หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:07 pm
โดย sermsakv
oishi s&P sorkon ssf sauce pm มีอะไรยังไม่เข้าวินมั้ง

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:10 pm
โดย sermsakv
ลืมป้า malee ไปได้ไงเนี้ย

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:34 pm
โดย istyle
csc ssc

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 12:46 pm
โดย ดำ
ออกแนวเล่นเกมต่อคำ มากกว่าแนว VI นะ

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 1:19 pm
โดย gripen
บรรยากาศแบบนี้คล้าย เว็ปหนึง ที่ขึ้นต้นด้วยตัว P

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 2:05 pm
โดย chukieat30
ดำ เขียน:ออกแนวเล่นเกมต่อคำ มากกว่าแนว VI นะ
แบบนี้หรือครับ

:rofl: :rofl: :rofl: :rofl: :rofl:

กำลังฮิตมากๆตอนนี้ เครดิต คุณ yacht7 thaivi


จริงๆๆผมว่า ไม่แปลก ถ้าคิดเป็น ใช้หลัก KISS

น้ำดื่มชาเขียว น้ำโค๊ก น้ำเป็ปซี่ ขายดีพวกที่ผลิตก้ต้องกำไรดี ราคาหุ้นก้ต้องไป

ผู้ผลิตฝาจีบ ฝาปิด ก้ต้องดี เพราะทำฝาปิดให้

คนผลิตขวดก้ดี เพราะ ขวดก้แบบเดียวกัน

คนขายวัตถุดิบก้น่าจะดี จะน้ำชาเขียว หรือ น้ำผลไม้ ก้ต้องมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ

KISS ไม่ใช่หลักการของ VI หรือ ครับ

หรือ KISS จะพบเจอเฉพาะ นักลงทุนสาย ดั้งเดิมหรือที่เรียกว่า VI ใสซื่อ

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 2:12 pm
โดย chukieat30
อันนี้ก้แปลก ผมว่าหลายท่านลืมไปหรือเปล่า

ทฤษฎีห่านบิน ขออนุญาติยกบทความท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ ครับ

โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 24 เมษายน 2550
ทฤษฎีการพัฒนาทางเศรษฐกิจในเอเชียที่มีชื่อเรียกกันว่า "ห่านบิน" นั้น สรุปอย่างย่อที่สุดก็คือ เริ่มจากญี่ปุ่นที่เป็น "ห่าน " ตัวแรกที่เริ่มบินขึ้นฟ้า นั่นคือ พัฒนาเศรษฐกิจก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ฝูง "ห่าน" ที่บินตามจ่าฝูงมาก็คือฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลี ซึ่งสามารถพัฒนาเศรษฐกิจได้เร็ว ไม่แพ้กัน

ถัดจากนั้น เราก็มีห่านฝูงต่อไปคือไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย แม้ว่ากลุ่มนี้จะมีอาการ "ง่อย" เล็กน้อย สุดท้ายที่กำลังตามมาอย่างแรงก็คือ จีน อินเดีย และเวียตนาม ในตลาดหุ้นนั้น ผมสังเกตดู การเคลื่อนไหวหรือปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นหลาย ๆ ครั้งก็มีลักษณะของ "ห่านบิน" เหมือนกัน นั่นคือ เมื่อมีหุ้นตัวหนึ่ง มีราคาปรับตัว ขึ้นมาก ในไม่ช้าหุ้นตัวอื่นที่อยู่ในกลุ่มก็จะเริ่มปรับตัวขึ้นตามกันเป็นพรวน

ดังนั้น ถ้าเราเห็นหุ้นตัวหนึ่งปรับตัวขึ้นมามาก และเรารู้ว่าหุ้นตัวนั้น อยู่ในกลุ่มไหน และเรารู้ว่ามีหุ้นตัวอื่นที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายหรือเหมือนหุ้นตัวที่ราคาวิ่งขึ้นไปแล้ว เราก็สามารถที่จะซื้อหุ้นตัวที่ราคายังไม่ขึ้น ถ้าเราคิดว่าในที่สุดแล้ว หุ้นตัวนั้นก็จะปรับตัวหรือ "บิน" ตามจ่าฝูงขึ้นไปหัวใจสำคัญของการซื้อหุ้นแบบ "ห่านบิน" ก็คือ เราจะต้องรู้ว่า "ห่าน" ของเราเป็นห่านกลุ่มเดียวกันกับห่านตัวที่บินขึ้นไปแล้ว นั่นคือ เราจะต้องดูว่า บริษัทขายสินค้าหรือบริการแบบเดียวกันกับหุ้นที่วิ่งขึ้นไปแล้ว

