Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตามหัวข้อเลยครับ สมมุติคุณได้ออกรายการ money talk คำตอบของคุณจะเป็นอย่างไร
ขอเอาคำถามที่ถามบ่อยๆ (และที่ผมพอจำได้นะครับ)
1.ปัจจุบันทำงานอะไร
2.ลงทุนมานานแค่ไหน
3.มีจุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร
4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง
5.หนังสือที่ชอบ
6.พอร์ทเป็นชื่อใคร

ช่วยกันตอบนะครับ อาจทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น

ปล.ท่านใดมีคำถามอื่นเพิ่มเติมเชิญได้เลยครับ

ส่งคำถามครับ
1. เรื่องคน
อายุ ที่เกิด การศึกษา อาชีพ ครอบครัว

2. เรื่องทรัพย์สิน
แบ่งลงหุ้น อสังหา ทอง กองทุน อย่างไร
ที่มาของเงินทุน

3. เรื่องเวลา
กิจวัตรประจำวัน แบ่งเวลาลงทุน อย่างไร
ลงทุนมานานเท่าไร

4. เรื่องความรู้+ความคิด (ข้อนี้สำคัญ)

4.1 ได้ความคิด ดีๆ จากไหน
หนังสือ
บุคคลต้นแบบ
เพื่อนและสังคมลงทุน
เวป

4.2 ความรู้+ถนัดหุ้นแบบใหน
หลักการในการลงทุนที่ถนัด
motto ประจำใจสักสามข้อ
ความสำเร็จที่อยากเล่าให้ฟัง

4.3 จิตวิทยาส่วนตัว
ความผิดพลาดครั้งใหญ่+
วิธิจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
ปฎิบัติธรรม? คลายเครียด?

5. ประโยคสำคัญที่อยากบอกผู้ฟัง

ส่วนใหญ่ อ.ไพบูลย์ท่านก็ทำอยู่แล้วครับ

สวัสดีครับ ชื่อ pak ครับ

1.ปัจจุบันทำงานอะไร
ยังคงทำงานบริษัทฯเอกชนแห่งหนึ่งครับ
งานกำลังยุ่งทีเดียวครับ เพราะกำลังจะ Implement ระบบ SAP ECC6 เร็วๆนี้ครับ
กว่าจะกลับมาว่างได้คงช่วงปลายๆปีมั้งครับ
ทุกวันนี้มีความสุขในการทำงานประจำมาก เพราะรู้สึกว่า...
ตนเองได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และความทุ่มเท ทำงานอย่างเต็มที่ครับผม

2.ลงทุนมานานแค่ไหน
เคยเล่นหุ้นตั้่งแต่ปี 39 ครับ เจ๊งหมดตัวไปหลายแสนอยู่
กลับมาลงทุนใหม่ในปี 2552 ด้วยเงินเก็บในสหกรณ์ออมทรัพย์จำนวน 3 แสนบาทครับ

3.มีจุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร
แอบคิดเอาเองว่า ตลาดหุ้นน่าจะมีช่องทางให้เราสามารถสร้างความมั่งคั่ง และได้ผลตอบแทนที่ดีได้

4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง
แรงบันดาลใจแรก คือ "เว็บไทยวีไอ" แห่งนี้แหล่ะครับ
เพราะ ไทยวีไอ ทำให้ไปหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม
และเล่มแรกที่อ่าน คือ หนังสือของพ่อผมเอง ท่านซื้อมานานแล้ว ก็คือ หนังสือของ ดร.นิเวศน์ครับ
หลังจากนั้น ไปอ่านเรื่องของ วอแรนต์ บัฟเฟต์ เกิดมุมมองใหม่ในการลงทุนครับ
เช่นคำว่า...
- ถ้าคุณทนเห็นพอร์ตตัวเองลบไป 30-50% ไม่ได้ คุณก็ยังไม่เหมาะจะลงทุน
- จะซื้อหุ้นลงทุนซักตัว...ส่งไปรณีย์บัตรไปสั่งซื้อ ก็ยังทัน
- เราไม่ได้ซื้อเพียงหุ้น แต่เราซื้อกิจการของบริษัทฯนั้นๆ

5.หนังสือที่ชอบ
- หนังสือที่เกี่ยวกับ ดร.นิเวศน์ และ วอแรนต์ บัฟฟเต์ครับ

6.พอร์ทเป็นชื่อใคร
- ชื่อตัวเอง แล้วมีความสุขที่ได้เป็นเจ้าของครับ
จากนั้นสร้างแนวทางการลงทุนของตนเองขึ้นว่ากับ 2 แนวคิด คือ
แนวคิดการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และหุ้น Turnaround

