล้างพอร์ทเลย แล้วศึกษาจนมั่นใจเก็บเงินเพิ่มแล้วค่อยกลับมาใหม่
แต่ผมแนะนำว่า จากข้อมูลคำใบ้รายชื่อหุ้นที่บอกมา ผมมองว่ายังถือต่อได้ สิ่งที่ต้องทำคือทำความเข้าใจบริษัทนั้นว่าทำธุรกิจอะไร แล้วเรามองว่าดีมั้ยในสายตาเรา เราชอบมั้ย อยากถือหุ้นเป็นเจ้าของมั้ย ถ้าไม่ใช่ ก็ขายหมดทันที ขาดทุนแค่ไหนช่างมัน ถ้าใช่ ราคาลดลงมาหมายถึงผลตอบแทนที่ดีขึ้นกว่าที่ได้ซื้อไว้ครั้งก่อน ก็ซื้อเพิ่ม หรือถ้าช่วงนี้ยังมองว่าจะลงได้อีก ก็ทยอยเก็บไปพอมันทำท่าจะลงสุดก็ค่อยเก็บเต็มๆ
ยังไม่ต้องไปมองหาหุ้นตัวใหม่ครับ เอาสามตัวที่บอกให้มั่นใจก่อนว่า ใช่ หรือไม่ใช่ แล้วจากนั้นค่อยว่ากันใหม่
การติดดอยคือการได้ซื้อหุ้นที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ราคาลงมาก็ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไร บางคนใช้จ่ายเงินทิ้งขว้างไร้สาระกว่าการซื้อหุ้นดีๆตอนแพงๆด้วยซ้ำ
ผมเองในพอร์ทตอนนี้ก็มีหุ้นที่กำไรสวยๆ แต่ก็มีตัวแดงขาดทุนเหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยหาข้อมูลอยู่ก็ยังพบว่าดีอยู่ เลยทยอยเก็บเพิ่มครับ แต่เสียดายเงินมีน้อยเลยเก็บได้ไม่มาก
แต่ผมแนะนำว่า จากข้อมูลคำใบ้รายชื่อหุ้นที่บอกมา ผมมองว่ายังถือต่อได้ สิ่งที่ต้องทำคือทำความเข้าใจบริษัทนั้นว่าทำธุรกิจอะไร แล้วเรามองว่าดีมั้ยในสายตาเรา เราชอบมั้ย อยากถือหุ้นเป็นเจ้าของมั้ย ถ้าไม่ใช่ ก็ขายหมดทันที ขาดทุนแค่ไหนช่างมัน ถ้าใช่ ราคาลดลงมาหมายถึงผลตอบแทนที่ดีขึ้นกว่าที่ได้ซื้อไว้ครั้งก่อน ก็ซื้อเพิ่ม หรือถ้าช่วงนี้ยังมองว่าจะลงได้อีก ก็ทยอยเก็บไปพอมันทำท่าจะลงสุดก็ค่อยเก็บเต็มๆ
ยังไม่ต้องไปมองหาหุ้นตัวใหม่ครับ เอาสามตัวที่บอกให้มั่นใจก่อนว่า ใช่ หรือไม่ใช่ แล้วจากนั้นค่อยว่ากันใหม่
การติดดอยคือการได้ซื้อหุ้นที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ราคาลงมาก็ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไร บางคนใช้จ่ายเงินทิ้งขว้างไร้สาระกว่าการซื้อหุ้นดีๆตอนแพงๆด้วยซ้ำ
ผมเองในพอร์ทตอนนี้ก็มีหุ้นที่กำไรสวยๆ แต่ก็มีตัวแดงขาดทุนเหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยหาข้อมูลอยู่ก็ยังพบว่าดีอยู่ เลยทยอยเก็บเพิ่มครับ แต่เสียดายเงินมีน้อยเลยเก็บได้ไม่มาก
-
- Verified User
- โพสต์: 330
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 10
เห็นใจเจ้าของกระทู้มากครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนที่เล่นหุ้นต้องเคยติดดอย สำหรับผมแล้วเคยติดดอยสูงสุด -50% ขนาดช่วงที่ซื้อราคาก็ลงมามากแล้วยังติดดอยได้ขนาดนี้ วิธีที่ผมแก้ไขคือขายทิ้งครับ โดยเฉพาะเมื่อเราเจอหุ้นอื่นที่มีอนาคตมากกว่า ขณะที่ไม่มีเงินซื้อเพราะอยู่ในหุ้น 100% ค่อยๆทยอยขาย ถ้าโชคดีเจอหุ้นเด้งขึ้นก็ทยอยขายมากหน่อย ทำอย่างนี้แล้วจะสบายใจขึ้น หุ้นไหนที่ซื้อแล้วติดลบมานานก็ก็ขายทิ้งเก็บแต่ที่เขียวๆไว้ ทำอย่างนี้เรื่อยๆมูลค่าหุ้นในพอร์ทจะสะสมมากขึ้นเองครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนที่เล่นหุ้นต้องเคยติดดอย สำหรับผมแล้วเคยติดดอยสูงสุด -50% ขนาดช่วงที่ซื้อราคาก็ลงมามากแล้วยังติดดอยได้ขนาดนี้ วิธีที่ผมแก้ไขคือขายทิ้งครับ โดยเฉพาะเมื่อเราเจอหุ้นอื่นที่มีอนาคตมากกว่า ขณะที่ไม่มีเงินซื้อเพราะอยู่ในหุ้น 100% ค่อยๆทยอยขาย ถ้าโชคดีเจอหุ้นเด้งขึ้นก็ทยอยขายมากหน่อย ทำอย่างนี้แล้วจะสบายใจขึ้น หุ้นไหนที่ซื้อแล้วติดลบมานานก็ก็ขายทิ้งเก็บแต่ที่เขียวๆไว้ ทำอย่างนี้เรื่อยๆมูลค่าหุ้นในพอร์ทจะสะสมมากขึ้นเองครับ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 12
เอาจริงๆจังๆนะครับSOROS.DD เขียน:บนดอยมันไม่มีอากาศหายใจเลยครับ ช่วยผมด้วย
อ่านเล่มนี้ครับ
ถ้ามีแล้ววางกองไว้ เอามาปัดฝุ่นครับ
ได้เวลาต้องรื้อฟื้นความรู้แล้วครับ
ในวิกฤติก้มีโอกาศเสมอและก้มีภัยด้วยเช่นกัน
การไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดยังไง ก้คือ ไม่ได้เตรียม แผนไว้
อ่านจบ เอาวิญญานแห่งความเป็นนักลงทุน VIกลับมาครับ
แล้วจะเจอคำตอบ
แนบไฟล์
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 13
ย้ำเที่ยวที่2
อ่านจบแล้ว ดึงความเป็นนักลงทุนVIที่ถูกกองไว้ เอากลับมาสู่ที่เดิมครับ
แล้วจะสามารถคุมสติ และการลงทุนได้
คนส่วนมากจะลน เวลาเจอวิกฤติ และลืมตัวไปว่า เราใช้วงสวิงแบบไหนอยู่
และเรามี MOS มากพอหรือไม่
VIที่ผ่านร้อนและหนาวมามากๆ ต้องรู้ว่า ยามจะต้องเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เราต้องมีอะไรใส่เป้
ไปบ้าง แน่นอน 1ในนั้น ก้คือเล่มนี้
ค่อยๆอ่านและค่อยๆคิด หาและวางแผนว่าจะทำยังไง
ลงทุนด้วยสติ และจะมีสตางค์ครับ stay clam stay invest
อ่านจบแล้ว ดึงความเป็นนักลงทุนVIที่ถูกกองไว้ เอากลับมาสู่ที่เดิมครับ
แล้วจะสามารถคุมสติ และการลงทุนได้
คนส่วนมากจะลน เวลาเจอวิกฤติ และลืมตัวไปว่า เราใช้วงสวิงแบบไหนอยู่
และเรามี MOS มากพอหรือไม่
VIที่ผ่านร้อนและหนาวมามากๆ ต้องรู้ว่า ยามจะต้องเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เราต้องมีอะไรใส่เป้
ไปบ้าง แน่นอน 1ในนั้น ก้คือเล่มนี้
ค่อยๆอ่านและค่อยๆคิด หาและวางแผนว่าจะทำยังไง
ลงทุนด้วยสติ และจะมีสตางค์ครับ stay clam stay invest
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 15
ถ้าเชื่อมั่นว่าเราตัดสินใจถูกต้องแล้ว ก็ต้องอดทนครับ วิกฤติจะเป็นเหมือนบททดสอบเรา
พอผ่านไปได้ครั้งนึงแล้ว จะเก่งขึ้นเยอะเลยครับ
พอผ่านไปได้ครั้งนึงแล้ว จะเก่งขึ้นเยอะเลยครับ
