ฮวงจุ้ยกระแสมังกรแห่ง aec
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 27, 2012 11:44 pm
ในอีกไม่นานนี้อาเซียนของเราก็จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในเชิงของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนแล้ว หลาย ๆ ท่านเองคงเริ่มมีการตระเตรียมในเรื่องของกิจการการค้าต่าง ๆ ให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กันบ้างไม่มากก็น้อยใช่หรือไม่ครับ แต่หลาย ๆ ท่านก็คงยังสงสัยว่าในท้ายที่สุดแล้ว ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของเรานั้นจะมีศักยภาพได้มากในระดับใดจะสามารถเติบโตได้มากกว่ากลุ่มสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ สำหรับในศาสตร์ฮวงจุ้ยระบบวิชาการนั้นเราจะมองความเป็นมงคลของทำเลโดยวิเคราะห์ใน 2 ด้านคือ “ชัยภูมิ” และ “องศาทิศทาง” โดยชัยภูมิจะบอกถึงโอกาสของความเจริญรุ่งเรืองของทำเลนี้ว่ามีหรือไม่ ถ้ามีแล้วจะมากในระดับใด ส่วนองศาทิศทางจะเป็นตัวบอกว่าเวลาใดทำเลนี้ถึงจะเริ่มรับผลดีหรือมองไปได้อีกว่าดีอย่างไร วันนี้ผมจะพาทุกท่านมามอง AEC ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยใน 2 มุมมองนี้กันชัยภูมิที่ดีตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นคือการดู “ของไหล” เพราะการไหลหรือการเคลื่อนที่นั้นจะพากระแสพลังให้หลากไหลมาหาเราได้ ซึ่งการดูชัยภูมิมหภาคหรือชัยภูมิขนาดใหญ่นั้น เราจะใช้การพิจารณาจากแนวการไหลของภูเขาหรือแม่น้ำสายใหญ่ที่ถือว่าส่งกระแสพลังมาหล่อเลี้ยงทำเลใหญ่ได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งการไหลของแนวภูเขาที่ถือว่ามีกระแสพลังมากที่สุดก็คือเทือกเขาหิมาลัย (Himalaya Range) โดยมียอดเขาเอเวอเรสต์ (MountEverest) ที่ถือว่าเป็นยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในโลกร่วมอยู่ในแนวเทือกเขานี้ด้วย โดยเทือกเขาหิมาลัยนั้นเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น จนเกยกันทำให้เกิดแนวทิวเขาและยอดเขาหลายยอดสูงมากกว่า 8,000 เมตร เกิดแนวเทือกเขายาวกว่า 2,400 กิโลเมตร!! พาดผ่านพื้นที่ของ 5 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาล จึงถือว่าเป็นกระแสมังกรที่ทรงพลังที่สุดของโลกใบนี้
แนวเทือกเขาหิมาลัยมาตวัดไหลต่อลงสู่ประเทศจีนที่มณฑลยูนนานผ่านเมืองลี่เจียงที่เรารู้จักกันดีและเริ่มมาชะลอตัวที่สิบสองปันนา หลังจากนั้นกระแสมังกรจึงไหลมารวมกันที่อาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มของประเทศไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม พม่า มาเลเซีย และ สิงคโปร์ เพราะถือว่าเป็น 7 ประเทศที่ยังเชื่อมอยู่กับแนวไหลของแผ่นเปลือกโลกหลักอยู่ โดยถัดจากกลุ่มอาเซียน 7 ประเทศนี้ก็จะพบกับท้องทะเล จึงถือว่า 7 ประเทศนี้เป็นจุดต่ำที่สุดที่กระแสมังกรไหลมารวมตัว จึงทำให้ทำเลของอาเซียนถือว่าเป็นชัยภูมิที่เป็นมงคลถือเป็น “ท้องมังกร” ของเทือกเขาหิมาลัยครับ
ซึ่งแน่นอนว่าคงมีคำถามต่อไปอีกว่าแล้วใน 7 ประเทศใดถือว่าดีที่สุด กลุ่มแรกที่รับกระแสพลังโดยตรงจากแนว กระแสของเทือกเขาหิมาลัยคือ ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยประเทศไทยนั้นมีจุดเด่นที่มี “มังกรน้ำเจ้าพระยา” ส่งกระแสหลากไหลยาวกว่าครึ่งของประเทศและมีการตวัดกลับบริเวณสีลม สาทร พระราม 3 ช่วยเก็บกระแสพลังไว้ภายในประเทศ ส่วนมาเลเซียนั้นอยู่จุดเกือบปลายสุดของแนวกระแสก็ถือว่าเป็น “หัวมังกร” และสิงคโปร์นั้นอยู่สุดท้ายของแนวกระแสถือว่าเป็น “ไข่มุกมังกร” เป็นลักษณะที่เป็นมงคลที่สุดตามหลักการดูฮวงจุ้ยเชิงชัยภูมิ ส่วนประเทศที่รับแนวกระแสรองลงไปจากเทือกเขาหิมาลัย ได้แก่ เวียดนามและพม่านั้นก็จะถือว่ามีความเป็นมงคลน้อยกว่า จะเจริญรุ่งเรืองได้ไม่เท่าประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ครับ
จากการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยตามหลักชัยภูมิเรามั่นใจได้แน่นอนว่า AEC นั้นถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดี มีศักยภาพที่จะเจริญรุ่งเรืองได้แน่นอน แต่คำถามของเราคือ “เมื่อไร” ที่ AEC จะเจริญรุ่งเรืองแบบสุด ๆ หรือเรียกว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั่นเอง ในข้อนี้ให้เราพิจารณาถึงจุดที่กระแสมังกรจากเทือกเขาหิมาลัยเริ่ม “ตวัดกลับ” ลงมาที่มณฑลยูนนานและส่งกระแสลงมายังอาเซียน จะพบว่าแนวกระแสนั้นถือว่าไหลมาจากทาง “ทิศเหนือ” ซึ่งในฮวงจุ้ยระบบวิชาการสามารถคำนวณได้ว่าตรงกับ “ยุคที่ 1” ซึ่งจะเริ่มรับความเป็นมงคลในขั้นแรกช่วงปี พ.ศ.2547-2567 (หรือยุคที่ 8) และจะดีมากขึ้นไปอีกในช่วงปี พ.ศ.2567-2587 (ยุคที่ 9) และจะเจริญรุ่งเรืองแบบสุด ๆ ในช่วงปี พ.ศ.2587-2607 (ในยุคที่ 1) หรือเรียกว่าในช่วงนี้เป็นต้นไปกระแสพลังจากแนวเทือกเขาหิมาลัยเริ่มส่งผลดีมากได้แล้ว 8 ปี และจะค่อย ๆ ดีไปได้อีกมากกว่า 5 ทศวรรษ!! จึงเป็นที่มาของมุมมองจากการทำนายไม่ว่าจะเป็นจากนักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์ ทั้งในระดับโลกและภูมิภาคเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองนั้นจะย้ายฝั่งจากทางตะวันตกมาสู่ตะวันออกหรือเอเชียของเรานั่นเองครับ
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดเมื่อเรามองในระดับจุลภาคหรือบริษัท สำนักงาน โรงงาน ร้านค้าของเราเอง ก็ต้องมีลักษณะทางฮวงจุ้ยที่ดีทั้งในเชิงชัยภูมิและองศาทิศทางเช่นเดียวกัน หรือไม่ว่าจะมองในมุมของการทำธุรกิจก็ต้องไม่ประมาทเพราะในทุกวิกฤติก็ต้องมีโอกาสและในทุกโอกาสก็ต้องมีวิกฤติ การเริ่มวางนโยบายหรือวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับ AEC เพื่อเสริมจุดแข็งขจัดจุดอ่อนให้สอดคล้องกับการแข่ง
ขันที่ต้องมีมากขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถยืนอยู่ในฝั่งของ “ผู้ชนะ” ในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างแท้จริงครับ.