ก่อนจบขอฝากผู้ชมทางบ้าน ว่า...
เวลาหุ้นตก คุณเอาเงินในพอร์ตของผมไปได้ แต่คุณจะไม่มีวันได้หุ้นในพอร์ตของผมไป
เพราะผมชอบอุปโลกว่า หุ้นดีๆมีเก็บไว้เพื่อเป็นมรดก
และถ้าผมสมมุตว่า หุ้นเหล่านี้ ผมได้มรดกมาจากคุณพ่อคุณแม่
ดังนั้นไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย ผมจะเก็บมันไว้ เพราะมันมีคุณค่าทางใจ
และผมจะส่งต่อมันให้กับรุ่นต่อไปครับ

อ้อ...อีกอย่างครับ
ถ้าผมเชื่อว่า หุ้นที่ผมถืออยู่มันดี ก็คงเปรียบเสมือน ผมถือพระสมเด็จไว้สักองค์
แต่ในวันที่หุ้นตก ก็คงเสมือนว่า "มีคนมาขอเช่าพระสมเด็จจากผม ในราคาไม่กี่หมื่นบาท!!!"
...แล้วคุณว่าผมจะขายให้เขาไหม???


ก่อนจบรายการ...
อ.ไพบูลย์ปาดเหงื่อ แล้วพูดทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนจบรายการ ว่า...
"เอ่อ ผู้ฟังทางบ้านครับ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ
เฮ้อ...ว่าแต่เทปนี้ ผมจะเอาออกอากาศได้ไหมนะ แนวคิดนี้ อันตรายจริงๆ"

...จากนั้น ท่านก็ถอนหายใจยาวๆอีกครั้งก่อนจบรายการ - -"

สวัสดีครับ chakasak ครับ

1.ปัจจุบันทำงานอะไร
เล่นหุ้นอย่างเดียวครับ ต้องหยุดทำงานเพราะมีปัญหาทางสายตาครับ

2.ลงทุนมานานแค่ไหน
ตั้งแต่ปี 2000 ครับ เคยผ่านวิกฤติ 9-11 ขาดทุนเป็นล้านเลยเลิกเล่นไปครับ

พึ่งเข้ามาเล่นใหม่ตอนปี 2007 ก็เจอ subprime อีกรอบ แต่คราวนี้รอดมาได้เพราะครั้งนี้เล่นแนว vi ครับ

3.มีจุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร
ตอนที่เล่นครั้งแรก เล่นมั่วครับ อยากรวย พอเจ็งหนักๆเลยเลิกเล่นไป พอดีเจอหนังสือตีแตก พออ่านๆดูเราเริ่มรู้ว่าหุ้นไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการลงทุนเลยเข้ามาเล่นใหม่ครับ

4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง
ถ้าถามแนวที่ผมเล่นอยู่น่าจะเป็นแนวหุ้นห่านทองคำครับ คือซื้อเน้นปันผลเป็นหลัก
แต่ถ้าเป็นแนวทางดำเนินชีวิต ก็ปู่บัฟเฟตครับ ชอบที่เค้าสมถะแม้จะรวยแล้ว แถมก่อนตายยังบริจาคเงินอีก ผมคิดว่าสังคมต้องการคนแบบนี้ครับ

5.หนังสือที่ชอบ
หนังสือเกี่ยวกับแนววีไอ ก็ชอบหมดครับ แต่หุ้นห่านทองคำอาจจะเป็นตัวหลัก แต่ก็อ่านของคนอื่นด้วยครับ เพื่อเอาความรู้การวิเคราะห์มาวิเคราะห์หาเงินปันผล

6.พอร์ทเป็นชื่อใคร
ชื่อตัวเองครับ ยังโสด

แนวคิดในการเล่นหุ้น จริงๆก็ไม่มีอะไรใหม่ครับ เหมือนวีไอทั่วๆไป ลงทุนโดยคิดว่าเป็นเจ้าของกิจการ หวังเพียงผลกำไรที่เค้าแบ่งมาให้ (เงินปันผล) ไม่ฝันให้หุ้นขึ้นเยอะๆ (แต่ขึ้นก็ดีครับ หากเราตั้งใจลงทุนในกิจการอะไรซักอย่างโดยไม่ขาย เงินที่เราจะได้จากหุ้นมีแค่ทางเดียว คือเงินปันผล หากเราหวังกำไรจากการขายหุ้น แสดงว่าเราไม่ใช่เจ้าของกิจการ เงินปันผลจึงเป็นมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ และ ยังเป็นเหมือนรายได้ขั้นต่ำของหุ้น หากเราซื้อหุ้นเมื่อเราพอใจในเงินปันผล แม้ราคาหุ้นจะร่วงไปซัก 50% ก็ไม่มีผลกับเรา ตราบเท่าที่บริษัทนั้นๆยังจ่ายเงินปันผลเราเหมือนเดิม

ของคุณ pak มันฮาตรงที่

ถ้าผมเชื่อว่า หุ้นที่ผมถืออยู่มันดี ก็คงเปรียบเสมือน ผมถือพระสมเด็จไว้สักองค์
แต่ในวันที่หุ้นตก ก็คงเสมือนว่า "มีคนมาขอเช่าพระสมเด็จจากผม ในราคาไม่กี่หมื่นบาท!!!"
...แล้วคุณว่าผมจะขายให้เขาไหม???