ถ้าจะให้ชัดเจนก็คือบริษัทควรเป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาดเดียวกันด้วยไม่ใช่แค่ขายสินค้า แบบเดียวกันแต่รายหนึ่งขายให้ตลาดบนสำหรับผู้มีรายได้สูงแต่อีกบริษัทหนึ่งเน้นขายผู้มีรายได้ต่ำ ในบางกรณีบริษัทอาจไม่ได้ขายสินค้าแบบเดียวกัน แต่ลักษณะการทำงานอาจจะเหมือนกันมากซึ่งทำให้ปัจจัยของความสำเร็จของบริษัทหนึ่งจะเหมือนกับความสำเร็จของอีกบริษัทหนึ่ง แบบนี้ก็สามารถเข้าข่าย ใช้ทฤษฎีห่านบินได้

ตัวอย่างของหุ้นที่เข้าข่ายทฤษฎีห่านบินที่เกิดขึ้นในช่วงเร็ว ๆ นี้เท่าที่นึกได้น่าจะรวมถึงหุ้นของกิจการที่ทำธุรกิจแบบเดียวกันและเหมือนกันมาก เช่น หุ้นกลุ่มเดินเรือที่นำโดยหุ้น PSL ตามด้วยหุ้น TTA และหุ้น RCL หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะที่เป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่รับลูกค้าต่างชาติมาก ๆ นำโดยหุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ต่อด้วยหุ้น ร.พ. กรุงเทพ และในที่สุดก็ไปถึง ร.พ. อย่างเกษมราษฎร์ และอีกหลาย ๆ โรงพยาบาล แม้ว่ากลุ่มหลัง จะไม่ได้รับลูกค้าต่างชาติเท่าไรนัก เช่นเดียวกับกลุ่มโรงพยาบาลก็คือ กลุ่มโรงแรมที่เริ่มจากหุ้นของ MINTหรือ ไมเนอร์อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งทำกิจการ อาหารจานด่วนด้วย ตามมาห่าง ๆ จาก MINT ก็คือหุ้นโรงแรมเซ็นทรัลซึ่งทำธุรกิจเหมือนกับ MINT แทบทุกอย่าง หลังจากนั้นก็มีอีกหลายโรงแรมที่มี ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น

เช่นเดียวกันหุ้นห่านบินอีกกลุ่มหนึ่งนั้นไม่ได้ขายสินค้าแบบเดียวกันแต่น่าจะเรียกว่าทำธุรกิจเดียวกันก็คือ กลุ่มผู้ผลิตและขายพลังงาน จ่าฝูงของกลุ่มนี้ แน่นอน คือ ปตท. และ ปตท.สผ. ซึ่งก็ตามมาด้วยหุ้นผู้ผลิตและขายถ่านหินอย่างหุ้นบ้านปู และตามมาด้วยหุ้นผู้ผลิตไฟฟ้าอย่างหุ้น EGCOMP และหุ้นผลิตไฟฟ้าราชบุรี ในเรื่องนี้มีข้อสังเกตว่า ไม่ใช่หุ้นในกลุ่มพลังงานทั้งหมดจะต้องบินตามกันไป เพราะหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันนั้นไม่ได้แปลว่าหุ้นทุกตัวจะต้องเป็นห่าน ฝูงเดียวกัน มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นห่านฝูงเดียวกัน

ในทางตรงกันข้าม หุ้นที่อยู่ต่างอุตสาหกรรมก็อาจจะเป็นห่านฝูงเดียวกันได้ และนี่นำไปสู่ห่านอีก ฝูงหนึ่งที่บินตามกันมาหุ้นกลุ่มที่มีลักษณะเป็นห่านฝูงเดียวกันและบินตามกันมาเกือบทุกตัวก็คือ หุ้นในกลุ่ม Modern Trade หรือธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ผมเองไม่แน่ใจว่า หุ้นตัวไหนเป็นตัวนำ แต่หุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นรวมถึงหุ้น BIGC โฮมโปร์ โรบินสัน หุ้นเหล่านี้เป็นของบริษัทที่ค้าขายสินค้าแตกต่างกัน แต่ลักษณะการทำธุรกิจนั้นเหมือนกันนั่นคือ ขายสินค้าผ่านเครือข่ายมากมายทั่วประเทศ สินค้าที่ขายนั้นจะมีครบทุกอย่างในกลุ่ม เช่น ถ้าเป็นสินค้า ที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็จะมีทุกอย่าง ถ้าเป็นสินค้าซ่อมและตบแต่งบ้านก็จะมีครบอย่างที่ต้องการในร้านเดียว สินค้าที่ขายจะอยู่ในร้านที่ติดแอร์ และตบแต่งเป็นอย่างดี ซึ่งลักษณะแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นแนวโน้มของการจับจ่ายของผู้บริโภคโดยทั่วไปทำให้ธุรกิจแบบ Modern Trade เติบโตเฟื่องฟู ขึ้นในทุกกลุ่มสินค้าที่จริงหุ้นที่เป็นห่านในกลุ่มเดียวกันนั้นมีอยู่ค่อนข้างมาก เพียงแต่อาจจะเป็นห่านที่ยังไม่ได้เริ่มบิน

