เมอร์ริลลินซ์เปิด7ทางรอด!ยุโรปฝ่าวิกฤตหนี้
วันที่ 23 พฤษภาคม 2555 00:09
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เมอร์ริลลินซ์เปิด 7 ทางรอด! ยุโรปฝ่าวิกฤตหนี้ รักษาเสถียรภาพยูโรโซน ก่อนล่มสลาย
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมอร์ริล ลินซ์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่า หากกลุ่มประเทศยุโรปดำเนินการใน 7 มาตรการหลัก ก็น่าจะรักษาเสถียรภาพของประเทศสมาชิกต่างๆ ในยุโรปไว้ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นได้ โดยทั้ง 7 มาตรการ ได้แก่
มาตรการที่ 1 ปล่อยเงินกู้ระยะยาวเป็นกรณีพิเศษ (LTRO) รอบ 3 โดยการให้ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์อีกรอบโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจมีคำถามตามมาว่า อีซีบีจะกล้าปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์หรือไม่ เพราะหลักประกันที่เหลือในขณะนี้อาจไม่ใช่หลักประกันที่มีคุณภาพมากนัก
มาตรการที่2 ที่เมอร์ริลลินซ์เสนอ ได้แก่ เสนอให้อีซีบีซื้อพันธบัตรรัฐบาลของกลุ่มประเทศเหล่านี้อย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อดึงผลตอบแทน(ยีล) ลงมา โดยตอนนี้ยีลของพันธบัตรรัฐบาลสเปนอายุ 10 ปี สูงถึง 6.3% ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลี สูงประมาณ 5.9%
มาตรการที่ 3 คือ เสนอให้ กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป(ESM) และกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป(EFSF) ทำการเพิ่มทุนโดยตรงให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป เพื่อป้องกันธนาคารพาณิชย์เหล่านี้ล้มละลาย
มาตรการที่ 4 เสนอให้มีการประกาศค้ำประกันเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในยุโรป เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
มาตรการที่ 5 เสนอให้ ธนาคารกลางยุโรป ออกพันธบัตรยุโรป หรือ ยูโรบอนด์
มาตรการที่ 6 เสนอให้ ธนาคารกลางประเทศขนาดใหญ่ต่างๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หรือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) เป็นต้น ทำสวอปในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันปัญหาความผันผวนของค่าเงิน
มาตรการที่ 7 เสนอให้มีการทำมาตรการควบคุมปริมาณเงินไหลเข้าออก(Capital control) ในกลุ่มประเทศยุโรป
"ทั้ง 7 มาตรการนี้ เป็นเรื่องที่เมอร์ริลลินซ์คิดว่าต้องทำเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพของกลุ่มประเทศยุโรปเอาไว้ และเชื่อว่าถ้าทำได้จะไม่ทำให้กลุ่มประเทศยุโรปต้องแตก และผลกระทบที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะไม่มาก แต่อย่างไรก็ตามไม่มีใครบอกได้ว่าอนาคตเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นรวมไปถึงวิธีการในการแก้ปัญหา เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีอยู่ในตำราเศรษฐศาสตร์มาก่อน เป็นวิธีทำไปคิดไป ซึ่งยังต้องติดตามดูผลของมัน"นายศุภวุฒิกล่าว