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 16
เเน่ใจเเค่ไหนว่ามันดอยครับ
บทความดีดีสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 17
เอาใจช่วยครับ แล้วเรียนรู้ข้อผิดพลาดตัวเอง
ในปีนี้การเอาชนะตลาดไม่ง่าย ถ้าไม่ถือหุ้น bank ตัวใหญ่
การติดดอยบางครั้งเกิดจาก คน(เงิน)ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเรา สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
การติดดอยบางครั้งก็เกิดจาก การคิดไปเองว่าหุ้นดีราคาถูก สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
การติดดอยบางครั้งก็เกิดจากซื้อหุ้นดี แต่ราคาแพงมากเกินไป สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
ผมว่าทุกคนก็เคยติดดอยครับ เราแค่switch ไปยังหุ้นอื่นๆที่เหมาะสม หรือไม่ก็หยุดการลงทุนในหุ้น ไปลงทุนในการเรียนรู้ก่อนก็ได้ครับ
ในปีนี้การเอาชนะตลาดไม่ง่าย ถ้าไม่ถือหุ้น bank ตัวใหญ่
การติดดอยบางครั้งเกิดจาก คน(เงิน)ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเรา สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
การติดดอยบางครั้งก็เกิดจาก การคิดไปเองว่าหุ้นดีราคาถูก สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
การติดดอยบางครั้งก็เกิดจากซื้อหุ้นดี แต่ราคาแพงมากเกินไป สุดท้ายผลประกอบการจะเป็นผู้ตัดสิน
ผมว่าทุกคนก็เคยติดดอยครับ เราแค่switch ไปยังหุ้นอื่นๆที่เหมาะสม หรือไม่ก็หยุดการลงทุนในหุ้น ไปลงทุนในการเรียนรู้ก่อนก็ได้ครับ
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 18
ถ้าพื้นฐานดีถือต่อ คิดว่าเอาเงินไปซื้อพันธบัตร ดอยเบี้ย 4.5 เปอร์เซนต์ต่อปี สัก 3 ปี ได้ 13.5 เปอร์เซนต์
ถ้าพื้นฐานดีจริง น่าจะได้เกิน 13.50 เปอร์เซนต์ ใน 3 ปี
แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยน หรือไม่ดีจริง ก็ขาย อย่าไปคิดมาก
ถ้าพื้นฐานดีจริง น่าจะได้เกิน 13.50 เปอร์เซนต์ ใน 3 ปี
แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยน หรือไม่ดีจริง ก็ขาย อย่าไปคิดมาก
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 19
ไป "หาความรู้ มาห่ม" เดี๋ยวหายหนาวเองครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Tsurumi
- Verified User
- โพสต์: 268
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามวิธีการดำรงชีพและเอาตัวรอดบนดอยสูงครับ
โพสต์ที่ 20
มีบทความเรื่องปฏิกิริยาของคนที่เจอสิ่งที่ไม่คาดฝ้นเกิดขึ้นแล้วสนองตอบอย่างไร ผมอ่านหลายครั้งก็ยังเอามาใช้กับตัวเองให้ได้สติตลอด ไม่ว่าจะเจออะไรที่ไม่คาดมาก่อนต้องนึกถึงหลักนี้ไว้เสมอ ทุกท่านคงร้องอ๋ิอ เจ้าของทฤษฏีชื่อ Elisabeth Kubler-Ross (Kuebler-Ross Model) (1926-2004) (ลองหาในอากู๋ดู) ปฏิกิริยาคนมีอยู่ 5 ขั้นดังนี้