ตัวอย่างของธุรกิจที่ถือว่าเป็นห่าน ในกลุ่มเดียวกัน ได้น่าจะรวมถึงหุ้นในกลุ่มธนาคาร กลุ่มหลักทรัพย์ ซึ่งผมเห็นว่าประกอบธุรกิจคล้ายกันมากจนแทบไม่มีความแตกต่าง นอกจากนั้นก็มีหุ้นของผู้ผลิต และขายเหล็ก หุ้นปิโตรเคมีบางกลุ่ม และหุ้นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอาจจะมีลักษณะหุ้นห่านบินในระดับหนึ่ง การที่จะซื้อหุ้นในลักษณะห่านบินนั้นเพื่อความปลอดภัยเราก็ควรที่จะต้องตรวจสอบดูฐานะและการบริหารงานของบริษัทด้วยนอกเหนือจากการดูว่า มันเป็นห่านฝูงเดียวกันจริง ๆ หรือเปล่า เพราะในบางครั้งนั้น แม้ว่ามันจะเป็นห่านฝูงเดียวกัน แต่มันอาจจะเป็น "ห่านง่อย" ซึ่งถึงอย่างไรมันก็บินไม่ขึ้น



Create Date : 12 พฤษภาคม 2551
Last Update : 12 พฤษภาคม 2551 10:25:50 น.


ห่านบิน tipco malee s&p sorkon and etc ห่านคนละกลุ่ม csc

ข้อสุดท้าย ห่านง่อยก้มีครับไม่บิน แต่จากกาลนี้ ห่านง่อยไม่บิน แต่พอพระเจ้าท่านเห็นใจ

ในตัวห่านว่า ห่านนั้น ได้เดินบนเส้นทางแห่งคุณค่า มาช้านานโดยยึดหลักแห่งคุณค่าแล้ว

และยังมุ่งมั่นที่จะบิน

พระเจ้าท่านก้จะให้ ห่านตัวนั้น ติดจรวดแทนครับ ไม่ต้องบิน 55+

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 2:20 pm
โดย chukieat30
ผมเชื่อว่า พระเจ้าท่านคงเห็นใจ VIใสซื่อ เพราะอย่างน้อย

VIใสซื่อก้แทบจะสูญพันธ์แล้ว สายดั้งเดิม(โชริวเค็น)

ถ้าพระเจ้าไม่เห็นใจ พวกใสซื่ออีกหน่อยคงเข้าหาทางจอมมารหมด

ถึงวันนั้น แม้แต่ ห่านตายแล้วก้อาจจะบินได้ (ด้วยเวทย์แห่งจอมมาร)

ถ้าพระเจ้าไร้ซึ่งความปรานี แก่มนุษย์ มนุษย์ก้จะเสื่อมศรัทธา

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 2:35 pm
โดย chukieat30
สำหรับการจะเป็น VI ได้นั้น ต้อง

1.มีหลักการคิดที่เป็น vi

2.ต้องศรัทธาในหลักการคิด

3.ต้องมีใจที่มุ่งมั่นไม่เสื่อม

เมื่อคิดจะตีวงสวิงแบบ ท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ เราก้ต้องศึกษาก่อนว่า วงสวิงแบบนี้

ตียังไง

เราอาจจะนำมาปรับให้เข้ากับตัวเรา โดยใช้หลักการ หลักๆๆส่วนสรีระแต่ละคนไม่เหมือนกัน

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 3:49 pm
โดย WorriedInvestor
pr ของผมก็แรงตามมาติดๆ ทำคลายเครียดเรโชไปบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าจะขายหมูรึิเปล่า