อาจารย์ตะวัน เลขะพัฒน์
http://www.dailynews.co.th/article/950/116388
แนวเทือกเขาหิมาลัยมาตวัดไหลต่อลงสู่ประเทศจีนที่มณฑลยูนนานผ่านเมืองลี่เจียงที่เรารู้จักกันดีและเริ่มมาชะลอตัวที่สิบสองปันนา หลังจากนั้นกระแสมังกรจึงไหลมารวมกันที่อาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มของประเทศไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม พม่า มาเลเซีย และ สิงคโปร์ เพราะถือว่าเป็น 7 ประเทศที่ยังเชื่อมอยู่กับแนวไหลของแผ่นเปลือกโลกหลักอยู่ โดยถัดจากกลุ่มอาเซียน 7 ประเทศนี้ก็จะพบกับท้องทะเล จึงถือว่า 7 ประเทศนี้เป็นจุดต่ำที่สุดที่กระแสมังกรไหลมารวมตัว จึงทำให้ทำเลของอาเซียนถือว่าเป็นชัยภูมิที่เป็นมงคลถือเป็น “ท้องมังกร” ของเทือกเขาหิมาลัยครับ
ซึ่งแน่นอนว่าคงมีคำถามต่อไปอีกว่าแล้วใน 7 ประเทศใดถือว่าดีที่สุด กลุ่มแรกที่รับกระแสพลังโดยตรงจากแนว กระแสของเทือกเขาหิมาลัยคือ ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยประเทศไทยนั้นมีจุดเด่นที่มี “มังกรน้ำเจ้าพระยา” ส่งกระแสหลากไหลยาวกว่าครึ่งของประเทศและมีการตวัดกลับบริเวณสีลม สาทร พระราม 3 ช่วยเก็บกระแสพลังไว้ภายในประเทศ ส่วนมาเลเซียนั้นอยู่จุดเกือบปลายสุดของแนวกระแสก็ถือว่าเป็น “หัวมังกร” และสิงคโปร์นั้นอยู่สุดท้ายของแนวกระแสถือว่าเป็น “ไข่มุกมังกร” เป็นลักษณะที่เป็นมงคลที่สุดตามหลักการดูฮวงจุ้ยเชิงชัยภูมิ ส่วนประเทศที่รับแนวกระแสรองลงไปจากเทือกเขาหิมาลัย ได้แก่ เวียดนามและพม่านั้นก็จะถือว่ามีความเป็นมงคลน้อยกว่า จะเจริญรุ่งเรืองได้ไม่เท่าประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ครับ
จากการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยตามหลักชัยภูมิเรามั่นใจได้แน่นอนว่า AEC นั้นถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดี มีศักยภาพที่จะเจริญรุ่งเรืองได้แน่นอน แต่คำถามของเราคือ “เมื่อไร” ที่ AEC จะเจริญรุ่งเรืองแบบสุด ๆ หรือเรียกว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั่นเอง ในข้อนี้ให้เราพิจารณาถึงจุดที่กระแสมังกรจากเทือกเขาหิมาลัยเริ่ม “ตวัดกลับ” ลงมาที่มณฑลยูนนานและส่งกระแสลงมายังอาเซียน จะพบว่าแนวกระแสนั้นถือว่าไหลมาจากทาง “ทิศเหนือ” ซึ่งในฮวงจุ้ยระบบวิชาการสามารถคำนวณได้ว่าตรงกับ “ยุคที่ 1” ซึ่งจะเริ่มรับความเป็นมงคลในขั้นแรกช่วงปี พ.ศ.2547-2567 (หรือยุคที่ 8) และจะดีมากขึ้นไปอีกในช่วงปี พ.ศ.2567-2587 (ยุคที่ 9) และจะเจริญรุ่งเรืองแบบสุด ๆ ในช่วงปี พ.ศ.2587-2607 (ในยุคที่ 1) หรือเรียกว่าในช่วงนี้เป็นต้นไปกระแสพลังจากแนวเทือกเขาหิมาลัยเริ่มส่งผลดีมากได้แล้ว 8 ปี และจะค่อย ๆ ดีไปได้อีกมากกว่า 5 ทศวรรษ!! จึงเป็นที่มาของมุมมองจากการทำนายไม่ว่าจะเป็นจากนักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์ ทั้งในระดับโลกและภูมิภาคเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองนั้นจะย้ายฝั่งจากทางตะวันตกมาสู่ตะวันออกหรือเอเชียของเรานั่นเองครับ
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดเมื่อเรามองในระดับจุลภาคหรือบริษัท สำนักงาน โรงงาน ร้านค้าของเราเอง ก็ต้องมีลักษณะทางฮวงจุ้ยที่ดีทั้งในเชิงชัยภูมิและองศาทิศทางเช่นเดียวกัน หรือไม่ว่าจะมองในมุมของการทำธุรกิจก็ต้องไม่ประมาทเพราะในทุกวิกฤติก็ต้องมีโอกาสและในทุกโอกาสก็ต้องมีวิกฤติ การเริ่มวางนโยบายหรือวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับ AEC เพื่อเสริมจุดแข็งขจัดจุดอ่อนให้สอดคล้องกับการแข่ง
ขันที่ต้องมีมากขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถยืนอยู่ในฝั่งของ “ผู้ชนะ” ในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างแท้จริงครับ.
อาจารย์ตะวัน เลขะพัฒน์
http://www.dailynews.co.th/article/950/116388