1. Schock and Denial ตื่นตระหนก ตกใจ ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
2. Anger โกรธ โมโห ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้
3. Bargaining หาทางเยียวยาให้หนักเป็นเบา ต่อรอง เพื่อลดความเสียหาย หาวิธีแก้ไข
4. Depression เศร้าซึม ปลง
5. Acception ยอมรับความเป็นจริง
model นี้อธิบายเรื่องสูญได้ดี เช่นญาติเสีย เกิดไฟใหม้ สินามิ อุบัิติเหตุ ฯลฯ
ผมว่าความเสี่ยงในการลงทุน และความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน ่(ภาษิตเมกาบอกว่า ความแน่นอนในชีวิตนี้คือการเสียภาษีและความตาย) ถ้าคิดได้อย่างนี้แล้วก็พยายามข้ามขั้นตอนที่ 1 & 2 ของ Kuebler-Ross ไปที่ขั้นตอนที่สามเลย คือ หาทางลดความสูญเสียจากหนักให้เป็นเบาให้เร็ว
จริงๆแล้วผมไม่ได้เอาเรื่องลงทุนไปเทียบกับความสูญเสียในชีวิตที่ทฤษฏีตั้งไว้ แต่ก็ระยะหลังนี้หลายศาสตร์้้เกี่ยวเนื่องกับความสูญเสียนำไปใช้มากมาย มันทำให้เราเข้าใจจิตใจและปฏิกิริยาผู้เกี่ยวข้องได้ดีทีเดียว ผมก็เอามาใช้บ่อย เช่น ขณะขับรถเจออุบัตืเหตุ (เราก่อเอง หรือ พบเห็นบนท้องถนน) ถ้าเราไม่นับหนึ่งถึงสิบแล้ว อะไรมันก็เกิดได้ ฉะนั้นตั้งสติให้ได้ อย่าตกใจ อย่าช็อก เพื่อข้ามขั้นที่ 1 & 2 ไปให้ได้ จะได้แก้ปัญหาในขั้นที่ 3 ได้รวดเร็วและทันเวลา
1. Schock and Denial ตื่นตระหนก ตกใจ ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
2. Anger โกรธ โมโห ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้
3. Bargaining หาทางเยียวยาให้หนักเป็นเบา ต่อรอง เพื่อลดความเสียหาย หาวิธีแก้ไข
4. Depression เศร้าซึม ปลง
5. Acception ยอมรับความเป็นจริง
model นี้อธิบายเรื่องสูญได้ดี เช่นญาติเสีย เกิดไฟใหม้ สินามิ อุบัิติเหตุ ฯลฯ
ผมว่าความเสี่ยงในการลงทุน และความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน ่(ภาษิตเมกาบอกว่า ความแน่นอนในชีวิตนี้คือการเสียภาษีและความตาย) ถ้าคิดได้อย่างนี้แล้วก็พยายามข้ามขั้นตอนที่ 1 & 2 ของ Kuebler-Ross ไปที่ขั้นตอนที่สามเลย คือ หาทางลดความสูญเสียจากหนักให้เป็นเบาให้เร็ว
จริงๆแล้วผมไม่ได้เอาเรื่องลงทุนไปเทียบกับความสูญเสียในชีวิตที่ทฤษฏีตั้งไว้ แต่ก็ระยะหลังนี้หลายศาสตร์้้เกี่ยวเนื่องกับความสูญเสียนำไปใช้มากมาย มันทำให้เราเข้าใจจิตใจและปฏิกิริยาผู้เกี่ยวข้องได้ดีทีเดียว ผมก็เอามาใช้บ่อย เช่น ขณะขับรถเจออุบัตืเหตุ (เราก่อเอง หรือ พบเห็นบนท้องถนน) ถ้าเราไม่นับหนึ่งถึงสิบแล้ว อะไรมันก็เกิดได้ ฉะนั้นตั้งสติให้ได้ อย่าตกใจ อย่าช็อก เพื่อข้ามขั้นที่ 1 & 2 ไปให้ได้ จะได้แก้ปัญหาในขั้นที่ 3 ได้รวดเร็วและทันเวลา