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 6:56 pm
โดย sermsakv
ขอบคุณคุณ chukiat ครับได้ข้อมูลที่ดึครับ
ส่วนผมรู้สึกว่ากลุ่มพวกนี้มันมี story ที่เล่นกันประมาณว่า Domestic play, หุ้นขนาดกลางเล็ก,เป็นของกินของใช้
แง้มดูงบแบบผ่านๆออกมาหลายตัว Q1 ปีนี้ รายได้ดีขึ้น ต้นทุนลดลง GPM สูงขึ้น
แน่นอน NP ดีขึ้นเทียบกับ Q1 ปีทีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าต่อไปจะยังดีแบบนี้หรือเปล่า

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 22, 2012 7:34 pm
โดย chukieat30
sermsakv เขียน:ขอบคุณคุณ chukiat ครับได้ข้อมูลที่ดึครับ
ส่วนผมรู้สึกว่ากลุ่มพวกนี้มันมี story ที่เล่นกันประมาณว่า Domestic play, หุ้นขนาดกลางเล็ก,เป็นของกินของใช้
แง้มดูงบแบบผ่านๆออกมาหลายตัว Q1 ปีนี้ รายได้ดีขึ้น ต้นทุนลดลง GPM สูงขึ้น
แน่นอน NP ดีขึ้นเทียบกับ Q1 ปีทีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าต่อไปจะยังดีแบบนี้หรือเปล่า
กินใช้ในประเทศน่าจะดีขึ้นครับ ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยก้ดีขึ้น

แต่ปัญหารอบนี้ก้อยู่นอกประเทศ

ผมว่า หลายๆคนก้คงคำนวนแล้วว่า หลายๆบริษัทน่าจะดี

ส่วนตัวตอนนี้ก้เน้นแต่ domestic play ครับ

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 7:43 am
โดย n_milkka
น่าจะคุยกันในแง่ Demand Trend หรือ ความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนของแต่ละกิจการมากกว่านะคะ

Web ดูเปลี่ยนไปมากกว่าตอนที่ อ.มนตรี เป็นประธาน web เยอะพอสมควรเลยค่ะ
(แม้ว่าช่วงนั้น ดิฉันจะไม่ได้สมัครสมาชิกก็ตาม)

เวลาที่หุ้นขึ้น เราควรมาดูว่า บริษัทนั้นๆมีข้อดีอย่างไร และข้อดีเหล่านั้น มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่มันจะคงอยู่ต่อๆไป

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 9:38 am
โดย Dekfaifah
ถ้าตราบใดประชากรโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ของกินก็ต้องขายได้เพิ่มขึ้นตามประชากรที่ต้องการบริโภคมากขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้วครับ
ส่วนคำว่า ขายดี งั้นก็ต้องมีช่วง ขายไม่ดี ด้วยซิครับ
งั้นถามกลับกันเกี่ยวกับของกินช่วงไหนขายไม่ดีบ้าง ?
แบบนี้ผมว่าน่าจะได้ประโยชน์ด้วยนะครับ

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 3:31 pm
โดย ดำ
อีกหน่อยอาจมีทฤษฎี "ไข้หวัดนก" ออกมาคานกับทฤษฎี "ห่านบิน"

ตอนบินขึ้น ตัวนึงขึ้น ตัวที่ 2 ที่ 3 ขึ้นตาม

ตอนปีกหักติดเชื้อบินไม่ไหว ตัวนึงเป็นโรค ตัวที่ 2 ที่ 3 ติดโรคตามกัน

ที่ต้องระวังคือ โรคติดต่อ เวลาระบาดอาจเกิดได้เร็วและหนักหนาสาหัสจนคาดไม่ถึง

Re: เกี่ยวกับของกินรู้สึกจะขายดี

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2012 5:12 pm
โดย chukieat30
ดำ เขียน:อีกหน่อยอาจมีทฤษฎี "ไข้หวัดนก" ออกมาคานกับทฤษฎี "ห่านบิน"

ตอนบินขึ้น ตัวนึงขึ้น ตัวที่ 2 ที่ 3 ขึ้นตาม

ตอนปีกหักติดเชื้อบินไม่ไหว ตัวนึงเป็นโรค ตัวที่ 2 ที่ 3 ติดโรคตามกัน

ที่ต้องระวังคือ โรคติดต่อ เวลาระบาดอาจเกิดได้เร็วและหนักหนาสาหัสจนคาดไม่ถึง
เอาไปเลยครับ +1

:rofl: :rofl: :rofl: :rofl: :rofl: