Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมคิดผิดมาตลอด ยิ่งย้อนอดีตรมากเท่าไหร่ ยิ่งผิดมากเท่านั้น
เริ่มที่ตอนน้ำท่วม ผมรู้สึกเฉยไม่กลัวเลยสักนิด
น้ำเริ่มท่วมนิคมต่างๆ พังทีละนิคม ผมคิดอยู่เสมอว่าไม่มีอะไร
เมื่อหุ้นเริ่มลง ลง และลงแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผมเริ่มกลัวเมื่อน้ำท่วม ที่บางบังทอง
และกลัวสุดขีด ที่น้ำเน่าทะลักเข้าคลองประปา
จริงๆแล้ว มั่นใจว่า การดูแลคลองประปาง่ายมาก
แต่มีมวลชน และ สส บางคนทำลายคันกั้นน้ำที่คลองประปา
และวิธีการปล้องกันน้ำท่วม ที่ทำให้ผมเชื่อว่า
เป็นไปได้สูงมากที่น้ำจะท่วม กทม ทั้ง หมด
โดยท่วมมากพอที่จะทำให้ กทม อัมพาต การคมนาคมถูกตัดขาด
หรือน้ำประปา ที่พังทั้งระบบแล้ว
ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คน กทม ทั้ง 10 ล้านคนจะอยู่ไม่ได้ทันที
หายนะจะเกิดกับประเทศทันที ผมเดาว่า หุ้นจะลงไปลึกมาก (พอๆกับต้มยำกุ้ง)
แต่ตอนนั้น ผมต้องยุ่งกับการปล้องกันน้ำท่วม และแก้ปัญหาที่ทำงาน
ผมไม่สนใจหุ้นแล้ว ความกลัวสุดๆผมเกิดตอนต้นเดือน 10/54
ถ้าผมทำตามความรู้สึกผม ผมต้องขายหุ้นทั้งหมด ประมาณ วันที่ 1-3/10/54
เมื่อ 19/5/55 ทักษินโฟนอิน มาพูดกับคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์
เมื่อผมฟังแล้ว ผมรู้สึกวางใจการเมืองไทยทันที
ผมคิดว่าจะไม่มีความรุนแรงอีกแล้ว อนาคตสดใสมาก
ส่วนเหตุการณ์ในยุโรป ผมไม่เคยกลัวอยู่แล้ว
ถ้ามีตัง ผมจะทุ่มซื้อหุ้นหมดตัว
แต่ผมถือหุ้น 100%อยู่แล้ว เลยซื้อเพิ่มไม่ได้
แต่เมื่อ วันที่ 30/5/55 พรบ ปรองดองเข้าสภา ปชป ต่อต้าน พันธมิตร ต่อต้าน
ความมุ่งมั่นของ รัฐบาล กับเนื้อหา ของ พรบ และการต่อต้านของคนที่ไม่เห็นด้วย
ขณะนี้ ความรู้สึกต่อการเมืองไทย ผมเห็นหายนะกำลังจะเกิดขึ้น
ต่างจาก เมื่อ วันที่ 19/5/55 หน้ามือเป็นหลังมือ
แล้ว เราผมจะทำอย่างไร กับหุ้นที่ผมถือ ผมจะทำตามสิ่งที่ผมจินตนาการไว้ หรือ ไม่ทำอะไรเลย

ความเป็นเจ้าของๆบริษัทที่คุณถือหุ้น บริษัทนั้น "ดีจริง" และ "ดีพอ" ที่จะเอาไปแลกกับการเมืองโง่ๆป่าวครับ

และพิมพ์ผิดเยอะด้วยครับ ...

ผมเคยถามน้องๆว่าเวลาเกิด Crisis หรือเหตุการณ์ผิดปกติทำให้เศรษฐกิจเสียหาย พวกคุณรีบขายบ้านและที่ดินที่คุณมีอยู่ทันทีเลยหรือไม่
พวกเค้าคิด แล้วทำหน้างง ก่อนจะตอบผมว่าทำไมต้องขาย
ผมก็เลยถามเค้ากลับไปว่าแล้วทำไมต้องขายหุ้นทิ้ง
เค้าตอบว่าเพราะหุ้นมันจะลงหนัก
ผมก็บอกเค้าว่าถ้าอย่างงั้นลองประกาศขายบ้านและที่ดิน ที่คุณอยู่ไปพร้อมๆกันซิ ดูซิว่าราคาบ้านกับที่ดินมันจะได้เท่าเดิมมั้ย
เค้าตอบว่ามันคงขายยาก
ผมตอบว่าใช่ไม่มีใครซื้อ แต่ถ้าจะต้องขายต้องลดราคาจากเดิม 50% หรือมากกว่า
แล้วมันต่างจากหุ้นตรงใหน
ทำไมบ้านกับที่ดินที่เราอยู่ทำไมเราไม่คิดขายเพราะมันก็ไม่ได้ต่างจากหุ้น
คำตอบก็คือว่า เรารู้ว่ามันเป็นทำเลที่ดี มันอยู่สบาย ขายไปก็อาจหาไม่ได้อีก ฯลฯ
ผมบอกกับน้องๆโดยสรุปไปว่า หุ้นใน Port ผมผมรักมันพอๆกับบ้านที่ผมอยู่นั่นแหละ กว่าผมจะซื้อมันได้ผมดูแล้วดูอีก ดังนั้นถ้าช่วง Crisis ผมไม่มีทางขายเพราะ Value มันยังคงอยู่ ค่าของมันจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อพื้นฐานของมันเปลี่ยนเท่านั้น (เช่นพบว่าบ้านคุณอยู่ใน Flood Way )
ผมหวังว่าจะเป็นแง่มุมหนี่ง ไว้ Share พวกเรานะครับ

จากความรู้ที่ผมมีตอนประเมินเรื่องน้ำท่วม กทม
ผมประเมิน รุนแรงมาก อัมพาตทั้ง กทม ความเสียหายนั้น น่าจะมากกว่า ตอนต้มยำกุ้งอีก
ต้องอพยพคน 10 ล้านคน เพราะ กทม เป็นอัมพาติ ไม่มีน้ำสะอาดกิน ระบบประปาพัง
ถ้าผมใช้ความรู้ที่ผมมี การเมืองของประเทสไทยตอนนี้
หนักสุดๆก็คือสงครามกลางเมือง ทั้งๆที่ เมื่อวันที่ 19/5/55 ผมรู้สึกถึงความผ่อนคลาย(ทักษินบอกว่าไม่ต้องการเสื้อแดงช่วยแล้ว)
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมไม่เชื่อจินตนาการผมแล้ว หลังจาก น้ำท่วม
เหตุการการเมืองนั้น ก็เปลี่ยนเร็วมาก
ผมเชื่องานวิจัยการถือหุ้นนาน 20ปีขึ้นไป จะกำไร 12% ทบต้น
ผมจะไม่เก็งกำไร ทั้ง ทางหุ้นลงหรือหุ้นขึ้น
ผมจะไม่เล่นมาร์จิ้น
ผมจะไม่ประกันความเสี่ยงโดยการ short หรือ long
ผมจะไม่ซื้อ dw ไม่ว่าขาขึ้นหรือขาลง (เพราะโบรกเอาเปรียบเหลือเกินในการคิดค่าประกัน)

blueplanet เขียน:จากความรู้ที่ผมมีตอนประเมินเรื่องน้ำท่วม กทม
ผมประเมิน รุนแรงมาก อัมพาตทั้ง กทม ความเสียหายนั้น น่าจะมากกว่า ตอนต้มยำกุ้งอีก
ต้องอพยพคน 10 ล้านคน เพราะ กทม เป็นอัมพาติ ไม่มีน้ำสะอาดกิน ระบบประปาพัง
ถ้าผมใช้ความรู้ที่ผมมี การเมืองของประเทสไทยตอนนี้
หนักสุดๆก็คือสงครามกลางเมือง ทั้งๆที่ เมื่อวันที่ 19/5/55 ผมรู้สึกถึงความผ่อนคลาย(ทักษินบอกว่าไม่ต้องการเสื้อแดงช่วยแล้ว)
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมไม่เชื่อจินตนาการผมแล้ว หลังจาก น้ำท่วม
เหตุการการเมืองนั้น ก็เปลี่ยนเร็วมาก
ผมเชื่องานวิจัยการถือหุ้นนาน 20ปีขึ้นไป จะกำไร 12% ทบต้น
ผมจะไม่เก็งกำไร ทั้ง ทางหุ้นลงหรือหุ้นขึ้น
ผมจะไม่เล่นมาร์จิ้น
ผมจะไม่ประกันความเสี่ยงโดยการ short หรือ long
ผมจะไม่ซื้อ dw ไม่ว่าขาขึ้นหรือขาลง (เพราะโบรกเอาเปรียบเหลือเกินในการคิดค่าประกัน)

สู้ต่อไปครับ จริงๆผมค่อนข้างชอบการเลือกหุ้นของคุณ blueplanet ผมว่าค่อนข้างจะดูดีเลยครับในสายตาผม(หลายตัวเหมือนที่ผมชอบ นี่อาจเป็นอคติก็ได้ครับ) หลายตัวผมยังไม่ได้ดูเลยเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ช่วงหลังผมไม่ค่อยได้มาดูหรือเทรดหุ้นมากนัก ตั้งแต่เปลี่ยนนายกฯ และผมก็ไม่ค่อยอยากโพสเพราะผมมีอคติกับการเมืองปัจจุบัน ทุกวันนี้ผมเชื่อว่า ผมกลับไปยังจุดที่เราเริ่มและถ้าเราทำสิ่งนั้นประสบความสำเร็จก็ปรับปรุงมันหน่อยแต่อย่างเปลี่ยนหลักการณ์ใหญ่ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ ผมว่าอีกไม่นานคุณ blueฯ อาจโด่งดังเหมือนหลายๆคนในนี้ก็ได้ครับ

istyle เขียน:และพิมพ์ผิดเยอะด้วยครับ ...

โอย อันนี้ ฮาจริง อะไรจริง...

คุณ blueplanet มีสไตล์ การโพสต์ของตนเอง
ยอมรับว่าหลายครั้ง อ่านเนื้อหาของคุณ blue แล้วรู้สึกว่า รู้สึกไม่ค่อยดี

เพราะ คุณ blue มักมีแนวคิดที่สวนทางกับ mass เสมอๆ

ยังไงก็แล้วแต่ ปัจจุบัน คุณ blueplanet เป็นคนที่ผมต้องเข้ามาอ่านเสมอๆ
ขอบคุณไอเดียดีๆบางอัน ที่ทำให้ผม เรียนรู้อะไรมากขึ้นครับ

Paul Octopus เขียน:ผมหวังว่าจะเป็นแง่มุมหนี่ง ไว้ Share พวกเรานะครับ

หล่อมากครับ พี่หมึก พอล...

บ้านผมแห้งๆ เลยไม่ค่อยคิดอะไรมาก
ส่วนเรื่องการเมืองพี่จะทำอะไรกันก็ทำไป
ขออย่างเดียวอย่าทะลึ่ง ทำอะไรรบกวน fdi ก็พอ

อาการคุณเรียกว่าฟุ้งซ่านครับ ฟังข่าวแล้วตั้งสตินิดนึงกลับมา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ครับว่าสัมพันธ์กับกิจการเราอย่างไร ผลกระทบรุนแรงแค่ไหน บริษัทเราเตรียมการรับมืออย่างไร

blueplanet เขียน:จากความรู้ที่ผมมีตอนประเมินเรื่องน้ำท่วม กทม
ผมประเมิน รุนแรงมาก อัมพาตทั้ง กทม ความเสียหายนั้น น่าจะมากกว่า ตอนต้มยำกุ้งอีก
ต้องอพยพคน 10 ล้านคน เพราะ กทม เป็นอัมพาติ ไม่มีน้ำสะอาดกิน ระบบประปาพัง
ถ้าผมใช้ความรู้ที่ผมมี การเมืองของประเทสไทยตอนนี้
หนักสุดๆก็คือสงครามกลางเมือง ทั้งๆที่ เมื่อวันที่ 19/5/55 ผมรู้สึกถึงความผ่อนคลาย(ทักษินบอกว่าไม่ต้องการเสื้อแดงช่วยแล้ว)
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมไม่เชื่อจินตนาการผมแล้ว หลังจาก น้ำท่วม
เหตุการการเมืองนั้น ก็เปลี่ยนเร็วมาก
ผมเชื่องานวิจัยการถือหุ้นนาน 20ปีขึ้นไป จะกำไร 12% ทบต้น
ผมจะไม่เก็งกำไร ทั้ง ทางหุ้นลงหรือหุ้นขึ้น
ผมจะไม่เล่นมาร์จิ้น
ผมจะไม่ประกันความเสี่ยงโดยการ short หรือ long
ผมจะไม่ซื้อ dw ไม่ว่าขาขึ้นหรือขาลง (เพราะโบรกเอาเปรียบเหลือเกินในการคิดค่าประกัน)

ตกผลึก

ผมมานั่งอ่านดีๆ ผมเข้าใจว่า จขกท เขาต้องการจะสื่อว่าเขาคิดและทำถูกมาตลอดแล้วหรือเปล่า
เพราะ จขกท ก็ถือเต็ม พอร์ทตลอด ช่วงวิกฤติน้ำท่วมหนักเขาก็ยังไม่ได้ขาย ซึ่งเขาก็คิดถูกแล้วนี่ครับ

@ คุณบลูครับ ถ้าเป็นตอนน้ำท่วม ผมต้องเสียดายกว่า เพราะว่ามีเงินสด แต่กว่าจะตัดสิจใจเข้าได้ต้องรอเกือบ 1,000 จุดครับ
แถมต้องกลับมาซื้อหุ้นตัวเดิมบางตัวที่ราคาแพงขึ้นอีก เพราะแกไม่ยอมลงเลยครับ

@ พี่หมึกครับ ผมอิจฉาน้องๆของพี่สุดๆ ที่มีรุ่นพี่ดีๆ คอยเตือนให้ตาสว่าง
มาเตือนน้องๆในนี้บ่อยๆด้วยนะครับ

@ คุณ crazy ครับ ผมก็เริ่มจากแอบหมั่นใส้คุณบลู แบบว่าขวานผ่าซากมาก
ประมาณว่ากล้าแย้งขาใหญ่ทุกท่านใน tvi
แต่กลายเป็นยิ่งอยากติดตาม พี่บลูหายไปหลายวัน ผมยิ่งกลับคิดถึงครับ 5555..

..."So I think it's a terrible mistake."
ดูเหมือนๆ ..นะ

BUFFETT: I bought my first stock in the— in the spring of 1942 when I was 11 years old. And, at that point, we were losing the war of the Pacific to the Japanese.

And, I mean, if you read the headlines every day, it would be kind of fun to go back and look at the headlines on the day I bought my first stock because, you know, things were looking terrible until the battle of Midway, and I bought in a few months before that.

So I think it's a terrible mistake.

I think the worst mistake you can make in stocks is to— is to buy based on— to buy or sell based on current headlines.

source: Published: Monday, 7 May 2012
http://www.cnbc.com/id/47322740/CNBC_Tr ... Squawk_Box

nut776 เขียน:บ้านผมแห้งๆ เลยไม่ค่อยคิดอะไรมาก
ส่วนเรื่องการเมืองพี่จะทำอะไรกันก็ทำไป
ขออย่างเดียวอย่าทะลึ่ง ทำอะไรรบกวน fdi ก็พอ

ด้วยความเคารพครับ fdi คืออะไรครับ?

ให้เดาก็ farang direct investment

อยู่ดอยหลายตัวแล้วครับ
ยังงงกับผลกระทบของกรีซอยุ่เหมือนกัน
เพราะไม่น่ากระทบต่อหุ้นที่ถืออยุ่แต่ทำไม่
หุ้นเราแดง อยู่ดอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
หรือว่าเมื่อกรีซออกจากยูโร
บริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นไทย
จะขาดทุนจนเลิกกิจการซะอย่างนั้นหรือ

งง อยู่ แต่ที่แน่ๆ อยากซื้อไม่มีเงินนะซิแย่มากเลยครับ

แล้วมันก็จะผ่่านไป เชื่อดิครับ

ของแบบนี้อยู่ที่ใจครับ ใครจะนิ่งและมองอนาคตได้เฉียบขาดกว่าก็รับกำไรกันไป

ปัจจุบันมักย้อนรอยอดีต

ผมตั้งขอสังเกตนิดหน่อยว่า
การเมืองร้อนแรงในช่วงที่ไม่น่าร้อนแรง
คือข่าวมาพร้อมกับการประชุม World Economic ภาคพื้นเอเชีย
มีการพยายามปิดข่าวอะไรซักอย่างหรือเปล่าที่ให้ประชาชนไม่ควรรู้ในการประชุมหรือเปล่า
พื้นที่ข่าวใช้ไปกับข่าวการเมืองมากกว่าเรื่องปากท้อง

สังเกตได้ช่วงที่การเมืองแรง มักมีเรื่องเศรษฐกิจด้วยในช่วงหลังๆ

multipleceilings เขียน:ให้เดาก็ farang direct investment

อะ ถูกคับ
พอดี real sector รถ กะลังไปได้สวย เด๋วจะสะดุดอีก
ปีที่แล้วก็เจอน้ำสองรอบ
ถ้ามาทะลึ่ง เผาเมือง ปิดสนามบินอีก
ความเชื่อมั่น farang ( foriegn จริงตอนนี้น่าจะเป็นพี่ยุ่น) หายหมดพอดี

เอาอ มีใครจะด่า จะลบผมไหม
ถ้าผมบอกว่า ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจเนื้อความพี่บลูเท่าไหร่
แต่เห็นพี่แกตั้งกระทู้แล้วต้องรีบมาดู
เอาฮา
เพราะความเห็นที่ตามมาถล่มแต่ละอัน
ง้างมาเต็มเหนี่ยว เต็มขัอ กันจริงๆ

ด้วยความเคารพ

ผมชอบสไตล์การคิด และการวิเคราะห์ของคุณblueนะครับ
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยด้วยอีกคน
..................................
อ้อขอฝากไว้1เรื่อง
ถอยห่างจากอารมณ์สักพัก เพราะคุณกำลังฟุ้งซ่านอยู่
ทำใจให้สงบก่อน
ลองสมมตินายA ซึ่งเป็นนักลงทุนตามระบบที่เรายึดถือ
ลองสมมติเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดรวมทั้งความน่าจะเป็นดู
ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ นั้น โน้น นายAจะทำอย่างไร
ถ้าคุณไม่ซีเรียสเรื่องราคา หรือกลัวเสียดายโอกาสจะถือสัก 100 เปอร์เซ็นต์เลยก็ได้ครับ

เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว

ลองเดาผลบอลยูโรสัก2-3คู่ ได้มั้ยครับ

ผมจะลองแทงตรงข้าม...

ผมชอบกระทู้นี้ครับ เพราะผมเป็น Fan Club หลายๆท่าน แอบอ่านกระทู้อยู่บ่อยๆ

1. คุณบลู ผมชอบความตรงไปตรงมา รวดเร็ว ตรงประเด็น ชัดเจน Style Fighter อ่านแล้วไม่เพราะ ไม่สละสลวย แต่มีเสนห์

2. พี่พอล ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ผ่านอะไรมาเยอะ จนตกผลึกทางความคิดแต่ก็ยังมีอารมณ์ขัน รู้สึกมีความคล้ายคลึง ดร.

3. คุณ Multiple ข้อมูลแน่น พื้นฐานแข็งแกร่ง เหมือน Engineer + Economist ที่สำคัญอ่าน Market Watch ที่ผมพยายามจะอ่าน แต่ก็ไม่เข้าใจสักที

และก็ยังมีอีกหลายท่านครับที่ผมติดตาม

เช่น พี่ Hum เขียนบทความได้ลึกซึ้ง มีเรื่องราวหลากหลาย เหมือนผู้หยั่งรู้ฟ้าดินแล้ว เวลาอ่านแล้วผมเหมือนเป็นเด็กไปเลย

พี่ Picatos คอยเตือนสติ ไม่ให้ Panic ได้ดีมาก เป็น VI แนวพุธอ่านแล้วบางครั้งคิดว่าในท้ายสุดพี่อาจไปศึกษาธรรม เป็นผู้เห็นแจ้งในธรรมได้เลย

คุณ Sakkapan เหมือนเป็น Engineer แท้ๆ ข้อมูลหนักแน่น Logic ดี มีที่มาที่ไป ตอบกระทู้แบบเต็มที่ตลอด

หวังว่าสักวันนึงคงได้เจอกันใน Meeting TVI ครับ ปีนี้ผมไม่ได้ไปครับ ผบ.ทบ. ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน

xavi เขียน: หวังว่าสักวันนึงคงได้เจอกันใน Meeting TVI ครับ ปีนี้ผมไม่ได้ไปครับ ผบ.ทบ. ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน

อ้าว ผมนึกว่าพี่เข้าแคมป์ซ้อมเตรียมไปยูโร 2012 ซะอีก.......ฮ่า

เป็นกำลังใจให้พี่บลูครับ
เป็นอีกคนที่พอเห็นชื่อโพสทีไร ต้องขอเปิดอ่านทุกทีแม้จะไม่มีหุ้นนั้นในมือก็ตาม

คุณblue พักหลังอารมณ์กระทู้เบาลง เลยมีคนให้กำลังใจกด+ รวมถึงผมด้วย (ปกติผมไม่กด-ใครอยู่แล้ว)

แนวคิดคุณblueอาจจะต่างออกไปจากหลายๆความเห็นในwebboardนี้ ซึ่งผมเห็นว่าดีมีความหลากหลาย แต่คำพูดใส่อารมณ์บางอย่างอาจจะต้องลดลง ซึ่งช่วงหลังผมว่าดีมากครับ

บางทีผมก็ชอบเสพ ดราม่าบ้าง สอดแทรกสาระบ้าง เหมือนกัน

เหมือนที่กระทู้ข้างต้นกล่าว แค่เห็นชื่อคนpost ไม่ได้จะมาดูว่าเขียนอะไร แต่จะมาดูกระทู้ต่อๆมา จะมาดราม่า อะไรกัน..

เขียนต่อ นะครับ ผมรออ่าน