1.ปัจจุบันทำงานอะไร
เป็นผู้บริหารหน่วยงานไอทีในองค์กรเอกชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง

2.ลงทุนมานานแค่ไหน
น่าจะสักปี 45-46

3.มีจุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร
อ่านหนังสือตีแตก จำได้ว่า ตอนเปิดบัญชีหุ้น เที่ยวสอนใครต่อใคร
เรื่องการลงทุน แนวความคิดเรื่องการเป็นเจ้าของบริษัท
ตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะลงทุนในบริษัทที่ตัวเองเชี่ยวชาญ
โอนเงินเข้าไปครั้งแรก สองหมื่นบาท
ตอนจะกด submit คำสั่งซื้อครั้งแรก เปลี่ยนใจซื้อตาม
หุ้นที่คนเชียร์ในเว็บกระทิงเขียว
แล้วก็นั่งมองว่า เมื่อไรหุ้นจะขึ้นสักที
ไม่ต้องบอก ก็คงทราบผลนะครับ

หลังจากนั้น ก็มาคิดว่า เราต้องหาอาวุธติดตัว
ศึกษาเทคนิคดีกว่า น่าจะเรียนรู้ง่ายดี
ก็ลงทุนอยู่พักหนึ่ง ได้บ้างเสียบ้าง

จุดเปลี่ยนอยู่ที่ มีคนรู้จัก บอกราคาหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง
ออกแนว insider ตอนแรกก็ไม่เชื่อ ปรากฏว่าถูกเป๊ะๆ
ให้ซื้อเมื่อไร ขายเมื่อไร แม่นอย่างกับมีเวทมนต์
ก็เริ่มซื้อตาม พอร์ตก็เริ่มโตขึ้น ก็เริ่มโอนเงินเข้าไปมากขึ้น
เอาทองที่อยู่ในบ้านทั้งหมดไปขาย เอามาลงหุ้น
พอร์ตเริ่มโตหลายแสน สุดท้ายจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ช่วงปี 47 แถวๆ นั้น รู้แต่ว่า ข่าวร้ายต่อเนื่อง
จะ cut loss พี่ที่เป็น insider บอกว่าอย่าเพิ่ง
ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ (พี่ยังปล่อยของไม่หมด อันนี้มารู้ตัวทีหลัง)
สุดท้ายคืนเขาหมด ทั้งกำไรและทุนไปครึ่งหนึ่ง
เลยกลับมาเริ่มใหม่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เทคนิคเราก็พอรู้นี่หว่า dsm ก็อ่านมาเยอะ
ก็มาซื้อๆ ขายๆ กะบริษัทสื่อสารเจ้าหนึ่ง
ก็ได้กำไรคืนมานิดหน่อย สุดท้ายไปเรียน ป. เอก
เลยซื้อบริษัท isp เจ้าหนึ่ง แล้วทิ้งไว้ปีกว่าได้
ปรากฎว่ามาดูอีกที กำไรแฮะ ได้ทุนคืน เลยขายล้างพอร์ต
แล้วก็เกิด subprime (ดวงดีจริงๆ)

วันหนึ่ง หยิบหนังสือ พ่อรวย ตอนเงิน 4 ด้านมาอ่าน เกิดได้คิด
ไปค้นหนังสือตีแตกมาอ่านอีกรอบ แล้วก็ตะลุยซื้อหนังสือการลงทุนมาอ่าน
อ่านเว็บ thaivi แล้วก็เริ่มลงทุนใหม่อีกรอบ จนถึงบัดนี้

4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง
จริงๆ ต้องบอกว่ายังลองผิดลองถูกอยู่เลย
แต่พยายามทำตาม ดร.นิเวศน์ ลินซ์ บัฟเฟต
ฟิชเชอร์ และ พี่ๆ เพื่อนๆ มากมายใน thaivi
ขึ้นอยู่ว่าตอนนั้นจะนึกเรื่องอะไรได้ เหอๆ

5.หนังสือที่ชอบ
จริงๆ ก็ชอบทุกเล่มที่อ่านแนว VI
แต่ที่จะย้อนไปอ่านบ่อยๆ จะเป็นหนังสือ
ของ อาจารย์ ดร.นิเวศน์ ขึ้นอยู่ว่าหยิบเล่มไหนได้

6.พอร์ทเป็นชื่อใคร
ชื่อตัวเองครับ แต่กำลังเปิดอีกพอร์ตเป็นชื่อภรรยา
ตั้งใจจะเอาไว้ซื้อบริษัท ที่จะยกให้ลูกครับ

พอร์ตตัวเอง เอาไว้ลองผิดลองถูก
พอเจอบริษัทไหนที่คิดว่าดีแน่ mos มากพอ
จะซื้อในพอร์ต ของภรรยา แล้วไม่ขายเลย

จบล่ะ ขอบคุณที่อ่านครับ

ร่วมแจมด้วยครับ อิอิ

1.ปัจจุบันทำงานอะไร
ผมทำงานอยู่บริษัทอสังหาเล็กๆนอกตลาดแห่งหนึ่งครับ

2.ลงทุนมานานเท่าไหร่
ประมาณ 5 ปีครับ ผ่านวิกฤตซับไพร์ม มารอบนึง เกือบตาย ตอนนั้นพอร์ตขาดทุนราวๆ 50-60% แต่หน้าด้านทนถือไม่ได้ขาย สุดท้ายเอาตัวรอดมาได้ เด้งกลับคืนมามีกำไร...ค่อยยังชั่วหน่อย

3.จุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร
ทำงานมีเงินเก็บอยู่นิดหน่อย เงินทั้งหมดฝากอยู่ในแบงค์บ้าง ซื้อสลากออมสินบ้าง เหมือนชาวโลกทั่วๆไป ผ่านไปปีนึง มาเปิดบัญชีดู ได้ดอกเบี้ยหลักร้อย ตรวจสลากออมสินดูก็ไม่เคยถูก โอ้...เวรกรรม อย่างนี้เมื่อไหร่เราจะรวย เลยเริ่มมีความคิดที่จะหาเงินหารายได้เพิ่มเติม เคยไปลงทุนเปิดร้านเกมส์กับเพื่อน เปิดได้ 6 เดือนก็มีอันต้องปิดกิจการ เหตุเพราะไม่มีเวลาทำเองแต่ละคน(หุ้นส่วน)ต้องทำงานประจำเลยต้องจ้างคนดูร้าน แต่ลูกจ้างมันนึกจะหยุดมันก็หยุด บังคับหรือต่อว่ามันก็จะออก ต้องง้อต้องอ้อนวอนร้องขอตลอด สรุป เจ๊ง!!! ต่อมาก็คิดฝันหาหนทางไปเรื่อยๆ กับข้อจำกัดที่ว่า"ไม่มีเวลาแต่อยากให้เงินเก็บงอกเงยได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก จะทำอะไร " จนมาเริ่มต้นที่ลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ พอเริ่มเป็นงานก็ขยับไป กองทุนหุ้น พอเริ่มรู้จักตลาดหุ้นขึ้นมาบ้าง ลงทุนไปมาเริ่มมีความคิดว่า เอาเงินตัวเองไปให้คนอื่นเลือกหุ้นทำไม เราก็เลือกเองได้ เลยก้าวมาเล่นหุ้นเองซะเลย^^

4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง
ดร.นิเวศน์ บัฟเฟตต์ ปีเตอร์ ลินซ์

5.หนังสือที่ชอบ
ทุกเล่มแนว VI อ่านหมด

6.พอร์ทเป็นชื่อใคร
ชื่อตัวเองครับ แต่เพิ่งไปเปิดบัญชีใหม่ใช้ชื่อแฟน อีกบัญชี เอาเคล็ด คนที่รวยหุ้นส่วนใหญ่ใช้ชื่อเมียแทบทุกคน อิอิ

ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะครับ เพราะผมก็เคยนึกฝันเล่นๆไว้ว่าซักวันนึง หากมีพอร์ตขั้นเทพจะได้ไปนั่งออกรายการ Money TALK ของดร.ไพบูลย์ ไปประกบ ดร.นิเวศน์ให้ท่านซักถามแบบพี่ๆในนี้บ้าง กระทู้นี้ถือว่าได้ซ้อมและ อิอิ

ปล.หวังว่ารายการ Money TALK ยังคงจะอยู่รอผม ไม่ปิดตัวไปเสียก่อนนะครับ รอหน่อยนะ กำลังปั้นพอร์ต

ทำไมถึงมีแต่ชื่อเมีย ทำไมไม่มีชื่อแม่บ้าง

เพิ่มอีกข้อ ได้มั้ย ตอนนี้ถือหุ้นอะไรใน PORT

sakkaphan เขียน:ทำไมถึงมีแต่ชื่อเมีย ทำไมไม่มีชื่อแม่บ้าง

ตามเมียแล้วเจริญ ไงครับ